เปิดโผ! 20 บริษัทรับทำ SEO ยอดนิยมในไทย การันตีผลงานติดหน้าแรก

20 บริษัทรับทำ SEO ในไทย ติดหน้าแรก Google & AI Overview 2026

Table of Contents

Date: 15 April 2026 Read time: 9 Minutes

ปี 2026 ไม่ใช่ปีของการ “ทำอันดับ” แต่เป็นปีของการ “ครองพื้นที่ AI Snapshot” การทำ SEO (Search Engine Optimization) ได้วิวัฒนาการจากการใส่ Keyword ไปสู่การสร้าง E-E-A-T (Experience, Expertise, Authoritativeness, Trustworthiness) และการปรับแต่งเนื้อหาเพื่อให้ AI ของ Google เข้าใจบริบทธุรกิจของคุณ

โจทย์ของผู้บริหารและเจ้าของธุรกิจในวันนี้จึงเปลี่ยนไป:

  • “เราจะเลือก Agency ไหนที่ไม่ได้แค่ทำ Traffic แต่สร้าง Revenue ได้จริง?”
  • “ใครคือคนที่เข้าใจการทำ SEO ยุค AI Overviews?”

ผมได้คัดเลือกและจัดกลุ่ม 20 บริษัทชั้นนำในไทย โดยแบ่งตามจุดแข็งและ Segment เพื่อให้คุณเลือกสิ่งที่ตรงกับจริตธุรกิจของคุณมากที่สุดครับ

เกณฑ์การคัดเลือก

เพื่อให้การจัดอันดับนี้เป็นกลางและเน้นผลลัพธ์ ผมใช้เกณฑ์ดังนี้ในการพิจารณา:

  1. AI & Tech Adaptation: ความพร้อมในการปรับตัวรับมืออัลกอริทึม AI Search
  2. Performance Mindset: การวัดผลที่จับต้องได้ (ROI/Revenue) ไม่ใช่แค่ Traffic
  3. Content Authority (E-E-A-T): ความสามารถในการสร้างคอนเทนต์เชิงลึกที่ AI เชื่อถือ
  4. Strategic Partnering: ความใส่ใจในการดูแลลูกค้าและอัตราการต่อสัญญา (Retention Rate)

โดยการจัดอันดับนี้เป็นการอ้างอิงมาจากแหล่งเหล่านี้มาพิจรณา เกณ์นั้นมาจาก Performance, Scale, Review, Positioning, และ Award ที่ได้รับ:

ตารางสรุปเปรียบเทียบ 20 บริษัทรับทำ SEO

เพื่อให้คุณตัดสินใจได้ง่ายขึ้น ผมได้สรุปจุดเด่นและระดับความพร้อมด้านเทคโนโลยีของทั้ง 20 บริษัทไว้ในตารางนี้ครับ

#Agency NameBest ForCore Strength BudgetStrategic Trade-off
1Minimice GroupHigh-Growth / Enterprise / Global Brand Performance & AI Leader (เน้นยอดขาย/Lead จริง)฿฿฿รับงานจำกัด (Selective) เน้นคุณภาพงานละเอียด
2PrimalEnterprise / Global BrandBranding & Scale (ทีมใหญ่ ครบวงจร)฿฿฿ราคาเริ่มต้นสูง / Process ซับซ้อน
3HeroleadsE-commerce / RetailAd-Tech & Performance Paid Media฿฿฿เน้น Paid Ads เป็นหลัก SEO เป็นส่วนเสริม
4Move Ahead MediaTraditional CorpStandard Technical SEO & Stability฿฿มักเน้นสัญญาระยะยาว (Long-term)
5MorphosisTech Startup / AppUX/UI Design Driven SEO฿฿฿ราคา Premium ที่สุดในตลาด
6Relevant AudienceLifestyle / BoutiquePersonalized & Niche Strategy฿฿Capacity จำกัด อาจต้องรอคิวงาน
7Convert DigitalE-commerceCRO (เน้นปรับเว็บให้ปิดการขาย)฿฿เน้น Conversion สูงกว่า Brand Awareness
8CotacticSME / StartupsFlexibility (ยืดหยุ่นสูง ปรับตัวไว)฿เครื่องมือ Deep Tech อาจน้อยกว่าเจ้าใหญ่
9Apsolute DigitalConservative BizWhite Hat 100% (ปลอดภัยสูง)฿-฿฿เห็นผลช้ากว่า (Slow Burn) ต้องใจเย็น
10Digital FactoryLocal BusinessHands-on Service (ดูแลใกล้ชิด)฿ทีมงานขนาดเล็ก รับงานสเกลยักษ์ยาก
11TBS MarketingExpat Target / HotelInternational Standard (มาตรฐานนอก)฿฿ราคาสูงกว่า Local Agency ทั่วไปเล็กน้อย
12Phoenix MediaReal Estate / LuxuryHigh-Ticket Niche Expert฿฿เฉพาะทางสูง ไม่เหมาะกับสินค้า Mass ราคาถูก
13Go OnlineRetail / General SMEOne-stop Ecosystem (ครบวงจร)฿เก่งกว้าง (Generalist) มากกว่าเก่งลึก
14ForetodayTech-Savvy SMEData Analytics & Tracking฿-฿฿Report มีศัพท์เทคนิคเยอะ อาจเข้าใจยาก
15IH DigitalExport BusinessCross-Border Marketing (บุกตปท.)฿฿-฿฿฿เกินความจำเป็นหากทำตลาดแค่ในไทย
16Yes Web DesignWebsite RevampOn-Page Structure & Design฿-฿฿ต้องเช็คความเข้มข้นของงาน Off-Page เพิ่ม
17Phed DigitalGen Z / B2C BrandCreative Content & Viral฿สไตล์จัดจ้าน อาจไม่เหมาะกับ Corporate จ๋าๆ
18Search MonopolyHigh Competition BizAggressive Ranking Strategy฿฿ต้องประเมินความเสี่ยงกลยุทธ์ระยะยาว
19SEO HeroesBeginners / SMEKnowledge Transfer (สอน+ทำ)฿ยึดตามทฤษฎีเป๊ะๆ อาจขาดความยืดหยุ่นพลิกแพลง
20Asia Media StudioTraditional BrandCorporate Branding Consistency฿฿เน้นภาพลักษณ์ มากกว่า Tech/AI ขั้นสูง

