Table of Contents

Categories

Recent Posts

e marketplace คือ

ขยับร้านค้าให้ใกล้ลูกค้ามากขึ้นด้วย E-Marketplace

Table of Contents

ธุรกิจอีคอมเมิร์ซ ถือว่าเป็นธุรกิจที่ประสบความสำเร็จได้อย่างเห็นได้ชัด โดยเฉพาะในช่วงสถานการณ์ของโรคระบาดการซื้อขายทำได้โดยง่ายผ่านช่องทางออนไลน์ แต่การแข่งขันก็สูงมากเช่นกัน เพราะว่ามีร้านค้าหลากหลายมากขึ้น รวมถึงการใช้กลยุทธ์ทางการตลาดต่างๆ ในการโปรโมตสินค้า ดังนั้น บทความนี้จึงได้รวบรวมข้อมูลที่เป็นประโยชน์ให้แก่ผู้เริ่มต้นธุรกิจทุกท่านในการทำธุรกิจ e-marketplace ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของปัจจัยต่างๆ หรือความท้าทายที่ต้องรับมือเมื่อเริ่มทำธุรกิจแล้ว มารวมกันไว้ที่บทความนี้ แต่ก่อนอื่นมาทำความรู้จักกัน e-marketplace กันก่อนว่ามันคืออะไร?

e marketplace คือ

E-marketplace คืออะไร?

E-marketplace หรือ Electronic marketplace คือ เว็บไซต์ที่เป็นสื่อกลางในการซื้อขาย ซึ่งเป็นศูนย์รวมแหล่งข้อมูลขนาดใหญ่ที่รวมข้อมูลผู้ซื้อ ผู้ขาย สินค้า การบริการ ธุรกิจต่างๆ ร้านค้าไว้เป็นจำนวนมาก

ซึ่งผู้ซื้อ และผู้ขายสามารถเข้าถึงการติดต่อซื้อขายสินค้าได้หลากหลาย เป็นระบบการซื้อขายรูปแบบใหม่ที่ทำให้กระบวนการซื้อขายนั้นง่ายขึ้น สะดวก รวดเร็ว ตอบสนองพฤติกรรมของผู้บริโภคได้อย่างดี

โดยในปัจจุบัน E-marketplace เป็นเครื่องมือในการทำการตลาดที่เกิดผลดีกับผู้ซื้อ และผู้ขายได้มากมายด้วยการนำเสนอสินค้าผ่านทางออนไลน์ โดยได้รับการพิสูจน์แล้วว่าเป็นธุรกิจที่สามารถทำกำไรได้มากที่สุดในช่องทางออนไลน์ตลาดทั้งหมดทำงานบนซอฟต์แวร์เดียว ทำให้ผู้ขายสามารถขายสินค้าของตนได้ภายในเว็บไซต์เดียว

5 ประเภทของ E-marketplace

ในส่วนธุรกิจ E-marketplace แพลตฟอร์มตลาดจะแบ่งออกเป็นประเภทต่างๆ ซึ่งในส่วนนี้เป็นข้อมูลเกี่ยวกับตลาดประเภทต่างๆ ที่จะช่วยให้คุณตัดสินใจได้ว่าตลาดธุรกิจแบบใดที่เหมาะสมกับคุณมากที่สุด โดยจะมีทั้งหมด 5 ประเภท ดังนี้

