KEY TAKEAWAYS
- Keyword Research แนะนำ Chat GPT + Claude เพราะประมวลผลได้เร็ว และมีไอเดียคีย์เวิร์ดที่ค่อนข้างหลากหลาย
- วางโครงสร้างหัวข้อบทความ แนะนำ Claude + Writesonic เพราะคิดวิเคราะห์ข้อมูลใหม่ๆ ได้อย่างสร้างสรรค์ และทำให้บทความมีความลื่นไหลเป็นธรรมชาติ
- ตรวจคำผิดและ Plagiarism ใช้ Copyleaks ตรวจสอบคำผิดและตรวจจับการลอกเลียนแบบข้อมูลได้แม่นยำ
- แปลภาษา แนะนำ ChatGPT + YouChat เพราะรองรับภาษาไทยได้ดี แปลออกมาเป็นธรรมชาติใกล้เคียงมนุษย์
- ค้นหา FAQ แนะนำ Perplexity + Copy.AI เพราะค้นหาข้อมูลมาใช้เป็นไอเดียของคำถามได้เร็ว ตอบคำถามหรือวิเคราะห์ข้อมูลได้มีประสิทธิภาพ
ในยุคปัจจุบันที่มีการพัฒนาของเทคโนโลยีอย่างก้าวกระโดด ซึ่งมีส่วนสร้างความสะดวกสบายให้กับการใช้ชีวิตมากขึ้น โดยเฉพาะเทคโนโลยีอัจฉริยะอย่าง AI Writer หรือ AI ช่วยเขียนบทความ ที่ได้สร้างจุดเปลี่ยนด้านการเขียนคอนเทนต์ หรือแม้กระทั่งการค้นหาข้อมูล ที่นับได้ว่าได้รับการพัฒนาจนเกือบจะทำงานได้เทียบเท่ามนุษย์เลยทีเดียว
แต่ถ้าจะพูดถึง AI Writer ว่าสามารถนำมาใช้แทนคนได้ 100% คงตอบไม่เต็มปากนัก เพราะตัวโปรแกรมยังมีข้อจำกัดหลายๆ อย่างที่ไม่สามารถนำมาใช้แทนประสบการณ์ และความคิดสร้างสรรค์ของคนได้ โดยบทความนี้เราจะมาแนะนำโปรแกรม AI ช่วยคิดคอนเทนต์ ทั้งแบบฟรี และเสียค่าใช้จ่าย เพื่อให้นักเขียนคอนเทนต์ หรือผู้ที่สนใจได้ศึกษา และใช้ให้เป็นประโยชน์กัน แต่ก่อนอื่นเรามาทำความเข้าใจกันก่อนว่า AI คืออะไร
ไขข้อสงสัย เอไอ (AI) คืออะไร
AI หรือ Artificial Intelligence คือปัญญาประดิษฐ์ที่สามารถสร้างโปรแกรมคอมพิวเตอร์ เลียนแบบความสามารถของมนุษย์ ตั้งแต่การคิด วิเคราะห์ และแยกแยะ เพื่อเป้าหมายในการวางแผน เรียนรู้ สร้างองค์ความรู้ และสามารถรวบรวมเป็นข้อมูลสำเร็จที่สื่อสารออกมาได้อย่างเป็นธรรมชาติ
โดยสิ่งที่ทำให้คอมพิวเตอร์สามารถเรียนรู้ และพัฒนาระบบได้ คือ Machine Learning ฟันเฟืองของระบบ AI ที่จะนำข้อมูลต่างๆ ที่ได้รับรู้มาพัฒนาการทำงานโดยที่ไม่มีมนุษย์คอยควบคุม ทั้งนี้ หากในอนาคตมีการอัปเดตข้อมูลใหม่ๆ มนุษย์ก็ไม่จำเป็นต้องคอยป้อนข้อมูลใหม่ แต่ตัวคอมพิวเตอร์จะประเมินสถานการณ์ และอัปเดตข้อมูลใหม่ๆ ได้เอง
รวม 11 โปรแกรม AI Writer ช่วยเขียนบทความให้มีประสิทธิภาพ
AI Writer ได้เข้ามาเป็นโปรแกรมที่มีบทบาทต่อนักการตลาด นักเขียน รวมไปถึง Content SEO อย่างมาก เพราะช่วยให้การทำงานสะดวก และรวดเร็วมากยิ่งขึ้น เราจึงได้รวบรวม 11 โปรแกรม AI ช่วยเขียนบทความที่น่าสนใจ ที่มีทั้งโปรแกรมที่เสียเงิน และไม่เสียค่าใช้จ่าย ดังนี้
1. Chat GPT
Chat GPT โปรแกรม AI ช่วยคิดคอนเทนต์ ตัวนี้สร้างปรากฏการณ์ที่โดดเด่นกว่าตัวอื่นๆ คือสามารถรองรับภาษาไทยได้ในระดับดี อีกทั้งยังประดิษฐ์คำและภาษาได้อย่างธรรมชาติเสมือนมีมนุษย์มาเขียนเอง ซึ่งล่าสุด Chat GPT ก็ปล่อยตัว Chat GPT 4o เพื่อรองรับการใช้งานที่หลากหลายมากยิ่งขึ้น
