Key Takeaway
- เว็บไซต์ Search Engine คือเครื่องมือออนไลน์ที่ช่วยค้นหาข้อมูลจากเว็บไซต์ต่างๆ บนอินเทอร์เน็ต โดยผู้ใช้สามารถพิมพ์คำค้นหาหรือคำสำคัญเพื่อค้นหาผลลัพธ์ที่ที่เกี่ยวข้อง
- หลักการทำงานของ Search Engine มีอะไรบ้าง? ได้แก่ การรวบรวมข้อมูลจาก URL และเนื้อหาบนเว็บ การจัดทำรายการข้อมูลตามหมวดหมู่และคีย์เวิร์ด และการจัดอันดับผลลัพธ์ตามปัจจัยต่างๆ เช่น คีย์เวิร์ด ความเร็ว และลิงก์
- ความสำคัญของ Search Engine กับการตลาดดิจิทัลคือช่วยเพิ่มการมองเห็นเว็บไซต์ ทำให้เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้ง่ายขึ้นและเพิ่มโอกาสในการสร้างยอดขาย ผ่านการค้นหาข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับสินค้าหรือบริการ
- Search Engine มีอะไรบ้าง? เช่น Google, Bing, Yahoo, Baidu, DuckDuckGo และ Twitter (X)
เวลาที่เราต้องการจะค้นหาข้อมูลอะไร หลายคนคงจะนึกถึง Google เป็นอันดับแรกๆ เพราะเป็นเว็บไซต์ Search Engine ยอดนิยมของประเทศไทย และในหลายๆ ประเทศทั่วโลก แต่รู้หรือไม่ว่ายังมี search engine อีกมากมายที่สามารถค้นหาข้อมูลได้เหมือน Google
บทความนี้ ทาง Minimice จะพาไปทำความรู้จักกับเว็บไซต์ Search Engine ว่าคืออะไร มีอะไรบ้าง มีหลักการทำงานต่างกันหรือไม่ ในยุคดิจิทัลแบบนี้ เราจะรู้จักเพียง Google ก็คงจะไม่ได้ มาเปิดโลก และท่องอินเทอร์เน็ตให้กว้างขึ้นไปพร้อมกันในบทความนี้กันได้เลย

เว็บไซต์ Search Engine คืออะไร
เว็บไซต์ Search Engine คือโปรแกรมที่สามารถค้นหาข้อมูล รูปภาพ คลิปวิดีโอ แผนที่ โดยการพิมพ์คีย์เวิร์ด หรือประโยคที่ต้องการค้นหาลงไปในช่องค้นหา จากนั้นโปรแกรมก็จะประมวลผล และขึ้นเว็บไซต์ที่เกี่ยวข้องกับคำค้นหาเหล่านั้น พร้อมให้เลือกกดเข้าไปดูข้อมูลที่ผู้ค้นหาสนใจได้เลย
หลักการทำงานของ Search Engine
หลักการทำงานของเว็บไซต์ Search Engine ทั้งหมดจะเหมือนกัน ไม่มีความแตกต่างกันแต่อย่างใด โดยมีขั้นตอนการทำงาน 3 ขั้นตอน มีอะไรบ้าง ไปดูกัน
- รวบรวมข้อมูล (Crawling): โปรแกรม Search Engine จะรวบรวมข้อมูล จาก Code และเนื้อหาจาก URL
- การจัดทำรายการข้อมูล (Indexing): โปรแกรมจะพยายามทำความเข้าใจ และจัดหมวดหมู่เนื้อหาบนหน้าเว็บผ่านคีย์เวิร์ด
- การจัดอันดับการสืบค้น (Ranking): ผลการค้นหาได้รับการจัดอันดับตามปัจจัยหลายประการจากมากไปน้อย อย่างคีย์เวิร์ด ความเร็วของเว็บ และลิงก์ที่แนบ จุดมุ่งหมายของเครื่องมือค้นหา เพื่อให้ผู้ค้นหาได้รับคำตอบที่เกี่ยวข้องกับคำค้นหามากที่สุด

