Key Takeaway
- Responsive Search Ads (RSA) คือ รูปแบบโฆษณาที่ช่วยให้สามารถสร้างหัวข้อ (Headlines) ได้มากถึง 15 แบบ และคำขยาย (Description) ได้มากกว่า 4 แบบ ซึ่งระบบจะเลือกคำโฆษณาที่เหมาะสมเพื่อดึงดูดลูกค้าและตอบสนองต่อการค้นหาที่หลากหลาย
- ประโยชน์ของ RSA คือ มีคำโฆษณาที่หลากหลาย CTR สูงขึ้น สร้างข้อความโฆษณาได้รวดเร็ว เพิ่มโอกาสในการคลิก และระบบปรับปรุงได้ทันทีตามข้อมูลที่วิเคราะห์
- แนวทางพัฒนา Responsive Search Ads ให้ดีขึ้น เช่น เขียนหัวข้อและคำอธิบายให้หลากหลาย ใส่คีย์เวิร์ดหลักให้พอเหมาะ เลือกความยาวของหัวข้อและคำอธิบายไม่ให้ยาวเกินไป สร้างคำอธิบายที่น่าสนใจ ใส่ CTA ที่กระชับ และใช้เทคนิคการปักหมุด Headline และ Description
Responsive Search Ads คือ การสร้างข้อความโฆษณา หรือ Text Ads ขึ้นมา จากนั้น Google จะวิเคราะห์และสร้างคีย์เวิร์ดคำโฆษณาที่เหมาะสมและน่าสนใจ อีกทั้งยังจะช่วยวิเคราะห์ให้ว่าข้อความโฆษนานั้นมีความสนใจอยู่ในระดับใด เพื่อที่เราจะสามารถเลือกเฮดไลน์หรือคำโฆษณาที่คู่ควรและจะทำให้ลูกค้าสามารถเห็นได้มากยิ่งขึ้น
เนื่องด้วยพฤติกรรมการค้นหาบนอินเทอร์เน็ตของผู้คนเปลี่ยนไป ทำให้ Google พบว่ามีผู้คนจำนวนมากมีวิธีการค้นคว้าหรือใช้คีย์เวิร์ดเพื่อหาข้อมูลที่แตกต่างหลากหลาย ทำให้ในปี 2022 Google ได้พัฒนา Responsive Search Ads เพื่อให้ได้มาตรฐานของ Google เพื่อลดความซับซ้อนและเพิ่มประสิทธิภาพในการสร้างโฆษณา นอกจากนี้ยังช่วยตอบสนองต่อความต้องการในการค้นหาของผู้คนได้มากยิ่งขึ้น
โดยบทความนี้จะพาทุกคน ไปทำความรู้จักว่า Responsive Search Ads คืออะไร มีรูปแบบและมีหลักการทำงานอย่างไร อีกทั้งยังมีจุดเด่นอะไรบ้าง รวมไปถึงหากจะต้องมีการปรับปรุง Responsive Search Ads จะสามารถทำได้อย่างไรเพื่อก่อให้เกิดเป็นประสิทธิภาพสูงสุด

ทำความรู้จัก Responsive Search Ads คืออะไร
Responsive Search Ads หรือ RSA คือ การโฆษณาในอีกรูปแบบหนึ่งที่เราจะสามารถสร้างคำโฆษณา (Headlines) ได้มากถึง 15 แบบด้วยกัน อีกทั้งยังสามารถสร้างคำขยายอธิบาย (Description) ได้มากกว่า 4 แบบ สำหรับโฆษณาหนึ่งๆ การที่เราสามารถสร้างคำโฆษณาหรือคำขยายที่หลากหลายนั้นก็เพื่อทำให้ระบบสามารถประมวลผลและคัดเลือกข้อความที่เราสร้างขึ้น เพื่อนำมาวิเคราะห์ต่อว่าคำใดที่เหมาะสมต่อการสร้างโฆษณาของเรามากที่สุด ซึ่งจะช่วยสร้างความน่าสนใจและดึงดูดลูกค้าได้ รวมถึงเพื่อช่วยตอบสนองต่อการค้นหาที่หลากหลายและเปลี่ยนแปลงไปของผู้คนในปัจจุบัน

