9-technique-to-rank-on-facebook

9 วิธีทำ SEO Facebook ปั้นเพจติดหน้าแรก Facebook ในปี 2026

Table of Contents

ถ้าคุณกำลังอ่านบทความนี้ เชื่อว่าคุณคงเจอปัญหาเดียวกัน: “โพสต์แทบตาย แต่ยอด Reach ต่ำเตี้ยเรี่ยดิน” หรือ “ลูกค้าค้นหาชื่อแบรนด์ใน Google แล้วไม่เจอเพจเรา” ใช่ไหม?

ในปี 2026 นี้ การพึ่งพาแค่ Organic Reach ของ Facebook อย่างเดียวนั้นแทบเป็นไปไม่ได้ และการยิง Ads ก็แพงหูฉี่ ทางรอดเดียวที่ยั่งยืนที่สุดคือการทำ Facebook SEO (Search Engine Optimization) เพื่อให้ AI ของทั้ง Google และ Facebook มองเห็นว่าเพจของคุณคือ “ตัวจริง” ในเรื่องนั้นๆ

วันนี้เราจะมาเจาะลึกเทคนิคที่ Minimice Group ใช้จริงในการปั้นเพจลูกค้าให้ติดอันดับ โดยไม่ต้องจ่ายค่าโฆษณาแพงๆ แต่ได้ลูกค้า organic ไหลมาเทมา ลองนึกภาพตามนะ ถ้าลูกค้าค้นหาคำว่า “รับทำ…” แล้วเจอเพจคุณเป็นอันดับแรก โอกาสปิดการขายจะง่ายแค่ไหน? มาเริ่มกันเลย

🔑 Key Takeaway: สรุปแก่น Facebook SEO 2026 ใน 1 นาที

สำหรับคนที่มีเวลาน้อย นี่คือหัวใจสำคัญของการทำ Facebook SEO ในยุค AI ครองเมือง เปรียบเทียบให้เห็นชัดๆ ว่าต้องเปลี่ยนอะไรบ้าง

ปัจจัย (Factor)ยุคเก่า (Old School)ยุค 2026 (AI-Driven SEO)
ชื่อเพจ (Name)ตั้งเท่ๆ เน้นชื่อแบรนด์สั้นๆชื่อแบรนด์ + Keyword หลัก ให้ชัดเจน
เนื้อหา (Content)เน้นรูปสวย Caption สั้นๆCaption มี Keyword + Alt Text ในรูปภาพ
การค้นหา (Search)หวังผลแค่ใน Facebookหวังผลติดหน้าแรก Google (SERP) และ AI Overview
Hashtagsใส่เยอะๆ ไว้ก่อน (#fyp #viral)ใส่เฉพาะที่ เกี่ยวข้อง และเป็นคำค้นหาจริง
Backlinksไม่ค่อยสนใจเชื่อมโยงลิงก์จาก Website กลับมาที่เพจ

1. ตั้งชื่อเพจ (Page Name) ให้ AI และคนจำได้

ด่านแรกที่สำคัญที่สุดคือ “ชื่อ” หลายคนพลาดตรงที่ตั้งชื่อแบรนด์อย่างเดียวโดยไม่มี Keyword ระบุว่าทำธุรกิจอะไร ในปี 2026 AI ของ Google ฉลาดมาก มันต้องการรู้ทันทีว่าคุณคือใคร

สูตรลับคือ: [ชื่อแบรนด์] + [Main Keyword] + [จุดเด่น/สถานที่]

เช่น แทนที่จะตั้งว่า “Minimice” เฉยๆ ให้เปลี่ยนเป็น “Minimice – รับทำ SEO และการตลาดออนไลน์ ครบวงจร” การทำแบบนี้จะช่วยให้เวลาคนค้นหาคำว่า “รับทำ SEO” เพจของคุณจะมีโอกาสเด้งขึ้นมาทั้งใน Facebook Search และ Google

📌 Tips ปรับชื่อให้ปัง:

