เว็บไซต์ E-Commerce ครบวงจร เพิ่มยอดขาย 200x ใน 3 เดือน
ด้วยกลยุทธ์เฉพาะเว็บไซต์ E-Commerce จากทีมผู้เชี่ยวชาญด้านการยิง Ads
เพิ่มยอดขายบนเว็บ
E-Commerce, Shopee, Lazada แบบก้าวกระโดด
เบื้องหลังความสำเร็จของธุรกิจ E-Commerce ชั้นนำที่เราดูแล
MINIMICE GROUP เราคือผู้เชี่ยวชาญ ด้านโฆษณาบนเว็บไซต์ E-Commerce
- เราคือ Full-Service ด้านการทำโฆษณาเว็บไซต์ E-Commerce
- เบื้องหลังความสำเร็จด้าน Ads บนเว็บไซต์ E-Commerce กว่า 100 ราย
- เบื้องหลังความสำเร็จใน SEO มากกว่า 200+ ราย
บนเส้นทางเอเจนซี่
และเติบโตอย่างต่อเนื่อง
เป้าหมายสู่การเป็นเอเจนซี่
อันดับ 1 ในประเทศ
รางวัลความสำเร็จของเรา
Top Rated Agency
Sortlist
Best in Search
Top SEOs
MEA SEO
3 Awards 2022
เราคือ E-Commerce Agency ชั้นนำที่ดูแลการตลาดภาพรวม เน้น ROAs
- บริการโฆษณาบนเว็บไซต์ E-Commerce, Lazada, และ Shopee
- วางแผนการตลาด วิเคราะห์ภาพรวมยอดขายทุกช่องทาง
- แนะนำสินค้าที่น่าสนใจ เพื่อเกาะ Trend ตลาด
- เน้นการโฆษณาบนเว็บไซต์ E-Commerce ด้วย ROAS ที่สูงที่ 200 เท่า
เอเจนซี่รับโฆษณาบนเว็บไซต์ E-Commerce ที่ทำให้ลูกค้าเราติดอันดับ 1 ในหลากหลายธุรกิจ
Plus Dental Clinic
Quick Serv
TOA Group
Rancho Charnvee Resort & Country Club
Fully Booked
KDMS
Page365
i-Store Self Storage
SpeakUp Language Center
Dr. Vii Clinic
ถ้าเป็นโฆษณาเว็บไซต์ E-Commerce ทำไมต้อง MINIMICE
Full-Service
เบื้องหลังของความสำเร็จของแบรนด์ชั้นนำในประเทศ
กลยุทธ์เน้นเพิ่ม ROAs
รางวัลการันตีคุณภาพ
การซัพพอร์ทแบบครบวงจร จากทีม MINIMICE GROUP
- ทำความเข้าใจธุรกิจ และเป้าหมายที่วางไว้กับ 30-60 นาทีของการพูดคุยกับ Project Manager
- Brand Manager วิเคราะห์ และวางแผนธุรกิจของคุณ เน้น Quick-Win ในการทำโฆษณาเว็บไซต์ E-commerce
- Content and Graphic Designer ดึงจุดเด่นของแบรนด์ พร้อมตอบโจทย์ผู้ใช้งาน เพื่อสร้างความแตกต่างเหนือคู่แข่งบนแพลตฟอร์ม
CPAS คืออะไร?
CPAS ย่อมาจากคำว่า Collaborative Performance Advertising Solution
เป็นรูปแบบการโฆษณาที่แบรนด์บนแพลตฟอร์ม E-Commerce เช่น Lazada, Shopee แสดงสินค้าบน Facebook ในรูปแบบ Dynamic Ads โดยแบรนด์สามารถเลือกแสดงสินค้าตามกลุ่มเป้าหมายที่ตั้งไว้ได้
CPAS มีหลักการทำงานอย่างไร?
แพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซที่เป็นพาร์ทเนอร์กับ Facebook จะสร้างแคตตาล็อกสินค้าเป็นหมวดหมู่ จากนั้นเจ้าของแบรนด์จะใช้แคตตาล็อกนั้นส่งไปยังกลุ่มเป้าหมายที่ตั้งไว้ ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มเป้าหมายทั่วไป หรือกลุ่มเป้าหมาย Re-Targeting ที่เคยเข้ามาดูสินค้าแล้ว
ทำไมแบรนด์ควรเลือกใช้ CPAS
โฆษณาแบบ CPAS สามารถเพิ่มยอดขายให้กับธุรกิจได้อย่างมาก เพราะ CPAS สามารถเชื่อมลูกค้าจาก Facebook ที่มีผู้ใช้อยู่จำนวนมาก ไปยังแพลตฟอร์ม E-Commerce ได้ทันที อีกทั้งยังทำให้การทำ Re-Targeting มีประสิทธิภาพมากขึ้น ไปสู่คนที่มีแนวโน้มจะซื้อสินค้าจริง ๆ สุดท้ายจึงกระตุ้นยอด Conversion ให้มากขึ้น
การโฆษณาบนเว็บไซต์ E-Commerce จาก MINIMICE GROUP
-
แนะนำช่องทางใหม่ที่ช่วยเพิ่มยอดขาย
เราจะค้นหาช่องทางการขายในแพลตฟอร์มใหม่ ๆ ที่เหมาะกับสินค้าของคุณ เพื่อขยายโอกาสในการขาย และรายได้ที่เพิ่มขึ้น -
ยิง Ads หลายแพลตฟอร์ม
ยิงแอดด้วย CPAS บน Lazada, Shopee, NocNoc, และ Platform อื่น ๆ อีกมากมาย -
สร้างสรรค์ Content และ ออกแบบ Artwork สำหรับ E-Commerce
คอนเทนต์ และการดีไซน์รูปสินค้าที่ตอบโจทย์ผู้ใช้งาน เห็นทุกรายละเอียด ง่ายต่อการตัดสินใจซื้อ -
Report ที่วิเคราะห์ ROAs
Report ผลการดำเนินงาน เน้นวิเคราะห์ Return Of Ads Spend เจาะผลลัพธ์ทุกแคมเปญ เพื่อการเติบโตของยอดขายอย่างก้าวกระโดด
E-Commerce Services จาก MINIMICE GROUP
ครบครันในการทำ E-Commerce ทุกแพลตฟอร์ม
- Shopify SEO
- Woo-Commerce
- PHP Custom made
- Squarespace
- Magento E-Commerce
- Shopee, Lazada
- Weebly E-Commerce
วางแผนการตลาดภาพใหญ่ ที่ขยายโอกาสในทุก Online Marketing Channel
เราไม่ใช่แค่เอเจนซี่การตลาด แต่เราจะเป็น Business Partner ของลูกค้าทุกราย ในการวางแผนการตลาดแบบองค์รวมร่วมกับแบรนด์ พร้อมขยายโอกาสการเติบโตในทุกช่องทางของการตลาดออนไลน์ ให้ธุรกิจของคุณเติบโตอย่างรวดเร็ว
- Search Engine Optimization (SEO)
- Search Engine Marketing (SEM)
- Social Media Marketing
- Paid Media
เจาะลึกเว็บไซต์ E-Commerce ทุกส่วน เพื่อการขึ้นอันดับที่รวดเร็วที่สุด
Timeline การทำงานที่ชัดเจน เพื่อความสำเร็จในการทำโฆษณาเว็บไซต์ E-Commerce
โฆษณาบน E-Commerce Platform: Lazada Ads , Shopee Ads
การวัดผลการทำโฆษณาเว็บไซต์อีคอมเมิร์ซกับ MINIMICE GROUP
การวัดผล SEO เป็นสิ่งสำคัญสำหรับบริษัทรับทำ SEO โดยทั่วไปเรามักจะเน้นที่การ จัดอันดับของ Google เป็นหลัก แต่นั่นอาจไม่ใช่ทั้งหมดของการทำ SEO เป้าหมายหลักของแบรนด์ คือยอดขายและการเพิ่ม Brand Awareness ด้วยเหตุนั้นเอง Minimice Group เราให้ความสำคัญกับ ROAs เป็นหลัก และ Session ที่เกิดขึ้น เรามาดูกันว่า Metric ไหนบ้างที่สำคัญ
- ROAs (Return on Assets)
- Organic Traffic
- Organic Conversion
- Organic Conversion Rate
- Click-Through Rate (CTR)
- Organic Impression
- Core Web Vital (Website Speed)
- Rankings
- Brand Keyword Goals
คุณรู้หรือไม่? โฆษณาบน Lazada Ads หรือ Shopee Ads ได้ ROAs สูงกว่าช่องทางอื่น หลายเท่า
การทำ Lazada Ads และ Shopee Ads ต่างเน้นให้เกิด Conversion หรือการซื้อ (Purchase) สินค้าได้มากกว่าการทำโฆษณาบน Social Media ด้วยตัวแพลตฟอร์มที่เป็น E-Commerce โดยเฉพาะ จึงเกิดการขายได้มากกว่าบนเว็บไซต์ทั่วไป
ทำโฆษณาบน Lazada และ Shopee ดียังไง?
