WordPress คืออะไร? แพลตฟอร์มที่เหมาะกับทั้งมือใหม่และมือโปร

WordPress คืออะไร? แพลตฟอร์มที่เหมาะกับทั้งมือใหม่และมือโปร

Table of Contents

Key Takeaway

  • WordPress คือระบบจัดการเว็บไซต์ที่ใช้งานง่าย ช่วยสร้างและแก้ไขเนื้อหาโดยไม่ต้องเขียนโค้ด
  • WordPress สร้างได้ทั้งเว็บไซต์ทั่วไป บล็อก และร้านค้าออนไลน์ครบวงจร
  • ตัวอย่างปลั๊กอิน WordPress ยอดนิยม เช่น Yoast SEO ปรับแต่ง SEO Akismet ป้องกันสแปม TablePress สร้างตารางข้อมูล และ WP Rocket ช่วยเพิ่มความเร็วเว็บ
  • ข้อดีของ WordPress คือใช้งานง่าย ปรับแต่งได้หลากหลาย รองรับ SEO มีปลั๊กอินและธีมมากมาย และพัฒนาอย่างต่อเนื่องแบบโอเพนซอร์ซ

หากคุณกำลังมองหาวิธีสร้างเว็บไซต์ง่ายๆ รวดเร็ว และประหยัดต้นทุน ไม่ว่าจะเพื่อขายของออนไลน์ แสดงผลงาน หรือเขียนบล็อกส่วนตัว WordPress คือหนึ่งในตัวเลือกที่ตอบโจทย์มากที่สุด ด้วยระบบที่ใช้งานไม่ยาก มือใหม่ก็เริ่มต้นได้ ส่วนมือโปรก็สามารถต่อยอดและปรับแต่งได้เต็มที่ บทความนี้เราจะพาคุณไปรู้จักว่า WordPress คืออะไร พร้อมเจาะลึกข้อดีที่ใครอยากมีเว็บไซต์เป็นของตัวเองไม่ควรพลาด!

เริ่มต้นรู้จัก WordPress คืออะไร?

เริ่มต้นรู้จัก WordPress คืออะไร?

สำหรับใครที่สงสัยว่า WordPress คืออะไร WordPress คือเครื่องมือที่ช่วยให้ใครๆ สามารถทำเว็บไซต์ได้ด้วยตัวเอง โดยไม่ต้องมีความรู้ด้านการเขียนโค้ดให้ยุ่งยาก เพราะถูกออกแบบมาเพื่อให้ใช้งานง่าย เหมาะกับทั้งมือใหม่และผู้มีประสบการณ์ โดยเว็บไซต์ www.wordpress.com คือหนึ่งในช่องทางหลักที่ให้บริการ WordPress แบบพร้อมใช้งาน ไม่ต้องติดตั้งเอง เหมาะกับผู้ที่อยากเริ่มต้นได้ทันที

WordPress จัดอยู่ในประเภทโปรแกรมจัดการเนื้อหา หรือ Contents Management System (CMS) ซึ่งหมายความว่าเราสามารถเพิ่ม ลบ หรือแก้ไขบทความบนเว็บไซต์ได้สะดวก ตัวระบบพัฒนาด้วยภาษา PHP และใช้ฐานข้อมูล MySQL ในการจัดเก็บข้อมูลต่างๆ ของเว็บไซต์

ส่องส่วนต่างๆ ของ WordPress ที่ทำให้เว็บไซต์สมบูรณ์

กว่าจะได้เว็บไซต์สวยๆ จาก WordPress ไม่ใช่แค่เปิดแล้วใช้งานได้ทันที เพราะเบื้องหลังของ WordPress คือ ระบบสร้างเว็บไซต์แบบสำเร็จรูปที่มีหลายส่วนประกอบทำงานร่วมกัน มาดูกันว่ามีอะไรบ้างที่ช่วยให้ WordPress ใช้งานได้ครบ จบในที่เดียว