  • อย่าเปลี่ยนชื่อบ่อยเกินไป (Facebook อาจมองว่า spam)
  • วาง Keyword ตัวหลักไว้หน้าสุด หรือหลังชื่อแบรนด์ทันที
  • หลีกเลี่ยงคำฟุ่มเฟือยที่ไม่ใช่คำค้นหา เช่น “บริการด้วยใจ” (เก็บไว้ใส่ใน Bio ดีกว่า)

2. Vanity URL: สร้าง URL ให้เป็นมิตรกับ Search Engine

คุณเคยสังเกต URL เพจตัวเองไหม? ถ้ายังเป็น facebook.com/pages/minimice/1293848 แบบนี้ถือว่า “สอบตก” ในเชิง SEO เพราะ Google อ่านตัวเลขไม่ออก และไม่รู้ว่าเพจนี้เกี่ยวกับอะไร

สิ่งต้องทำคือการตั้ง Username (@Handle) ใหม่ ให้ตรงกับชื่อแบรนด์หรือ Keyword ภาษาอังกฤษ เพื่อให้ URL กลายเป็น facebook.com/minimicegroup หรือ facebook.com/seo-bangkok ซึ่ง URL แบบนี้ Google จะเก็บ Index ได้ง่ายกว่า และดูน่าเชื่อถือกว่ามาก

📌 สรุปใจความ Username:

  • ต้องเป็นภาษาอังกฤษเท่านั้น
  • ควรมี Keyword แทรกอยู่ (ถ้าทำได้)
  • สั้น กระชับ จดจำง่าย และต้องตรงกับชื่อแบรนด์ในแพลตฟอร์มอื่น
about-us-fb

***ตัวอย่าง About section ของ Facebook

3. เขียน About Section ให้ครบเหมือนทำ Mini Website

ส่วน “เกี่ยวกับ” (About) คือจุดที่เจ้าของเพจ 90% ละเลย ทั้งที่จริงแล้ว นี่คือจุดที่ Google บอทจะเข้ามาเก็บข้อมูล (Crawl) มากที่สุด

คุณต้องใส่ข้อมูลให้ครบถ้วน โดยเฉพาะ NAPs (Name, Address, Phone) และในส่วน Description หรือ “เรื่องราว” ต้องเขียนอธิบายธุรกิจโดยแทรก Keyword ลงไปอย่างเป็นธรรมชาติ เหมือนกำลังเขียนบทความแนะนำตัว การทำแบบนี้จะช่วยเรื่อง Local SEO ได้มหาศาล

📌 Checklist ส่วน About:

  • ใส่ Location และ Map ให้ตรงเป๊ะ (ช่วยเรื่องการค้นหา “ใกล้ฉัน”)
  • เขียน Long Description ความยาว 150-300 คำ แทรก Keyword หลักและรอง
  • ใส่ลิงก์เว็บไซต์หลัก (Website URL) เพื่อสร้าง Traffic loop
alt-text-for-fb

***ตัวอย่างการใส่ Alt Text บน WordPress ใน Media>Library

4. ปรับแต่งรูปภาพด้วย Alt Text (Visual SEO)

ปี 2026 คือยุคของ Visual Search คนค้นหาด้วยภาพมากขึ้น และ AI ก็ “อ่านภาพ” ได้ แต่เราต้องช่วยมันหน่อย

Facebook มีฟีเจอร์ซ่อนอยู่ที่เรียกว่า Alternative Text (Alt Text) ซึ่งให้เราใส่คำอธิบายรูปภาพได้ อย่าปล่อยให้ Facebook เจนให้อัตโนมัติ (เช่น “image may contain 2 people”) แต่ให้เราแก้เป็น “ทีมงาน Minimice กำลังวางแผนกลยุทธ์ SEO ให้ลูกค้า” การทำแบบนี้จะทำให้รูปภาพของคุณไปติดใน Google Images ได้ด้วย

📌 Tips การใส่ Alt Text:

  • แก้ไข Alt Text ทุกครั้งก่อนกดโพสต์ (หรือแก้ทีหลังใน Edit Photo)
  • ใส่ Keyword ที่เกี่ยวข้องกับรูปภาพนั้นจริงๆ อย่า spam
  • ตั้งชื่อไฟล์รูปก่อนอัปโหลดเป็น keyword เสมอ (เช่น seo-strategy-2026.jpg แทน IMG_555.jpg)