1. Product Online Marketplace

Product Online Marketplace เป็นตลาดซื้อขายสินค้าแบบออนไลน์ ซึ่งแพลตฟอร์มนี้จะรวบรวมผู้ขายทุกประเภทไว้ในนี้ ทำให้ครบวรจร และสะดวกต่อผู้บริโภคให้มากที่สุด และยังสามารถตรวจสอบราคาที่ดีที่สุดสำหรับผู้บริโภคได้ เพราะว่าเป็นการรวบรวมผู้ขายทุกประเภททั้งยังสามารถได้กรองสินค้า เรียกดู เปรียบเทียบสินค้า และซื้อสินค้าต่างๆ ตั้งแต่ของชำไปจนถึงข้าวของเครื่องใช้ในบ้าน และอื่นๆ อีกมากมาย และยังสามารถจัดหาผู้ขายหลายรายเพื่อขายบนแพลตฟอร์มได้อีกด้วย ซึ่งทุกอย่างนี้ทำอยู่ภายใต้อิเล็กทรอนิกส์เดียว ด้วยคุณสมบัติต่างๆ ที่ใช้ได้ อย่างเช่น การประมูลสินค้าซึ่งผู้ขายจะแสดงรายการสินค้าและกำหนดเวลา โดยผู้ซื้อที่ให้ราคาที่สูงที่สุดจะได้รับสินค้าไป

2. Online Service Marketplace

ตลาดบริการออนไลน์ ในโลกของธุรกิจ ตลาดออนไลน์ไม่ใช่เพียงแค่ขายสินค้าเท่านั้น แต่ยังสามารถให้บริการออนไลน์ได้อีกด้วย โดยการนำเสนอบริการต่างๆ ที่ผู้คนค้นหา ซึ่งในส่วนนี้คุณจะต้องนำเสนอแพลตฟอร์มออนไลน์ที่น่าเชื่อถือเพื่อเชื่อมกับผู้บริโภคกับผู้ใช้บริการ ไม่ว่าจะเป็นบริการอาหาร บริการเสริมสวย และอื่นๆ อีกมากมาย

3. Online Rental Marketplace

ตลาดเช่าออนไลน์ จะคล้ายกับ Product Online Marketplace แต่จะแตกต่างกันที่สินค้านั้นไม่ได้ถูกซื้อ แต่จะแสดงในเว็บไซต์เพื่อให้เช่าเท่านั้น ซึ่งเป็นที่นิยมมากในอุตสาหกรรมการขนส่ง และแฟชัน เช่น การเช่ารถ เช่าชุด หรือการเช่าอุปกรณ์ต่างๆ ซึ่งแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซจะให้ความช่วยเหลือในระบบสำหรับการให้เช่านั่นเอง

4. Hybrid Model Ecommerce

ตลาดออนไลน์แบบไฮบริดมีได้ 2 ประเภท คือประเภทแรก ผู้คนจะคาดหวังที่จะขายและซื้อทั้งบริการและผลิตภัณฑ์บนแพลตฟอร์มเดียวกัน และประเภทที่สอง ผู้คนต้องการรับประโยชน์จากการซื้อสินค้าออนไลน์และออฟไลน์ ซึ่งรูปแบบนี้คือการที่ลูกค้าจะทำการจองสินค้าทางออนไลน์ก่อน และไปรับสินค้าที่หน้าร้านที่อยู่ใกล้ ๆ

5. Hyperlocal Marketplace

ตลาดแนวไฮเปอร์โลคัล จะเกิดขึ้นเมื่อผู้บริโภคเริ่มมองหาตัวเลือกใกล้เคียงขณะค้นหาร้านค้า หรือร้านอาหาร ผ่านเครื่องมือค้นหา ซึ่งรูปแบบจุดมุ่งหมายหลักของตลาด คือ จะจัดหาสิ่งที่อำนวยความสะดวก และบริการภายในระยะเวลาที่รวดเร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้จากผู้ขาย

ยกตัวอย่างเช่น ลูกค้าจะสามารถซื้อสินค้าจากร้านที่รับประกันการจัดส่งให้หายใน 24 ชั่วโมงเท่านั้น โดยจะเป็นการตั้งค่าให้อยู่ในภูมิภาคที่เฉพาะเจาะจงจากสถานที่จัดส่ง ไม่ว่าจะเป็นร้านอาหาร หรือร้านขายของในบริเวณใกล้เคียง