- ร้านค้าติดอันดับในหน้าแรก เพิ่มการมองเห็น การเข้าถึง และ Conversion
- ยิงโฆษณาซ้ำได้ เพิ่มโอกาสปิดการขาย
- ขยายโอกาสในการขาย ผ่านการมองเห็นบน Facebook ด้วย CPAS
- เสียค่า Ads เฉพาะตอนลูกค้าคลิกเท่านั้น มั่นใจได้ว่างบใช้ไปกับคนที่สนใจสินค้าจริง ๆ
วางแผนการยิงโฆษณาบน Mega Campaign ที่ดี สร้าง ROAs ได้มากถึง 200 เท่า
Mega Campaign หรือแคมเปญการตลาดที่จัดขึ้นในวันและเดือนเดียวกัน เป็นช่วงที่แบรนด์สามารถสร้างรายได้เพิ่มมากขึ้น จากการลดราคาสินค้า และจัดโปรโมชันพิเศษต่าง ๆ ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่แบรนด์มียอดขายเพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดด กว่า 80% ของผู้คนมีแนวโน้มซื้อสินค้ามากขึ้นในช่วง Mega Campaign
การยิงโฆษณาในช่วง Mega Campaign จะยิ่งทำให้ร้านค้าสร้างยอดขายได้มากกว่าเดิม ทีมเราวางแผนการยิงโฆษณาช่วงแคมเปญนี้โดยเฉพาะ เพื่อให้ร้านค้าของคุณอยู่อันดับต้น ๆ ของการค้นหา เพิ่มโอกาสในการขาย กระตุ้นยอดขายทะลุเป้า สร้าง ROAs ได้กว่า 200 เท่า
Double-Date สามารถสร้างยอดขายมากถึง 60% ยิงโฆษณาให้ดีไปได้อีกไกล!
Mega Campaign หรือ Double Date Campaign เป็นแคมเปญการตลาดที่แพลตฟอร์ม E-Commerce อย่าง Lazada และ Shopee จะจัดขึ้นในวันและเดือนเดียวกัน เพื่อดึงดูดให้ผู้ซื้อมีการใช้จ่ายมากขึ้น ด้วยการเสนอโปรโมชันพิเศษ และลดราคาสินค้า ยอด Conversion ในวัน Double Date มีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นในทุก ๆ ปี โดยเฉพาะตั้งแต่เดือน 9 เป็นต้นไป
การจัดการแคมเปญใหญ่จำเป็นต้องให้ผู้เชี่ยวชาญที่มีประสบการณ์การยิงโฆษณาบนแพลตฟอร์ม E-Commerce ช่วยดูแล เพื่อให้ร้านค้าของคุณสร้างยอดขายให้ได้มากที่สุด
คำถามที่พบบ่อย
E-Commerce SEO คืออะไร ?