ประเภทของ Search Engine
โปรแกรม Search Engine เปรียบเสมือนเลขาผู้รอบรู้ข้อมูลทุกอย่าง ไม่ว่าเราจะสงสัย หรืออยากทราบเรื่องอะไร เพียงเข้าสู่เว็บไซต์โปรแกรม Search Engine และพิมพ์สิ่งที่อยากรู้ ก็จะสามารถหาคำตอบได้เพียงไม่กี่วินาที อย่างรวดเร็ว โดยนักพัฒนาจะให้ความสำคัญของหลักการทำงาน เพื่อให้ตอบโจทย์การใช้งานในแต่ละประเภท แล้วโปรแกรม Search Engine มีกี่ประเภท และมีอะไรบ้าง สามารถแบ่งได้ ดังนี้
Search Engine แบ่งตามประเภทของข้อมูล
ประเภทแรกก็คือ Search Engine แบ่งตามประเภทของข้อมูล โดยระบบจะแยกแยะการค้นหาได้ 4 อย่าง ดังนี้
- Web Page Search Engine: เว็บเสิร์ชเอนจินเป็นเครื่องมือค้นหาที่ใช้บ่อยที่สุด โดยทั่วไปผลลัพธ์ของการค้นหาเว็บจะเป็นรายการเว็บไซต์ที่ตรงกับข้อความค้นหาของผู้ใช้
- Image Finder: ผู้ใช้สามารถค้นหารูปภาพด้วยคำสำคัญหรือวลี เพื่อค้นหารูปภาพที่ตรงกับข้อมูลที่พิมพ์ค้นหา
- Video Finder: ผู้ใช้สามารถค้นหาคลิปวิดีโอด้วยคำสำคัญหรือวลี เช่นเดียวกับ Image Finder เพื่อค้นหาคลิปวิดีโอที่ตรงกับข้อมูลที่พิมพ์ค้นหา
- File Finder: ระบบจะค้นหาไฟล์ตามชื่อหรือตามประเภทที่ผู้ใช้ต้องการ
Search Engine แบ่งตามลักษณะของเครื่องมือ
ประเภทต่อมา คือ Search Engine ที่แบ่งตามลักษณะของเครื่องมือ จะแบ่งได้ 4 ประเภท ดังนี้
- Crawler Based Search Engines: เครื่องมือค้นหาจะรวบรวมข้อมูลทั่วทั้งเว็บ เพื่อดึงหน้าเว็บที่มีอยู่ ด้วยซอฟต์แวร์และฐานข้อมูล อาจใช้เวลาสองถึงสามวันระหว่างการรวบรวมข้อมูล
- Web Directory: หากเปรียบหน้าการค้นหาเป็นหนังสือ Web Directory ก็คือสารบัญที่ช่วยแบ่งหัวข้อและหมวดหมู่ เพื่อการค้นหาที่เร็วขึ้น
- Meta Search Engine: เครื่องมือค้นหาที่รวบรวมผลลัพธ์จาก Meta Tag เช่น คำค้นหา ชื่อเว็บ บล็อก คำอธิบายโดยย่อ (Description) เป็นต้น
- Hybrid Search Engine: เครื่องมือค้นหาแบบไฮบริดมักจะมี 2 ส่วน คือ Crawler Based Search Engine กับ Web Directory ซึ่งโปรแกรมจะรวบรวมข้อมูลค้นหาเนื้อหาใหม่ เป็นการเพิ่มประสิทธิภาพของการค้นหามากขึ้น

ความสำคัญของ Search Engine กับการตลาดดิจิทัล
Search Engine คือหนึ่งในเครื่องมือที่กลยุทธ์การตลาดออนไลน์จำเป็นต้องใช้ เพราะเป็นวิธีที่จะทำให้ผู้ใช้ที่สนใจข้อมูลเกี่ยวกับธุรกิจ กลายมาเป็นลูกค้า สร้างยอดขายได้ และสามารถทำให้บริษัทของคุณถูกฝังอยู่ใต้ข้อความค้นหานับล้านบน Google ทำให้ผู้คนรู้จักธุรกิจหรือแบรนด์ของคุณมากขึ้น มาดูรูปแบบเสิร์ชเอนจิน ในการทำการตลาดดิจิทัลว่ามีอะไรบ้าง ได้ดังนี้