ประโยชน์ของ E-marketplace

ตลาดออนไลน์ทำให้คุณสามารถขายสินค้าได้โดยไม่ต้องตั้งร้านค้า ซึ่งการตลาดออนไลน์จะมอบโอกาสทางธุรกิจที่ยืดหยุ่นได้มาก ด้วยต้นทุนที่ค่อนข้างต่ำ โดยประโยชน์ที่ได้รับจะแตกต่างกันไปตามธุรกิจ ผู้ซื้อ ผู้ขาย ดังนี้

ประโยชน์ต่อธุรกิจ

ช่วยให้ผู้ประกอบการเรียกเก็บเงินจากผลิตภัณฑ์ได้สะดวก ซึ่งสามารถข้ามข้อจำกัดด้านเวลาที่เป็นการเพิ่มโอกาสในการทำกำไรได้อย่างมากมาย โดยสำหรับการซื้อขายข้ามภูมิภาค ต่างสถานที่ เป็นแพลตฟอร์มออนไลน์ที่สามารถทำงานได้ตลอดเวลา เพื่อประโยชน์แก่ผู้ซื้อ และเป็นแพลตฟอร์มที่มีค่าใช้จ่ายน้อยกว่าเมื่อเทียบกับช่องทางการขายอื่นๆ จึงทำให้ E-marketplace สามารถให้ความไว้วางใจได้มากขึ้น สร้างความโปร่งใสในกระบวนการจัดซื้อ เพราะการวางจำหน่าย ราคา และสต็อกสามารถเข้าถึงข้อมูลได้ทั้งหมด

ประโยชน์ต่อผู้ซื้อ

ช่วยลดต้นทุน และระยะเวลาในการซื้อ ควบคุมการจัดซื้อให้เป็นระบบมากขึ้น สะดวก และรวดเร็ว สร้างโอกาสในการติดต่อทางธุรกิจได้กว้างขวาง และหลากหลาย 

นอกจากนี้ E-marketplace จะมอบความสะดวกที่สุดในการเปรียบเทียบข้อมูลสินค้า บริการ ข้อมูลบริษัทได้ เพื่อให้ตรงกับความต้องมากที่สุด และจะช่วยให้สามารถค้นหาผู้ขายที่น่าเชื่อถือ และจะเสริมสร้างความไว้วางในต่อผู้ซื้อได้ในระดับนึง

ประโยชน์ต่อผู้ขาย

ลดระยะเวลาในการนำสินค้าเข้าตลาด สามารถโปรโมตในแหล่งเดียว แต่กระจายได้ทั่วโลก ช่วยลดต้นทุนในการโฆษณาสินค้า และบริการ เมื่อเทียบกับช่องทางการขายอื่นๆ แล้ว ก็สามารถลดข้อจำกัดต่างๆ ในการประกอบธุรกิจได้ เช่น พื้นที่หน้าร้าน พนักงาน เป็นต้น และยังมีระบบที่สนับสนุนทำให้การขายสินค้า และบริการเป็นเรื่องที่ง่ายขึ้น มีโอกาสทางการค้าตลอด 24 ชั่วโมง โดยผู้ซื้อสามารถเข้าถึงสินค้าได้จากทั่วทุกมุมโลก ทำให้การแลกเปลี่ยนระหว่างผู้ขายรายใหม่ และรายเก่าได้อย่างสม่ำเสมอ คงไว้ซึ่งมาตรฐานทางการขายในการทำการตลาด และการขายผลิตภัณฑ์ ส่งผลให้มีโอกาสในการซื้อขายในตลาดระหว่างประเทศมากขึ้นตามไปด้วย

electronic marketplace คือ

ปัจจัยที่ธุรกิจต้องรู้ก่อนเลือกใช้ E-Marketplace

ในการเลือกซอฟต์แวร์แพลตฟอร์มของ E-Marketplace มีปัจจัยที่ละเอียดอ่อน เพราะอาจจะประสบความสำเร็จ หรือล้มเหลวนั้นขึ้นอยู่กับซอฟต์แวร์ ดังนั้น เราต้องเลือกซอฟต์แวร์ที่เหมาะสม และรับประกันว่าธุรกิจจะประสบความสำเร็จได้ต้องเลือกสิ่งที่ดีที่สุดให้แก่ธุรกิจ ซึ่งเราต้องพิจารณาปัจจัยต่าง ๆ อย่างละเอียดรอบคอบก่อนที่จะตัดสินใจ โดยปัจจัยที่ต้องคำนึงก่อนตัดสินใจ มีดังนี้