  • WordPress Core คือระบบซอฟต์แวร์หลักของ WordPress ที่ทำหน้าที่จัดการเนื้อหาบนเว็บไซต์ ไม่ว่าจะเป็นหน้าหลัก (Page) หรือหน้าบทความ (Post) เพื่อให้ผู้ใช้งานสามารถสร้าง แก้ไข และจัดการเว็บไซต์ได้ง่ายและสะดวกยิ่งขึ้น
  • Theme คือส่วนที่กำหนดดีไซน์และรูปแบบการแสดงผลของเว็บไซต์ ไม่ว่าจะเป็นเลย์เอาต์ สี ตัวอักษร หรือองค์ประกอบต่างๆ ที่ผู้เข้าชมจะเห็นบนหน้าจอ ช่วยให้เว็บไซต์ดูสวยงามและมีเอกลักษณ์ตามที่ต้องการ
  • Plugin คือเครื่องมือเสริมที่ช่วยเพิ่มความสามารถให้กับ WordPress เช่น เพิ่มระบบจัดการสินค้า ฟอร์มติดต่อ หรือระบบความปลอดภัย ทำให้เว็บไซต์สามารถทำงานได้หลากหลายและตรงกับความต้องการมากขึ้น
ประเภทเว็บไซต์ที่สามารถสร้างได้ด้วย WordPress

ประเภทเว็บไซต์ที่สามารถสร้างได้ด้วย WordPress

WordPress คือเครื่องมือสร้างเว็บไซต์ที่สามารถนำไปใช้ทำเว็บได้หลากหลายรูปแบบ มาดูกันว่า WordPress ใช้ทำเว็บไซต์แบบไหนได้บ้าง

Blog WordPress

WordPress คือแพลตฟอร์มสร้างเว็บไซต์ที่เริ่มต้นจากการเป็นพื้นที่สำหรับเขียนบล็อก เปิดโอกาสให้ผู้ใช้งานเผยแพร่เนื้อหาต่างๆ ได้อย่างอิสระ ไม่ว่าจะเป็นความรู้ ความคิดเห็น ข่าวสาร หรือเรื่องราวส่วนตัว ก่อนจะพัฒนาให้สามารถสร้างเว็บไซต์ได้หลากหลายรูปแบบในปัจจุบัน

ร้านขายของออนไลน์ประเภท E-Commerce

ด้วยปลั๊กอินเสริมที่มีให้เลือกมากมาย WordPress สามารถเปลี่ยนเว็บไซต์ธรรมดาให้กลายเป็นร้านค้าออนไลน์ได้อย่างง่ายดาย พร้อมระบบชำระเงิน จัดการสินค้า และติดตามสถานะการสั่งซื้อแบบครบวงจร อีกทั้งยังสามารถเสริมประสิทธิภาพด้าน E-Commerce SEO เพื่อช่วยให้ร้านค้าติดอันดับบนหน้าค้นหาและเพิ่มโอกาสในการขายได้มากขึ้นอีกด้วย

เว็บไซต์ธุรกิจ

สามารถใช้ WordPress สร้างเว็บไซต์ธุรกิจสำหรับโปรโมตสินค้าและบริการ โดยใส่ข้อมูลเกี่ยวกับบริษัท ช่องทางการติดต่อ และเนื้อหาที่ช่วยสร้างความน่าเชื่อถือให้กับลูกค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ

เว็บไซต์สมาชิก

WordPress คือแพลตฟอร์มที่สามารถสร้างพอร์ทัลสำหรับสมาชิกได้ ไม่ว่าจะเป็นการจำกัดการเข้าถึงเนื้อหาพิเศษสำหรับสมาชิกเท่านั้น หรือเปิดให้บุคคลทั่วไปเข้าถึงบางส่วนได้ตามต้องการ ช่วยจัดการสิทธิ์การเข้าถึงได้อย่างยืดหยุ่นและมีประสิทธิภาพ