5. Keyword Rich Captions: เขียนแคปชั่นให้ติด Index

ลืมการเขียนแคปชั่นสั้นๆ 2 บรรทัดไปก่อน ถ้าอยากติด SEO คุณต้องเขียนแคปชั่นที่มี “เนื้อหา” (Substance) เพราะ Google จะ Index ข้อความ 1-2 บรรทัดแรกของโพสต์ไปแสดงผล

เทคนิคคือ ให้เอา Main Keyword ไว้ในบรรทัดแรก เสมอ แล้วตามด้วยเนื้อหาที่มีประโยชน์ (Value Content) การเขียนยาวไม่ใช่เรื่องผิด ถ้าเนื้อหานั้นดีจริงและมี Keyword กระจายตัวอยู่อย่างเหมาะสม (Natural Density)

📌 สรุปใจความการเขียน Caption:

  • บรรทัดแรก = Headline (พาดหัว) ต้องมี Keyword
  • ใช้ Bullet point ในแคปชั่นเพื่อให้อ่านง่าย
  • จบท้ายด้วยคำถามเพื่อกระตุ้น Comment (Engagement ส่งผลต่อ SEO ทางอ้อม)

6. Hashtag Engineering: ใช้อย่างมีกลยุทธ์ ไม่ใช่หว่านแห

Hashtag (#) ใน Facebook ทำหน้าที่เหมือนตู้เก็บเอกสาร ถ้าติดมั่วๆ โพสต์ของคุณก็จะไปอยู่ในตู้ที่ไม่มีคนเปิด ในปี 2026 Facebook ปรับปรุงระบบค้นหาผ่าน Hashtag ให้แม่นยำขึ้นมาก

อย่าใช้ Hashtag ตามกระแสที่ไม่เกี่ยวกัน (เช่น #โหนกระแส ทั้งที่ขายครีม) แต่ให้ใช้สูตร 2-3-2:

  • 2 Broad Keywords: คำกว้างๆ (เช่น #SEO #DigitalMarketing)
  • 3 Niche Keywords: คำเจาะจง (เช่น #รับทำSEOสายขาว #สอนSEO)
  • 2 Brand Keywords: ชื่อแบรนด์ของคุณ (เช่น #MinimiceGroup)

📌 Tips การใช้ Hashtag:

  • อย่าใส่เกิน 7-10 hashtags ต่อโพสต์ (มากไปดูรกและ spam)
  • แทรก hashtag ในประโยคได้เลยถ้ามันเนียนไปกับเนื้อหา
  • เช็คดูว่า hashtag นั้นมีคนค้นหาจริงหรือไม่ในช่อง Search

7. Backlinking Strategy: สร้างสะพานเชื่อมความน่าเชื่อถือ

นี่คือเทคนิคระดับโปรที่คู่แข่งคุณอาจไม่รู้ Google ให้คะแนนความน่าเชื่อถือ (Authority) จากลิงก์ที่ชี้มาหาเพจ (Backlink)

ถ้าคุณมีเว็บไซต์หลัก (เช่น minimicegroup.co.th) ให้เขียนบทความแล้วลิงก์กลับมาที่ Facebook Post หรือฝัง (Embed) โพสต์นั้นลงในหน้าเว็บ การทำแบบนี้เป็นการบอก Google ว่า “โพสต์นี้สำคัญนะ” และช่วยดันอันดับเพจให้สูงขึ้นกว่าเพจที่ไม่มี Backlink เลย

📌 สรุปใจความ Backlink:

  • Embed โพสต์วิดีโอหรืออัลบั้มรูป ลงใน Blog ของเว็บไซต์
  • แปะลิงก์ Facebook Page ไว้ใน Footer ของเว็บไซต์
  • แชร์ลิงก์เพจไปที่ Social Media อื่นๆ (Twitter, LinkedIn, Pinterest)