Pay Per Click (PPC)
Pay Per Click (PPC) เป็นรูปแบบของการโฆษณาออนไลน์ที่ใช้ในการส่งเสริมสินค้าหรือบริการ โดยธุรกิจจะเสียค่าใช้จ่ายเมื่อมีคนคลิกเว็บไซต์โฆษณาเข้ามา ช่วยให้ธุรกิจสามารถเปิดรับผู้เยี่ยมชมเว็บไซต์ และลูกค้าใหม่ๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยการจ่ายเงินเฉพาะเมื่อมีคนคลิกบนโฆษณาที่แสดงผล สามารถควบคุมงบประมาณ และเสียค่าใช้จ่ายตามประสิทธิภาพที่มากยิ่งขึ้นในการโฆษณาออนไลน์
รูปแบบ Search Engine ที่ใช้กันอย่างแพร่หลายในการโฆษณาออนไลน์ แล้ว PPC ที่นิยมใช้มีอะไรบ้าง? ยกตัวอย่างเช่น Google Ads และ Facebook Ads เป็นต้น
SEO (Search Engine Optimization)
SEO (Search Engine Optimization) คือกลยุทธ์ที่สร้างเนื้อหาออนไลน์เพื่อทำให้เว็บไซต์นั้นปรากฏในผลการค้นหาของ Search Engine ในอันดับสูงๆ หรือบริเวณหน้าแสดงผลการค้นหา (SERPs) เมื่อผู้ใช้ค้นหาด้วยคำค้นหาหรือวลีที่เกี่ยวข้อง
การทำ SEO มีเป้าหมายในการเพิ่มการเข้าถึงข้อมูล และเนื้อหาของเว็บไซต์ โดยการปรับปรุงสิ่งต่างๆ เช่น โครงสร้างของเว็บไซต์ เนื้อหา และอัลกอริทึมการค้นหาของ Search Engine ซึ่งจะทำให้ Search Engine เห็นความสอดคล้องของเว็บไซต์กับคำค้นหา และมองเว็บไซต์นั้นเป็นที่น่าเชื่อถือสำหรับผู้ค้นหา
ประโยชน์ของการใช้งานเว็บไซต์ Search Engine
การใช้งานเว็บไซต์ Search Engine มีประโยชน์มากมาย สำคัญสำหรับผู้ใช้ทั่วไป และธุรกิจในด้านต่างๆ โดย Search Engine มีบทบาทสำคัญในการส่งเสริมการค้นหาข้อมูล การเข้าถึงข้อมูล การทำธุรกิจ การสร้างแบรนด์ นักพัฒนาหรือนักการตลาดจึงจำเป็นจะต้องปรับปรุงโครงสร้างเว็บไซต์ และเนื้อหาภายใน ให้ทันสมัย น่าเข้าชมอยู่เสมอ ซึ่งประโยชน์ของ Search Engine มีอะไรบ้าง? ไปดูกัน
- ใช้งานง่าย รวดเร็ว: Search Engine ช่วยให้ผู้ใช้เข้าถึงข้อมูลที่ต้องการอย่างรวดเร็ว และสะดวกบนอินเทอร์เน็ต โดยค้นหาข้อมูลจากเว็บไซต์ต่างๆ ที่มีอยู่ในโลกออนไลน์
- ค้นหาสินค้า และบริการได้ง่ายมากขึ้น: Search Engine ช่วยให้ผู้บริโภคสามารถค้นหาสินค้า หรือบริการที่ต้องการซื้ออย่างรวดเร็ว
- การสร้างแบรนด์: Search Engine สามารถสร้างแบรนด์ และสร้างความรู้สึกต่อตราสินค้าหรือบริการ โดยเป็นแหล่งข้อมูลความรู้ หรือเป็นผู้นำของกลุ่มเป้าหมายในอุตสาหกรรมธุรกิจ
- การเพิ่มยอดขาย: Search Engine สามารถเพิ่มยอดขาย โดยทำให้สินค้าหรือบริการปรากฏในผลการค้นหาของผู้บริโภคที่เป็นเป้าหมาย

Search Engine มีอะไรบ้าง ตัวไหนเด็ดน่าใช้สำหรับสืบค้นข้อมูล