เว็บไซต์ฟอรัม

ธุรกิจก็สามารถใช้ WordPress สร้างเว็บไซต์สังคมขนาดเล็ก ที่เปิดโอกาสให้ผู้ใช้งานสร้างโพสต์ แชร์เนื้อหา และเชื่อมต่อกันได้อย่างง่ายดาย เป็นพื้นที่ออนไลน์ที่ช่วยเพิ่มการมีส่วนร่วมระหว่างสมาชิกได้ดีทีเดียว

เว็บไซต์คอร์สเรียนออนไลน์

WordPress สามารถใช้สร้างแพลตฟอร์มสำหรับการเรียนการสอนออนไลน์ได้อย่างครบวงจร ไม่ว่าจะเป็นการแชร์เนื้อหาการศึกษา หรือการสร้างคอร์สออนไลน์ที่จัดการได้ง่ายและสะดวกสำหรับทั้งผู้สอนและผู้เรียน

รูปแบบของ WordPress ที่ควรรู้ก่อนเริ่มทำเว็บไซต์

รูปแบบของ WordPress ที่ควรรู้ก่อนเริ่มทำเว็บไซต์

โดยทั่วไป WordPress แบ่งออกเป็น 2 ประเภทหลัก คือ WordPress.com และ WordPress.org ซึ่งทั้งสองแบบมีความแตกต่างกันอยู่บ้าง มาดูกันว่าจะแตกต่างกันอย่างไรบ้าง

1. WordPress.com

WordPress.com คือแพลตฟอร์มที่มีเวอร์ชันหนึ่งเหมาะกับผู้เริ่มต้นที่อยากทดลองสร้างเว็บไซต์ของตัวเอง โดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่าย เพราะใช้งานได้ฟรี แต่ก็มีข้อจำกัดบางอย่าง เช่น ไม่สามารถติดตั้งธีมหรือปลั๊กอินจากภายนอกได้ และชื่อเว็บไซต์จะเป็นรูปแบบซับโดเมนเท่านั้น

อย่างไรก็ตามหากต้องการฟีเจอร์ที่ครบครันและความสามารถระดับพรีเมียม ผู้ใช้งานสามารถอัปเกรดโดยจ่ายเป็นรายปี ซึ่งจะเปิดให้เลือกใช้งานธีมได้หลากหลายขึ้น เพิ่มพื้นที่เก็บข้อมูล และสามารถจดทะเบียนโดเมนเว็บไซต์เป็นชื่อของตัวเองได้ตามต้องการ

2. WordPress.org

WordPress คือแพลตฟอร์มที่มีเวอร์ชันหนึ่งคือ WordPress.org ซึ่งเปิดให้ใช้งานฟรีและสามารถสร้างเว็บไซต์ได้อย่างอิสระโดยไม่มีข้อจำกัด ไม่ว่าจะเป็นการจัดหน้าเว็บ การเลือกใช้ธีมหรือปลั๊กอิน รวมถึงการสร้างระบบจัดการร้านค้าออนไลน์ต่างๆ

ผู้ใช้งานจะมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมในกรณีที่ต้องการจดโดเมนเป็นชื่อของตัวเอง หรือต้องการเช่า Hosting สำหรับเก็บข้อมูลบนอินเทอร์เน็ต ซึ่งราคาจะขึ้นอยู่กับความต้องการและประสิทธิภาพที่เจ้าของเว็บไซต์ต้องการใช้

Plugin ใน WordPress คืออะไร? เลือกใช้ตัวไหนดี

Plugin ใน WordPress คืออะไร? เลือกใช้ตัวไหนดี

Plugin WordPress คือส่วนเสริมที่ช่วยเพิ่มฟังก์ชัน ทำให้เว็บไซต์มีความยืดหยุ่นและใช้งานได้หลากหลายมากขึ้น ตัวอย่างของปลั๊กอิน เช่น

