lead generation คือ

หาว่าที่ลูกค้าด้วย Lead Generation กลยุทธ์ที่ไม่ควรพลาดเพื่อยอดขาย

Table of Contents

ผู้ซื้อและผู้ขาย ธุรกิจกับลูกค้า ย่อมเป็นสิ่งที่ไม่สามารถแยกออกจากกันได้ เพราะสำหรับธุรกิจแล้ว หากไร้ซึ่งลูกค้า ก็ไม่อาจเดินหน้าต่อไป ฉะนั้นแล้ว Lead generation กับ Marketing จึงเป็นอีกคู่ความสัมพันธ์หนึ่งที่ไม่สามารถแยกออกจากกันได้ และสำคัญเป็นอย่างยิ่ง เพราะคำสั้น ๆ สองคำนี้ จะเล่าถึงวิธีการ ได้มาซึ่งลูกค้า และอาจจะกลายเป็นหนึ่งในปัจจัยสำคัญในการวางแผนการตลาดในภาพรวมเลยก็ว่าได้ สำหรับคนที่ยังไม่คุ้นเคยกับคำว่า Lead Generation คืออะไร? เรามาดูไปพร้อมกัน ได้ที่บทความนี้เลย

Lead คืออะไร เกี่ยวข้องกับ Lead Generation อย่างไร?

หลายคนอาจจะเคยสงสัยว่าเจ้า Lead และ Lead Generation นั้นมีความเหมือนหรือแตกต่างกันอย่างไร จริง ๆ ก็ต้องบอกกันก่อนว่าคำศัพท์ทั้งสองนั้นมีความเกี่ยวพันกันในรูปแบบ คำนามและกริยานี่แหละ 

เพราะเจ้าคำว่า Lead Generation หากแปลความหมายอย่างตรงตัวเข้าใจง่ายแล้ว ก็คือกระบวนการที่ทำให้เกิด Lead ที่มีความหมายในทางการตลาดว่า “กลุ่มคนที่แสดงพฤติกรรม หรือส่งสัญญาณว่าสนใจและพร้อมจะเป็นลูกค้าในบริการหรือสินค้าของเรา” นั่นเอง

โดยสัญญาณของ Lead ที่ว่านี้ ก็ถูกนักการตลาดแบ่งออกเป็น 3 ประเภทเพื่อให้ง่ายต่อการทำการตลาด และวางแผนกลยุทธ์ Lead Generation ดังนี้

แบ่งตามความสนใจ (Based on Interest Lead)

เป็นการแบ่ง Lead ด้วยประเภทของความสนใจ เนื่องจากเป็นวิธีการแบ่ง Lead ที่ทำได้ง่ายที่สุดและทำให้มีความละเอียดน้อยจึงเหมาะสำหรับการเก็บสถิติแบบเรียบง่าย หรือใช้ประกอบกับการนำเสนอทั่วไป

Warm Lead หรือ Inbound lead

Warm Lead นั้น เราอาจจะคุ้นหูในหลาย ๆ ชื่อเช่น Warm Traffic หรือ Inbound lead กันมาบ้าง Lead ประเภทนี้ คือกลุ่มผู้สนใจในตัวสินค้า เลือกเข้ามาหาแบรนด์ด้วยตัวเอง เช่น การเข้ามาด้วยการทำ SEO หรือ CTA บนส่วนต่าง ๆ ของเว็บไซต์ ไปจนถึงการออกอีเว้นต์ต่าง ๆ ทำให้ผู้รับสารเกิดประสบการณ์ร่วม ต้องการรู้จักกับแบรนด์มากขึ้น หรืออาจจะมีความต้องการซื้อแล้วตั้งแต่ต้นนั่นเอง

Cold Lead หรือ Outbound lead

Cold Lead หรือที่ถูกเรียกว่า Outbound lead, Cold Traffic คือลีดที่ได้จากการสร้างกลยุทธ์ Lead Generation แบบผลักออก (Push marketing) เช่น การโฆษณาทางทีวี ออกใบปลิว หรือโทรศัพท์ เป็นการวิ่งออกไปเจอลูกค้าที่อาจจะไม่เคยรู้จักกับแบรนด์ และบริการมาก่อน ทำให้ลูกค้าอาจจะไม่ได้มีความต้องการซื้อสูงเท่ากับ Warm Lead และมีความเป็นไปได้ในทางคุณภาพอยู่ในช่วง Marketing Qualified Lead เป็นส่วนมาก