นอกจากนี้ Chat GPT ยังเป็น AI ที่มีคุณสมบัติที่น่าสนใจอื่นๆ เช่น เขียนโปรแกรม เขียนโค้ด เขียนอีเมล ช่วยแต่งเพลง หรือการหาสูตรทางคณิตศาสตร์ เป็นต้น เรียกได้ว่าเป็นโปรแกรมที่สามารถสร้างองค์ความรู้ได้ครอบคลุมมากเลยทีเดียว สำหรับผู้ที่สนใจ ไม่ว่าจะเป็นนักเขียนหน้าใหม่ที่เริ่มใช้ AI Writer เจ้าของธุรกิจออนไลน์ หรือ Content Creator ก็สามารถใช้ Chat GPT ได้เช่นกัน ซึ่งปัจจุบัน Chat GPT มีทั้งแบบ
- แบบใช้ฟรี สามารถใช้ได้หลากหลาย ทั้งการแปลภาษา การตอบคำถาม และการเข้าใจภาษา โดยมีข้อจำกัดในเรื่องของความยืดหยุ่น คือจำกัดจำนวนครั้งในการตอบ และไม่สามารถตอบกลับอย่างละเอียดได้
- แบบเสียค่าใช้จ่ายเป็นแพ็คเกจ ChatGPT Plus โดยจะมีค่าบริการอยู่ที่ประมาณ 709 บาทต่อเดือน โดยสามารถใช้งานโปรแกรมได้อย่างรวดเร็ว แม้เป็นช่วงเวลาที่คนกำลังใช้งานพร้อมกันเป็นจำนวนมาก มีการใช้งานที่แม่นยำกว่า รวมถึงยังมีโอกาสใช้ฟีเจอร์ใหม่ๆ ได้ก่อนใคร
ตัวอย่าง Prompt ของ Chat GPT สำหรับช่วยเขียนบทความ
- การหา Keyword : Generate a list of LSI keywords for [topic]
- การหา Keyword ที่มีการแข่งขันต่ำ : Create a list of synonyms for [topic] keywords
- การร่างคอนเทนต์: Suggest outline for “Keyword” with H2 and H3 subheadings, along with bullet points
- การคิดหัวข้อ: Ideate catchy article titles with keyword [Keyword]
- หา Long-Tail keywords: Find top-performing keywords for [topic]
2. Perplexity
อีกหนึ่งAI ช่วยเขียนบทความ ที่ได้รับความนิยมไม่แพ้กันเลย คือ Perplexity ที่ได้รับความนิยมมากในหมู่บริษัทที่ต้องการเขียนเพื่อโฆษณา ซึ่งมีจุดเด่นอยู่ที่การผสมผสานการเสิร์ชกับเอไอเข้าด้วยกัน เหมาะสำหรับการค้นหาข้อมูลอย่างรวดเร็ว เพื่อนำมาเขียนบทความ สร้างบล็อก หรือการทำ SEO ลงในเว็บไซต์หรือในโซเชียลมีเดีย
ข้อดีของ Perplexity คือการตอบคำถามให้ตรงกับสิ่งที่คนค้นหา ด้วยการ Generate จากเอไอ พร้อมทั้งแนบแหล่งข้อมูลที่อ้างอิงมาให้ด้วย
- แบบใช้งานฟรี แต่มีข้อจำกัดในการส่งไฟล์หรือรูปต่างๆ ให้กับระบบประมวลผล รวมถึงยังสามารถพิมพ์ถามได้แค่อย่างเดียว
- แบบเสียค่าใช้จ่าย เป็น Perplexity Pro คิดค่าบริการอยู่ที่ประมาณ 730 บาทต่อเดือน ซึ่งสามารถส่งไฟล์ได้แบบไม่จำกัดในแต่ละเดือน มีการตอบโต้กลับเป็นภาษาไทยได้อย่างเป็นธรรมชาติ ใช้งานในการสร้างเนื้อหา ตอบคำถาม หรือวิเคราะห์ข้อมูลได้อย่างเต็มประสิทธิภาพมากขึ้น
ตัวอย่าง Prompt ของ Perplexity สำหรับช่วยเขียนบทความ
การป้อนคำสั่งใน Perplexity คือการป้อนประโยคที่มีคีย์เวิร์ดเพื่อให้ AI ช่วยคิดคอนเทนต์ให้ โดยจะต้องมีความเฉพาะเจาะจง อย่างเช่น หากเราต้องการหา “ร้านอาหารที่ดีที่สุดในกรุงเทพมหานคร” เราอาจจะต้องป้อนคำสั่งถามไปว่า
- รายชื่อร้านอาหารที่ดีที่สุดในกรุงเทพมหานคร
- 5 อันดับร้านอาหารที่ดีที่สุดในกรุงเทพมหานคร พร้อมรายละเอียด
3. Claude