  • Yoast SEO เป็นเครื่องมือยอดนิยมที่ช่วยแนะนำและปรับแต่งเว็บไซต์ให้ถูกต้องตามหลัก SEO โดยวิเคราะห์หน้าเพจหรือบทความแล้วแสดงสัญลักษณ์สีเขียว ส้ม หรือแดง เพื่อบอกจุดที่ควรปรับปรุง
  • WP Code ช่วยให้คุณเพิ่มโค้ด เช่น Google Analytics, CSS, หรือ Facebook Pixel ลงในส่วนหัวและท้ายเว็บ WordPress ได้ง่ายๆ โดยไม่ต้องแก้ไขไฟล์ functions.php ของธีม
  • Akismet ปลั๊กอินมาตรฐานของ WordPress ที่ช่วยกรองคอมเมนต์สแปม แม่นยำ ใช้งานง่าย ไม่หน่วงเว็บ รองรับ 73 ภาษา ลดภาระแอดมินและเพิ่มคุณภาพเว็บไซต์
  • WP Rocket เพิ่มความเร็วเว็บด้วยการบีบอัดข้อมูล โหลดรูปภาพช้า ลดโค้ด HTML และเพิ่มประสิทธิภาพฐานข้อมูล ทำให้เว็บเร็วขึ้น ลด Bounce Rate และใช้งานง่ายสำหรับผู้ใช้ทั่วไป
  • Redirection ย้าย URL และทำ Redirect 301 ง่ายๆ แค่ระบุ URL ต้นทางและปลายทาง ช่วยแก้ลิงก์เสียและรักษาอันดับ SEO ของเว็บไซต์
  • Tablepress ปลั๊กอินคะแนนเต็ม 5 ดาวที่ช่วยสร้างและจัดการตารางซับซ้อนบนเว็บได้ง่าย รองรับข้อมูลหลากหลาย เช่น รูปภาพ ลิงก์ และสูตรคณิตศาสตร์
  • Ithemes Security ป้องกัน Hackers, Bots และ Malware ด้วยการบล็อก IP ไม่รู้จัก ปกป้องจากการ Brute Force พร้อมฟีเจอร์สำรองข้อมูล ยืนยันตัวตน 2 ขั้นตอน และแบนผู้ใช้
  • Duplicator คัดลอกหรือย้ายเว็บไซต์ได้ง่าย ประหยัดเวลาในการย้ายข้อมูล พร้อมสำรองข้อมูลเผื่อกรณีเซิร์ฟเวอร์มีปัญหาหรืออัปเดตแล้วเว็บมีข้อผิดพลาด
  • Woocommerce คือปลั๊กอินสำคัญสำหรับธุรกิจออนไลน์ ครบทั้งระบบซื้อ-ขาย จัดการสินค้า ชำระเงิน และโปรโมทร้าน ใช้งานง่าย ฟรี เหมาะกับเจ้าของร้านที่อยากทำเว็บเอง

Elementor คืออะไร? ปลั๊กอินช่วยสร้างเว็บไซต์ให้สวย

Elementor คือปลั๊กอินยอดนิยมของ WordPress ที่ช่วยให้สร้างเว็บไซต์ได้ง่ายด้วยการลากและวางโดยไม่ต้องเขียนโค้ด เหมาะกับทั้งมือใหม่และมือโปร ออกแบบเว็บแบบเรียลไทม์ มีเทมเพลตสำเร็จรูปให้เลือกใช้มากมาย ปรับแต่งได้ง่ายและละเอียด ช่วยประหยัดเวลาและค่าใช้จ่าย ทำให้เว็บสวยและใช้งานได้รวดเร็วเหมือนมืออาชีพ

ระบบจัดการเว็บไซต์ CMS WordPress คืออะไร?