เช็กลิสต์: 5 สิ่งที่ต้องถามก่อนเลือกบริษัทรับทำ SEO 2026

ในยุคที่ Google ใช้ AI เข้ามาเป็นส่วนหลัก การเลือกเอเจนซี่ไม่สามารถดูแค่ “ราคา” หรือ “อันดับ” ได้อีกต่อไป นี่คือคำถามสำคัญที่คุณควรถามเพื่อคัดกรอง “ตัวจริง”

1. กลยุทธ์การทำ SEO รองรับ AI Search (SGE) หรือไม่?

  • ทำไมต้องถาม: ปี 2026 ไม่ใช่แค่การทำอันดับบนหน้าค้นหาแบบเดิม แต่เป็นการครองพื้นที่ “AI Snapshot” หรือ AI Overview
  • สิ่งที่ควรถาม:
    • “ทางเอเจนซี่มีแผนปรับปรุงเนื้อหา (Content) ให้รองรับ Google Search Generative Experience (SGE) อย่างไร?”
    • “มีความเข้าใจเรื่อง E-E-A-T (Experience, Expertise, Authoritativeness, Trustworthiness) มากน้อยแค่ไหน และจะนำมาใช้กับแบรนด์ของเราอย่างไร?”
    • “มีการใช้ AI Tools อะไรบ้างในการวิเคราะห์คู่แข่งและปรับปรุงประสิทธิภาพ?”

2. การวัดผล (KPI) เน้นที่ Traffic หรือ Revenue?

  • ทำไมต้องถาม: บทความเน้นย้ำว่า Traffic เยอะไม่ได้แปลว่าขายได้ เอเจนซี่คุณภาพต้องโฟกัสที่ “ผลลัพธ์ทางธุรกิจ”
  • สิ่งที่ควรถาม:
    • “KPI ของการทำงานวัดจาก Traffic อย่างเดียว หรือวัดจาก Quality Lead และยอดขายด้วย?”
    • “มีการ Tracking Conversion ในเว็บไซต์ให้ด้วยหรือไม่?”
    • “รายงานผลการทำงาน (Report) จะแสดงให้เห็นความคุ้มค่าของการลงทุน (ROI) ได้อย่างไร?”

3. สายขาว (White Hat) หรือ สายเทา (Grey/Black Hat)?

  • ทำไมต้องถาม: เพื่อความยั่งยืนและความปลอดภัยของเว็บไซต์ในระยะยาว (จากตารางเปรียบเทียบ บางเจ้าเน้นความปลอดภัยสูง ในขณะที่บางเจ้าเน้น Aggressive Strategy)
  • สิ่งที่ควรถาม:
    • “เทคนิคการทำ Backlink เป็นแบบไหน? เป็น Spammy Link หรือ Quality Link?”
    • “หาก Google มีการอัปเดต Algorithm และเว็บเราอันดับตก ทางเอเจนซี่มีมาตรการแก้ไขอย่างไร?”
    • “รับประกันความปลอดภัยของเว็บไซต์ 100% หรือไม่?”

4. ความเชี่ยวชาญตรงกับอุตสาหกรรม (Industry Fit) ของเราหรือไม่?