แบ่งตามคุณภาพของ Lead (Based on Qualities Lead)

การแบ่ง Lead ออกตามคุณภาพ เป็นการอ้างอิงคุณภาพของ Lead ตามลำดับชั้นของ Sales Funnel ทำให้ง่ายต่อการระบุจิตวิทยาและพฤติกรรมของผู้บริโภค ไล่เรียงจาก ผู้ที่มีโอกาสซื้อต่ำไปจนถึงสูง

Marketing Qualified Lead

Marketing Qualified Lead หรือ MQL คือ 1 ใน 2 กลุ่ม Lead สำคัญ ที่อาจจะยังไม่ได้เข้ามารับการขายแบบโดยตรง แต่ทิ้งร่องรอยเอาไว้ให้เราติดต่อกลับ เช่น การกรอกแบบฟอร์มในหน้าเว็บไซต์ หรือทิ้ง Email และเบอร์โทรให้เราไว้ตามจุดต่าง ๆ ถือว่าเป็นกลุ่ม Lead ที่พบเห็นได้มากที่สุด รวมไปถึงลูกค้าที่แชทเข้ามาสอบถามข้อมูลของสินค้าและบริการเช่นเดียวกัน โดยลูกค้าในกลุ่มนี้ส่วนมากจะอยู่ในขั้นตอน Consideration Phase ใน Customer Journey และ Lead ในระดับนี้จะถูกคัดกรองจนกลายเป็น SQL หรือ Sales Qualified Lead ต่อไป

Sales Qualified Lead

Sales Qualified Lead หรือ SQL เป็น 1 ใน 2 กลุ่ม Lead หลัก โดยมีพฤติกรรมที่เข้าหาบริการของเราด้วยเจตจำนงที่จะซื้อ หรือหวังว่าจะเป็นผู้ที่ถูกขาย อย่างเช่น การเข้ามาถามราคาสินค้า หรือแสดงเจตจำนงว่าต้องการในปริมาณหรือราคาเท่าไหร่ กลุ่มลูกค้าในส่วน SQL นั้นส่วนมากจะอยู่ในระยะ Conversion Phase หรือมีความปราถนาในตัวสินค้าและบริการของเรียบร้อยแล้วแล้ว เพียงแค่ต้องการดีลหรือราคาที่คุ้มค่าที่สุดเท่านั้น

Product Qualified Lead

Product Qualified Lead หรือ PQL เป็นการวัดผล Lead ที่แตกต่างกันออกไป ถูกนำมาใช้วัดผลในกรณีที่ต้องการรายงาน Lead ที่มีความละเอียดมากขึ้น โดยสามารถมองเป็น Subset หนึ่งของ MQL ก็ได้ กลุ่มลูกค้าที่เป็น Product Qualified Lead นั้นคือกลุ่มคนที่แสดงความสนใจเพราะตัวสินค้า โดยอาจจะเข้ามาทักขอสินค้าตัวอย่าง เดโม ดาวน์โหลดแคตตาล็อก หรือใช้สิทธิ Free Trial

Service Qualified Lead

Service Qualified Lead เป็นการวัดผล Lead ที่แยกย่อยออกมาจาก Sales Qualified Lead ใช้เมื่อต้องการวัดผล Lead ที่ต้องการความละเอียดอ่อน เพราะพฤติกรรมของกลุ่ม Lead ประเภทนี้นั้น คือลูกค้าที่เข้ามาขอ ข้อเสนอ (Offer) หรือ สิทธิพิเศษ (Privilege) ที่มากกว่าข้อเสนอทั่วไป กลุ่มลูกค้ากลุ่มนี้มีโอกาสที่จะถูก Up-Sale ได้ง่าย เมื่อเขามองว่าข้อเสนอที่ได้รับนั้นคุ้มค่ามากพอ

แบ่งตามปริมาณของข้อมูล (Based on Enrichment Lead)

