Video Marketing คืออะไร กลยุทธ์เปลี่ยนยอดวิวเป็นยอดขาย

Video Marketing คืออะไร กลยุทธ์เปลี่ยนยอดวิวเป็นยอดขาย

Table of Contents

Key Takeaway

  • Video Marketing คือการทำการตลาดโดยใช้วิดีโอในการสื่อสารและการตลาด เป็นการส่งเสริมผลิตภัณฑ์และบริการต่างๆ ของแบรนด์ เพื่อเพิ่มการจดจำแบรนด์ กระตุ้นให้เกิดการตัดสินใจซื้อ และขยายฐานลูกค้าในระยะยาว
  • จุดประสงค์ของ Video Marketing ได้แก่ เพิ่มการรับรู้แบรนด์ (Brand Awareness) ขยายกลุ่มเป้าหมาย เพิ่มการมีส่วนร่วม (Engagement) กระตุ้นยอดขาย สร้างประสบการณ์และความเชื่อมโยงทางอารมณ์กับผู้ชม และเพิ่มโอกาสในการเกิด Viral
  • รูปแบบ Video Content ในปัจจุบัน แบ่งออกเป็นแบบตั้ง (Vertical Video) แบบนอน (Horizontal Video) Short-form Video และ Long-form Video
  • ทำไม Video Marketing ถึงได้ผลดี? เพราะช่วยสร้างความน่าเชื่อถือให้กับแบรนด์ เข้าถึงง่ายและมีส่วนร่วม กระตุ้นการตัดสินใจซื้อ และยังมีผลต่อผลลัพธ์ทางการตลาด

ในยุคดิจิทัล ผู้คนส่วนใหญ่ต่างใช้เวลาบนโลกออนไลน์มากขึ้น ทำให้เกิด Content หลากหลายรูปแบบ ทั้งรูปแบบบทความ รูปภาพ และยังรวมถึงรูปแบบวิดีโอที่กำลังได้รับความนิยมในปัจจุบัน และกลายเป็นกลยุทธ์ที่หลายแบรนด์ต่างนำมาใช้สร้างการรับรู้ และเพิ่มยอดขายอย่างมีประสิทธิภาพ บทความนี้จะพาไปทำความรู้จักกับ Video Marketing กลยุทธ์เปลี่ยนผู้ชมเป็นลูกค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ทำความเข้าใจ Video Marketing คืออะไร

ทำความเข้าใจ Video Marketing คืออะไร

Video Marketing หรือวิดีโอคอนเทนต์ คือการทำการตลาดโดยใช้วิดีโอที่มีภาพเคลื่อนไหวและเสียงในการสื่อสารและการตลาด เป็นการส่งเสริมผลิตภัณฑ์และบริการต่างๆ ของแบรนด์ ไม่ว่าจะเป็นวิดีโอแนะนำสินค้า รีวิวสินค้า สาธิตการใช้งาน หรือวิดีโอสร้างแรงบันดาลใจ โดยมีเป้าหมายเพื่อเพิ่มการจดจำแบรนด์ กระตุ้นให้เกิดการตัดสินใจซื้อ และขยายฐานลูกค้าในระยะยาว

และ Video Marketing ยังเป็นเครื่องมือที่ตอบโจทย์พฤติกรรมของผู้บริโภคยุคใหม่ ที่มักชอบ “ดู” มากกว่า “อ่าน” ทำให้วิดีโอกลายเป็นสื่อสำคัญที่ช่วยเพิ่ม Engagement บนช่องทางโซเชียลมีเดีย เช่น Facebook, Instagram, TikTok หรือ YouTube ได้อย่างมีประสิทธิภาพ 