8. Engagement Signals: ยิ่งคุยเยอะ ยิ่งติดอันดับ

ในมุมมองของ Algorithm ทั้ง Google และ Facebook “คอมเมนต์” มีค่ามากกว่า “ไลก์” การที่มีการถกเถียง พูดคุย หรือสอบถามในโพสต์ เป็นสัญญาณว่าเนื้อหานั้นมีคุณภาพ (Quality Content)

ดังนั้น การทำ SEO บนเฟซบุ๊กจึงแยกไม่ออกจากการทำ Community Management คุณต้องตอบคอมเมนต์ให้ไว และพยายามชวนคุยต่อ เพื่อเลี้ยงโพสต์ให้มี Activity ต่อเนื่อง ยิ่งโพสต์ Active นาน โอกาสถูกดึงไปโชว์ในหน้าค้นหาก็ยิ่งมาก

📌 Tips เพิ่ม Engagement:

  • จบโพสต์ด้วยคำถามปลายเปิดเสมอ
  • ตอบคอมเมนต์ด้วยคำถามกลับ เพื่อให้เกิดบทสนทนาต่อเนื่อง
  • ใช้ Facebook Stories หรือ Polls เพื่อดึงคนเข้ามาที่หน้าเพจ

9. Review Management: พลังของดาวและการรีวิว

อย่ามองข้ามแท็บ “Reviews” เด็ดขาด! ข้อความในรีวิวที่ลูกค้าเขียนให้ มีผลต่อ SEO อย่างมาก โดยเฉพาะถ้าลูกค้าพิมพ์ Keyword ลงไปในรีวิว (เช่น “บริการ รับทำ SEO ที่นี่ดีมาก”)

Google จะมองว่าเพจของคุณมีความน่าเชื่อถือ (Trustworthiness) สูง แนะนำให้กระตุ้นลูกค้าเก่าให้มาช่วยเขียนรีวิว และคุณต้องเข้าไปตอบขอบคุณทุกรีวิวโดยแทรก Keyword กลับไปด้วยแบบเนียนๆ

📌 สรุปใจความ Reviews:

  • เปิดแท็บ Reviews ให้คนเห็น (อย่าปิด)
  • ตอบกลับรีวิวโดยทวนชื่อบริการ/สินค้า (Keyword)
  • ถ้ารีวิวไม่ดี ให้รีบตอบกลับอย่างสุภาพเพื่อแสดงความใส่ใจ

📚 Beginner’s Glossary: ศัพท์น่ารู้สำหรับมือใหม่

  • SERP (Search Engine Results Page): หน้าแสดงผลการค้นหาของ Google (หน้าที่เราอยากไปอยู่นั่นแหละ)
  • Organic Reach: ยอดการเข้าถึงโพสต์โดยธรรมชาติ ไม่ได้จ่ายเงินโฆษณา
  • Alt Text (Alternative Text): ข้อความอธิบายรูปภาพ เพื่อให้ AI หรือคนตาบอดเข้าใจว่ารูปคืออะไร
  • NAPs (Name, Address, Phone): ข้อมูลชื่อ ที่อยู่ เบอร์โทร ที่ต้องตรงกันทุกแพลตฟอร์มเพื่อผลดีต่อ Local SEO

✅ Actionable Checklist: สิ่งที่ต้องทำทันทีหลังอ่านจบ

Checklist ปรับเพจวันนี้:

  • [ ] เช็คชื่อเพจ: มี Keyword หลักผสมอยู่หรือยัง?
  • [ ] เช็ค URL: เปลี่ยนเป็นชื่อภาษาอังกฤษที่อ่านรู้เรื่องหรือยัง?
  • [ ] About Section: ใส่เบอร์โทร, แผนที่ และเขียนบรรยายธุรกิจครบถ้วน?
  • [ ] รูปโปรไฟล์/ปก: ตั้งชื่อไฟล์รูปเป็น Keyword ก่อนอัปโหลดไหม?
  • [ ] โพสต์ล่าสุด: ใส่ Hashtag ที่ตรงกลุ่มเป้าหมายหรือยัง?
  • [ ] Review Tab: เปิดให้คนมารีวิวแล้วหรือยัง?

❓ FAQs: คำถามยอดฮิตเรื่อง SEO Facebook 2026

1. ทำ SEO Facebook นานแค่ไหนกว่าจะเห็นผล?