ตามพื้นฐานทางจิตวิทยา ถ้าลูกค้ามีความต้องการจะซื้อมากเท่าไหร่ก็ยิ่งส่งสัญญาณให้เราเห็นมากขึ้นเท่านั้น แม้ว่าตามปกติวิธีการทางการตลาดที่ชี้เฉพาะพฤติกรรมดังที่กล่าวมานี้ได้ชัดเจนที่สุดจะไม่ใช่การทำ Lead Generation แต่ก็สามารถปรากฏกลุ่มลูกค้าที่แสดงออกความต้องการซื้อให้เห็นผ่านปริมาณของข้อมูลที่มอบให้กับแบรนด์

Non-enriched Leads

Lead ที่ให้ข้อมูลเรามาแบบบาง ๆ เช่น การกรอกฟอร์มเท่าที่จำเป็น การ Subscribed E-mail กับเว็บไซต์ หรือทิ้งเบอร์ติดต่อกลับเอาไว้ Lead ประเภทนี้สามารถคาดเดาได้ว่า เป็นการโปรยคอนแทคเอาไว้ เพื่อต้องการการติดต่อกลับจากบริการใกล้เคียงกันแต่หลายเจ้า หรืออาจจะต้องการข้อมูลเพิ่มเติม แต่ยังไม่มีความสนใจซื่อ

Enriched Leads

Enriched leads ถูกจำกัดความได้ว่า เป็น Lead ที่ให้ข้อมูลในการติดต่อมาอย่างละเอียด นอกจากข้อมูลสำหรับการติดต่อแล้ว Lead จำพวกนี้อาจจะพยายามให้ข้อมูลแบรนด์เพิ่ม ไม่ว่าจะเป็นปริมาณของสินค้าที่ต้องการ จำนวน แบ็คกราวน์ของบริษัท หรือระบุเจาะจงขอข้อเสนอโดยตรง ซึ่งสามารถเทียบกับ Lead ที่แบ่งตามคุณภาพในกลุ่ม Service Qualified Lead หรือ Sales Qualified Lead ได้เช่นกัน

สรุปแล้ว Lead Generation คืออะไร มีกลยุทธ์อย่างไรบ้าง?

โดยสรุป ตามที่เราได้เกริ่นไปแล้วข้างต้นว่า Lead Generation ก็คือกลยุทธ์ในการสร้าง Lead ขึ้นมา ออกแบบแคมเปญทางการตลาด ให้ลูกค้าแสดงเจตจำนงค์ในการซื้อสินค้า หรือเข้ารับบริการ และทิ้งร่องรอยให้ผู้ขายสามารถเข้าไปปิดการขายให้ได้นั่นเอง โดยกลยุทธ์ Lead Generation นั้นยังแบ่งออกได้เป็น 2 ประเภท ได้แก่ Inbound และ Outbound Lead generation 

กลยุทธ์ Inbound Lead Generation

Inbound Lead Generation คือกลยุทธ์ทางการตลาดที่เน้นดึงผู้ใช้งานและลูกค้าเข้าหาแบรนด์ หรือในทางการตลาดเรียกว่า Pull Marketing โดยเครื่องมือหลักที่ทำให้เกิด Lead แบบ Inbound ก็คือ เนื้อหาที่มีคุณภาพและประสบการณ์ร่วมของลูกค้าและแบรนด์ เช่น e-book, Blog, Social media post ไปจนถึง Infographics หรือ การทำ SEO เป็นการทำการตลาดที่ผู้พบเห็นสามารถแลกเปลี่ยนความคิดเห็นหรือเทคแอคชั่นกับแคมเปญของเราได้

กลยุทธ์ Outbound Lead Generation

Outbound Lead Generation คือการทำการตลาดแบบ Push Marketing รูปแบบหนึ่ง โดยการผลักสินค้าให้เข้าสู้สายตาของผู้คนให้มากที่สุด แตกต่างจาก Inbound Marketing ที่เล่นกับความสนใจของคน หรือสร้างลูกค้าที่เดินเข้ามาหาแบรนด์ด้วยความยินยอม (Consent) แต่ Outbound Lead Marketing นั้นจะมีความเย็นชา และอาจจะเมินเฉยความต้องการที่จะเห็นสินค้า หากใช้ภาษาในระดับรุนแรงอาจจะเรียกได้ว่าเป็นการยัดเยียดสินค้าและบริการให้เป็นที่ประจักษ์ในทางใดทางหนึ่ง