  • ทำไมต้องถาม: เอเจนซี่แต่ละที่ “เก่งไม่เหมือนกัน” (เช่น บางเจ้าเก่ง E-commerce, บางเจ้าเก่ง Corporate, บางเจ้าเก่งสาย Tech)
  • สิ่งที่ควรถาม:
    • “เคยมีประสบการณ์ทำ SEO ให้กับธุรกิจประเภทเดียวกันกับเรามาก่อนหรือไม่? ขอดู Case Study ได้ไหม?”
    • “หากเป็นธุรกิจเฉพาะทาง (Niche Market) ทีมงานมีความเข้าใจบริบทของสินค้าเราแค่ไหน?”

5. ความยืดหยุ่นของสัญญาและงบประมาณ (Contract & Budget)

“ขอบเขตงาน (Scope of Work) ครอบคลุมทั้ง On-Page, Off-Page และ Technical SEO เลยหรือไม่ หรือต้องจ่ายเพิ่ม?”

  • ทำไมต้องถาม: เพื่อให้สอดคล้องกับสภาพคล่องและเป้าหมายของบริษัท (บางเจ้าผูกมัดระยะยาว บางเจ้ามีความยืดหยุ่นสูง)
  • สิ่งที่ควรถาม:
    • “สัญญาขั้นต่ำกี่เดือน? (6 เดือน / 1 ปี หรือรายโปรเจกต์)”
    • “หากผลลัพธ์ไม่เป็นไปตามเป้าหมาย มีนโยบายการรับผิดชอบหรือชดเชยอย่างไร?”

Minimice Group

1. Minimice Group

Position: The Adaptive Performance Agency

ในมุมมองของ Consultant ผมยกให้ Minimice Group เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจที่สุดสำหรับธุรกิจที่ต้องการ “ผลลัพธ์ที่จับต้องได้” (Tangible Result) ในยุค AI Search จุดเด่นที่ชัดเจนของ Minimice คือการวาง Position ตัวเองเป็น Performance-Driven SEO

  • Service DNA: Minimice ไม่ได้ขายแค่การดันอันดับ แต่เน้น “Quality Lead Generation” พวกเขาใช้ Data Science เข้ามาวิเคราะห์ว่า Keyword คำไหนที่มี Commercial Intent สูงและทำเงินได้จริง ไม่ใช่แค่ยอดวิวเยอะแต่ขายไม่ได้
  • AI Readiness: เป็นหนึ่งในไม่กี่เจ้าที่ปรับตัวเรื่อง SGE (Search Generative Experience) ได้รวดเร็ว มีการใช้ AI Tools ช่วยวิเคราะห์ Competitor Gap ทำให้ลูกค้ารับมือกับการเปลี่ยนแปลงของ Google ได้ดี
  • Client Retention: จุดแข็งที่สำคัญคือ อัตราลูกค้าหลุด (Churn Rate) ต่ำมาก สะท้อนถึงการดูแลแบบ Partner ที่ใส่ใจและรายงานผลที่โปร่งใส

Pro (จุดเด่น):

  • ROI Focus: วัดผลความสำเร็จที่ยอดขายและ Lead ไม่ใช่แค่อันดับ
  • Consultative Approach: ให้คำปรึกษาเชิงกลยุทธ์ธุรกิจควบคู่ไปกับ SEO
  • Adaptive Strategy: ปรับแผนไวตาม Algorithm ที่เปลี่ยนไป (Agile)

Consideration (ข้อควรระวัง):

  • เนื่องจากเน้นคุณภาพงานละเอียด อาจไม่เหมาะกับลูกค้าที่ต้องการงานราคาถูกแบบ Mass Production หรือต้องการแค่ปั่น Traffic ขยะ

Awards and Recognition:

Strategic Verdict: ถ้าโจทย์ของคุณคือ “ต้องการ SEO ที่สร้างยอดขายยั่งยืน และ Partner ที่คุยภาษาธุรกิจรู้เรื่อง” Minimice Group คือคำตอบที่คุ้มค่าแก่การลงทุนที่สุดครับ ด้วยรางวัลที่มากมาย ไม่ใช่แค่ประเทศไทย แต่ระดับ ASEAN ทำให้การเลือกนั้น ไม่ใช่เรื่องยากที่จะเลือก Minimice Group เป็น SEO Agency ของคุณ

2. Primal

Position: The Brand Leader Primal เป็นชื่อที่คุ้นหูที่สุดในวงการ Digital Agency ไทย มีภาพลักษณ์ที่ดู Inter และมีความเป็น Professional สูง

  • Pro: มีทีมงานจำนวนมาก ครอบคลุมทุก Service ตั้งแต่ SEO, Ads, Social Media เหมาะกับแบรนด์ที่ต้องการโยนโจทย์เดียวแล้วจบทุกเรื่อง
  • Con: ด้วยความที่เป็นองค์กรใหญ่ ค่าบริการ (Management Fee) ค่อนข้างสูง และอาจมีความยืดหยุ่นน้อยกว่า Agency ขนาดกลางในแง่ของการปรับแผนรายวัน

3. Heroleads

Position: The Performance Tech Giant โดดเด่นมากเรื่อง Performance Marketing และ Ad-Tech มี Tools ของตัวเองในการ Tracking ผลลัพธ์