ใจเย็นๆ ครับ SEO คือเกมระยะยาว ปกติจะเริ่มเห็นการเปลี่ยนแปลงใน 3-6 เดือน ขึ้นอยู่กับการแข่งขันของ Keyword นั้นและความสม่ำเสมอในการลงคอนเทนต์

2. ต้องโพสต์ทุกวันไหมถึงจะติดอันดับ?

ไม่จำเป็นครับ ยุค 2026 เน้น “Quality over Quantity” โพสต์วันเว้นวันแต่เนื้อหาแน่น มีคนแชร์เยอะ ดีกว่าโพสต์ทุกวันแต่ไม่มีใครสนใจ

3. เปลี่ยนชื่อเพจบ่อยๆ จะโดนแบนไหม?

มีความเสี่ยงครับ และไม่ควรทำ เพราะจะทำให้ Facebook สับสน และลูกค้าจำไม่ได้ แนะนำให้คิดให้ดีแล้วเปลี่ยนทีเดียวจบ ถ้าเปลี่ยนบ่อยเกินไปอาจโดนจำกัดการมองเห็นได้

4. Hashtag ภาษาไทย หรือ อังกฤษ ดีกว่ากัน?

ใช้ผสมกันดีที่สุดครับ คนไทยส่วนใหญ่ค้นหาด้วยภาษาไทย แต่คำเฉพาะทางบางคำใช้ทับศัพท์ภาษาอังกฤษ ให้เช็ค Volume การค้นหาในช่อง Search ก่อนใช้เสมอ

5. ถ้าเพจเคยโดนปิดกั้น (Shadowban) แก้ได้ไหม?

แก้ได้ครับ ต้องหยุดพฤติกรรมเสี่ยง (เช่น spam ลิงก์) แล้วกลับมาโพสต์ Original Content ที่มีคุณภาพ เรียก Engagement จากลูกเพจเดิมกลับมา สักพัก AI จะเริ่มเชื่อถือเพจเราอีกครั้ง

6. จำเป็นต้องมีเว็บไซต์ไหม ถ้าอยากทำ SEO Facebook?

ถ้ามีจะดีกว่ามากครับ (Highly Recommended) เพราะเว็บไซต์เปรียบเสมือน “บ้าน” ที่เราคุมได้ 100% และการมีลิงก์เชื่อมหากันระหว่างเว็บกับเพจ จะช่วยดันอันดับได้แรงกว่าเพจลอยๆ

7. ใส่ลิงก์ในแคปชั่น หรือ ในคอมเมนต์ ดีกว่ากัน?

ในปี 2026 Facebook ยังคงลดการมองเห็นโพสต์ที่มีลิงก์ออกนอกแพลตฟอร์มเล็กน้อย เทคนิคคือเขียนแคปชั่นให้น่าสนใจ แล้วบอกว่า “แปะลิงก์ไว้ในคอมเมนต์แรก” จะช่วยรักษายอด Reach ได้ดีกว่า

8. ไลฟ์สด (Live) ช่วยเรื่อง SEO ไหม?

ช่วยทางอ้อมครับ การไลฟ์ทำให้เกิด Engagement สูงมากในช่วงเวลาสั้นๆ ซึ่งเป็นสัญญาณที่ดี แต่ตัววิดีโอไลฟ์เองอาจจะค้นหายากกว่าโพสต์ปกติ แนะนำให้ตัดไฮไลต์จากไลฟ์มาโพสต์แยกอีกที

Harit Posanakul

Harit Posanakul

Managing Director

I started Minimice group to be the change I wanted to see. I wanted to build an agency with a heart, one that measures success not just in traffic, but in the real-world growth of our clients. For me, SEO isn't just a technical process; it's a tool for empowerment. It's how we level the playing field so that the businesses with the most passion, not just the biggest budgets, can win.I can't wait to hear your story and help you share it with the world.

ให้ธุรกิจของคุณเติบโตแบบก้าวกระโดดไปกับทีมการตลาดมืออาชีพ
รับการตอบกลับภายใน 2 ชั่วโมง
รับการตอบกลับภายใน 2 ชั่วโมง