ช่องทางการทำ lead generation

ช่องทางการทำ Lead Generation ที่สำคัญ

เมื่อคุณรู้จัก Lead ประเภทต่าง ๆ และกลยุทธ์ในภาพแล้วแล้ว การทำ Lead Generation นั้นยังมีปัจจัยสำคัญอีกอย่างหนึ่ง ก็คือช่องทางในการสร้าง Lead ขึ้นมา ช่องทางและวิธีการต่าง ๆ นั้นจะให้ประเภทของ Lead ที่ต่างกัน รวมไปถึงความเหมาะสมกับพฤติกรรมของผู้บริโภคในแบบต่าง ๆ การเลือก Lead Channels ให้เหมาะสมกับเป้าหมายทางการตลาด (Target Audiences) ของแบรนด์จึงเป็นปัจจัยที่จะทำให้แคมเปญ Lead Generation ของคุณสำเร็จ

ช่องทางการสร้าง Inbound Lead

กลยุทธ์ Inbound Lead Generation นั้นจะเน้นประสบการณ์ของผู้ใช้งานเป็นหลัก ฉะนั้นกลยุทธ์ทางการตลาดที่ใช้ มักจะออกมาในลักษณะของการตลาดที่ใช้เนื้อหาเป็นหลัก เช่น

1. Content Marketing

การตลาดด้านเนื้อหา เช่น การให้ความรู้เกี่ยวกับตัวผลิตภัณฑ์ว่าดีอย่างไร หรือมีความจำเป็นอย่างไรบ้าง รวมไปถึงการสร้างบทความต่าง ๆ ที่ทำให้ผู้อ่านเกิดความมั่นใจในความรู้และภาพลักษณ์ของแบรนด์ หรือการนำเสนอเนื้อหาผ่านสื่อต่าง ๆ เพื่อทำผู้ชมเข้าใจตัวตนของสินค้าและบริการ

2. Search Engine Optimization (SEO)

การทำ SEO หรือการปรับหน้าเว็บไซต์ให้เหมาะกับการแสดงผลใน Google ทำให้แบรนด์ปรากฏขึ้นในผลการค้นหาผ่านคำค้นต่าง ๆ ช่วยให้เกิด Brand Awareness ที่ตรงกับ Intent ของลูกค้า โดยหลังจากที่ผู้ชมเข้ามาผ่านทาง Search Engine แล้ว เราก็จะสามารถใช้การปรับแต่งหน้าต่าง ๆ และ CTA แฝงเข้าไป เพื่อสร้าง Lead ได้เช่นกัน

3. Social Media Marketing

การทำโพสต์หรือคอนเทนต์ใน Social Media เป็น Content Marketing ประเภทหนึ่งเช่นกัน แต่เน้นคอนเท้นต์ผ่าน Social Media ที่สามารถถูกรับชมได้ง่ายกว่าและมากกว่า ประกอบกับอัลกอลิทึ่มใหม่ ๆ ที่ช่วยให้ผู้รับสารมีความต้องการตรงกันกับแบรนด์มากขึ้น

4. Online Forms

การกระจายแบบสอบถามออนไลน์นั้น ยังสามารถใช้สร้าง Lead ได้ด้วยการทำจิตวิทยาย้อนกลับ เพราะตัวคำถามในแบบฟอร์มออนไลน์นั้นจะทำให้ผู้กรอกแบบสอบถาม มองเป็นวิสัยทัศน์ของแบรนด์ และหากวิสัยทัศน์ของแบรนด์ตรงกับผู้กรอกแบบสอบถามก็เป็นไปได้ที่พวกเขาจะเข้ามาเป็นลูกค้า หรืออย่างน้อยก็รู้จักสินค้าและแบรนด์ของเรามากขึ้น