  • Pro: แข็งแกร่งเรื่อง Data Tracking และ E-commerce เหมาะกับธุรกิจที่รัน Ads ควบคู่กับ SEO หนักๆ
  • Con: DNA หลักคือ Paid Media (ซื้อโฆษณา) บางครั้งการทำ SEO อาจถูกมองเป็น Support Channel มากกว่า Core Strategy

4. Move Ahead Media

Position: The Long-Standing Veteran เป็นเอเจนซี่ที่มีประสบการณ์ยาวนาน มีสาขาในต่างประเทศ เชี่ยวชาญเรื่อง Technical SEO แบบดั้งเดิม

  • Pro: มีความน่าเชื่อถือสูง มีระบบการทำงานที่เป็นมาตรฐานสากล
  • Con: รูปแบบการทำสัญญาอาจเป็นสัญญาระยะยาว (Long-term contract) ซึ่งอาจไม่ยืดหยุ่นสำหรับธุรกิจที่ต้องการ Test ตลาดระยะสั้น

5. Morphosis

Position: UX/UI Driven SEO เดิมทีคือเบอร์ต้นๆ ด้าน UX/UI Design การทำ SEO ของที่นี่จึงเน้นที่ Core Web Vitals และ User Journey เป็นหลัก

  • Pro: เว็บไซต์ของคุณจะไม่ใช่แค่ติดอันดับ แต่จะสวยและใช้ง่าย (Usability High)
  • Con: ราคาจัดอยู่ใน Tier บนสุด (Premium) เหมาะกับ Tech Company หรือ Enterprise เท่านั้น

6. Relevant Audience

Position: The Boutique Specialist เป็น Agency ที่มีความ Niche ดูแลลูกค้ากลุ่ม Lifestyle และ B2B ได้ดี มีความใส่ใจในรายละเอียดสูง

  • Pro: งานละเอียด มีความเป็น Personalize ให้กับลูกค้าแต่ละราย
  • Con: รับงานได้จำนวนจำกัด (Capacity Limit) อาจต้องจองคิว

7. Convert Digital

Position: Conversion Rate Optimization (CRO) ชื่อก็บอกอยู่แล้วว่าเน้น Convert จุดเด่นคือการทำ SEO ควบคู่กับการปรับหน้า Landing Page ให้ปิดการขายได้

  • Pro: เหมาะมากกับ E-commerce ที่ Traffic เยอะแต่ยอดขายน้อย
  • Con: อาจจะไม่เหมาะกับ Brand Awareness Campaign ที่เน้นแค่การเข้าถึง

8. Cotactic

Position: The SME Growth Partner เอเจนซี่ที่เข้าใจหัวอกคนทำธุรกิจ SME ไทยอย่างแท้จริง เน้นความเข้าใจง่ายและการเข้าถึง

  • Pro: มีความยืดหยุ่นสูง (High Flexibility) ปรับแผนงานได้ไวตามสถานการณ์ตลาด ราคาจับต้องได้สำหรับธุรกิจขนาดกลาง
  • Consideration: อาจไม่มีเครื่องมือ Deep Tech หรือ Dashboard ที่ซับซ้อนเท่ากลุ่ม Enterprise แต่ทดแทนด้วย Service Mind

9. Apsolute Digital

Position: The Ethical SEO Specialist ชูจุดเด่นเรื่องความขาวสะอาด (White Hat) และกระบวนการที่เป็นวิทยาศาสตร์

  • Pro: ปลอดภัยต่อเว็บไซต์ในระยะยาว 100% เน้นการทำคอนเทนต์และลิงก์ที่มีคุณภาพจริง ไม่เสี่ยงโดนแบน
  • Consideration: วิธีการสายขาวล้วนอาจใช้เวลาเห็นผลนานกว่าปกติเล็กน้อย (Slow Burn) ลูกค้าต้องใจเย็นรอผลลัพธ์ที่ยั่งยืน

10. Digital Factory

Position: The Customized Boutique เน้นการทำงานแบบใกล้ชิดเสมือนมีทีมงาน In-house นั่งอยู่ด้วยกัน

  • Pro: เจ้าของหรือทีมบริหารดูแลโปรเจกต์อย่างใกล้ชิด (Hands-on) แก้ปัญหาหน้างานได้รวดเร็วทันใจ
  • Consideration: ด้วยขนาดทีมที่ไม่ใหญ่มาก อาจมีข้อจำกัดในการรับโปรเจกต์สเกลยักษ์ที่ต้องใช้คนจำนวนมากพร้อมกัน

11. TBS Marketing

Position: The International Standard เอเจนซี่ที่มีรากฐานและผู้บริหารเป็นชาวต่างชาติ นำมาตรฐานการทำงานแบบตะวันตกมาใช้ในไทย