จุดประสงค์ในการทำ Video Marketing

  • เพิ่มการรับรู้แบรนด์ (Brand Awareness) ให้กลุ่มเป้าหมายรู้จักและจดจำแบรนด์ได้มากขึ้น
  • ขยายกลุ่มเป้าหมาย ด้วยการแชร์วิดีโอในหลายแพลตฟอร์ม ทำให้เข้าถึงผู้ชมใหม่ๆ ได้ง่าย
  • ดึงดูดความสนใจของผู้บริโภค วิดีโอช่วยให้เนื้อหาน่าสนใจ เข้าใจง่าย และจดจำได้ดีกว่าข้อความหรือภาพนิ่ง
  • สร้างความน่าเชื่อถือและความไว้วางใจต่อแบรนด์ โดยเฉพาะเมื่อใช้วิดีโอรีวิวหรือคำรับรองจากลูกค้า
  • กระตุ้นยอดขาย วิดีโอมีอิทธิพลต่อการตัดสินใจซื้อ และช่วยเพิ่มโอกาสในการขาย
  • ให้ข้อมูลหรือความรู้เกี่ยวกับสินค้าและบริการ ช่วยให้ผู้ชมเข้าใจสินค้า/บริการได้ชัดเจน
  • เพิ่มการมีส่วนร่วม (Engagement) เช่น การกดไลก์ คอมเมนต์ แชร์ หรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม
  • สร้างประสบการณ์และความเชื่อมโยงทางอารมณ์กับผู้ชม ทำให้เกิดความรู้สึกผูกพันกับแบรนด์
  • สร้างโอกาสในการเกิด Viral ทำให้แบรนด์เป็นที่พูดถึงในมุมกว้าง
เปรียบเทียบ วิดีโอคอนเทนต์ VS คอนเทนต์แบบอื่นๆ ต่างกันอย่างไร

เปรียบเทียบ วิดีโอคอนเทนต์ VS คอนเทนต์แบบอื่นๆ ต่างกันอย่างไร

คุณสมบัติวิดีโอคอนเทนต์คอนเทนต์แบบอื่นๆ (บทความ ภาพ เสียง)
ประสบการณ์รับชมครบทุกประสบการณ์ ทั้งเสียงและภาพได้เฉพาะบางอย่าง เช่น อ่าน ดู ฟัง
การเข้าถึงเข้าถึงสะดวกผ่านออนไลน์เข้าถึงสะดวก แต่บางรูปแบบต้องใช้อุปกรณ์เฉพาะหรือใช้เวลา
ความละเอียดของเนื้อหาสามารถปรับได้ทั้งสั้นและยาวบทความให้รายละเอียดได้สูง แต่เสียงกับภาพมีข้อจำกัด
Engagementดึงดูดความสนใจได้ดีขึ้นอยู่กับรูปแบบ และเฉพาะกลุ่ม
ความเหมาะสมเหมาะกับโซเชียล/แพลตฟอร์มวิดีโอเหมาะกับโซเชียล บล็อก พอดแคสต์
ข้อจำกัดใช้ทรัพยากรในการผลิตมากผลิตง่าย แต่เข้าถึงได้น้อยกว่า
รูปแบบ Video Content ในปัจจุบัน

รูปแบบ Video Content ในปัจจุบัน

มาดูกันว่า ในปัจจุบันวิดีโอคอนเทนต์ (Video Content) มีหลายรูปแบบ คืออะไรบ้าง?

แบบตั้ง (Vertical Video) / แบบนอน (Horizontal Video)

วิดีโอคอนเทนต์แบบตั้งคือวิดีโอที่มีอัตราส่วน 9:16 สำหรับการรับชมบนสมาร์ตโฟนโดยไม่ต้องหมุนหน้าจอ เหมาะกับคอนเทนต์สั้น กระชับ เช่น TikTok, Instagram Stories, Facebook Stories, YouTube Shorts หรือคลิปเบื้องหลัง ไลฟ์สไตล์ และคอนเทนต์ที่ต้องการความใกล้ชิดกับผู้ชม เพราะเติมเต็มหน้าจอมือถือและสร้างความรู้สึกมีส่วนร่วมได้ดี

