คุณทำ SEO ได้อันดับ 1 แล้ว แต่ยอดคลิก (CTR) กลับลดลงฮวบฮาบถึง 30-70% หรือไม่? นี่ไม่ใช่ความบังเอิญ แต่คือผลกระทบที่เกิดขึ้นจริงจากการมาถึงของ Google AI Overviews (AIO) หรือ SGE (Search Generative Experience) ซึ่งได้สรุปคำตอบให้ผู้ใช้งาน “จบ” ตั้งแต่หน้าค้นหา (Zero-Click Search) กลืนกิน Traffic ที่เคยเป็นของเราไป
ในฐานะผู้เชี่ยวชาญด้าน Digital Marketing ที่มีประสบการณ์กว่า 10 ปี เราเข้าใจดีถึงความสับสนและความกังวลนี้ การเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่นี้ไม่ได้แปลว่า SEO ตายแล้ว แต่แปลว่า “เกม” ได้เปลี่ยนไปแล้ว บทความนี้จะเจาะลึกทุกแง่มุมของ ผลกระทบของ AI Overviews ต่อ CTR ในปี 2026 พร้อมเผยกลยุทธ์ที่ล้ำหน้าที่สุดเพื่อเปลี่ยนวิกฤตให้เป็นโอกาส และช่วยให้ธุรกิจของคุณอยู่รอดอย่างยั่งยืนบนโลก Search ที่ขับเคลื่อนด้วย AI
Minimice Group ในฐานะผู้นำด้านการตลาดดิจิทัล เราได้ติดตามและปรับใช้กลยุทธ์ใหม่ๆ เพื่อให้ลูกค้าของเรายังคงสร้างผลลัพธ์ที่ยอดเยี่ยมได้อย่างต่อเนื่อง แม้ในวันที่ AI เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของสมการ
Key Takeaway
| ประเด็น | ผลกระทบต่อ CTR | กลยุทธ์หลักที่ต้องทำ (Actionable Strategy) |
| CTR อันดับ 1 | ลดลงอย่างมีนัยสำคัญ (บางรายงานลด 30-70%) | สร้างเนื้อหาที่ AI สรุปไม่ได้ (In-depth, Opinion, Experience) |
| Zero-Click Search | เพิ่มขึ้นสูงมาก | ปรับโฟกัสจาก CTR ไปที่ Impressions และ Conversion On-site |
| Long-Tail Keyword | ได้รับผลกระทบน้อยกว่า Head Term | ลงทุนในการค้นหาเชิงรายละเอียด (Long-Tail & Question Queries) |
| E-E-A-T (Authority) | สำคัญที่สุดในยุค AIO | เสริมความน่าเชื่อถือของผู้เขียน/แบรนด์ และใช้ Structured Data |
| Branded Search | CTR อาจเพิ่มขึ้นเมื่อแบรนด์ถูก Citation | สร้าง Brand Strength และ Brand Trust อย่างจริงจัง |
1. ทำความเข้าใจ AI Overviews (AIO) กลืนกิน CTR ได้อย่างไร?