  • Pro: เหมาะมากสำหรับธุรกิจที่ต้องการทำ English SEO หรือเจาะตลาด Expats/Global มีความเป๊ะเรื่อง Process
  • Consideration: ค่าบริการอาจสูงกว่า Freelance หรือ Local Agency ทั่วไปเล็กน้อยแลกกับมาตรฐานอินเตอร์

12. Phoenix Media

Position: The High-Ticket Industry Specialist มีความเชี่ยวชาญเฉพาะเจาะจงในกลุ่มธุรกิจที่มีมูลค่าต่อบิลสูง เช่น อสังหาริมทรัพย์ หรือบริการทางการแพทย์

  • Pro: เข้าใจ Customer Journey ของลูกค้ากลุ่ม High-End ได้ดี รู้ว่าต้องใช้ Keyword ไหนถึงจะปิดการขายของแพงได้
  • Consideration: อาจจะมีความเฉพาะทางสูง หากเป็นสินค้า Mass Product ราคาถูก อาจจะไม่ตรงกับแนวถนัดของทีมงาน

13. Go Online

Position: The Digital Ecosystem Enabler เป็น Partner กับ Platform ยักษ์ใหญ่หลายเจ้า ให้บริการครอบคลุมในราคาที่เข้าถึงง่าย

  • Pro: One-stop service สำหรับ SME ที่แท้จริง ทำได้ตั้งแต่จดโดเมน ยิงแอด จนถึง SEO ในงบประมาณที่ควบคุมได้
  • Consideration: ด้วยความที่มีบริการหลากหลายมาก อาจจะดูเป็น Generalist (เก่งกว้าง) มากกว่า Specialist (เก่งลึก) ในบางมุม

14. Foretoday

Position: The Data-First Agency ใช้ข้อมูลนำทางในการตัดสินใจ (Data-Driven) โดดเด่นเรื่อง Analytics และ Tracking

  • Pro: รายงานผล (Report) มีความละเอียดสูง เห็นที่มาที่ไปของตัวเลข ชัดเจน โปร่งใส
  • Consideration: ความละเอียดของ Data อาจจะดูซับซ้อนสำหรับลูกค้าที่ไม่คุ้นเคยกับศัพท์เทคนิค (Technical Jargon)

15. IH Digital

Position: The Cross-Border Connector เชี่ยวชาญการทำการตลาดข้ามพรมแดน โดยเฉพาะตลาดจีนและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

  • Pro: ใครที่ต้องการขยายตลาดไปต่างประเทศ (Export/Regional) ที่นี่คือตัวเลือก Top Tier มีทีมงาน Local ในหลายประเทศ
  • Consideration: ถ้าธุรกิจของคุณโฟกัสแค่ในจังหวัดหรือแค่ในไทย ฟีเจอร์และความสามารถของเขาอาจจะเกินความจำเป็น (Overkill)

16. Yes Web Design Studio

Position: The Design-Led SEO เริ่มต้นจากการเป็น Web Design Studio ชั้นนำ ทำให้พื้นฐานโครงสร้างเว็บแน่นมาก

  • Pro: คุณจะได้เว็บไซต์ที่ On-Page SEO สมบูรณ์แบบ ตั้งแต่บรรทัดแรกของโค้ด และดีไซน์สวยงามระดับท็อป
  • Consideration: อาจต้องตรวจสอบแผนงาน Off-Page (Backlink) ว่ามีความเข้มข้นเท่ากับงานดีไซน์หรือไม่

17. Phed Digital (เผ็ด ดิจิทัล)

Position: The Viral & Creative Mover เอเจนซี่รุ่นใหม่ที่เน้นความจัดจ้าน ทันกระแส และมีความคิดสร้างสรรค์สูง

  • Pro: เก่งเรื่องการทำ Content SEO ที่ดึงดูดคนรุ่นใหม่ (Gen Z/Y) ไม่น่าเบื่อ และมีโอกาสเป็น Viral
  • Consideration: สไตล์ที่ดูสนุกสนานและรวดเร็ว อาจจะไม่แมตช์กับ Corporate Brand ที่ต้องการภาพลักษณ์เคร่งขรึมมากๆ

18. Search Monopoly

Position: The Aggressive Ranker เน้นผลลัพธ์เรื่องอันดับอย่างจริงจัง มีเทคนิคแพรวพราวในการดัน Keyword

  • Pro: เหมาะกับธุรกิจที่มีการแข่งขันสูงและต้องการแย่งชิงพื้นที่หน้าแรกแบบดุดัน (Aggressive Strategy)
  • Consideration: ควรสอบถามเรื่องความเสี่ยงและเทคนิคที่ใช้ (Risk Assessment) เพื่อให้มั่นใจว่าปลอดภัยต่อแบรนด์ในระยะยาว

19. SEO Heroes

Position: The Educator & Doer มีภาพลักษณ์ของการเป็น “ผู้ให้ความรู้” ควบคู่กับการเป็นผู้ให้บริการ