ส่วนวิดีโอแบบนอนจะมีอัตราส่วน 16:9 เป็นมาตรฐานสำหรับทีวีและ YouTube เหมาะกับคอนเทนต์ที่ต้องการความละเอียดสูงและมุมมองกว้าง เช่น รายการสัมภาษณ์ สารคดี หนังสั้น วิดีโอสอน หรือวิดีโอที่เน้นความเป็นมืออาชีพและการเล่าเรื่องที่สมบูรณ์ โดยเหมาะกับการรับชมบนคอมพิวเตอร์ ทีวี และแพลตฟอร์มที่รองรับจอขนาดใหญ่

Short-form Video/Long-form Video

Short-form Video คือวิดีโอที่มีความยาวสั้น ประมาณ 15 วินาที ถึงไม่เกิน 3 นาที โดยเน้นเนื้อหาที่กระชับ ตรงประเด็น และดึงดูดความสนใจได้รวดเร็ว เหมาะกับการใช้งานบนโซเชียลมีเดีย เช่น TikTok, Instagram Reels, YouTube Shorts ที่ผู้ชมมักต้องการเสพคอนเทนต์อย่างรวดเร็วและง่ายดาย วิดีโอสั้นเหมาะกับคอนเทนต์ที่เน้นความบันเทิง ข้อมูลสั้นๆ หรือการสร้าง Awareness

Long-form Video คือวิดีโอที่มีความยาวมากกว่าวิดีโอสั้น ตั้งแต่หลายนาทีขึ้นไปจนถึงชั่วโมง เหมาะกับการนำเสนอเนื้อหาที่ลึกซึ้ง เช่น รายการสัมภาษณ์ สารคดี การสอน หรือการเล่าเรื่องที่ต้องใช้เวลาอธิบายละเอียด วิดีโอแบบนี้เหมาะกับผู้ชมที่ต้องการความเข้าใจเชิงลึกและมีเวลารับชมมากกว่า

รูปแบบอื่นๆ

  • Live Video (วิดีโอถ่ายทอดสด) ถ่ายทอดเหตุการณ์หรือกิจกรรมแบบเรียลไทม์ เหมาะกับการสร้างปฏิสัมพันธ์กับผู้ชมทันที เช่น ไลฟ์ขายของ สัมมนา หรือกิจกรรมพิเศษ
  • VLOG มาจาก Video + Log คือวิดีโอบันทึกเรื่องราวที่ถ่ายทอดความเป็นตัวตนอย่างเป็นธรรมชาติ ไม่ว่าจะเป็นชีวิตประจำวันหรือสาระความรู้ เหมาะกับการสร้างความใกล้ชิดกับผู้ชมและเพิ่มความน่าเชื่อถือให้กับแบรนด์
  • GIF/มีม (Animated GIFs/Memes) วิดีโอสั้นๆ หรือภาพเคลื่อนไหวที่เน้นความสนุกสนานและไวรัล เหมาะกับการสร้างความบันเทิงและดึงดูดความสนใจอย่างรวดเร็ว
  • Explainer Video ใช้ภาพเคลื่อนไหวหรือกราฟิกเพื่ออธิบายแนวคิดหรือบริการอย่างง่าย เหมาะกับการสื่อสารข้อมูลซับซ้อนให้เข้าใจง่าย
  • Product Demo Video (วิดีโอสาธิตสินค้า) แสดงวิธีใช้หรือคุณสมบัติของสินค้า เหมาะกับการให้ข้อมูลเชิงลึกแก่ลูกค้า
ทำไม Video Content ถึงได้ผลดี มีประสิทธิภาพ? 

ทำไม Video Content ถึงได้ผลดี มีประสิทธิภาพ? 