  • ความปลอดภัย
    เป็นสิ่งสำคัญมากสำหรับธุรกิจ เพราะงั้นต้องเลือกซอฟต์แวร์ที่ให้ความปลอดภัยสูง เพราะนอกจากจะต้องเก็บข้อมูลสินค้าบริการต่าง ๆ ไว้แล้ว ยังมีข้อมูลส่วนตัวทั้งข้อมูลผู้ซื้อ และข้อมูลผู้ขายอีกด้วย
  • เครื่องมือและคุณสมบัติต่าง ๆ
    คุณต้องทำรายการคุณสมบัติต่างๆ ที่คุณต้องการ ให้กับผู้ให้บริการแพลตฟอร์มเพื่อให้เว็บไซต์ตรงกับที่คุณต้องการ
  • การลงทุนทางการเงิน
    การลงทุนในแพลตฟอร์มนี้เป็นการลงทุนในอนาคตของธุรกิจ ดังนั้นต้องคำนวณอย่างรอบคอบก่อนเริ่มดำเนินการ พิจารณางบประมาณให้ถี่ถ้วนก่อน
  • ความคล่องตัว
    ธุรกิจของคุณควรเคลื่อนตัวได้อย่างสะดวก เพื่อให้อยู่รอดในยุคแห่งเทคโนโลยี หาช่องการที่เหมาะสมกับอุปกรณ์เคลื่อนที่สำหรับธุรกิจ ซึ่งก็เป็นปัจจัยหลักๆ ในการเลือกซอฟต์แวร์ในตลาดอีคอมเมิร์ซด้วย
  • เพิ่มประสิทธิภาพในการค้นหา
    ในส่วนนี้ SEO มีบทบาทสำคัญอย่างมากในตลาดปัจจุบัน เพราะผู้บริโภคต้องการความไว้วางใจกับตัวผลิตภัณฑ์ และบริการที่พวกเขาต้องการ จึงเป็นอีกการให้บริการอีกช่องทางที่จะทำให้ธุรกิจได้รับการปรับปรุงในแถบค้นหา
  • การดูแลลูกค้าได้อย่างเต็มที่
    ลงทุนกับแพลตฟอร์มที่ได้รับประกันการบริการลูกค้าได้ 24 ชั่วโมง และลงทุนกับทีมผู้เชี่ยวชาญที่สามารถแก้ปัญหาด้านเทคนิคต่างๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

อนาคตของ E-Marketplace

อนาคตของ E-Marketplace

ในปัจจุบันตลาดออนไลน์เติบโตขึ้นอย่างรวดเร็ว และจะยิ่งเติบโตขึ้นอีกในอนาคตด้วยเทคโนโลยีที่พัฒนามากขึ้นเพราะตลาดออนไลน์มีการแข่งขันที่สูงขึ้น โดยเหตุผลที่ทำให้การตลาดออนไลน์เฟื่องฟูได้อย่างรวดเร็ว มีดังนี้

1. สะดวกต่อการเข้าถึง
ในโลกที่วุ่นวาย และผู้คนมักจะยุ่งอยู่เสมอ เพราะงั้นถ้ามีช่องการที่สะดวกต่อการซื้อของ ก็ต้องเลือกวิธีนั้น ในปัจจุบันผู้คนซื้อสินค้าออนไลน์มาส่งที่บ้านแทนที่จะเดินทางไปซื้อที่หน้าร้านมากขึ้น