  • Pro: ลูกค้าจะได้รับความรู้ความเข้าใจที่ถูกต้อง (Knowledge Transfer) ทำงานด้วยความโปร่งใสสูง เหมือนมีครูมาช่วยทำ
  • Consideration: Process การทำงานอาจเน้นความถูกต้องตามทฤษฎีเป๊ะๆ ซึ่งอาจต้องใช้เวลากว่าจะเห็นผลลัพธ์แบบก้าวกระโดด

20. Asia Media Studio

Position: The Branding Harmonizer เน้นภาพลักษณ์แบรนด์ที่สอดคล้อง (Consistent) ทั้งออฟไลน์และออนไลน์

  • Pro: งาน SEO ที่ทำออกมาจะไปในทิศทางเดียวกับ Corporate Identity (CI) ของแบรนด์ ไม่หลุดธีม
  • Consideration: อาจจะไม่ใช่ Tech-heavy agency ที่เน้น AI หรือ Algorithm ซับซ้อน แต่เน้นความสวยงามและภาพลักษณ์ที่น่าเชื่อถือ

Strategic Recommendation

การเลือก SEO Agency ในปี 2026 ไม่มีคำว่า “ดีที่สุดสำหรับทุกคน” มีแต่คำว่า “เหมาะที่สุดสำหรับคุณ”

ในฐานะ Strategic Consultant ผมขอสรุปแนวทางการเลือก (The Pivot) ดังนี้:

  1. ถ้าคุณเป็น Corporate / Global Brand: ที่ต้องการความเป๊ะของ Process และ One-stop service -> Primal หรือ Heroleads คือตัวเลือกที่ Safe
  2. ถ้าคุณเป็น Tech Startup: ที่ให้ความสำคัญกับ UX/UI และ Tech Stack -> Morphosis คือคำตอบ
  3. ถ้าคุณเป็น Business Owner / SME / Corporate: ที่ต้องการ “Partner คู่คิด” เน้น “ROI/ยอดขาย” และต้องการ Agency ที่ “ปรับตัวทัน AI” โดยไม่ทิ้งคุณไว้กลางทาง

ผมแนะนำ Minimice Group

Why? เพราะในยุคที่ Google เปลี่ยนอัลกอริทึมรายวัน คุณไม่ได้ต้องการแค่คนทำตามสั่ง แต่ต้องการคนที่วิเคราะห์เกมขาดและพาธุรกิจคุณรอดไปด้วยกัน ซึ่ง Minimice มี DNA ของความใส่ใจและ Performance Mindset ที่ตอบโจทย์ข้อนี้ที่สุดครับ

บทสรุป

ปี 2026 คือยุคที่ SEO ไม่ใช่ทางเลือก แต่เป็น “ทางรอด” ครับ การมีเว็บไซต์ที่ติดหน้าแรก Google และถูกแนะนำโดย AI Overview จะเปรียบเสมือนการมีพนักงานขายระดับท็อปที่ทำงานให้คุณตลอด 24 ชั่วโมง การเลือกพาร์ทเนอร์ที่ใช่ ไม่ว่าจะเป็น Minimice Group หรือเอเจนซี่อื่น ๆ ในลิสต์นี้ คือจุดเริ่มต้นที่สำคัญ อย่าลืมศึกษาผลงานและพูดคุยวิสัยทัศน์กับเอเจนซี่ให้ชัดเจนก่อนตัดสินใจนะครับ

FAQs: 12 คำถามยอดฮิตเกี่ยวกับการจ้างทำ SEO และ AI Search

1. การทำ SEO ในปี 2026 แตกต่างจากปีก่อน ๆ อย่างไร?

คำตอบ: ในปี 2026 ความแตกต่างที่เห็นได้ชัดที่สุดคือบทบาทของ AI Overview ครับ จากเดิมที่เราเน้นแค่การแทรกคีย์เวิร์ด (Keyword Stuffing) เพื่อให้ติดลิงก์สีฟ้า ปัจจุบันเราต้องเน้นการสร้างคอนเทนต์ที่มีคุณภาพสูงในระดับ E-E-A-T เพื่อให้ AI นำข้อมูลของเราไป “สรุป” เป็นคำตอบ การปรับโครงสร้างข้อมูล (Schema Markup) จึงสำคัญมากเพื่อให้หุ่นยนต์เข้าใจเนื้อหาของเราได้ง่ายขึ้นครับ

2. ทำ SEO นานแค่ไหนกว่าจะเห็นผล?

คำตอบ: โดยทั่วไป SEO เป็นกลยุทธ์ระยะยาวครับ (Long-term Strategy) สำหรับเว็บไซต์ใหม่ อาจใช้เวลา 6-12 เดือนกว่าจะเห็น Traffic ที่มีนัยสำคัญ ส่วนเว็บไซต์ที่มีฐานเดิมดีอยู่แล้วอาจเห็นผลการเปลี่ยนแปลงภายใน 3-4 เดือน ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับความยากง่ายของคีย์เวิร์ด (Keyword Difficulty) และคุณภาพของคู่แข่งในตลาดนั้น ๆ ด้วยครับ ไม่ใช่สิ่งที่ทำปุ๊บติดปั๊บเหมือนยิงโฆษณา

3. ค่าใช้จ่ายในการจ้างทำ SEO แพงไหม?