เหตุผลที่การทำคอนเทนต์ในรูปแบบ Video Online Marketing ได้ผลดี มีประสิทธิภาพสูงจะมีอะไรบ้าง

สร้างความน่าเชื่อถือให้แบรนด์

การทำ Video Marketing คือตัวช่วยให้แบรนด์ดูมีตัวตนและน่าเชื่อถือกว่าการใช้แค่ข้อความหรือภาพนิ่ง ซึ่งอาจดูไม่ชัดเจนหรือผ่านการปรับแต่งมาแล้ว เมื่อลูกค้าเห็นสินค้าหรือบริการในวิดีโอที่ผลิตมาอย่างมีคุณภาพ พวกเขาจะรู้สึกว่าแบรนด์นั้นมีอยู่จริง จับต้องได้ และไว้วางใจได้มากขึ้น เป็นจุดเริ่มต้นสำคัญที่ช่วยเปลี่ยนจากผู้ชมทั่วไปให้กลายเป็นลูกค้าในอนาคต

เข้าถึงง่ายและมีส่วนร่วมสูง

วิดีโอคอนเทนต์มีทั้งภาพและเสียง สามารถสื่อสารได้ตรงจุดและเข้าใจง่ายโดยไม่ต้องพยายามมาก ผู้ชมเพียงแค่ดูคลิปก็เข้าใจเนื้อหาได้ทันที ซึ่งเหมาะกับพฤติกรรมผู้บริโภคในยุคที่ข้อมูลหลั่งไหลเร็ว ด้วยประสิทธิภาพที่ตอบโจทย์การรับรู้ของมนุษย์ วิดีโอจึงกลายเป็นรูปแบบคอนเทนต์ที่เติบโตต่อเนื่องและกลายเป็นเครื่องมือสำคัญที่ธุรกิจยุคใหม่แทบขาดไม่ได้

กระตุ้นการตัดสินใจซื้อ

Video Marketing มีประสิทธิภาพในการกระตุ้นการตัดสินใจซื้อเพราะสามารถสื่อสารได้หลายมิติ ทั้งภาพ เสียง และอารมณ์ ทำให้ผู้ชมเข้าใจและจดจำข้อมูลสินค้าได้ดีกว่าข้อความหรือภาพนิ่งเพียงอย่างเดียว นอกจากนี้ วิดีโอช่วยดึงดูดความสนใจได้รวดเร็วและสร้างความไว้วางใจผ่านการแสดงรายละเอียดสินค้าและการใช้งานจริง ซึ่งช่วยลดความกังวลก่อนตัดสินใจซื้อ อีกทั้งยังเพิ่มการมีส่วนร่วมและการแชร์ในโซเชียลมีเดีย ทำให้เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้กว้างและลึกขึ้น ส่งผลให้ยอดขายเพิ่มขึ้นอย่างชัดเจน

ยอดวิวมีผลต่อผลลัพธ์ทางการตลาด

ยอดวิวไม่ใช่แค่ตัวเลข แต่เป็นตัวชี้วัดสำคัญที่บ่งบอกถึงการเข้าถึงผู้ชมและโอกาสในการสร้างการรับรู้ต่อแบรนด์ ยิ่งวิดีโอมีคนดูมาก ยิ่งสามารถต่อยอดสู่การแชร์ การเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายใหม่ และสร้างโอกาสทางธุรกิจได้มากขึ้น 

การจะได้ยอดวิวสูงไม่ได้ขึ้นอยู่แค่การเลือกแพลตฟอร์มหรือเทคนิคโปรโมตเท่านั้น เนื้อหาที่น่าสนใจ ตรงใจกลุ่มเป้าหมาย และไม่เน้นขายเกินไป คือหัวใจสำคัญที่ทำให้คนอยากดูจนจบและแชร์ต่อ ดังนั้นควรวางแผนให้รอบด้าน เพื่อให้คอนเทนต์ของคุณสร้างผลลัพธ์ได้จริง

เริ่มต้นทำ Video Marketing แบบเข้าใจง่าย อย่างไรดี?