2. สามารถขยายไปได้ทั่วโลก
เป็นส่วนที่จะสร้างยอดขายให้กับธุรกิจของคุณได้เป็นอย่างมาก และยังสามารถกำหนดเป้าหมายลูกค้าเฉพาะในแต่ละภูมิภาคอีกด้วย

2. มีนโยบายที่เข้มงวด
มีความเข้มงวดเกี่ยวกับการซื้อขาย เกี่ยวกับการคืนเงิน ความถูกต้อง และในเรื่องของระยะเวลาในการจัดส่ง

4. ข้อเสนอที่มีผลตอบแทนมากขึ้น
เมื่อตลาดออนไลน์กำลังมาแรง ผู้คนก็สามารถซื้ออะไรก็ได้ทางออนไลน์ในราคาที่เหมาะสม ผู้บริโภคตามหาข้อเสนอที่เสียค่าใช้จ่ายที่น้อยลง ซึ่งผู้ขายก็สามารถหากลยุทธ์ทางการตลาดเพื่อเพิ่มกำไรให้มากขึ้นได้จากช่วงวันหยุดพิเศษ

5. ไม่จำเป็นต้องมีหน้าร้าน
นอกจากนี้คุณจะไม่ต้องเสีบค่าเช่าที่ หรือจ้างพนักงานมาเฝ้าหน้าร้านอีกด้วยช่วยลดต้นทุนทางการตลาดได้มากมาย

ซึ่งในอนาคตของตลาดออนไลน์ จะยังมีเทคโนโลยีที่ทันสมัยอีกหลายอย่าง เพราะตลาดออนไลน์ คือ อนาคตของเศรษฐกิจโลก ซึ่งเทคโนโลยีที่มีแนวโน้มจะเป็นที่นิยมมากที่สุดในอนาคตมีมากมาย ไม่ว่าจะเป็น การค้นหาด้วยเสียง ซึ่งเป็นส่วนที่ง่ายและสะดวก จะช่วยเพิ่มความรวดเร็วในการค้นหา การรวมตลาดแนวตั้งเป็นแพลตฟอร์มเฉพาะกลุ่ม การชอปปิงบนมือถือจะได้รับความนิยมมากขึ้น โดยผู้คนจะใช้สมาร์ทโฟนในการซื้อสินค้ามากขึ้น รวมไปถึงเทคโนโลยีAI จะเข้ามามีบทบาทมากขึ้นในอนาคต จะมีการใช้ chatbot เป็นผู้ดูแลบนแพลตฟอร์มเพื่อให้บริการลูกค้าได้อย่างต่อเนื่อง

ความท้าทายของ E-Marketplace

การรักษาผู้ขาย และผู้ซื้อไว้
ถือว่าเป็นความท้าทายหลักในการทำให้พวกเขาใช้บริการไปได้ตลอด ซึ่งปัญหานี้สามารถแก้ไขได้ด้วยความช่วยเหลือทางการตลาด โดยต้องมีความพร้อมที่ในการใช้งานให้แก่ผู้ขายที่หลากหลาย และเพิ่มประสบการณ์แก่ผู้ใช้ที่ดียิ่งขึ้น แต่อย่างไรก็ตาม เจ้าของธุรกิจก็ต้องคิดหาแนวทางใหม่ๆ ว่าจะทำอย่างไรให้ผู้ขายมีส่วนร่วมต่อไป

เชื่อมโยงผู้ซื้อกับผู้ขายเข้าด้วยกัน
ซึ่งในส่วนนี้เป็นส่วนที่สำคัญในการดึงดูดผู้ซื้อ และผู้ขายเข้าสู่ตลาด หากต้องการแก้ปัญหานี้ เจ้าของแพลตฟอร์มต้องคิดหาวิธีการต่างๆ เช่น การติดตามพฤติกรรมของผู้ซื้อ และผู้ขายที่ดำเนินการโดยระบบการค้นหาบนเว็บไซต์ อีเมลส่วนบุคคล การกรอกบัญชีของผู้ขาย เป็นต้น