เมื่อรู้หลักการทำงาน และความสำคัญของ Search Engine จากที่ได้กล่าวไปก่อนหน้านี้แล้ว มาดูกันเลยดีกว่าโปรแกรม Search Engine ที่คนทั่วโลกนิยมใช้ค้นหาข้อมูลว่ามีอะไรบ้าง
1. Google
Google เป็นบริษัทเทคโนโลยี และเว็บ Search Engine ที่มีบทบาทสำคัญในโลกดิจิทัล ถูกก่อตั้งโดย Larry Page และ Sergey Brin ในปี 1998 และเริ่มต้นด้วยการค้นหาเว็บไซต์ผ่านเครื่องมือค้นหาที่พัฒนาขึ้น ซึ่งรวมถึงการใช้ PageRank และอัลกอริทึมการค้นหาที่เชี่ยวชาญ ซึ่ง Google ได้รับการพัฒนา และมีอัลกอริทึมการค้นหาที่แม่นยำมากขึ้น จนได้รับความนิยมเป็นอันดับสูงสุดของเครื่องมือการค้นหาข้อมูล หรือ Search Engine ในอินเทอร์เน็ต
ในปี 2000 บริษัท Google ได้เปิดตัวโครงการ AdWords ซึ่งเป็นระบบโฆษณาที่มุ่งเน้นการคลิก หรือ PPC ที่ได้กล่าวไปข้างต้น และมีการเชื่อมโยงกับผลการค้นหา โดยทำให้ Google กลายเป็นหนึ่งในผู้สนับสนุนการโฆษณาออนไลน์ที่สำคัญ นอกจากนี้ Google ไม่เพียงแค่เครื่องมือค้นหา เท่านั้น แต่ยังมีบริการออนไลน์อื่นๆ มากมาย ดังนี้
- Gmail: บริการอีเมล
- Google Maps: บริการแผนที่และนำทาง
- Google Drive: บริการเก็บข้อมูลออนไลน์
- YouTube: แพลตฟอร์มแชร์วิดีโอ
- Google Photos: บริการจัดเก็บและแบ่งปันรูปภาพ
- Google Docs: บริการสร้างและแก้ไขเอกสารออนไลน์
2. Bing
Bing เป็น Search Engine ที่ถูกพัฒนาโดย Microsoft Corporation และเปิดตัวเป็นเว็บไซต์ค้นหาในปี 2009 โดยตั้งใจจะเป็นคู่แข่งกับ Google ซึ่งเป็นเครื่องมือค้นหาที่ได้รับความนิยมมากในยุคนั้น โดยให้ผู้ใช้ ทำการค้นหาข้อมูล รูปภาพ วิดีโอ แผนที่ ข่าว และเนื้อหาอื่นๆ พร้อมมีการค้นหาเสริม เช่น การค้นหาบนเว็บไซต์แบบพร้อมใช้งาน คำแนะนำการค้นหา และคุณลักษณะเพิ่มเติมที่ช่วยให้ผู้ใช้ค้นหาข้อมูลที่ต้องการอย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ นอกจากนี้ Bing ยังมีบริการโฆษณาออนไลน์ที่ชื่อ Bing Ads (ก่อตั้งว่า Microsoft adCenter) ซึ่งเป็นเครื่องมือที่ช่วยธุรกิจสร้างโฆษณา และแสดงโฆษณาบนผลการค้นหาของ Bing
เนื่องจาก Bing เป็นเครื่องมือค้นหาที่มีการเชื่อมโยงกับ Microsoft และผลิตภัณฑ์อื่นๆ ของบริษัท คุณสมบัติบางอย่างของ Microsoft, เช่น Cortana (ผู้ช่วยเสมือน) และ Microsoft Edge (เบราว์เซอร์), มีการนำเสนอหรือผนวกกับ Bing เพื่อช่วยให้ผู้ใช้ดึงข้อมูล และทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ อีกทั้งยังคงเป็นคู่แข่งของ Google ในการค้นหาข้อมูลออนไลน์และเป็นอีกทางเลือกที่มีความนิยมในการค้นหาในอินเทอร์เน็ต