เริ่มต้นทำ Video Marketing แบบเข้าใจง่าย อย่างไรดี?

เมื่อตัดสินใจทำ Video Marketing แล้ว มาดูกันว่าควรเริ่มต้นทำอย่างไร เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด

1. วางเป้าหมายของเนื้อหาให้ชัดเจน

การเริ่มต้นที่ดีคือการวางแผนอย่างรอบคอบ ควรกำหนดเป้าหมายให้ชัดเจนว่าต้องการอะไรจาก Video Marketing เช่น การเพิ่มยอดขาย สร้างการรับรู้แบรนด์ หรือดึงดูดกลุ่มเป้าหมายใหม่ จากนั้นวางแผนคอนเทนต์ให้ตอบโจทย์ ไม่ว่าจะเป็นการเลือกคีย์เวิร์ดที่เหมาะสม กำหนด Mood & Tone ของวิดีโอ ตลอดจนเลือกประเภทคอนเทนต์ให้สอดคล้องกับความสนใจของกลุ่มเป้าหมายมากที่สุด

2. ออกแบบเนื้อหาของวิดีโอ

เมื่อกำหนดเป้าหมายได้แล้ว ขั้นตอนต่อไปคือการออกแบบเนื้อหาให้เหมาะสมกับกลุ่มเป้าหมายและวัตถุประสงค์ของแบรนด์ การสื่อสารที่ชัดเจนและตรงจุดจะช่วยให้ผู้ชมเข้าใจเนื้อหาได้ง่ายขึ้น สนใจติดตามจนจบ และเปิดโอกาสให้แบรนด์ส่งสารได้อย่างราบรื่น ปัจจุบันยังมีหลากหลายรูปแบบวิดีโอให้เลือกใช้ ทั้งเพื่อให้ความรู้ เล่าเรื่อง รีวิว หรือสร้างแรงบันดาลใจ ซึ่งสามารถปรับใช้ตามกลยุทธ์ที่วางไว้ได้อย่างยืดหยุ่น

3. เลือกชื่อเรื่อง คำอธิบาย และภาพปกให้กระชับ

ชื่อวิดีโอ คำอธิบาย และภาพปก คือสิ่งแรกที่ดึงดูดสายตาผู้ชม เพราะทั้ง 3 ส่วนนี้เปรียบเสมือน “หน้าร้าน” ที่จะทำให้ผู้ชมตัดสินใจคลิกเข้ามาดูวิดีโอของคุณหรือไม่ จึงควรเขียนให้กระชับ ชัดเจน และสื่อถึงเนื้อหาภายในได้ครบถ้วน เพื่อกระตุ้นให้เกิดการคลิกชม ช่วยให้เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้ดี และยังส่งผลต่ออันดับการค้นหาบนแพลตฟอร์มต่างๆ ทั้งยังช่วยเสริมประสิทธิภาพด้าน SEO ได้อีกด้วย 

4. เลือกแพลตฟอร์มอย่างเหมาะสม

การเลือกแพลตฟอร์มที่เหมาะสมเป็นอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญที่ช่วยให้วิดีโอคอนเทนต์เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้อย่างตรงจุด เพราะแต่ละแพลตฟอร์มมีลักษณะเฉพาะ ทั้งด้านรูปแบบเนื้อหา พฤติกรรมผู้ใช้งาน และช่วงอายุของผู้ชม หากเลือกช่องทางเผยแพร่ให้สอดคล้องกับคอนเทนต์ที่สร้างขึ้น ก็จะช่วยเพิ่มโอกาสในการดึงดูดผู้ชม สร้างการรับรู้ และต่อยอดสู่เป้าหมายทางธุรกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพ

สรุป

Video Marketing คือการใช้ภาพและเสียงเพื่อสื่อสารและโปรโมตสินค้าหรือบริการ โดยมีเป้าหมายเพื่อสร้างการจดจำแบรนด์ กระตุ้นยอดขาย และขยายฐานลูกค้าในระยะยาว การตลาดรูปแบบนี้ตอบโจทย์พฤติกรรมผู้บริโภคที่นิยม “ดู” มากกว่า “อ่าน” และช่วยเพิ่มการมีส่วนร่วมบนโซเชียลมีเดียได้อย่างมีประสิทธิภาพ วิดีโอคอนเทนต์มีหลายรูปแบบ เช่น วิดีโอสั้น-ยาว แนวตั้ง-แนวนอน การทำ Video Marketing ได้ผลดีเพราะช่วยสร้างความน่าเชื่อถือ เข้าถึงง่าย มีส่วนร่วมสูง และกระตุ้นการตัดสินใจซื้อได้ดี

หากกำลังมองหาผู้เชี่ยวชาญด้าน Marketing หรือการทำ SEO ให้เว็บไซต์ติดอันดับบน Google ได้อย่างมีประสิทธิภาพ Minimice Group รับทำ SEO พร้อมสร้างเว็บไซต์ที่ใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ตอบโจทย์การใช้งานของผู้ใช้ได้เป็นอย่างดี

FAQ – คำถามที่พบบ่อย

หากกำลังเริ่มต้นทำ Video Marketing แต่ยังมีข้อสงสัยอยู่ มาดูกันว่ากระบวนการทำ Video Marketing เป็นอย่างไร

Video Marketing คืออะไร

Video Marketingคือการทำการตลาดผ่านวิดีโอที่ช่วยสื่อสารแบรนด์ สร้างแรงจูงใจ และกระตุ้นการตัดสินใจซื้อ โดยตอบโจทย์พฤติกรรมผู้บริโภคยุคใหม่ที่ชอบดูมากกว่าอ่าน พร้อมช่วยเพิ่ม Engagement บนแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียอย่างมีประสิทธิภาพ

Video Marketing ส่งผลกระทบอย่างไรบ้าง?

การทำวิดีโอต้องใช้ต้นทุนสูงและซับซ้อน ต้องใช้อุปกรณ์ที่เหมาะสม บทที่ดี การตัดต่อที่มีคุณภาพ และใช้เวลานานกว่าจะเผยแพร่ได้ เพราะต้องผ่านหลายขั้นตอน เช่น การวางแผน การถ่ายทำ และการตัดต่อ ซึ่งอาจใช้เวลานาน โดยเฉพาะสำหรับมือใหม่หรือผู้ที่มีงบจำกัด

ทำไม Video Marketing กลายเป็นกลยุทธ์ทางการตลาดที่ทรงพลัง

Video Marketing กลายเป็นกลยุทธ์ทางการตลาดที่ทรงพลังเพราะ ช่วยปรับ SEO ให้ดีขึ้นเพิ่ม Conversion เกิดการจดจำแบรนด์ที่ดีขึ้น ได้รับความไว้วางใจจากลูกค้ามากขึ้น สามารถเข้าถึงได้จากทุกอุปกรณ์ และมีการแชร์ที่มากขึ้น ทำให้ Engagement บนช่องทางโซเชียลมีเดียสูงขึ้นไปด้วย

JITTANUN

JITTANUN

SEO SPECIALIST

SEO Specialist at Minimice Group. I specialize in technical SEO, keyword research and site optimization to boost search rankings and organic traffic. By analyzing user behavior and site structure, I create data-driven strategies that increase conversions and drive business growth. Using our proven Blitz Strategy and clear timelines, we deliver measurable results that grow sales sustainably.

ให้ธุรกิจของคุณเติบโตแบบก้าวกระโดดไปกับทีมการตลาดมืออาชีพ
รับการตอบกลับภายใน 2 ชั่วโมง
รับการตอบกลับภายใน 2 ชั่วโมง