การทำให้ผู้ซื้อไว้ใจผู้ขาย
เป็นเรื่องสำคัญมากอีกเรื่องนึง เจ้าของแพลตฟอร์มอาจจะเปลี่ยนการตอบกลับแบบเดิม เป็นแบบดิจิทัลลักษณะต่างๆ เช่น การมีข้อความรับรอง การให้คะแนน หรือการมี review เป็นต้น เพราะลูกค้าเชื่อใจผู้คน และประสบการณ์มากกว่าระบบ

ความประทับใจแรก
เป็นสิ่งที่สร้างความทับใจได้มากที่สุด เพราะการมอบประสบการณ์ที่ดีที่สุดให้แก่ลูกค้าตั้งแต่ครั้งแรกที่ใช้บริการบนอุปกรณ์ใดก็ตาม ที่เข้าใจได้ง่าย เข้าถึงได้ง่าย จะทำให้ลูกค้ากลับมาหาคุณอีกครั้งแน่นอน

การแข่งขันด้านราคา
ในบางรายอาจแข่งขันกันด้วยการกดราคาให้ต่ำสุด ซึ่งนั่นจะตามมาด้วยปัญหา เพราะอาจจบลงด้วยการที่ผู้ขายได้รับผลกำไรที่ตำกว่าที่ควรจะได้รับ และจะส่งผลต่อตัวตลาดอีกด้วย

การรับประกันคุณภาพ
ในแพลตฟอร์ม E-Marketplace อาจไม่สามารถควบคุมคุณภาพของผลิตภัณฑ์ได้ หรือความตรงต่อเวลาในการจัดส่งเองก็ตาม ซึ่งปัญหานี้อาจแก้ไขได้ด้วยการสร้างระบบการตรวบสอบ โดยมันจะช่วยให้ผู้บริโภคสามารถให้ข้อเสนอแนะ แก้ผู้ขายและผลิตภัณฑ์ได้ ในบางแพลตฟอร์ม จะทำการลดอันดับผลการค้นหา หรือลดระดับบัญชีผู้ขายลง จากการที่มีรีวิวในเชิงลบ

ฟีเจอร์ในการทำ e marketplace

10 ฟีเจอร์ที่ควรมีไว้ในการทำ E-Marketplace ของคุณ

บนแพลตฟอร์มตลาดออนไลน์ที่ขยายขึ้นในทุกๆ วัน มีผู้ขายมากขึ้น ยิ่งสามารถโปรโมตผลิตภัณฑ์บนเว็บไซต์ได้มากเท่าไร ก็จะเป็นมีลูกค้าเพิ่มขึ้นตามมาเช่นกัน ดังนั้น จึงต้องดูแลการออกแบบแพลตฟอร์มของเว็บไซต์ให้ดี ไม่ว่าจะเป็นการแสดงผลการค้นหา ความเร็วในการโหลดเข้าหน้าเว็บ ความปลอดภัย และอื่นๆ อีกมากมาย ซึ่งในส่วนนี้เราได้นำฟีเจอร์ของตลาดที่ควรมีไว้สำหรับการทำ E-Marketplace ดังนี้

1. ขั้นตอนการสมัครเข้าใช้ที่ง่าย
ลดขั้นตอนในการลงทะเบียนเข้าใช้งานให้ง่ายขึ้น ทั้งต่อผู้ซื้อ และผู้ขาย หากมีขั้นตอนเยอะเกินไปผู้ใช้อาจหันไปเลือกช่องทางอื่นได้ และรักษาขั้นตอนในการสมัครใช้งานให้มีความโปร่งใส สั้น กระชับ และตรงไปตรงมาให้มากที่สุด ขอเฉพาะข้อมูลที่เกี่ยวข้อง หรือให้ผู้ใช้ ลงทะเบียนผ่านช่องทางโซเชียล เช่น Facebook, Google หรือ Twitter เป็นต้น