Bing ยังเป็น เว็บไซต์ Search Engine ที่ผนวกเครื่องมือค้นหาอื่นๆ ของ Microsoft เพื่อให้ผู้ใช้สามารถค้นหาข้อมูลที่เกี่ยวข้องได้อย่างครบถ้วน มีอะไรบ้าง ดังนี้
- Bing Maps: บริการแผนที่และนำทาง
- Bing News: บริการข่าวสาร
- Bing Finance: บริการด้านการเงิน
3. Yahoo
Yahoo เป็นบริษัท และเว็บไซต์อินเทอร์เน็ตที่เกี่ยวข้องกับการให้บริการต่างๆ ในโดเมนด้านเทคโนโลยี และอินเทอร์เน็ต รวมถึงการค้นหาข้อมูล รีวิวข่าวสาร อีเมล บริการแชต แผนที่ รายการเสียง และวิดีโอ บริการเพจสำหรับสร้างเว็บไซต์ และอื่นๆ ถูกก่อตั้งโดย Jerry Yang และ David Filo ในปี 1994 และปัจจุบันเป็นบริษัทหลักอย่าง Yahoo Inc. ระหว่างยุค 1990s ถึงต้นยุค 2000s Yahoo เป็นหนึ่งในเว็บไซต์ที่ได้รับความนิยมสำหรับการค้นหาข้อมูลในอินเทอร์เน็ต และเป็นเว็บไซต์เชื่อมโยงหลักสำหรับผู้ใช้ที่เริ่มต้นท่องเว็บ แต่หลังจากนั้น Yahoo พบกับคู่แข่งอย่าง Google ที่กำลังเพิ่มความนิยมอย่างรวดเร็วในการค้นหา ทำให้ความนิยมของ Yahoo ลดลงไปมาก
ทว่า Yahoo ยังคงมีบริการอื่นๆ ซึ่งทำให้คุณลักษณะสำคัญของ Yahoo มีความหลากหลายในบริการ อย่างเช่น
- Yahoo Mail: บริการอีเมล
- Yahoo Finance: บริการด้านการเงิน
- Yahoo News: บริการข่าวสาร
- และบริการเครื่องมือค้นหาอื่นๆ
4. Baidu
Baidu เป็นบริษัทเทคโนโลยี และเครื่องมือค้นหาที่มีบทบาทสำคัญในด้านการค้นหาข้อมูลบนอินเทอร์เน็ตของประเทศจีน บริษัท Baidu, Inc. ถูกก่อตั้งโดย Robin Li และ Eric Xu (Xu Yong) ในปี 2000 และเริ่มต้นด้วยการพัฒนาเครื่องมือค้นหาออนไลน์ที่มีเนื้อหาเป็นภาษาจีน โดยใช้ระบบอัลกอริทึมที่พัฒนาขึ้นเอง อีกทั้ง Baidu ยังเป็นเครื่องมือค้นหาที่ยอมรับอย่างกว้างขวางในประเทศจีน ซึ่งเป็นประเทศที่มีจำนวนประชากรมากที่สุดในโลก และยังมีบทบาทสำคัญในการสนับสนุนการพัฒนาเทคโนโลยีในประเทศจีน เป็นหนึ่งในบริษัทที่นำเสนอบริการ และผลิตภัณฑ์ที่ทำให้ผู้ใช้ชาวจีนสามารถใช้งานอินเทอร์เน็ตอย่างมีประสิทธิภาพ
Baidu ไม่เพียงเป็นเครื่องมือค้นหาออนไลน์ เท่านั้น แต่ยังมีบริการ และผลิตภัณฑ์อื่นๆ ดังนี้
- Baidu Maps (Baidu 地图): บริการแผนที่และนำทางออนไลน์ที่ให้ข้อมูลเกี่ยวกับที่ตั้ง และการเดินทาง
- Baidu Baike (Baidu 百科): เป็นวิกิพีเดียแบบจีนที่ถูกพัฒนาขึ้นโดย Baidu โดยมีข้อมูล และเนื้อหาเกี่ยวกับหลายประเทศภายในจีน
- Baidu Tieba (Baidu 贴吧): บริการสร้างชุมชนออนไลน์ที่ให้ผู้ใช้สร้างกระทู้เว็บเพจเพื่อพูดคุย และแลกเปลี่ยนเรื่องราวต่างๆ