ชาว SEO Content Writer ต้องชื่นชอบแน่นอน เพราะโปรแกรม Claude นี้เป็นอีกหนึ่งโปรแกรม AI อัจริยะที่ช่วยคิดคอนเทนต์ SEO ได้อย่างมีประสิทธิภาพ เพราะมีความรู้ที่หลากหลายและครอบคลุมในหลายๆ ด้าน สามารถคิดวิเคราะห์ข้อมูลใหม่ๆ ได้อย่างสร้างสรรค์ พร้อมมีกระบวนการเรียนรู้และพัฒนาอยู่เสมอ จึงช่วยสร้างบทความหรือเนื้อหาได้ดี
โดยจุดเด่นของ Claude คือการเข้าใจภาษาได้หลายภาษา หนึ่งในนั้นคือภาษาไทย ซึ่งสามารถเข้าใจและโต้ตอบเป็นภาษาไทยได้อย่างดี จึงนำใช้เป็น AI เขียนบทความภาษาไทยฟรีได้ เพราะมีการสื่อสารภาษาได้อย่างเป็นธรรมชาติ เข้าใจบริบทในภาษา ช่วยให้บทความออกมามีคุณภาพ
- แบบใช้งานฟรี มีการจำกัดจำนวนในการส่งข้อความในแต่ละวัน หากครบจำนวนแล้ว ในเช้าของแต่ละวันโควตาจะถูกรีเซตและเริ่มต้นใหม่
- แบบเสียค่าใช้จ่าย Claude Pro ปัจจุบันอยู่ที่ราคา 735 บาทต่อเดือน โดยสามารถประมวลผลข้อมูลที่ทันสมัยพร้อมทั้งมีประสิทธิภาพการทำงานที่ดีขึ้น สามารถเขียน code จากรูปภาพได้ เหมาะกับการใช้งานที่ซับซ้อน หรือผู้ที่ต้องการใช้ AI Writer เพื่อให้สามารถประมวลผลต่างๆ ได้รวดเร็ว
ตัวอย่าง Prompt ของ Claude สำหรับช่วยเขียนบทความ SEO
- การหา Keyword : Search for keywords about “Keyword” The results are displayed as a table with search volume.
- การถามคำถามแบบปลายเปิด: “Write about…” หรือ“Discuss…” เช่น “Write about the important of society.”
- การถามคำถามอย่างเจาะจง: “What is the capital of Thailand?” หรือ “Explain the concept of medical learning.”
- การป้อนคำสั่งให้ทำงาน: “Write a short story about a superhero” หรือ “Translate the following text from English to Thai.”
4. Writesonic
Writesonic เป็น AI ที่ช่วยคิดคอนเทนต์ภาษาอังกฤษให้กับนักเขียน โดยการใช้เทคโนโลยี NLP (Natural Language Processing) ทำให้บทความที่ออกมามีคุณภาพ และมีความลื่นไหลอย่างเป็นธรรมชาติ โปรแกรม AI ตัวนี้มีความโดดเด่นอยู่ที่ราคาที่ไม่แพงจนเกินไป และได้ใช้ฟีเจอร์ต่างๆ ได้อย่างเต็มประสิทธิภาพอีกด้วย เหมาะสำหรับนักเขียนที่ต้องการใช้ AI ช่วยเขียนบทความที่มีคุณภาพสูง
- โปรแกรมนี้ยังไม่มีเวอร์ชันสำหรับการใช้งานฟรี สำหรับค่าบริการต่อเดือนนั้นอยู่ที่ประมาณ 709 บาท โดยมีความพิเศษตรงที่มีเทมเพลตให้เลือกหลายอย่างเพื่อนำไปใช้ทำคอนเทนต์ต่างๆ เช่น เขียนลงบล็อก เขียนลงโซเชียลมีเดีย รวมถึงยังเลือกโทนและสไตล์ให้กับบทความได้ผ่านตัวเลือกน้ำเสียงกับโครงสร้างบทความ
ตัวอย่าง Prompt ของ Writesonic สำหรับช่วยเขียนบทความ SEO
- การทำ Cluster Keywords: Cluster this list of keywords according to funnel stages whether they are top of the funnel, middle of the funnel or bottom of the funnel about “Keyword”
- การค้นหา SEO Keywords: Give me a lists of 30-40 SEO Keywords.
- การคิดโครงสร้างบทความ: Write a detailed website outline on the topic “What is AI Writing and How to Use It for SEO?” with H2, H3, subheading and bullet points.