AI Overviews คือกล่องข้อความสรุปที่สร้างโดย AI (Generative AI) ซึ่งปรากฏอยู่บนตำแหน่งสูงสุดของหน้าผลการค้นหา (SERP) เหนือผลลัพธ์ Organic และบางครั้งก็อยู่เหนืองานโฆษณา (Google Ads) ด้วยซ้ำ
ผลกระทบหลักคือ
- ตอบจบในหน้าเดียว สำหรับคำถามที่มีความตั้งใจในการค้นหาข้อมูล (Informational Intent) เช่น “AI Overviews คืออะไร” หรือ “วิธีทำขนมปังง่ายๆ” ผู้ใช้งานจะได้รับคำตอบที่สมบูรณ์ทันทีจาก AIO ทำให้ไม่จำเป็นต้องคลิกเข้าเว็บไซต์เพื่อหาข้อมูลต่อ (เกิด Zero-Click Search)
- การเลื่อนอันดับ การปรากฏของกล่อง AIO ทำให้ผลลัพธ์ Organic อันดับ 1-3 ถูกดันลงไปอยู่ด้านล่างของหน้าจอ (Below the Fold) บางรายงานชี้ว่าการเลื่อนนี้กินพื้นที่ถึง 1.5 เท่าของความสูงหน้าจอ โอกาสที่ผู้ใช้จะเห็นและคลิกจึงลดลงอย่างมหาศาล
AI Overviews กลายเป็นเหมือน “คำตอบด่วนบนหน้าแรก” ที่ทำให้ผู้ใช้ไม่จำเป็นต้องคลิกเข้าเว็บไซต์อีกต่อไป ส่งผลให้เกิดพฤติกรรม Zero-Click Search มากขึ้น และทำให้อัตราการคลิก (CTR) ลดลงอย่างเห็นได้ชัด นอกจากนี้ AIO ยังดันผลลัพธ์ Organic ให้เลื่อนลงจนแทบหลุดขอบจอ ทำให้เว็บไซต์ต้องแข่งขันหนักกว่าเดิมเพื่อแย่งพื้นที่การมองเห็นบน Google

2. ตัวเลขที่น่าตกใจ สถิติ CTR ที่ลดลงในอุตสาหกรรมต่างๆ
ข้อมูลจากการวิจัยหลายแหล่งในปี 2025 ชี้ให้เห็นว่า CTR ของผลลัพธ์ Organic ลดลงอย่างชัดเจนเมื่อมี AIO ปรากฏอยู่บนหน้า SERP
| แหล่งข้อมูล | ประเด็นที่ศึกษา | ตัวเลข CTR ที่ลดลงโดยเฉลี่ย |
| Ahrefs (2025) | CTR อันดับ 1 สำหรับ Keyword ที่มี AIO | ลดลง 34.5% |
| Seer Interactive (2025) | Organic CTR เมื่อมี AIO ปรากฏ | ลดลง ~70% |
| Local Falcon (2025) | การลดลงของ Traffic โดยรวม (Theoretical Loss) | 20% – 60% (ขึ้นอยู่กับอุตสาหกรรม) |
โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกลุ่มอุตสาหกรรมที่เน้นข้อมูลอย่างมาก เช่น สุขภาพ (Health) และการเงิน (Finance) จะได้รับผลกระทบเร็วและรุนแรงที่สุด เนื่องจากการค้นหาส่วนใหญ่เป็นคำถามที่ต้องการคำตอบสั้นๆ
การลดลงของ CTR ไม่ได้เป็นแค่ความรู้สึก แต่มีสถิติยืนยันชัดเจน โดยเฉพาะเว็บไซต์ที่อยู่ในกลุ่มคีย์เวิร์ดเชิงข้อมูล (Informational Queries) ที่เสี่ยงต่อการสูญเสีย Traffic มากที่สุด นัก SEO จึงต้องปรับมุมมองใหม่ เพราะการได้ “อันดับ 1” ไม่ได้หมายความว่าจะได้ “ยอดคลิกสูงสุด” อีกต่อไปในยุคที่พฤติกรรมผู้ใช้เปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว

3. กลยุทธ์กอบกู้ CTR เปลี่ยนโฟกัสจาก ‘Rank’ เป็น ‘Citation’ และ ‘Depth’