2. แดชบอร์ดผู้ขาย
ให้คุณจัดเตรียมแดชบอร์ดโดยละเอียดรายบุคคลสำหรับผู้ขายแต่ละราย จากที่พวกเขาสามารถจัดการร้านค้าของตัวเอง การอัปโหลด และแก้ไขสินค้า กระบวนการจัดส่ง และอื่นๆ ทำให้กระบวนการทั้งหมดทั้งง่าย แต่ต้องมีประสิทธิภาพ ที่สามารถเข้าถึงได้ง่าย

3. การค้นหาและการนำทางที่ง่าย
ในตลาดออนไลน์นั้นมีสินค้ามากมาย และหลากหลาย ให้ทำแยกเป็นหมวดหมู่ต่างๆ เพื่อให้ผู้ซื้อเข้าถึงในส่วนที่ต้องการได้อย่างรวดเร็ว สร้างความคล่องตัวในการนำทาง ทำให้อินเทอร์เฟซที่สะอาดตา และทันสมัยอยู่เสมอ

4. เข้าถึงได้กับทุกอุปกรณ์
แพลตฟอร์มต้องรองรับหน้าจอทุกขนาด สำรวจเว็บไซต์ได้อย่างง่ายดาย จากทุก ๆ อุปกรณ์พกพา ปัจจุบันผู้บริโภคซื้อของกันบนมือถือมากกว่าที่ร้านค้า เว็บไซต์ที่เหมาะกับมือถือจะช่วยเพิ่มประสบการณ์ของลูกค้า ซึ่งจะแสดงให้เห็นถึงความน่าเชื่อถือของข้อมูลผลิดตภัณฑ์ และการบริการได้

5. ช่องทางการชำระเงินที่หลากหลาย
ควรนำเสนอระบบการชำระเงินที่หลากหลาย และเลือกระบบการชำระเงินออนไลน์ที่เข้ากันได้กับแพลตฟอร์ม และครอบคลุมทั่วโลก ทำให้ลูกค้าสะดวกในการชำระเงินมากขึ้น นอกจากนี้ ควรพิจารณาการตั้งค่าของผู้ขายก่อนที่จะตั้งค่าช่องทางการชำระเงิน

6. แดชบอร์ดการวิเคราะห์
การวิเคราะห์ และรายงานข้อมูลต่างๆ มีประโยชน์ทั้งต่อผู้ดูแลระบบ และผู้ขาย ซึ่งจะช่วยให้ทราบข้อมูลที่ชัดเจน เกี่ยวกับพฤติกรรมของลูกค้า เวลาดำเนินการ เหตุผลที่ยกเลิกของในรถเข็น และอื่น ๆ โดยข้อมูลเหล่านี้จะทำให้สามารถนำมาปรับปรุงกลยุทธ์ทางการตลาดได้

7. กระบวนการดาวน์โหลดและการจอง
หากขายสินค้าดิจิทัล ลูกค้าควรดาวน์โหลดได้หลังจากสั่งซื้อได้ทันที หรือหากเป็นเรื่องของการจอง ต้องระบุวิธีการจองไว้ในเว็บไซต์ E-commerce ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับลักษณะของเว็บไซต์ด้วย เพราะคุณอาจจะต้องนำเสนอสิ่งอำนวยความสะดวกที่พิเศษขึ้น ไม่งั้นอาจไม่ได้รับความสนใจจากกลุ่มเป้าหมายมากเท่าที่ควร