5. Copy.AI
หากกำลังหาโปรแกรม AI เขียนบทความภาษาไทยฟรีดีๆ Copy.AI เป็นตัวเลือกที่ดีเลย เพราะสามารถรองรับภาษาไทยได้ดีกว่า AI Writer โปรแกรมอื่นๆ นอกจากนี้ ยังมีฟีเจอร์พิเศษกว่า 90 ตัวเลือกที่ช่วยให้นักเขียนคอนเทนต์ประเภท SEO ทำงานง่ายขึ้น หรือนักเขียนสาย Copywriting ที่ต้องการไอเดียการเขียนแคปชัน หัวข้อ โฆษณา หรือสโลแกนที่น่าดึงดูดใจ
- แบบใช้งานฟรี แต่มีการจำกัดคำอยู่ 2,000 คำเท่านั้น
- แบบเสียค่าใช้จ่าย อยู่ที่ประมาณ 1,738 บาทต่อเดือน โดยมีฟีเจอร์เพิ่มเติม เช่น มีรูปแบบงานเขียนให้เลือกกว่า 90 แบบ สามารถสร้างโปรเจกต์ได้แบบไม่จำกัด และรองรับได้ถึง 29 ภาษา
Prompt ของ Copy.AI สำหรับการทำ SEO
สำหรับการใช้ AI ช่วยเขียนบทความ สามารถป้อนคำสั่งได้ว่า
- Brainstorm 10 content ideas related to [topic] that your audience would find interesting and beneficial.
- Write SEO optimized content for [keyword] of about 500 words. Make sure to include the keyword in the title, first paragraph, and throughout the article.
- Brainstorm 10 content ideas related to [topic] that [your audience] would find interesting and beneficial.
- Write an article about [Topic] include relevant statistics (add the links of the sources you use) and consider diverse perspectives. Write it in a [X tone] and mention the source links in the end
6. Jasper
หากพูดถึง Jasper คงไม่มีใครไม่รู้จัก เพราะเป็น AI Writer ที่ได้ชื่อว่าเป็นโปรแกรมที่สามารถช่วยคิดคอนเทนต์ในการทำการตลาด และการเขียนบทความที่ดีเป็นอันดับต้นๆ เลย อีกทั้งยังเป็น AI ช่วยเขียนบทความ SEO เหมาะสำหรับนักเขียนคอนเทนต์ SEO นักเขียนด้านการตลาดที่ต้องการงานเขียนที่มีคุณภาพ
- แบบใช้งานฟรี โดยมีข้อจำกัดคือสามารถทดลองใช้ฟรีได้แค่ 7 วันเท่านั้น
- แบบเสียค่าใช้จ่ายอยู่ที่ ประมาณ 1,738 บาท จะได้รับฟีเจอร์การใช้งานเพิ่มเติม เช่น สร้างบทความได้โดยไม่จำกัดคำ มี Tone of Voice ไว้ใช้ส่วนตัว 1 แบบ พร้อมกับส่วนขยายเบราว์เซอร์
Prompt ของ Jasper สำหรับช่วยเขียนบทความ SEO
สำหรับการใช้ AI ช่วยคิดคอนเทนต์ โดยป้อนคำสั่ง เช่น
- Write an explanatory blog about the process of [topic] and include tips on how to do it efficiently.
- Write a blog post about some common misconceptions about [topic] and how can they be corrected?
- Write a blog about an overview of the advantages of [topic] and see how to start with helpful tips and the equipment you need.
7. YouChat
YouChat โปรแกรม AI ช่วยคิดคอนเทนต์ที่น่าสนใจสำหรับนักเขียนคอนเทนต์ เพราะมีจุดเด่นอยู่ที่คุณสมบัติที่ครอบคลุม คล้ายกับ AI Writer อย่าง Chat GPT และ Jasper ตรงที่มีการใช้ระบบ GPT-3 หรือระบบที่สามารถสร้างบทสนทนาถาม-ตอบเป็นภาษาอังกฤษ แปลภาษา และเปลี่ยนรูปแบบภาษาให้เป็นธรรมชาติมากขึ้น
กล่าวคือ หากมีคำถามใดที่สงสัยสามารถพิมพ์ถามไปได้เลย ตัวระบบจะตอบกลับมาด้วยข้อมูลที่มีประโยชน์ โดยการสรุปเนื้อหาที่ซับซ้อนจากในอินเทอร์เน็ตให้ออกมาในรูปแบบที่ต้องการได้ ทั้งนี้ YouChat ยังช่วยคิด หรือเสนอไอเดียในการสร้างคอนเทนต์ด้วยการบอกแหล่งอ้างอิงบทความ หรือเว็บไซต์ที่เกี่ยวข้องบน Google ตรงบริเวณด้านข้างของหน้าจออีกด้วย
- หากใครที่กำลังสนใจ AI ตัวนี้ สามารถลองไปใช้งานได้เลยในเว็บไซต์ ซึ่งการใช้งานนั้นฟรี ไม่มีค่าใช้จ่ายแต่อย่างใด
ตัวอย่าง Prompt ของ YouChat สำหรับช่วยเขียนบทความ SEO
- การ Brief Content SEO: Create a SEO content brief for [Keyword]
- การคิดหัวข้อ: Create relevant h1 and h2 heading tags for a blog post titled [blog title]
- การสรุปเนื้อหาบทความ: Write a summary in 50 words that summarizes [topic or keyword].