CMS WordPress คือระบบจัดการเนื้อหาเว็บไซต์ที่ช่วยให้เราสามารถเพิ่ม ลบ หรือแก้ไขบทความและข้อมูลต่างๆ ได้ง่ายผ่านระบบหลังบ้าน โดยไม่ต้องเขียนโค้ดเอง รองรับการสร้างหน้าใหม่ การจัดการเมนูหรือระบบนำทาง การจัดหมวดหมู่เนื้อหาให้เป็นระเบียบ รวมถึงการจัดวางข้อมูลต่างๆ บนหน้าเว็บได้ตามต้องการ

สร้างเว็บไซต์ด้วย WordPress ใน 9 ขั้นตอน

สร้างเว็บไซต์ด้วย WordPress ใน 9 ขั้นตอน

ถ้าอยากเริ่มต้นสร้างเว็บไซต์ด้วย WordPress ไม่ต้องกังวลว่าจะยุ่งยาก เพราะจริงๆ แล้วมีขั้นตอนง่ายๆ ที่ทำตามได้แม้ไม่มีพื้นฐานมาก่อน มาดูกันเลยว่าต้องทำอะไรบ้างในการสร้างเว็บไซต์ด้วย WordPress

1. เลือกโฮสต์และติดตั้ง WordPress

เริ่มจากเลือกบริการ Web Hosting ที่เหมาะกับความต้องการ แล้วทำการชำระค่าบริการหากมีค่าใช้จ่าย จากนั้นติดตั้ง WordPress ซึ่งสามารถทำได้ผ่านแผงควบคุมของโฮสต์หรือดาวน์โหลดไฟล์ติดตั้งจากเว็บไซต์ WordPress แล้วอัปโหลดลงในโฮสต์ด้วยตัวเอง

2. กำหนดค่าเว็บไซต์

หลังจากติดตั้งเสร็จ ให้เข้าสู่ระบบผู้ดูแลเว็บไซต์ (Admin Dashboard) ด้วยข้อมูลที่ตั้งค่าไว้ก่อนหน้า จากนั้นตั้งชื่อเว็บไซต์และคำอธิบายให้เรียบร้อย แล้วเลือกธีมที่เหมาะกับสไตล์ของเว็บไซต์ ซึ่งสามารถใช้ธีมพื้นฐานไปก่อน และเปลี่ยนหรือปรับแต่งเพิ่มเติมภายหลังได้ตามต้องการ

3. สร้างและจัดการเนื้อหา

เพิ่มเนื้อหาหลักของเว็บไซต์ เช่น บทความ หน้าเพจ รูปภาพ วิดีโอ หรือไฟล์เสียงต่างๆ ตามความเหมาะสม จากนั้นสร้างเมนูนำทาง (Navigation Menu) เพื่อให้ผู้เยี่ยมชมสามารถเข้าถึงแต่ละส่วนของเว็บไซต์ได้สะดวกและเป็นระเบียบมากขึ้น

4. ปรับแต่งเว็บไซต์

ผู้ใช้สามารถปรับแต่งหน้าแรกหรือหน้าอื่นๆ ของเว็บไซต์ได้อย่างอิสระ โดยใช้บล็อกหรือเครื่องมือสร้างหน้า (Page Builders) ที่มาพร้อมกับธีม หรือจะติดตั้งปลั๊กอินเสริมก็ได้เช่นกัน นอกจากนี้ยังสามารถปรับแต่งธีมให้ตรงกับสไตล์ของคุณ ไม่ว่าจะเป็นการเปลี่ยนสี ฟอนต์ หรือรูปแบบเลย์เอาท์ต่างๆ ได้ตามต้องการ

5. เพิ่มปลั๊กอิน (Plugins)

ติดตั้งและตั้งค่าปลั๊กอินเสริมเพื่อเพิ่มความสามารถให้เว็บไซต์ ไม่ว่าจะเป็นปลั๊กอินสำหรับฟอร์มติดต่อ การจัดการ SEO ระบบร้านค้าออนไลน์ และฟังก์ชันอื่นๆ ที่ช่วยให้เว็บไซต์ทำงานได้ครบถ้วนตามความต้องการ