5. Email Marketing

การทำอีเมล์มาเกตติ้งนั้นอาจจะไม่ใช่ทางเลือกในการสร้าง Cold Traffic อย่างเดียว แต่ในการทำ Inbound Marketing รูปแบบของ EDM (Electronics Direct Mail) ที่ส่งไปหาลูกค้านั้น อาจจะเน้นเนื้อหาที่ทำให้ลูกค้าได้รู้จักกับแบรนด์ หรือเนื้อหา ที่ไม่ได้เน้นการขายมากนัก

การทำอีเมล์มาเกตติ้งนั้นอาจจะไม่ใช่ทางเลือกในการสร้าง Cold Traffic อย่างเดียว แต่ในการทำ Inbound Marketing รูปแบบของ EDM (Electronics Direct Mail) ที่ส่งไปหาลูกค้านั้น อาจจะเน้นเนื้อหาที่ทำให้ลูกค้าได้รู้จักกับแบรนด์ หรือเนื้อหา ที่ไม่ได้เน้นการขายมากนัก

Outbound Lead Marketing

กลยุทธ์ Outbound Lead Generation จะเลือกใช้วิธีการที่เน้นผลลัพธ์อย่างสุดโต่งเช่น การทำ Cold Calling เมื่อต้องการ Conversion ปริมาณมากในเดือน หรือ การโฆษณาในสื่อที่พฤติกรรมผู้บริโภคหลีกเลี่ยงได้ยากกว่าเช่น โฆษณาในโทรทัศน์ หรือตาม Public Facility ต่าง ๆ

1. Cold Calling

Cold Calling หรือการโทรไปขายตรง ๆ ตามสายโทรศัพท์ แม้ว่าจะเป็นเทคนิคการขายที่โบราณ แต่ยังคงเป็นวิธีการที่ยอดเยี่ยมในการสร้างยอดขาย แน่นอนว่าอาจจะไม่ส่งผลดีตอบภาพลักษณ์ของแบรนด์เท่าไหร่ แต่ Cold Calling นั้นยังคงถูกยกให้เป็น วิธีในการสร้าง Sales Qualified Lead ได้ยอดเยี่ยมวิธีหนี่ง

2. Email Marketing

Email Marketing ในที่นี้คือการทำ Cold Email กลับไปาหลูกค้าทั้งที่อาจจะเป็น Warm Lead มาก่อน หรือเป็นแค่การส่งเมลล์แบบสุ่ม เพื่อปิดการขายอย่างรวดเร็ว ข้อดีคือใช้เวลาน้อยกว่า Cold Calling และเข้าถึงคนได้มากกว่า ทว่าอัตราการปิดการขายได้นั้นก็ลดลงมาเช่นกัน

3. Advertising

การทำโฆษณาที่ยากที่จะหลบเลี่ยง อย่างเช่น การโฆษณาผ่านจอโทรทัศน์ การโฆษณาในโรงหนัง หรือโฆษณาบนเฟสบุ้ค หรือยูทูปที่ไม่ใช่แบบพรีเมี่ยม เป็นต้น เป็นการแฝงโฆษณาของเราไปในบริการอย่างอื่น ที่เป็นที่นิยม และเข้าถึงคนได้ในจำนวนมาก เป็นอีกวิธีการที่สร้างปริมาณ Cold Lead ได้อย่างมหาศาล

4. Referral Marketing

Referral Marketing หรือการตลาดแบบบอกต่อ อาจจะพบเห็นได้มากในกลุ่มบริการธนาคารต่าง ๆ เช่น บัตรเครดิตหรือสินเชื่อ ที่จะให้ค่าตอบแทนผู้เสนอชื่อจำนวนหนึ่งเพื่อเชิญชวนคนใกล้ตัวให้เข้ารับบริการที่ตนเองใช้อยู่แล้ว เป็นวิธีการสร้าง Cold Lead ที่กระทบกระทั่งกับภาพลักษณ์ของแบรนด์ทั้งเชิงบวกและลบที่น้อยที่สุด

วิธีสร้างกลยุทธ์ lead generation

วิธีสร้างกลยุทธ์ Lead Generation ทำได้อย่างไร?