- การสร้าง FAQ: Generate a list of popular questions related to [keyword]
8. Prompt Lab AI
Prompt Lab เป็นAI ช่วยคิดคอนเทนต์ที่ช่วยคิดแคปชัน คิดบทความ สคริปต์วิดีโอแบบสั้นๆ ไปจนถึงประโยคเปิดวิดีโอ รองรับทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษ เป็น AI ที่ถูกคิดค้นและพัฒนาขึ้นโดยคนไทย เพื่อให้การทำงานเป็นไปได้อย่างสะดวก รวดเร็ว หากใครต้องการ AI ที่ช่วยคิดหรือเป็นออกไอเดียเป็นแค่โครงร่าง โปรแกรมนี้ถือว่าตอบโจทย์มาก ช่วยประหยัดเวลาได้ดีเลยทีเดียว
- ใช้งานฟรี โดยสามารถเขียนได้ถึง 60 ข้อความต่อเดือน
ตัวอย่าง Prompt ของ Prompt Lab AI สำหรับช่วยเขียนบทความ SEO
- การเขียนบทความ: บทความเกี่ยวกับ [เรื่องที่ต้องการเขียน] [เลือกสไตล์ข้อความ] เช่น บทความเกี่ยวกับ AI สไตล์ข้อความทันสมัย
- การช่วยคิดคอนเทนต์: รีวิว [เรื่องที่ต้องการเขียน] [เลือกสไตล์ข้อความ] หรือ Vlog สำหรับ [เรื่องที่ต้องการเขียน] [เลือกสไตล์ข้อความ] เช่น รีวิวร้านอาหารในสยาม สไตล์ข้อความสนุกสนาน, Vlog สำหรับการปิกนิก สไตล์ข้อความมีความสุข
9. Copyleaks
Copyleaks เป็น AI ที่ตรวจจับการลอกเลียนแบบข้อมูลหรือบทความ โดยการเปรียบเทียบข้อมูลกับฐานข้อมูลต่างๆ ซึ่งเป็นสิ่งที่สำคัญมากสำหรับการเขียนบทความ SEO เพื่อเป็นการหลีกเลี่ยงไม่ให้อันดับใน Google ลดลง โดยสามารถตรวจได้จากเนื้อหาต่างๆ เช่น วลีที่ซ้ำกัน คำศัพท์ที่ซับซ้อน ไวยากรณ์ที่ไม่สอดคล้องกัน เป็นต้น
- แบบใช้งานฟรี มีข้อจำกัดการใช้งานอยู่แค่ 2,500 คำ ต่อเดือน
- แบบเสียค่าใช้จ่าย ค่าบริการเริ่มต้นอยู่ที่ประมาณ 405 บาทต่อเดือน มีการใช้งานอยู่ที่ 25,000 คำต่อเดือน จะสามารถสแกนเอกสารได้รวดเร็วขึ้น สามารถดาวน์โหลดผลการตรวจสอบเป็น PDF ได้
วิธีการใช้งาน Copyleaks สำหรับช่วยตรวจบทความ SEO
- อัปโหลดเอกสารหรือเนื้อหาที่ต้องการตรวจสอบคำผิด ไวยากรณ์ หรือการละเมิดลิขสิทธิ์
- เลือกวิธีการตรวจสอบข้อความ เช่น การตรวจสอบโครงสร้างเอกสาร, Machine Learning หรือ AI เป็นต้น
- รอระบบสแกนเนื้อหาและสรุปผลลัพธ์
- ดูรายงานของผลลัพธ์เพื่อตรวจสอบเนื้อหาที่มาจากการคัดลอกผ่านการแสดง % เทียบข้อมูลซ้ำ โดยจะมีการ Highlight ให้เห็นเปรียบเทียบกันหน้าต่อหน้า แบบเจาะจงแหล่งที่มาได้
10. Seapik AI
ใครกำลังมองหา AI ช่วยคิดคอนเทนต์ ที่ช่วยสร้างเนื้อหาได้อย่างมีคุณภาพ รวมถึงมีเครื่องมือที่เป็นช่วยปรับปรุงการเขียนบทความ Seapik สามารถช่วยได้ เพราะมีเครื่องมือในการเขียนฟรีมากกว่า 600 รายการ อาทิ การเรียงความ การเขียนบล็อก เหมาะกับนักเขียนคอนเทนต์ นักการตลาด เจ้าของธุรกิจ
- แบบใช้งานฟรี เข้าถึงเครื่องมือทั้งหมดได้แต่มีการจำกัดคำ
- แบบเสียค่าใช้จ่าย PepperType AI มีค่าใช้จ่ายอยู่ที่ประมาณ 365 บาท เข้าถึงเครื่องมือทั้งหมดได้ ไม่มีการจำกัดคำ
ตัวอย่าง Prompt ของ Seapik AI สำหรับช่วยเขียนบทความ SEO