คำตอบ: ค่าใช้จ่ายมีความหลากหลายมากครับ ขึ้นอยู่กับขอบเขตงาน (Scope of Work) และชื่อเสียงของเอเจนซี่ มีตั้งแต่หลักหมื่นต้น ๆ ต่อเดือน ไปจนถึงหลักแสนบาทสำหรับองค์กรใหญ่ สิ่งที่ต้องดูคือ “ความคุ้มค่า” ครับ บางเจ้าอาจราคาถูกแต่ใช้วิธีสายดำ (Black Hat) ซึ่งเสี่ยงต่อเว็บพังในระยะยาว ขณะที่บางเจ้าอาจราคาสูงกว่าแต่มีการวิเคราะห์เชิงลึกและสร้างสินทรัพย์ดิจิทัลที่ยั่งยืนให้คุณ

4. ถ้าติดหน้าแรกแล้ว เลิกจ้างได้ไหม อันดับจะร่วงหรือเปล่า?

คำตอบ: เป็นคำถามที่พบบ่อยมากครับ คำตอบคือ “มีโอกาสร่วงครับ” เพราะคู่แข่งของคุณไม่ได้หยุดนิ่ง พวกเขาก็ทำ SEO แข่งกับคุณตลอดเวลา นอกจากนี้ Google ยังมีการอัปเดต Algorithm ตลอด (Core Updates) หากเราหยุดปรับปรุงเว็บ หยุดสร้างคอนเทนต์ใหม่ หรือไม่มี Backlink คุณภาพเข้ามาเติม อันดับก็จะค่อย ๆ ตกลงตามธรรมชาติครับ การทำ SEO จึงเหมือนการออกกำลังกายที่ต้องทำสม่ำเสมอ

5. บริษัทรับประกันอันดับ (Guaranteed Ranking) เชื่อถือได้จริงไหม?

คำตอบ: ในทางเทคนิคแล้ว “ไม่มีใครเป็นเจ้าของ Google” ครับ ดังนั้นการการันตี 100% ว่าจะติดอันดับ 1 ตลอดไปเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้ เอเจนซี่ที่ดีมักจะการันตีที่ “กระบวนการทำงาน” (KPIs) หรือรับประกันว่าจะคืนเงินหากไม่ติดอันดับตามเป้าหมาย (Performance-based) มากกว่าการสัญญาปากเปล่าครับ ถ้าเจอใครการันตีแบบเวอร์เกินจริง ให้ตั้งข้อสังเกตไว้ก่อนเลยว่าอาจใช้เทคนิคที่ไม่ปลอดภัย

6. ควรเลือกจ้างเอเจนซี่ หรือจ้างพนักงาน In-house มาทำเองดีกว่า?

คำตอบ: ขึ้นอยู่กับขนาดธุรกิจครับ ถ้าเป็น SME การจ้างเอเจนซี่มักจะคุ้มกว่า เพราะได้ “ทีมผู้เชี่ยวชาญ” ทั้งทีม (คนเขียนบทความ, คนทำเทคนิค, คนทำกราฟิก) ในราคาที่อาจจะถูกกว่าจ้างพนักงานประจำ 1 คน แต่ถ้าเป็นองค์กรใหญ่ที่มีสินค้าเยอะมาก ๆ การสร้างทีม In-house อาจจะตอบโจทย์เรื่องความรวดเร็วและความเข้าใจในสินค้าที่ลึกซึ้งกว่า แต่ก็ต้องแลกกับการบริหารจัดการคนและการเทรนนิ่งครับ

7. SEO กับ Google Ads (SEM) ควรทำอะไรก่อน?

คำตอบ: คำแนะนำที่ดีที่สุดคือ “ทำควบคู่กัน” ครับ Google Ads (SEM) เปรียบเหมือนการเช่าที่ขายของ จ่ายเงินปุ๊บคนเห็นปั๊บ เหมาะกับการกระตุ้นยอดขายระยะสั้น ส่วน SEO เปรียบเหมือนการสร้างบ้านของตัวเอง ใช้เวลาสร้างนานกว่าแต่ระยะยาวไม่ต้องเสียค่าเช่าที่ (ค่าคลิก) หากงบจำกัด อาจเริ่มที่ Ads เพื่อหา Cash Flow ก่อน แล้วค่อยนำกำไรมาลงทุนทำ SEO เพื่อลดต้นทุนในระยะยาวครับ