การทำ SEO ในยุค AIO ไม่ใช่การแข่งกันเพื่อชิงอันดับสูงสุดอย่างเดียว แต่คือการแข่งกันเพื่อให้เนื้อหาของเราถูก อ้างอิง (Cited) ในกล่อง AI Overview และต้องสร้างเนื้อหาที่ AI ไม่สามารถสรุปได้ง่ายๆ
1. กลยุทธ์เนื้อหาต้าน AI (Un-Summarizable Content)
- Embrace E-E-A-T (Experience, Expertise, Authoritativeness, Trustworthiness) เนื้อหาที่มาจากประสบการณ์ตรง (Experience) และผู้เชี่ยวชาญ (Expertise) ที่ชัดเจน จะมีโอกาสถูก AI เลือกไปใช้เป็นแหล่งข้อมูลหลักมากกว่าบทความทั่วไป
- Content Beyond the “What” หลีกเลี่ยงการเขียนเนื้อหา “What is…” ทั่วไป แต่เน้นที่ “Why, How-to-Solve, Case Study, Opinion” ที่ต้องอาศัยการวิเคราะห์เชิงลึก หรือข้อมูลที่ไม่สามารถหาได้จากที่อื่น
- The “Gap” Content ค้นหาจุดที่ AIO สรุปคำตอบได้ไม่สมบูรณ์ แล้วสร้างเนื้อหาที่เชื่อมต่อ “ช่องว่าง” นั้น เช่น AIO สรุปหลักการ แต่เว็บไซต์ของเรามี Checklist ที่ทำตามได้ทันที
2. กลยุทธ์การเพิ่มโอกาสในการถูก Citation
- ใช้ Structured Data / Schema Markup การใส่ Schema Markup ที่เหมาะสม (เช่น FAQ Schema, HowTo Schema) ช่วยให้ Google และ AI เข้าใจโครงสร้างเนื้อหาได้ง่ายขึ้น เพิ่มโอกาสให้ถูกเลือกเป็นแหล่งข้อมูล
- จัดโครงสร้างคำตอบให้ชัดเจน เขียนหัวข้อ (H2, H3) และย่อหน้าแรกให้เป็นคำตอบที่กระชับและตรงไปตรงมาเหมือนกำลังตอบคำถามใน AIO แต่ขยายความลึกในส่วนถัดไป
- สร้าง Brand Strength แบรนด์ที่เป็นที่รู้จักและน่าเชื่อถือ จะถูกผู้ใช้คลิกเข้าไปดูต่อ แม้จะถูกอ้างอิงใน AIO แล้วก็ตาม (Branded keywords ที่มี AIO อาจมี CTR เพิ่มขึ้นด้วยซ้ำ)
เป้าหมายใหม่ของคอนเทนต์ไม่ใช่แค่ติดอันดับ แต่ต้องกลายเป็น “แหล่งอ้างอิงที่เชื่อถือได้” ที่ AI เลือกหยิบไปใช้ พร้อมเนื้อหาที่ลึก ซับซ้อน และมีมุมมองเฉพาะตัวจากประสบการณ์จริง นอกจากนี้ การใช้เทคนิค SEO เชิงเทคนิคอย่าง Structured Data ยังช่วยให้ระบบ AI เข้าใจข้อมูลของเราได้ดีขึ้น และเพิ่มโอกาสถูกดึงไปแสดงในผลลัพธ์อีกด้วย
4. การวัดผลใหม่ในยุค AIO จาก CTR สู่ Impressions และ Conversion Rate
เมื่อ CTR ลดลง การวัดผลความสำเร็จแบบเดิมจึงไม่เพียงพอ เราต้องเปลี่ยนมุมมองและให้ความสำคัญกับ Metric อื่นๆ
1. Impressions ความสำเร็จใหม่ที่มองข้ามไม่ได้
แม้จะไม่เกิดคลิก แต่การที่เนื้อหาของคุณถูกดึงไปใช้ใน AIO หมายความว่าคุณยังคงได้ Impressions (การมองเห็น) ในตำแหน่งที่โดดเด่นที่สุดบนหน้าค้นหา สิ่งนี้สร้าง Brand Awareness ที่ประเมินค่าไม่ได้
- ติดตาม AIO Impressions ใช้ Google Search Console (GSC) เพื่อดูจำนวน Impressions ที่สูงสำหรับ Keyword ที่มี CTR ต่ำ ซึ่งบ่งบอกว่าคุณกำลังถูกใช้เป็นแหล่งข้อมูลใน AIO