การป้อนคำสั่งกับโปรแกรมนี้ เพื่อให้ AI ช่วยคิดบทความ เช่น
- สร้างบทความในหัวข้อ [Topic or Keyword]
- เขียนเรื่องสั้นเกี่ยวกับ [Keyword]
11. Anyword
การเขียนบทความให้เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายจะไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป เมื่อได้พบกับโปรแกรม AI ช่วยเขียนบทความภาษาไทยแบบฟรีๆ อย่าง Anyword ที่จะเข้ามาช่วยเชื่อมต่อบทความกับกลุ่มเป้าหมายได้อย่างง่ายดาย ด้วยฟีเจอร์จาก Anyword ที่มีทั้งเทมเพลตเนื้อหา การรองรับหลายภาษา การให้คะแนนเนื้อหาตามแนวโน้มที่จะสามารถดึงดูดกลุ่มเป้าหมายได้ มีโปรไฟล์ของกลุ่มผู้ชมหรือกลุ่มลูกค้าให้ดู ซึ่งระบบของ Anyword จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพเนื้อหาในเว็บไซต์ของคุณได้อย่างต่อเนื่อง
- แบบใช้งานฟรี สามารถทดลองใช้ Anyword ฟรีได้ 7 วัน หลังจากนั้นจะต้องเสียค่าใช้จ่ายในการใช้งาน
- แบบเสียค่าใช้จ่าย ตัวนี้จะมีค่าใช้จ่ายประมาณ 1,795 บาท ซึ่งจะรองรับได้ทั้งหมด 25 ภาษา สามารถเขียนได้ 1,000 คำต่อบทความ และสามารถจัดการสร้าง Tone of Voice เพื่อให้เข้ากับสไตล์ของแบรนด์ได้อีกด้วย
ตัวอย่าง Prompt ของ Anyword สำหรับช่วยเขียนบทความ SEO
- การสร้างบทความ: Write a [Number of words] blog post highlighting the advantages of [Keyword]
- การคิดโครงสร้างบทความ: Write an outline for a blog titled [blog title]
5 ทริคที่ทีม Minimice ใช้ AI Writer ช่วยเขียนบทความ SEO
จะเห็นได้ว่าการใช้ AI Writer นั้นเข้ามามีส่วนช่วยในการเขียนคอนเทนต์ SEO อย่างมาก ซึ่งทาง Minimice เอง มี 5 ทริคสำคัญในการใช้คุณสมบัติของโปรแกรม AI เพื่อช่วยคิดคอนเทนต์ SEO ให้มีประสิทธิภาพ ดังนี้
1. ช่วยในการทำ Keyword Research ให้เร็วขึ้น
การใช้ AI ช่วยเขียนบทความ SEO นั้น ก่อนอื่นเราต้องมีการทำ Keyword Research โดยให้ AI ช่วยค้นหาคีย์เวิร์ดที่เกี่ยวข้องกับเรื่องราวที่เราต้องการนำมาเขียน โดยสามารถระบุให้ AI แนะนำคีย์เวิร์ดจาก Searh Volume สูง ๆ หรือคีย์เวิร์ดที่เกี่ยวข้องสินค้าหรือบริการของธุรกิจได้
หลังจากที่ได้ชุด Keyword มาแล้ว เราจึงนำมาคัดเลือก Keyword โดยใช้เครื่องมืออย่าง Google Keyword Planner เข้ามาช่วย เพื่อหา Search Volume ที่แท้จริงของ Keyword นั้น ๆ เนื่องจาก Search Volume ที่ได้มาจากโปรแกรม AI Writer ส่วนใหญ่แล้วจะเป็น Search Volume แบบ Estimate นั่นเอง
หลังจากนั้นเมื่อเราได้ Keyword ที่น่าสนใจเกี่ยวกับสินค้าและบริการแล้ว เราจึงจะนำ Keyword ต่างๆ มาวางแผนในการทำ SEO ในขั้นตอนถัดไป
- AI ที่ทีม Content Minimice ใช้ทำ Keyword Research คือ Chat GPT และ Claude เนื่องจากประมวลผลได้รวดเร็ว และมีไอเดียคีย์เวิร์ดที่ค่อนข้างหลากหลาย
2. วางโครงสร้างหัวข้อจาก Keyword