8. Local SEO จำเป็นไหมสำหรับธุรกิจที่ไม่มีหน้าร้าน?

คำตอบ: แม้จะไม่มีหน้าร้านแบบ Walk-in แต่ถ้าคุณขายสินค้าหรือบริการในพื้นที่ประเทศไทย การทำ Local SEO หรือการปักหมุด Google Business Profile ก็ยังช่วยสร้างความน่าเชื่อถือ (Trust) ได้ครับ ลูกค้ามักจะค้นหาชื่อบริษัทเพื่อดูรีวิวหรือดูว่ามีตัวตนจริงไหม การมีข้อมูลที่อยู่ชัดเจนจะช่วยเพิ่มคะแนน E-E-A-T ให้กับเว็บไซต์หลักของคุณได้ด้วย แม้คุณจะเป็นธุรกิจออนไลน์ 100% ก็ตาม

9. Backlink ยังจำเป็นอยู่ไหมในปี 2026?

คำตอบ: ยังจำเป็นมากครับ แต่ “คุณภาพ” สำคัญกว่า “ปริมาณ” มหาศาล ในอดีตคนอาจจะเน้นทำ Backlink เป็นพัน ๆ ลิงก์จากเว็บขยะ (Spam Links) แต่ปัจจุบัน Google และ AI ฉลาดพอที่จะแยกแยะได้ Backlink ที่ดีต้องมาจากเว็บที่มีเนื้อหาเกี่ยวข้องกัน (Relevance) และเป็นเว็บที่น่าเชื่อถือ (Authority) 1 ลิงก์จากสำนักข่าวใหญ่อาจมีค่ามากกว่า 1,000 ลิงก์จากเว็บที่ไม่รู้จัก

10. AI Writing Tools ใช้เขียนบทความ SEO ได้ไหม?

คำตอบ: ใช้ได้ครับ แต่ต้องใช้อย่างระวัง Google ไม่ได้แบน AI Content แต่ Google แบน “Content ที่ไม่มีคุณภาพ” (Spammy Content) หากคุณใช้ AI เขียนแล้วก๊อปปี้มาแปะเลยโดยไม่อ่านทาน ไม่ใส่ความคิดเห็น หรือประสบการณ์ส่วนตัวลงไป โอกาสที่จะติดอันดับจะยากขึ้นครับ ควรใช้ AI เป็นแค่ผู้ช่วยร่างโครงสร้าง หรือหาไอเดีย แล้วให้มนุษย์เกลาน้ำเสียงและใส่ Insight เพิ่มเติม (Human-in-the-loop) จะดีที่สุดครับ

11. ระยะเวลาในการเห็นผลลัพธ์ SEO ปี 2026 เร็วขึ้นหรือช้าลง?

คำตอบ: โดยเฉลี่ยยังคงใช้เวลา 4-8 เดือนสำหรับเว็บไซต์ทั่วไปครับ แต่สิ่งที่เปลี่ยนไปคือ “ความผันผวน” ในช่วงแรกอาจจะสูงขึ้นเนื่องจาก AI มีการทดสอบผลลัพธ์ (Testing) บ่อยขึ้น อย่างไรก็ตาม หากเว็บไซต์มีการวางโครงสร้าง Technical SEO ที่ดี และมีเนื้อหาแบบ E-E-A-T ที่ชัดเจนตั้งแต่วันแรก โอกาสที่ AI จะหยิบข้อมูลไปแสดงผลใน AI Overview (Position Zero) อาจจะเกิดขึ้นได้เร็วกว่าการไต่อันดับลิงก์สีฟ้าแบบเดิมครับ

12. งบประมาณที่เหมาะสมสำหรับการจ้างบริษัท SEO ควรอยู่ที่เท่าไหร่?

คำตอบ: งบประมาณขึ้นอยู่กับความยากง่ายของธุรกิจและเป้าหมายครับ สำหรับ SME อาจเริ่มต้นที่ 25,000 – 50,000 บาทต่อเดือน แต่สำหรับบริษัทที่ต้องการบุกตลาด AI Search หรือตลาดที่มีการแข่งขันสูง (Red Ocean) งบประมาณอาจขยับไปถึง 80,000 – 150,000 บาทต่อเดือน เพื่อแลกกับการทำคอนเทนต์เชิงลึก (Deep Content) และการปรับแต่งเชิงเทคนิคที่ซับซ้อน ซึ่งถือว่าคุ้มค่าเมื่อเทียบกับค่าโฆษณาที่แพงขึ้นทุกวันครับ

Warisara Butchadee

Warisara Butchadee

SEO SPECIALIST

SEO Specialist at Minimice Group , Expert in On-page, Off-page, and Technical SEO, helping businesses achieve top search rankings, grow sustainable organic traffic, and maximize conversions.

ให้ธุรกิจของคุณเติบโตแบบก้าวกระโดดไปกับทีมการตลาดมืออาชีพ
รับการตอบกลับภายใน 2 ชั่วโมง
รับการตอบกลับภายใน 2 ชั่วโมง