จุดเด่นของ Responsive Search Ads
จุดเด่นของ Responsive Search Ads คือการที่สามารถแสดงผลลัพธ์ได้ถึงแม้คำค้นหาจะมีความหลากหลายและแตกต่างกันไปตามการใช้งานของผู้คน โดยจะมีรูปแบบการปรับเปลี่ยนไปตามบริบทและตามการใช้งาน ซึ่งการโฆษณาลักษณะนี้เหมาะกับการประยุกต์ใช้กับกลยุทธ์ทางการตลาดแบบ PPC เพื่อเพิ่มการเข้าถึงฐานลูกค้ามากยิ่งขึ้น

Responsive Search Ads กับ Expanded Text Ads ต่างกันอย่างไร
Responsive Search Ads กับ Expanded Text Ads ทั้งสองอย่างนี้มีความแตกต่างกันอย่างไรบ้าง มาเริ่มกันที่ Expanded Text Ads (ETAs) คือการสร้างโฆษณาในรูปแบบหนึ่ง ที่จะแสดง Headlines ได้ 3 ข้อความ กับอีก 2 ข้อความขยายอธิบาย หรือ Description โดยขนาดความยาวของคำขยายจะอยู่ที่ประมาณ 80 ตัวอักษร รวมความยาวของข้อความโฆษณาทั้งสิ้นจะอยู่ที่ประมาณ 150 คำ
ในด้านของ Responsive Search Ads จะเป็นคำโฆษณาที่สามารถสร้าง Headlines ได้ถึง 15 ข้อความ และจะเลือกคำแสดงที่เหมาะสมออกมา โดยมีข้อความขยายอธิบาย (Description) สามารถแสดงได้ 2-4 ข้อความ ในด้านของความยาวของคำขยายจะสามารถระบุได้ถึง 90 ตัวอักษร โดยข้อความโฆษณาทั้งสิ้นจะอยู่ที่ประมาณ 300 คำเลยทีเดียว

Responsive Search Ads มีประโยชน์อย่างไร
- ให้ความหลากหลายของคำโฆษณาที่จะแสดงผล – โดยจะมีการปรับไปตามบริบทของข้อความที่เหมาะสม ตามคำค้นหาของกลุ่มลูกค้า เพื่อจะขยายกรอบการเข้าถึงให้มากยิ่งขึ้น
- สร้างเปอร์เซ็นต์ CTR ได้ดีกว่า Expanded Text Ads – โดยเปอร์เซ็นต์ CTR จะมีค่าสูงเพิ่มมากขึ้น แต่อย่างไรก็ตามการใช้ Responsive Search Ads ควบคู่กับ Expanded Text Ads ก็จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพได้เช่นกัน
- ประหยัดเวลามากขึ้น – เนื่องจากระบบจะช่วยทำการวางแผน วิเคราะห์ และสร้างสรรค์ข้อความที่มีความน่าสนใจและเหมาะสมในระยะเวลาที่สั้นลง
- เพิ่มประสิทธิภาพและโอกาสในการคลิก – โดย Responsive Search Ads จะช่วยทำให้การโฆษณาเป็นที่ดึงดูด เพิ่มโอกาสในการคลิกเข้ามาของลูกค้าได้ และยังเพิ่มโอกาสทางการแข่งขันได้มากยิ่งขึ้น
- สามารถเรียนรู้และปรับปรุงได้แบบเรียลไทม์ – เนื่องจากระบบจะคอยทำการประมวลและวิเคราะห์อยู่ตลอดเวลา เพื่อทำให้สามารถตอบสนองและดึงดูดผู้คนได้อย่างทันที จึงทำให้การพัฒนาและปรับปรุงเกิดขึ้นอย่างเท่าทันในเวลาที่เหมาะสม

วิธีการสร้าง Responsive Search Ads ใน Google Ads