- Baidu Video (Baidu 视频): บริการวิดีโอออนไลน์ที่ให้ผู้ใช้สตรีมวิดีโอ คอนเทนต์ทางการแสดงและความบันเทิง
- Baidu Cloud (Baidu 云): บริการเก็บข้อมูลออนไลน์ที่อนุญาตให้ผู้ใช้บันทึก และแบ่งปันข้อมูลในคลาวด์ (Cloud) ของ Baidu
5. Yandex
Yandex มีบทบาทสำคัญในด้านการค้นหา และบริการอินเทอร์เน็ตในประเทศรัสเซีย ที่มีพื้นที่ใหญ่ และมีประชากรมาก จากบริษัท Yandex N.V. ถูกก่อตั้งโดย Arkady Volozh และ Ilya Segalovich ในปี 2000 และเริ่มต้นด้วยการพัฒนาเครื่องมือค้นหาออนไลน์ที่ใช้งานในภาษารัสเซีย โดยมีระบบอัลกอริทึมการค้นหาที่พัฒนาเองเหมือน Baidu ของประเทศจีน ซึ่งคำว่า “Yandex” เกิดจากคำว่า “Yet Another iNDEXer” และแสดงถึงความพยายามในการสร้างเครื่องมือค้นหาที่ดีเยี่ยม
Yandex นอกจากจะเป็นเว็บไซต์ Search Engine ยังมีบริการ และผลิตภัณฑ์ที่น่าสนใจ จะมีอะไรบ้าง ดังนี้
- Yandex.Maps (Яндекс.Карты): บริการแผนที่ นำทางออนไลน์ที่ให้ข้อมูลเกี่ยวกับที่ตั้ง และการเดินทาง
- Yandex.Mail (Яндекс.Почта): อีเมลออนไลน์ที่ให้ผู้ใช้ส่ง และรับอีเมล
- Yandex.Disk (Яндекс.Диск): บริการเก็บข้อมูลออนไลน์ที่อนุญาตให้ผู้ใช้บันทึก และแชร์ข้อมูลในคลาวด์ (Cloud) ของ Yandex
- Yandex.Music (Яндекс.Музыка): บริการสตรีมเพลงออนไลน์ และบริการเพิ่มเพลงลงในคลาวด์ส่วนบุคคล
- Yandex.Taxi (Яндекс.Такси): บริการจองรถแท็กซี่ และรถโดยสารราคาพิเศษ
- Yandex.Translate (Яндекс.Перевод): บริการแปลภาษาออนไลน์
6. DuckDuckGo
DuckDuckGo เป็นเครื่องมือค้นหาออนไลน์ที่มีความเป็นส่วนตัว และเน้นความเคร่งครัดในการคุ้มครองความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้ โดยไม่ติดตาม หรือบันทึกข้อมูลการค้นหา และข้อมูลส่วนตัวของผู้ใช้ บริษัท DuckDuckGo Inc. ถูกก่อตั้งโดย Gabriel Weinberg ในปี 2008 และเริ่มให้บริการเครื่องมือค้นหา DuckDuckGo เมื่อปี 2010 DuckDuckGo ใช้การอ่านข้อมูลจากแหล่งข้อมูลอินเทอร์เน็ตเพื่อให้ผู้ใช้ได้รับผลการค้นหาที่ทันสมัย และมีคุณภาพ มีความสะดวกสบายในการค้นหาข้อมูล
นอกจากนี้ DuckDuckGo ไม่มีการบันทึก IP address ของผู้ใช้ และไม่มีโฆษณาที่แบบพร้อมใช้งาน หรือเก็บข้อมูลการค้นหาของผู้ใช้เพื่อจัดทำโฆษณาที่ปรับใช้ตามประวัติการค้นหาของผู้ใช้
7. Startpage