หัวใจของการวางกลยุทธ์ Lead Generation นั้นไม่ยาก โดยหลัก ๆ แล้วให้กำหนดประเภทของ Lead ที่อยากได้ขึ้นมาก่อน จากนั้นจึงวางแผนการสื่อสารทางการตลาดให้สอดรับกับ Lead ประเภทนั้น ๆ หรือหากให้อธิบายอย่างละเอียดมากขึ้นก็จะได้ตามนี้

  1. วิเคราะห์และระบุผู้ชมหลัก (Target Audience) หากลุ่มลูกค้าที่เราต้องการสื่อสารให้เจอ
  2. ตั้งเป้าหมายของแคมเปญ หรือ Lead ที่เราต้องการ 
  3. เลือกช่องทางการสื่อสารทางการตลาด ที่เหมาะสมกับเป้าหมายและผู้รับชม 
  4. ลงมือทำสื่อหรือช่องทางที่จะสื่อสารกับลูกค้า
  5. ปล่อยแคมเปญ ผ่านช่องทางที่เราเลือกไว้ พร้อมทั้งดูแลให้โปรเจคต์ดำเนินไปได้อย่างเรียบร้อย
  6. เก็บข้อมูลและสรุปผล Lead ที่เราได้มา จำแนกประเภทของ Lead ต่าง ๆ เพื่อนำไปใช้จริง

สถิติที่น่าสนใจของ lead generation

สถิติที่น่าสนใจของ Lead Generation

  • บริษัทที่ทำแคมเปญ Lead Generation อย่างต่อเนื่อง จะมีอัตราการขาดต่อ Lead ประเภท Sales Qualified Lead อยู่ที่ 50% และมีแนวโน้มที่ค่าใช้จ่ายต่อ Lead ที่ได้มาจะลดลงเรื่อย ๆ (DemandGen Report)
  • 80% ของผู้ซื้อ ตัดสินใจเลือกซื้อสินค้าที่ราคาและการใช้งานมีความใกล้เคียงกัน หรือสามารถทดแทนการได้ ด้วยภาพลักษณ์และวิสัยทัศน์จากแบรนด์ที่ตรงกัน (KPMG)
  • Content marketing ใช้ค่าใช้จ่ายน้อยกว่า แคมเปญการตลาดอื่น ๆ ถึง 62% แต่สร้าง Lead ได้มากกว่าถึง 3 เท่า (DemandMetric)
  • เช่นเดียวกับตัวเลขของ KPMG เมื่อต้องเลือกระหว่างบริษัทที่เป็นที่รู้จักจากโฆษณากับบริษัทที่เป็น Content Based 80% ของผู้บริโภคจะเลือกบริษัทที่เป็นทำการตลาดเชิงเนื้อหามากกว่า เมื่อราคาและบริการนั้นสามารถทดแทนกันได้
  • แม้จะสร้าง Impression ได้น้อยกว่าแต่ปรากฏว่าในงบประมาณเท่า ๆ กัน LinkedIn สามารถสร้าง Lead ได้มากกว่า Facebook และ Twitter ถึง 277%

ความสำคัญของการทำ Lead Generation

ความสำคัญของการทำ Lead Generation

ความสำคัญของการทำ Lead Generation นั้นคือการที่ตัวมันเป็น Sales Based Marketing Strategy หรือกลยุทธ์ทางการตลาดที่เน้นยอดขาย การตั้งเป้าวัดผลด้วย Lead หรือ สร้าง Lead Generation ขึ้นมาจึงมั่นใจได้ว่าแบรนด์ของคุณกำลังให้ความสำคัญกับการขาย ทั้งยังเติมเต็ม Sales Funnel ของคุณให้สมบูรณ์ยิ่งขึ้น โดยสามารถแยกย่อยให้มีความละเอียดมากขึ้นได้ดังนี้

สร้าง Sales Funnel ที่สมบูรณ์

การวางกลยุทธ์ Lead Generation ทำให้เกิดการคัดกรองลูกค้าในขั้นตอนต่าง ๆ ทำให้ผู้ขายสามารถปิดการขายได้ง่ายขึ้น และมีคุณภาพ ช่วยให้ผู้ขายสามารถแยกแยกลำดับชั้นและสามารถนำใช้มาตรการที่ถูกต้องกับระดับของพฤติกรรมได้อย่างเหมาะสม