การวางโครงสร้าง หรือ Headline Structure จะช่วยให้บทความนั้นๆ มีเนื้อหาที่เข้าใจง่ายและน่าติดตามมากขึ้น โดยขั้นตอนนี้เราสามารถใช้ AI เข้ามาช่วยหาประเด็นต่างๆ ในการวางโครงสร้างบทความ หรือช่วยคิดคอนเทนต์ได้ เมื่อได้ประเด็นและโครงสร้างเรียบร้อย เราจึงนำ Headline ที่ได้มาเรียบเรียงใหม่ โดยยึดตาม Search Intent ของ Keyword นั้นๆ และตั้ง Headline ให้น่าสนใจยิ่งขึ้น เพื่อสร้างเนื้อหาบทความให้ตรงกับการค้นหาของผู้คนให้มากที่สุดนั่นเอง
- AI ที่ทีม Content Minimice ใช้วางโครงสร้างบทความจาก Keyword คือ Claude และ Writesonic เพราะสามารถคิดวิเคราะห์ข้อมูลใหม่ ๆ ได้อย่างสร้างสรรค์ และทำให้โครงสร้างบทความมีความลื่นไหลอย่างเป็นธรรมชาติ
3. ตรวจคำผิดและเนื้อหา Plagiarism
ด้านคำถูกคำผิด เป็นส่วนหนึ่งที่สำคัญในกระบวนการทำ SEO ลองนึกภาพง่ายๆ ว่า หากเพื่อนๆ เข้าไปอ่านบทความที่มีการสะกดผิดหลายจุดในบทความ ก็จะเกิดความรู้สึกขัดใจ และส่งผลให้ไม่อยากอ่านบทความนั้นต่อได้ ส่วนนี้ก็จะส่งผลถึง User Experience บทเว็บไซต์ได้ด้วยเช่นกัน การที่มี AI เข้ามาช่วยงานในส่วนนี้นับว่าสะดวกต่อนักเขียนอย่างมาก
ด้านการคัดลอกเนื้อหาข้อมูล ส่วนนี้เราสามารถใช้ช่วย AI ตรวจสอบได้ว่ามี Tiltle หรือเนื้อหาข้อมูลซ้ำกับเว็บไซต์อื่นหรือไม่
ซึ่ง AI ช่วยคิดคอนเทนต์ สามารถนำข้อมูลไปเปรียบเทียบกับฐานข้อมูล เช่น บทความ แหล่งข้อมูล และงานวิจัย เพื่อทำการตรวจสอบการคัดลอกเนื้อหาว่านำมาจากที่อื่นอย่างถูกต้อง รวมถึงยังสามารถระบุแหล่งที่มาได้
- AI ที่ทีม Content Minimice ใช้ตรวจคำผิดและเนื้อหา Plagiarism คือ Copyleaks เนื่องจากสามารถตรวจสอบคำผิดและตรวจจับการลอกเลียนแบบข้อมูลได้อย่างแม่นยำ
4. ช่วยในการแปลภาษาได้ดีในระดับหนึ่ง
ในภาพรวมของการแปลภาษาจากภาษาอังกฤษมาเป็นภาษาไทย หรือภาษาไทยมาเป็นภาษาอังกฤษ จากที่ทีม Minimice ได้ทดลองใช้ AI ช่วยเขียนบทความพบว่าผลลัพธ์อยู่ในระดับพอใช้ เพราะ AI สามารถช่วยตรวจสอบไวยากรณ์ให้กับเราได้ดี พร้อมทั้งช่วยปรับแก้ในจุดที่เราเขียนพลาดหรือสะกดผิดได้อย่างรวดเร็ว
แต่ทั้งนี้ก็ทางทีม Content ของ Minimice ก็ต้องมีการตรวจทานอีกครั้ง เพื่อปรับสำนวนการเขียนให้มีความลื่นไหลตรงตามบริบท เพื่อให้ทั้งบทความง่ายต่อการอ่านมากที่สุด
- AI ที่ทีม Content Minimice ใช้ช่วยในการแปลภาษา คือ ChatGPT และ YouChat รองรับภาษาไทยได้ดี ทำให้การแปลออกมาเป็นธรรมชาติใกล้เคียงกับมนุษย์
5. ประหยัดเวลาในการหา FAQ
อีกทริคหนึ่งที่ทางทีมใช้บ่อยๆ นั่นก็คือการหา FAQ หรือคำถามที่น่าสนใจในส่วนของท้ายบทความโดยเราสามารถป้อนคำสั่งให้ AI ช่วยเขียนบทความ ได้โดยการบอกให้ AI ลองตั้งคำถามจากการอ้างอิงด้วยคีย์เวิร์ดหรือหัวข้อ แล้ว AI จะวิเคราะห์ข้อมูล รวมถึงจัดหมวดหมู่ของคำถามที่พบบ่อยที่สุด และมีการสร้างคำถามกับคำตอบออกมา โดยสรุปจากแหล่งข้อมูลต่างๆ