Startpage จากบริษัท Startpage B.V. (ก่อตั้งในอดีตในนาม “Ixquick”) ถูกก่อตั้งขึ้นในปี 2006 เป็นเครื่องมือค้นหาออนไลน์ที่มุ่งเน้นความเป็นส่วนตัว และความเคร่งครัดในการคุ้มครองความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้ เหมือน DuckDuckGo และเปิดให้บริการเครื่องมือค้นหา Startpage ในปี 2009 โดยมุ่งสู่การคุ้มครองความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้โดยไม่บันทึกข้อมูลการค้นหาหรือข้อมูลส่วนตัวของผู้ใช้ ไม่ติดตาม IP address ของผู้ใช้ และไม่ใช้การติดตามการเรียกหรือการใช้คุกกี้ (cookies) นอกจากนี้ Startpage ไม่มีโฆษณาที่แบบพร้อมใช้งาน และไม่ใช้ข้อมูลการค้นหาของผู้ใช้เพื่อนำไปจัดทำโฆษณา
Startpage เป็นการค้นหาที่เชื่อมโยงจาก Google เพื่อให้ผู้ใช้ได้รับผลการค้นหาที่ทันสมัย และมีคุณภาพ โดยป้อนคำค้นใน Startpage ข้อมูลการค้นหาจะถูกส่งไปยัง Google โดยไม่ระบุข้อมูลส่วนตัวของผู้ใช้ นั่นคือผู้ใช้จะได้รับผลการค้นหาจาก Google โดยไม่ต้องส่งข้อมูลส่วนตัว และการค้นหาของตน
8. Ecosia
Ecosia จากบริษัท Ecosia GmbH ถูกก่อตั้งโดย Christian Kroll ในปี 2009 และมีเซิร์ฟเวอร์หลักที่ตั้งอยู่ในเยนน์ และเยอรมนี ซึ่ง Ecosia ใช้การเสิร์ชเอนจินที่เชื่อมโยงจาก Microsoft Bing โดยมีการค้นหาที่ไม่ติดตามข้อมูลอะไรของผู้ใช้ มีวัตถุประสงค์ในการสนับสนุนการรักษาสิ่งแวดล้อม ซึ่งจะนำรายได้จากโฆษณาการค้นหา และใช้เงินเพื่อปลูกต้นไม้ตามสัญญากับหน่วยงานที่เชี่ยวชาญในการรักษาสิ่งแวดล้อม หรือโครงการการรับรองการปลูกต้นไม้ รายได้ในแต่ละครั้งที่ผู้ใช้ค้นหาจะสามารถดูได้ในหน้าผลการค้นหา
9. Swisscows
Swisscows เป็นเครื่องมือค้นหาออนไลน์โดยไม่บันทึกข้อมูลการค้นหาหรือข้อมูลส่วนตัวของผู้ใช้ จากบริษัท Swisscows AG ก่อตั้งโดย Andreas Wiebe ในปี 2014 และมีเซิร์ฟเวอร์หลักที่ตั้งอยู่ในสวิตเซอร์แลนด์ โดยใช้เทคโนโลยีการค้นหาเชื่อมโยง เพื่อให้ผู้ใช้ได้รับผลการค้นหาที่ทันสมัย และมีคุณภาพ มุ่งเน้นความเป็นส่วนตัว และความเคร่งครัดในการคุ้มครองข้อมูลการค้นหาของผู้ใช้ Swisscows ยังมีคุณลักษณะพิเศษที่ช่วยให้ผู้ใช้ได้ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับผลการค้นหาทั้งจากแหล่งข้อมูล และการเทรนด์เนื้อหาจากเว็บไซต์อื่นๆ อีกด้วย
10. You.com
You.com เป็นเครื่องมือค้นหา AI เปิดตัวในปี 2021 เรียกได้ว่าเป็นน้องใหม่ที่สุดของ เว็บไซต์ Search Engine ที่มีจุดมุ่งหมาย เพื่อให้ผู้ใช้ได้รับประสบการณ์การค้นหาที่เป็นส่วนตัว โดยมุ่งเน้นที่การแสดงผลการค้นหาที่เกี่ยวข้อง ในขณะเดียวกันก็เคารพความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้โดยไม่จัดเก็บหรือติดตามข้อมูลส่วนบุคคล เหมือนเว็บไซต์ Search Engine อื่นๆ ก่อนหน้านี้
11. X