E-Commerce SEO คือ การปรับปรุงประสิทธิภาพเว็บไซต์ร้านค้าออนไลน์ (E-Commerce) ทั้งหน้าหมวดหมู่สินค้า แบรนด์สินค้า และผลิตภัณฑ์ให้ติดอันดับในหน้าแรกของ Search Engine ซึ่งต้องคำนึงถึงปัจจัยเหล่านี้เป็นหลัก
- ความเร็วของเว็บไซต์
- เว็บไซต์ใช้งานง่าย
- ความน่าเชื่อถือของเว็บไซต์
- การจัดโครงสร้างเว็บไซต์ และลำดับหมวดหมู่
- การใช้ชื่อของหน้าสินค้า
- การเขียนบทความที่อัพเดทอยู่ตลอดเวลา
E-Commerce SEO สำคัญอย่างไร ?
E-Commerce SEO จาก MINIMICE ช่วยให้ธุรกิจของคุณเติบโตได้อย่างไร?
- เข้าถึงธุรกิจ สินค้าและบริการอย่างตรงกลุ่มเป้าหมายด้วยการติดอันดับหน้าแรกของการค้นหา
- เพิ่ม Organic Traffic เข้าเว็บไซต์ และเพิ่ม Conversion
- ลดต้นทุนด้าน Paid Media
- สร้างยอดขายที่ยั่งยืนในระยะยาว
- สร้าง ROAs ผลลัพธ์คุ้มค่าทุกแคมเปญ
E-Commerce SEO ต้องเริ่มต้นอย่างไร?
หากคุณกำลังเริ่มต้นทำ SEO สำหรับเว็บไซต์ E-Commerce สิ่งแรกคือการวางโครงสร้างเว็บไซต์ ไม่ว่าจะเป็นการตั้งชื่อ URL ไปจนถึงการเลือก Keyword ในแต่ละหมวดหมู่ ในขั้นตอนอื่น ๆ สามารถเรียงลำดับได้ดังนี้
- วางแผนโครงสร้างเว็บไซต์ พร้อมการตั้งชื่อ URL
- วางแผน Keyword ระยะสั้น และระยะยาว
- ดูองค์ประกอบ Technical หรือ On-Page SEO ของทั้งเว็บไซต์
- วางแผนการเขียนบทความที่รองรับ User และกระตุ้นยอดขายได้
- ให้ความสำคัญกับ Mobile Experience ในเว็บไซต์ E-Commerce ของเรา
- หาเครื่องมือที่สามารถวัดผล การทำ SEO สำหรับเว็บไซต์ E-Commerce
ธุรกิจ E-Commerce ใช้ CMS ไหนถึงจะดี?
การทำธุรกิจ E-Commerce สามารถใช้ได้ใน CMS ที่หลากหลาย ตั้งแต่เว็บไซต์ Ready-made หรือจะเป็นการเขียนเว็บไซต์ขึ้นมาเองก็ดี โดย CMS ที่มีการใช้งานอย่างแพร่หลายจะมี
- WordPress/WooCommerce – ใช้งานง่าย, Community ใหญ่มากในประเทศไทย
- Shopify – Layout สวยงาม, องค์ประกอบ SEO เยอะ (แต่ยังไม่ครบ)
- PHP Custom Made – ดีมาก แต่แนะนำให้มี In-house Developer หรือ Developer ที่ On-Call ได้ตลอด
- Squarespace – ใช้งานง่าย ดีไซน์สวยงาม แต่ปรับองค์ประกอบได้ไม่เยอะ
- Magento eCommerce – ใช้งานง่าย สามารถปรับเปลี่ยนองค์ประกอบ SEO ได้ แต่ต้องใช้ Magento Dev เท่านั้น
- BigCommerce – ครบครันทุกองค์ประกอบ แต่ก็มีความยากในระบบ CMS
- Weebly – ครบทุกองค์ประกอบอีกเช่นเดียว แต่มีความยากในการใช้ง่าย
ซึ่งทาง MINIMICE ขอแนะนำ WordPress หรือ WooCommerce และ PHP Custom Made เนื่องจากเราสามารถที่จะปรับเปลี่ยนองค์ประกอบ SEO ได้ง่าย และสามารถควบคุมได้ทุกอย่าง เนื่องจากเป็นระบบที่เขียนเอง และข้อจำกัดในการเปลี่ยนแปลงองค์ประกอบน้อย
ลูกค้าพูดถึงเราว่ายังไง