- เป้าหมายใหม่ โฟกัสไปที่การเพิ่ม Impressions ใน AIO ให้มากที่สุด เพื่อครองพื้นที่การมองเห็น
2. Conversion Rate On-site เน้น Traffic คุณภาพ
AI Overviews มักจะตอบคำถาม Informational ทั่วไป ดังนั้น Traffic ที่คลิกเข้ามาจึงมีแนวโน้มที่จะเป็น Traffic ที่มีเจตนาเชิงลึก (Deeper Intent)
| มุมมองเดิม (ก่อน AIO) | มุมมองใหม่ (หลัง AIO) |
| ปริมาณ (Volume) ของ Traffic คือทุกสิ่ง | คุณภาพ (Quality) ของ Traffic สำคัญกว่า |
| เน้นการทำอันดับ 1 เพื่อ CTR สูงสุด | เน้นการทำเนื้อหาที่นำไปสู่ Conversion |
| วัดผลความสำเร็จด้วย CTR | วัดผลความสำเร็จด้วย Conversion Rate |
กลยุทธ์ ทำให้หน้า Landing Page มี Call to Action (CTA) ที่ชัดเจนที่สุด และทำให้การสมัครสมาชิก/ซื้อ/ติดต่อทำได้ง่าย เพราะผู้ที่คลิกเข้ามาคือผู้ที่ต้องการข้อมูลมากกว่าแค่คำตอบสั้นๆ
ในยุคที่ AI Overviews ครองหน้าแรก การวัดผลต้องปรับมุมมองใหม่ โดยใช้ Impressions เป็นตัวชี้วัดด้าน Brand Awareness และให้ Conversion Rate สะท้อนคุณภาพของ Traffic แทนการดูยอดคลิกล้วนๆ ทำให้โฟกัสของนักการตลาดต้องเปลี่ยนจาก “แค่ได้คลิก” ไปเป็น “สร้างผลลัพธ์ที่มีคุณค่าจากทุกคลิก”ได้จริงๆ
5. The Triple-A Strategy (AIO-Adaptation & Amplification) จาก Minimice Group
Minimice Group ได้พัฒนากลยุทธ์เฉพาะกิจเพื่อรับมือกับ AIO โดยเน้นการปรับตัวและขยายขีดความสามารถของเนื้อหาเดิม
The Triple-A Strategy
- Analysis (วิเคราะห์เชิงลึก) ใช้ GSC และเครื่องมือวิเคราะห์อื่นๆ ในการระบุ 100 Long-Tail Keywords ที่กำลังถูก AIO ดึงไปใช้ (Impressions สูง, Clicks ต่ำ)
- Amplification (ขยายความเข้มข้น) ปรับปรุงเนื้อหาเดิมใน Keyword เหล่านั้นให้มี Micro-Conversion (เช่น แบบฟอร์มในบทความ หรือ Checklist ที่ดาวน์โหลดได้) และเสริม E-E-A-T ด้วยการใส่ประวัติผู้เขียน และวันที่อัปเดตข้อมูล
- Adaptive Content Structure (โครงสร้างเนื้อหาที่ยืดหยุ่น) ปรับโครงสร้างเนื้อหาให้มีส่วนสรุปสั้นๆ (AIO-friendly) ในย่อหน้าแรก และตามด้วยการเจาะลึกที่ซับซ้อน (User-friendly)
Case Study ลูกค้า Minimice Group ในกลุ่มธุรกิจประกันภัย พบว่า CTR ลดลง 45% สำหรับ Keyword “ประกันสุขภาพ 2026 คืออะไร”
- การแก้ไขโดย Minimice Group เราไม่ได้พยายามดันอันดับใหม่ แต่เราเปลี่ยนเนื้อหาให้มี ตารางเปรียบเทียบแผนประกันภัยแบบ Interactive และใส่เครื่องมือคำนวณเบี้ยประกันไว้กลางบทความ
- ผลลัพธ์ แม้ CTR ไม่กลับไปเท่าเดิม แต่ Conversion Rate (การกรอกฟอร์มขอใบเสนอราคา) เพิ่มขึ้น 210% ภายใน 3 เดือน เพราะ Traffic ที่คลิกเข้ามาคือคนที่ต้องการ “ซื้อ” ไม่ใช่แค่ “รู้” ข้อมูลทั่วไป