X เป็นแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียยอดนิยมที่ให้ผู้ใช้สามารถแชร์ และค้นพบข้อความสั้นๆ ที่เรียกว่าทวีต ช่วยให้ผู้ใช้สามารถโพสต์ และโต้ตอบกับข้อความที่มีความยาวได้ถึง 280 อักขระ สามารถแบ่งปันข่าวสาร และข้อมูล แสดงความคิดเห็น ติดตามบุคลิก แบรนด์ที่ชื่นชอบ และติดตามข่าวสารล่าสุดในหัวข้อต่างๆ จึงถือได้ว่าเป็น เว็บไซต์ Search Engine อีก 1 เว็บ ที่เป็นแพลตฟอร์มที่สำคัญสำหรับการสื่อสารแบบเรียลไทม์
สรุป
Search Engine (เครื่องมือค้นหา) เป็นระบบที่ออกแบบมาเพื่อช่วยผู้ใช้ค้นหาข้อมูลที่ต้องการในโลกออนไลน์ ระบบนี้ทำงานโดยค้นหาเว็บไซต์ และหน้าเว็บที่เกี่ยวข้องกับคำค้นหาของผู้ใช้ แล้วแสดงผลการค้นหาที่มีประสิทธิภาพ และเกี่ยวข้อง แล้วความสำคัญและประโยชน์ของ Search Engine มีอะไรบ้าง? อย่างที่กล่าวไปก่อนหน้านี้ว่า สามารถค้นหาข้อมูลได้อย่างรวดเร็ว และมีประสิทธิภาพ ไม่ว่าจะเป็นข้อมูลทางวิชาการ ข่าวสาร ความบันเทิง สินค้าและบริการ
หากกำลังมองหาช่องทางการทำการตลาดออนไลน์ผ่าน Search Engine เข้ามาปรึกษาทำ SEO กับทาง Minimice เพราะเราเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการทำการตลาดออนไลน์อย่างมีประสิทธิภาพ พร้อมประสบการณ์ทำ SEO กว่า 5 ปี มีลูกค้าเป็นบริษัทชั้นนำมากมาย และรางวัลการันตีคุณภาพ มั่นใจได้ว่าการทำ SEO ของคุณจะเห็นผลอย่างแน่นอน
คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับเว็บไซต์เสิร์ชเอนจิน (FAQ)
เมื่อได้ทำความรู้จักกับ Search Engine ไปแล้วว่าคืออะไร มีประโยชน์อย่างไร และมีเว็บไซต์ Search Engine ที่น่าสนใจอะไรบ้างแล้ว บทความนี้ยังได้รวบรวมคำถามที่พบบ่อยพร้อมคำตอบมาไขข้อข้องใจอีกด้วย ไปดูกันเลย
1. Search Engine ที่นิยมและเหมาะกับการตลาดดิจิทัลมากที่สุดคืออะไร
ความเหมาะสมของ Search Engine ที่จะใช้ในการตลาดดิจิทัลขึ้นอยู่กับเป้าหมาย และธุรกิจหรือโครงการ รวมถึงเนื้อหาของความต้องการของผู้ใช้ และภูมิภาคหรือประเทศที่เราอาศัยอยู่ ส่วนประเทศไทย หรือประเทศส่วนใหญ่ในปัจจุบัน ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าการตลาดในสากล Google ยังคงเป็น Search Engine ที่สำคัญ และเป็นที่นิยมอย่างมาก
2. ธุรกิจสามารถใช้ Search Engine ในการเพิ่มยอดขายอย่างไรได้บ้าง
Search Engine เป็นเครื่องมือที่สำคัญในการเพิ่มยอดขายสำหรับธุรกิจในโลกดิจิทัล โดยธุรกิจสามารถใช้ Search Engine ในการเพิ่มยอดขายได้โดยหลายวิธี เช่น Search Engine Optimization (SEO) และ Pay-Per-Click (PPC) Advertising