การสร้าง Responsive Search Ads มีวิธีการสร้าง ดังนี้
- คลิกไปที่ Ads
- คลิกที่เครื่องหมายบวก (+) เพื่อและเลือก Responsive Search Ads
- ใส่ Final URL และใส่ข้อความที่จะแสดง
- ใส่ Headlines โดยสามารถเลือกใส่ได้ตั้งแต่ 3 – 15 หัวข้อเลยทีเดียว
- ใส่ Descriptions หรือข้อความขยาย โดยสามารถสร้างได้ตั้งแต่ 2 – 4 ข้อความ
- เมื่อเรียบร้อยแล้วให้เลือก Save

ตัวอย่างของ Responsive Search Ads
ภาพต่อไปนี้คือตัวอย่างของ Responsive Search Ads โดยจากภาพจะเห็นได้ว่าฝั่งซ้ายมือคือ Headlines และ Descriptions ที่เราได้เลือกใส่ลงไป ซึ่ง Headlines มีมากถึง 10 แบบ และ Descriptions มี 3 ข้อความ จากนั้นเมื่อใส่ข้อความทั้งหมดเรียบร้อยแล้ว ระบบจะทำการวิเคราะห์ประมวลผลและแสดงออกมาตามตัวอย่างของภาพ ในช่องด้านขวามือ
แนวทางในการพัฒนา Responsive Search Ads ให้ดีขึ้น
เราพอจะได้รู้ถึงข้อมูลเบื้องต้นของ Responsive Search Ads กันมาแล้ว ในหัวข้อนี้เราจะมาดูกันว่า Responsive Search Ads นั้นมีแนวทางในการพัฒนาอย่างไร เพื่อทำให้การโฆษณาได้รับประโยชน์และทำให้มีประสิทธิภาพสูงสุด
1. เขียนหัวข้อ และคำอธิบายให้มีความหลากหลาย
จุดเด่นของ Responsive Search Ads คือการที่สามารถใส่ Headlines และ Descriptions ได้อย่างหลากหลาย การคิดค้นหัวข้อที่มีความแปลกใหม่ ดึงดูดและน่าสนใจ ก็จะช่วยทำให้ Google สามารถทำการประเมินและวิเคราะห์ผลลัพธ์ที่เหมาะสมได้ดีมากยิ่งขึ้น
2. ใส่คีย์เวิร์ดหลักในจำนวนที่ไม่มาก หรือน้อยจนเกินไป
ใส่คีย์เวิร์ดในจำนวนที่เหมาะสม อย่างน้อย 2 คีย์เวิร์ด โดยเน้นว่าควรจะเลือกคีย์เวิร์ดหลักที่สำคัญๆ อีกทั้งสามารถใช้ Dynamic Keyword Insertion เพื่อเพิ่มคีย์เวิร์ดลงใน Responsive Search Ads แต่อย่างไรก็ตามการใส่คีย์เวิร์ดที่มากเกินไปอาจทำให้เกิดความซับซ้อนในการแสดงผลลัพธ์ของการค้นหาได้
3. เลือกความยาวส่วนหัวข้อ และคำอธิบายให้เหมาะสม
ระวังไม่ใส่คำอธิบายที่มากเกินความจำเป็น เนื่องจากการใส่คำอธิบายที่มีจำนวนคำที่พอเหมาจะส่งผลดีต่อการแสดงผลโฆษณาได้ดีมากกว่า
4. สร้างความแตกต่างในคำอธิบาย เพื่อดึงดูดความสนใจ
การทำ Responsive Search Ads เพื่อให้มีประสิทธิภาพมากขึ้นอีกอย่างที่ลืมไม่ได้เลยคือการสร้างความแตกต่าง โดยการนำจุดเด่นของสินค้าหรือบริการมาใช้เป็นคำอธิบาย ให้เป็นการโฆษณาที่ส่งต่อไปยังลูกค้าอย่างชัดเจน การทำเช่นนี้จะทำให้ได้เปรียบในการแข่งขันกับคู่แข่งเจ้าใหญ่ที่ครองตลาดอยู่แล้ว หากจุดเด่นนั้นสามารถคำกระตุ้นการตัดสินใจกลุ่มเป้าหมายได้ ก็จะทำให้มีโอกาสได้ลูกค้าเพิ่มขึ้น