กลยุทธ์ของเราคือการใช้ Minimice Group เป็นตัวเร่งให้เนื้อหาของคุณมีความลึกซึ้งและมีจุดขายที่ AIO ไม่สามารถทดแทนได้ การเป็นแหล่งข้อมูลที่ดีสำหรับ AI ไม่ได้แปลว่าคุณต้องเสีย Traffic แต่แปลว่าคุณต้องสร้าง Traffic ที่มีมูลค่าสูงขึ้น
คลังศัพท์น่ารู้ในยุค AI Search
| คำศัพท์ | ความหมายโดยสรุป |
| AI Overviews (AIO) | กล่องสรุปคำตอบที่สร้างโดย AI ของ Google แสดงอยู่บนสุดของหน้าผลลัพธ์การค้นหา |
| Zero-Click Search | การค้นหาที่ผู้ใช้ได้รับคำตอบที่ต้องการจากหน้า SERP โดยไม่จำเป็นต้องคลิกเข้าเว็บไซต์ใดๆ |
| CTR (Click-Through Rate) | อัตราการคลิกต่อการมองเห็น (Clicks ÷ Impressions) คือตัววัดประสิทธิภาพการดึงดูดคลิกของเว็บไซต์ |
| E-E-A-T | ย่อมาจาก Experience, Expertise, Authoritativeness, Trustworthiness เป็นเกณฑ์คุณภาพเนื้อหาที่ Google เน้นย้ำมากที่สุด |
| Structured Data | โค้ดรูปแบบเฉพาะ (Schema Markup) ที่ช่วยให้เครื่องมือค้นหาเข้าใจประเภทและบริบทของข้อมูลบนเว็บไซต์ได้ง่ายขึ้น |
Checklist สิ่งที่ต้องทำทันทีเพื่อรับมือ AI Overviews
- Audit Keyword Intent ตรวจสอบ 10 อันดับแรกของคุณว่าเป็น Informational Intent ทั้งหมดหรือไม่ หากใช่ ให้เร่งปรับปรุงเนื้อหา
- Optimize for Branded Search เริ่มทำ Content Marketing เพื่อสร้าง Brand Awareness ให้ผู้คนค้นหาชื่อแบรนด์ของคุณ
- Refine First Paragraph เขียนย่อหน้าแรกของบทความให้เป็นคำตอบที่ชัดเจน กระชับ และตรงประเด็นที่สุด (โอกาสถูกเลือกไปใช้ใน AIO)
- Add Unique Value แทรกตาราง กราฟข้อมูล Case Study หรือเครื่องมือคำนวณ ที่ AI ไม่สามารถ “ลอก” ไปใช้ได้
- Implement Schema Markup ตรวจสอบและติดตั้ง Structured Data (โดยเฉพาะ FAQ และ HowTo) ให้กับทุกบทความสำคัญ
FAQs คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับ AI Overviews และ CTR
AI Overviews ส่งผลเสียต่อ SEO โดยตรงหรือไม่?
ไม่เชิง AIO ไม่ได้ทำให้การจัดอันดับของคุณแย่ลงโดยตรง แต่เปลี่ยนพฤติกรรมผู้ใช้ ทำให้ยอดคลิกจากอันดับที่ดีลดลง ดังนั้นเราต้องมองว่า AIO เป็น “ความท้าทายใหม่” ไม่ใช่ “จุดจบของ SEO”
หากถูก Citation ใน AIO เราจะได้ Traffic หรือไม่?
โอกาสที่จะได้คลิกจาก AIO มีอยู่ แต่ต่ำกว่าการคลิก Organic อันดับ 1 อย่างมาก อย่างไรก็ตาม การถูก Citation ช่วยเพิ่มความน่าเชื่อถือ (Trust) และ Brand Awareness ของเว็บไซต์คุณได้อย่างมหาศาล
ควรหยุดทำ Content Informational แล้วไปทำ Content Transactional แทนไหม?