6. เพิ่มเนื้อหาเพิ่มเติม

สร้างหน้าเพจเพิ่มเติมในเว็บไซต์ด้วย WordPress คือการเพิ่มเนื้อหาใหม่ๆ เช่น หน้าเกี่ยวกับเรา หน้าแนะนำบริการ ผลิตภัณฑ์ หรือบทความ เพื่อให้เว็บไซต์ครบถ้วนและตอบโจทย์ผู้ใช้งานมากขึ้น

7. ตรวจสอบและทดสอบ

ทดสอบเว็บไซต์เพื่อตรวจสอบการทำงานและปรับปรุงให้ตรงตามความต้องการ พร้อมตรวจสอบความเข้ากันได้กับอุปกรณ์หลากหลายประเภท เช่น มือถือ แท็บเล็ต และคอมพิวเตอร์

8. เผยแพร่เว็บไซต์

เมื่อเว็บไซต์พร้อมเผยแพร่ WordPress คือเครื่องมือที่จะช่วยให้ผู้ใช้ประกาศและเปิดตัวเว็บไซต์สู่ผู้เยี่ยมชมได้อย่างง่ายดายและรวดเร็ว

9. บำรุงรักษาและปรับปรุง

WordPress คือเครื่องมือที่ช่วยให้ผู้ใช้ตรวจสอบเว็บไซต์อย่างสม่ำเสมอ แก้ไขข้อผิดพลาด ปรับปรุงเนื้อหา และสร้างประสบการณ์ที่ดีให้กับผู้ใช้ได้อย่างต่อเนื่อง

ทำไม WordPress ถึงเป็นตัวเลือกในการสร้างเว็บไซต์

ทำไม WordPress ถึงเป็นตัวเลือกในการสร้างเว็บไซต์

ด้วยคุณสมบัติที่หลากหลายและความยืดหยุ่นสูง ซึ่งได้รับการยอมรับจากผู้ใช้งานมากกว่า 200 ล้านเว็บไซต์ แล้วข้อดีและความสามารถของ WordPress มีอะไรบ้าง มาดูกันเลย

ประหยัดทั้งเวลาและค่าใช้จ่าย

การใช้ระบบ WordPress คือการสร้างเว็บไซต์ที่เรียนรู้ได้ด้วยตัวเองโดยไม่จำเป็นต้องเขียนโค้ดหรือมีความรู้ด้านภาษาคอมพิวเตอร์ เพราะสามารถใช้ Page Builder เพิ่มส่วนประกอบต่างๆ เช่น หัวข้อ รูปภาพ ได้ง่ายผ่านโปรแกรมสำเร็จรูป สำหรับผู้เริ่มต้นสามารถใช้งานได้ฟรี แต่หากต้องการเพิ่มฟีเจอร์หรือความสามารถพิเศษ จะมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมตามความต้องการของผู้ใช้งาน

มีดีไซน์หลากหลาย

WordPress คือระบบที่มีความโดดเด่นในเรื่องการสร้างทางเลือกให้ผู้ใช้สามารถเลือกรูปแบบการแสดงผลบนหน้าจอได้หลากหลาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในส่วนของธีม ที่มีให้เลือกอย่างมากมาย เพื่อให้เหมาะสมและปรับแต่งได้ตรงกับความต้องการของแต่ละเว็บไซต์อย่างลงตัว

หลายฟังก์ชันให้ได้เลือก

WordPress คือระบบที่มีปลั๊กอินหรือโปรแกรมเสริมหลากหลาย เช่น ระบบ E-Commerce และระบบ Booking ซึ่งพัฒนาโดยผู้สร้างปลั๊กอินจากทั่วโลก รวมถึงยังสามารถติดตั้งระบบความปลอดภัยเพื่อปกป้องเว็บไซต์ได้อย่างครบวงจร