เพิ่มยอดขาย

กลยุทธ์ Lead Generation นั้นพื้นฐานจะนำไปสูยอดขายที่มากขึ้น กลยุทธ์ที่ประสบความสำเร็จจะทำให้ระยะเวลา ROI (Return of Interest) ของธุรกิจนั้น ๆ สั้นลง

ทำให้แบรนด์เป็นที่ประจักษ์

แคมเปญ Lead Generation โดยทั่วไปนั้น ไม่ว่าอย่างไรก็ตามก็จะเน้นสื่อสารแบรนด์กับคนหมู่มาก ก่อนค่อย ๆ คัดกรองผ่านพฤติกรรมที่ตอบสนองกับแคมเปญ ฉะนั้นแม้ว่าผู้ชมบางคนอาจจะยังไม่เป็น Lead ของเราในวันนี้ แต่ก็ได้มี Awareness ในตัวแบรนดฺของเราไปแล้ว

เป็นการเก็บข้อมูลเชิงลึก

Lead นั้นถือว่าเป็นข้อมูลเชิงลึกที่สามารถเลือกเก็บได้หลายมิติ ทั้งยังสามารถแสดงให้เห็นถึงพฤติกรรมบริโภคของลูกค้าที่มี ต่อแบรนด์ หรือช่วยสะท้อนให้เห็นว่าแคมเปญการตลาดแบบใดที่เหมาะกับแบรนด์ของคุณ

สรุป

ฉะนั้นการวางกลยุทธ์ Lead Generation นั้นจะช่วยเติมเต็มทิศทางของบริษัทให้สมบูรณ์มากขึ้น ทั้งการสร้างช่องทางสำหรับการขาย และการเก็บข้อมูลพฤติกรรมของลูกค้า สะท้อนให้เห็นว่า การทำ Lead Generation นั้นเหมาะกับธุรกิจในทุกช่วงอายุ ไม่ว่าจะเป็นธุรกิจเกิดใหม่ หรือธุรกิจที่เปิดมานานแล้ว

FAQ – คำถามที่พบบ่อย

Lead คืออะไร?

กลุ่มคน ที่แสดงพฤติกรรม หรือส่งสัญญาณว่าสนใจและพร้อมจะเป็นลูกค้าในบริการหรือสินค้าของเรา

Lead Generation คืออะไร?

แผนการตลาดที่เน้นการขาย หรือ กลยุทธ์ และกระบวนการที่ทำให้เกิด Lead

ทำไมเราไม่ควรซื้อ Lead

เพราะไม่สามารถควบคุมคุณภาพได้ และไม่สามารถเก็บ Lead เหล่านั้นมาเป็น Insight Data เพื่อต่อยอดทางการตลาดได้ด้วย เพราะ Lead ควรจะเป็นมาตรวัดสำหรับการทำการตลาดเพื่อนำไปอ้างอิงกับแผนต่าง ๆ ในอนาคต ถ้าเกิดเราได้ Lead ที่ไร้คุณภาพมา เราจะทำ Lead Generation ไปเพื่ออะไร?

นอกจากนี้ การซื้อ Lead ยังทำให้ Credit ของเว็บไซต์ลดลง หากทำอย่างต่อเนื่องจะส่งผลให้ SEO Score ของเว็บไซต์ลดลง หรือโดน Google Penalty จนทำให้หน้าเว็บไซต์และ Landing Page ไม่สามารถแสดงผลในหน้า Google ได้เลย

เทคนิคในการทำ Lead Generation มีอะไรบ้าง?

  • พยายามสร้างวิสัยทัศน์ร่วมกับเป้าหมายทางการตลาดของคุณ
  • เลือกใช้ช่องทางที่หลากหลาย เพื่อเข้าถึงผู้คนให้มากที่สุด
  • SEO เป็นวิธีการทำ Lead Marketing ที่ลงทุนน้อยและอายุยืนที่สุด
ให้ธุรกิจของคุณเติบโตแบบก้าวกระโดดไปกับทีมการตลาดมืออาชีพ
รับการตอบกลับภายใน 2 ชั่วโมง
รับการตอบกลับภายใน 2 ชั่วโมง