8. การให้คะแนน และการรีวิว
ข้อความที่รับรองสินค้า หรือเรียกอีกอย่างว่าการรีวิว ที่เป็นประสบการณ์จริง จากลูกค้าที่ใช้ผลิตภัณฑ์นั้นเป็นส่วนสำคัญในการตัดสินใจ และมีผลกระทบต่อการขายได้มาก เปิดให้ผู้คนได้มีการติชม ให้คะแนน จะช่วยให้ผู้ขายหลายรายได้รับความไว้วางใจ และได้รับผลตอบรับที่ดียิ่งขึ้น

9. การแชร์ลงโซเชียลมีเดีย
เพิ่มปุ่มโซเชียลในตลาดที่มีผู้ขายหลายราย เพื่อให้ผู้เข้ามาเยี่ยมชมสามารถแบ่งปันเว็บไซต์ของคุณออกไป ซึ่งเป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพมากในการโปรโมตธุรกิจของคุณ สามารถเพิ่มแพลตฟอร์มโซเชียลที่เป็นที่นิยม อย่างเช่น Facebook, Twitter หรือ Instagram เป็นต้น

10. ความปลอดภัย
เรื่องความปลอดภัยต้องมาเป็นอันดับแรก ต้องมีใบรับรอง สำหรับเว็บไซต์ E-commerce ช่วยให้มั่นใจถึงการเชื่อมต่อที่ปลอดภัยระหว่างเบราว์เซอร์ และเซิร์ฟเวอร์ และเก็บข้อมูลลูกค้าทั้งหมดเป็นความลับ

สรุป

ตลาดออนไลน์มีประสิทธิภาพในการเติบโตอย่างมาก สิ่งเดียวที่จะสร้างความเปลี่ยนแปลงได้ คือ รูปแบบของแพลตฟอร์ม ดังนั้น หากคุณวางแผนที่จะเริ่มธุรกิจ e-marketplace คุณจำเป็นจะต้องเลือกซอฟต์แวร์ที่ยืดหยุ่น ตอบโจทย์ได้ทุกๆ อุปกรณ์ และจะต้องปรับให้เข้ากับความต้องการในตลาด เพื่อเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้มากที่สุด

FAQ – คำถามที่พบบ่อย

E- Marketplace คืออะไร?

E- Marketplace คือแฟลฟอร์มหรือเว็บไซต์ที่เป็นตัวกลางในการซื้อขายสินค้า และบริการผ่านร้านค้า และผู้บริโภค โดยจุดมุ่งหมายของ E- Marketplace คือ การทำให้การซื้อขายดำเนินได้รวดเร็วยิ่งขึ้น และสามารถทำการซื้อขายได้ตลอด 24 ชั่วโมงในทุก ๆ วัน

E-Marketplace มีกี่ประเภท?

E-Marketplace มีทั้งหมด 5 ประเภท ได้แก่

  1. Product Online Marketplace
  2. Online Service Marketplace
  3. Online Rental Marketplace
  4. Hybrid Model  Ecommerce
  5. Hyperlocal Marketplace

ข้อดีของ E-Marketplace

  1. ผู้ใช้งานบนโลกออนไลน์มีจำนวนมาก และการปิดการขายจากโลกออนไลน์ทำได้ไวกว่า หากมีแคมเปญที่ดีสามารถเพิ่มโอกาศและยอดขายได้มากขึ้น
  2. ไม่มีข้อจำกัดว่าธุรกิจจะเล็กหรือใหญ่ก็สามารถขายสินค้า และบริการผ่าน E-Marketplace ได้
  3. ผู้ซื้อสามารถเลือกซื้อ เปรียบเทียบราคา คุณภาพ ของหลาย ๆ ร้านได้ในคราวเดียว จึงสะดวก และช่วยประหยัดเวลาให้ผู้ซื้อ รวมถึงได้สิ่งที่ดีที่สุดในการชอปปิงอีกด้วย

Related Articles

ให้ธุรกิจของคุณเติบโตแบบก้าวกระโดดไปกับทีมการตลาดมืออาชีพ
รับการตอบกลับภายใน 2 ชั่วโมง
รับการตอบกลับภายใน 2 ชั่วโมง