อัปเดตเนื้อหาได้สะดวก

ระบบนี้รองรับการใช้งานได้ทุกที่ ทุกเวลา และทุกอุปกรณ์ ทำให้การอัปเดตหรือแก้ไขข้อมูลเป็นเรื่องง่ายและรวดเร็ว อีกทั้งยังมีฟีเจอร์ช่วยกู้คืนข้อมูลในกรณีที่เผลอลบไปด้วย

ช่วยในการทำ SEO

ระบบ WordPress มาพร้อมฟังก์ชันเฉพาะสำหรับการทำ SEO (Search Engine Optimization) ช่วยให้เว็บไซต์ติดอันดับต้นๆ ใน Google สร้างความน่าเชื่อถือและคุณค่าให้กับเว็บไซต์ ส่งผลให้การสร้างเว็บไซต์บน WordPress มีโอกาสเพิ่มยอดผู้เข้าชมมากกว่าระบบอื่นๆ

พัฒนาได้ตลอด

WordPress คือซอฟต์แวร์โอเพนซอร์ซ (Open-source Software) ที่ได้รับอนุญาตภายใต้ GNU General Public License (GPL) ซึ่งไม่ขึ้นกับหน่วยงานใด ทำให้ผู้ใช้งานสามารถนำไปใช้และพัฒนาต่อยอดได้อย่างอิสระตามความคิดสร้างสรรค์ที่ไม่มีขีดจำกัด ส่งผลให้ได้รับการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง และยังสามารถอัปเกรด Page Speed เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการโหลดเว็บไซต์ให้รวดเร็วยิ่งขึ้นอีกด้วย

สิ่งที่ควรคำนึงก่อนจ้างทำเว็บไซต์ WordPress

สิ่งที่ควรคำนึงก่อนจ้างทำเว็บไซต์ WordPress

ก่อนที่จะตัดสินใจจ้างทำเว็บไซต์ด้วย WordPress ควรพิจารณาหลายปัจจัยเพื่อให้ได้เว็บไซต์ที่ตอบโจทย์ความต้องการและใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพ รวมถึงลดปัญหาที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต สิ่งที่ควรคำนึงและข้อควรพิจารณาหลักๆ มีดังนี้

  • ควรตรวจสอบให้แน่ใจว่าเว็บไซต์มีความเร็วในการโหลดสูง โดยคะแนน PageSpeed ควรอยู่ที่ 90 ขึ้นไป ตามเกณฑ์ของ PageSpeed Insights เพื่อให้เว็บไซต์ทำงานได้อย่างลื่นไหลและมอบประสบการณ์ที่ดีแก่ผู้ใช้งาน
  • เว็บไซต์ควรสามารถอัปเดตเวอร์ชันของ WordPress และปลั๊กอินต่างๆ ได้อย่างราบรื่น โดยไม่เกิดข้อผิดพลาดหรือส่งผลกระทบต่อการทำงานของเว็บไซต์
  • ควรใช้ปลั๊กอินให้น้อยที่สุด โดยจำกัดไม่เกิน 10 ตัว เพื่อรักษาความเร็วและความเสถียรของเว็บไซต์

Minimice ตอบโจทย์ครบทุกข้อ ทั้งเรื่องความเร็วเว็บไซต์ที่ทะลุเกิน 90+ บน PageSpeed Insights การอัปเดตเวอร์ชันและปลั๊กอินได้อย่างราบรื่นโดยไม่เกิดข้อผิดพลาด รวมถึงการใช้ปลั๊กอินเท่าที่จำเป็น ไม่เกิน 10 ตัว เพื่อให้เว็บไซต์ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด

สรุป

WordPress คือระบบสร้างและจัดการเว็บไซต์ที่ใช้งานง่าย แม้ไม่มีพื้นฐานด้านการเขียนโค้ดก็สามารถเริ่มต้นได้ รองรับทั้งเว็บไซต์ทั่วไป บล็อก ไปจนถึงร้านค้าออนไลน์ จุดเด่นอยู่ที่ความยืดหยุ่นสูง ปรับแต่งได้หลากหลายด้วยธีมและปลั๊กอินจำนวนมาก พร้อมฟีเจอร์ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพ SEO และมีการพัฒนาอย่างต่อเนื่องในรูปแบบโอเพนซอร์ซ 

หากคุณกำลังมองหาทีมที่เชี่ยวชาญในการพัฒนาเว็บไซต์ WordPress และทำ SEO ให้เว็บไซต์ติดอันดับบน Google อย่างมีประสิทธิภาพ Minimice รับทำ SEO พร้อมสร้างเว็บไซต์ที่สวย ใช้งานง่าย โหลดเร็ว และอัปเดตได้อย่างราบรื่นในระยะยาว

คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับ WordPress (FAQ)

หลายคนที่กำลังเริ่มต้นสร้างเว็บไซต์อาจมีคำถามเกี่ยวกับ WordPress อยู่ไม่น้อย ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการใช้งาน ความสามารถในการปรับแต่ง หรือข้อดีของระบบนี้ ในส่วนนี้จะมาตอบคำถามเกี่ยวกับ WordPress ที่หลายคนมักสงสัย เพื่อให้คุณเข้าใจและตัดสินใจได้ง่ายขึ้นว่าจะเลือกใช้ WordPress ดีหรือไม่

WordPress ใช้อะไรเป็นฐานข้อมูล

ฐานข้อมูลของ WordPress คือที่จัดเก็บข้อมูลสำคัญทั้งหมดของเว็บไซต์ โดยใช้ MySQL เป็นหลัก และยังรองรับ MariaDB ซึ่งเป็นเวอร์ชันปรับปรุงที่เร็วและยืดหยุ่นกว่า ช่วยให้เว็บไซต์ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ

WordPress เสียเงินไหม

WordPress สามารถดาวน์โหลดและใช้งานได้ฟรี แต่ผู้ใช้งานต้องซื้อโดเมนและบริการ Hosting แยกต่างหากเอง

การใช้งาน WordPress ยากไหม

WordPress ออกแบบมาให้ทุกคนใช้ได้ง่าย ปรับแต่งยืดหยุ่น มีประสิทธิภาพและปลอดภัย มือใหม่ก็เริ่มได้ง่ายโดยไม่ต้องเขียนโค้ด เพราะรองรับการปรับแต่งแบบลากวาง (Drag & Drop)

ระบบหลังบ้านของ WordPress คืออะไร

ระบบหลังบ้านของ WordPress คือส่วนที่ใช้จัดการข้อมูล ตั้งค่า สร้างเมนู รูปภาพ สินค้า และปรับแต่งธีมกับปลั๊กอิน โดยต้องล็อกอินด้วยชื่อผู้ใช้และรหัสผ่าน

WordPress ถือว่าปลอดภัยไหม

Core ของ WordPress ถูกออกแบบให้ปลอดภัยและแก้ไขปัญหาเร็ว แต่ปัญหาส่วนใหญ่เกิดจากปลั๊กอินหรือธีมที่ไม่ได้มาตรฐานหรือผิดกฎหมาย ซึ่งเสี่ยงถูกแฮกและเป็นช่องโหว่ง่ายต่อการโจมตี

Warisara Butchadee

Warisara Butchadee

SEO SPECIALIST

SEO Specialist at Minimice Group , Expert in On-page, Off-page, and Technical SEO, helping businesses achieve top search rankings, grow sustainable organic traffic, and maximize conversions.

ให้ธุรกิจของคุณเติบโตแบบก้าวกระโดดไปกับทีมการตลาดมืออาชีพ
รับการตอบกลับภายใน 2 ชั่วโมง
รับการตอบกลับภายใน 2 ชั่วโมง