ไม่ควรหยุด การทำ Informational Content ยังจำเป็นสำหรับการสร้าง E-E-A-T แต่ควรเพิ่มความลึกซึ้งและมุมมองที่ AI ไม่สามารถสรุปแทนได้ ให้นึกถึงการผสมผสานระหว่าง “รู้” (Informational) และ “ทำ” (Transactional/Actionable)
Long-Tail Keyword ยังสำคัญอยู่หรือไม่ในยุค AIO?
สำคัญมาก Long-Tail Keyword มักเป็นคำถามที่เฉพาะเจาะจงและซับซ้อนกว่า (Higher Intent) ทำให้ AIO สรุปได้ยากกว่า และมีโอกาสถูกคลิกเพื่อหาข้อมูลเชิงลึกมากกว่า
AI Overviews มีผลต่อ Google Ads (โฆษณา) ด้วยหรือไม่?
มี รายงานระบุว่า CTR ของโฆษณา (Paid Search) ก็ลดลงเช่นกันเมื่อมี AIO ปรากฏ เนื่องจาก AIO มักจะอยู่เหนือโฆษณาด้วย ทำให้ความสนใจของผู้ใช้ถูกดึงไปที่คำตอบ AI ก่อน
หากอันดับของเราตกไปอยู่ Position 2 หรือ 3 จะแย่กว่าเดิมไหม?
บางงานวิจัยพบว่า ในบางกรณีที่ AIO ปรากฏ ผลลัพธ์ใน Position 2 หรือ 3 อาจมี CTR สูงกว่า Position 1 เพราะผู้ใช้อาจมองข้ามลิงก์แรกที่ถูก AI ดึงไปใช้ การเป็นอันดับที่ดีแต่ไม่ถูก AIO Citation อาจเป็นจุดที่น่าสนใจในตอนนี้
เราจะรู้ได้อย่างไรว่าเนื้อหาของเราถูกใช้ใน AIO?
ต้องติดตามใน Google Search Console (GSC) โดยดู Keyword ที่มี Impressions สูง แต่มี CTR ต่ำมาก นั่นคือสัญญาณชัดเจนว่าเนื้อหานั้นกำลังถูกมองเห็นในตำแหน่งสูง (AIO) แต่ไม่เกิดคลิก
การทำ SEO ในปี 2026 ควรเน้นอะไรมากที่สุด?
เน้น 3 สิ่ง: E-E-A-T, Quality & Depth (ความลึกของเนื้อหา) และ Conversion Rate Optimization (CRO) บนเว็บไซต์
AIO จะอยู่ตลอดไปหรือไม่?
Google ลงทุนอย่างมากกับเทคโนโลยี AI Search และ AIO ได้รับการใช้งานมาแล้วหลายพันล้านครั้ง การเปลี่ยนแปลงนี้เป็นทิศทางระยะยาวของ Google ที่ต้องการให้ผู้ใช้ได้คำตอบเร็วที่สุด
สรุป
การมาถึงของ AI Overviews เป็นการรีเซตเกม SEO ครั้งใหญ่ที่สุดในรอบทศวรรษ มันบังคับให้เราเปลี่ยนจากการเป็น “นักล่าอันดับ” ไปเป็น “ผู้สร้างเนื้อหาที่มีคุณค่าเกินกว่าจะสรุปได้” CTR อาจลดลง แต่ Traffic ที่เข้ามาจะมีคุณภาพมากขึ้น นี่คือโอกาสในการสร้าง Brand Trust และ Conversion ที่แท้จริง
หากคุณยังสับสนว่าจะปรับกลยุทธ์เนื้อหาและการตลาดดิจิทัลอย่างไรในยุค AI ที่เปลี่ยนแปลงรวดเร็วเช่นนี้ อย่าลังเลที่จะปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ
ถึงเวลาแล้วที่จะให้ Minimice Group ช่วยวิเคราะห์ Traffic ปรับปรุงกลยุทธ์ SEO และสร้าง Content Strategy ในปี 2026 ที่จะทำให้คุณไม่เพียงแต่รอด แต่ก้าวไปสู่ความสำเร็จในยุค AI Search อย่างมั่นคง