5. เสริมด้วย CTA ของสินค้า หรือบริการที่กระชับ และตรงไปตรงมา
การโฆษณาควรจะมีการพูดถึงสินค้าและผลิตภัณฑ์ของเราให้ได้มากที่สุด ซึ่ง CTA ของสินค้าก็ควรมีความชัดเจน กระชับ ตรงไปตรงมาและเข้าใจง่าย เพื่อทำให้ลูกค้ารู้ถึงข้อมูลผลิตภัณฑ์ของเราไปพร้อมกับการกระตุ้นให้ลูกค้าสนใจแล้วทำอะไรสักอย่างกับผลิตภัณฑ์ ไม่ว่าจะเป็นการกดเข้าตะกร้า กดสั่งซื้อ กดสั่งจอง
6. ใช้เทคนิคปักหมุดตำแหน่ง Headline และ Description
เทคนิคนี้คือการที่ Google จะพยายามสับเปลี่ยนข้อความอธิบายที่จะแสดงให้ผู้อ่านหรือกลุ่มลูกค้าได้เห็นข้อความที่แตกต่างกัน เพื่อทดสอบว่าคำอธิบายใดมีประสิทธิภาพสูงสุดที่จะดึงดูดลูกค้าได้มาก เพื่อทำให้โฆษณาของเราเป็นที่สนใจของผู้คน แต่อย่างไรก็ตามหากมีข้อความใดที่เป็นส่วนสำคัญที่เราอยากจะแสดงเสมอในผลลัพธ์จากคำค้นหา เราก็สามารถเลือกที่จะปักหมุดข้อความนั้นได้เพียงเลือก “Pinning” ข้อความนั้นๆ
สรุป
อาจกล่าวได้ว่า Responsive Search Ads คือ รูปแบบการสร้างโฆษณาบน Google แบบใหม่ ซึ่งระบบจะช่วยเราในการสร้าง คัดสรร และกลั่นกรอง ข้อความโฆษณาหรือคำอธิบายต่างๆ ที่มีความเหมาะสม อีกทั้งจะช่วยเราในการทดสอบและปรับปรุงข้อความของเราเพื่อให้มีความน่าสนใจจนสามารถดึงดูดลูกค้าให้คลิกเข้ามาอ่านได้ ซึ่ง Responsive Search Ads นั้นจะส่งผลดีต่อการทำ Google Ads ในการทำให้เข้าถึงผู้คนได้มากยิ่งขึ้น
FAQ – คำถามที่พบบ่อย
ถ้ายังใช้ Expanded Text Ads (ETA) อยู่จะปรับเปลี่ยนมาใช้ Responsive Search Ads (RSA) ได้อย่างไร
จากการพัฒนาระบบของ Google เปรียบเสมือนการทำให้ผู้ใช้งานต้องปรับมาใช้ Responsive Search Ads (RSA) ไปโดยปริยาย อย่างไรก็ตามเรายังคงสามารถใช้งานในแบบของ Expanded Text Ads (ETA) แบบเดิมได้ หรือหากเราจะใช้งานทั้ง RSA และ ETA ควบคู่กันไปทั้งสองแบบก็ได้เช่นกัน
ทำไมถึงควรใช้การปักหมุด Headline และ Description เมื่อจำเป็นเท่านั้น
เราสามารถเลือกปักหมุดหัวข้อที่สำคัญของเราได้ตามต้องการ แต่อย่างไรก็ตามการปักหมุดควรเลือกเฉพาะส่วนที่จำเป็นและสำคัญเท่านั้น เนื่องจาก Google เป็นระบบที่ทำการวิเคราะห์และพัฒนาอยู่ตลอดเวลา ดังนั้นการปักหมุด Headlines จะทำให้การวิเคราะห์ของ Google เกิดความคลาดเคลื่อน และยิ่งเราปักหมุดมากเท่าไร อัตราความคลาดเคลื่อนก็จะยิ่งสูงขึ้นเท่านั้น