ส่วนนี้ก็จะช่วยให้ทางทีมได้ไอเดียเพิ่มขึ้นในการตั้งคำถามอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องในท้ายบทความ หรือบางครั้งเราก็ได้ไอเดียใหม่ๆ ในการเขียนบทความจากคำถามที่ AI ค้นหาและบอกผลลัพธ์มาให้เรานั่นเอง
- AI ที่ทีม Content Minimice ใช้ช่วยประหยัดเวลาในการหา FAQ คือ Perplexity และ Copy.AI สามารถค้นหาข้อมูลมาใช้เป็นไอเดียของคำถามได้อย่างรวดเร็ว รวมถึงยังตอบคำถามหรือวิเคราะห์ข้อมูลได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ข้อจำกัดของ AI Writer ที่ยังไม่สามารถเขียน SEO ให้เราได้
หากจะบอกว่า AI Writer จะมาแทนที่อาชีพนักเขียนหรือไม่? คงต้องบอกได้เลยว่าไม่ได้แน่นอน เพราะแม้ภายในอนาคตจะมีการพัฒนาระบบ AI ให้สามารถทำลายข้อจำกัดในเรื่องภาษา หรือคลังข้อมูลได้ แต่สิ่งที่ AI ไม่มีแต่มนุษย์มีอยู่นั้นคือประสบการณ์ ความรู้สึก และความคิดสร้างสรรค์ ดังนั้น AI Writer จึงยังมีข้อจำกัดที่ไม่สามารถเอาชนะแรงงานมนุษย์ได้ ดังนี้
ความหลากหลายในการใช้ภาษา
ในปัจจุบันยังไม่มี AI ช่วยคิดคอนเทนต์รูปแบบไหนทำลายกำแพงแห่งภาษาได้ เพราะบนโลกที่มีประชากรกว่า 7,800 ล้านคน อาศัยอยู่ทั้งใน 7 ทวีป 195 ประเทศ ต่างคน ต่างวัฒนธรรม และการใช้ภาษาก็แตกต่างกันไป การพัฒนาระบบ AI ช่วยเขียนบทความให้สามารถรองรับการใช้งานของภาษาได้ครบทุกภาษาจึงเป็นเรื่องไม่ง่ายเลย เพราะภาษาแต่ละภาษานั้นมีการแปลความหมายในรูปแบบเฉพาะ แม้จะทำเป็นภาษาอังกฤษแล้วนำมาแปลภาษา ก็ไม่ได้หมายความว่าจะแปลได้ตรงตัว และเป็นธรรมชาติ
ความคิดสร้างสรรค์
สิ่งที่ทำให้มนุษย์ต่างจากสิ่งมีชีวิตอื่นๆ เพราะมนุษย์นั้นมีความคิดสร้างสรรค์ หรือจินตนาการที่ไม่สิ้นสุด แม้ AI ช่วยเขียนบทความจะช่วยในการเขียนให้ถูกหลักภาษา แกรมม่า หรือโครงสร้างคำที่ถูกต้องได้ แต่การเขียนบทความให้มีความแตกต่างนั้น จำเป็นต้องพึ่งพาคุณสมบัติในการคิดอย่างสร้างสรรค์ และอาศัยจินตนาการ เพื่อที่จะทำให้คอนเทนต์ หรือบทความที่ออกมาไม่เหมือนใคร สามารถสร้างจุดเปลี่ยนชีวิต และพัฒนาองค์ความรู้ให้กับผู้อ่านได้
ยังไม่เข้าถึงภาษาไทยเต็มประสิทธิภาพ
โปรแกรม AI เขียนบทความภาษาไทยในปัจจุบันนั้น ยังไม่สามารถสร้างคอนเทนต์ในเชิงการใช้ภาษาไทยให้ลื่นไหลได้อย่างมีประสิทธิภาพนัก เนื่องด้วยภาษาไทยมีบริบท การใช้คำ สำบัดสำนวน หรือลูกเล่นที่หลากลาย ทั้งในแง่การเขียนคอนเทนต์ หรือการเขียนบทความให้น่าอ่าน
หากใครที่ต้องการสำนวนภาษาไทยที่สดใหม่ สนุก ทันสมัย หรือเข้ากับบริบทของธุรกิจแล้ว ต้องยอมรับว่า AI ยังไม่สามารถทำหน้าที่ในส่วนนี้ได้เต็มที่นัก
ไต่อันดับบน Google ไม่ได้ หากใช้ AI Writer เขียน 100%
การใช้ AI ช่วยเขียนบทความ แบบ 100% ไม่สามารถช่วยในเรื่องของ SEO ได้ เพราะข้อมูลที่ AI หามาอาจขาดความเข้าใจในกลุ่มเป้าหมายและการเชื่อมโยงกับผู้อ่าน เนื้อหาจึงไม่ตอบโจทย์ความต้องการของผู้ใช้ ความน่าสนใจจึงลดลง ส่งผลต่อการค้นหาและการเข้าถึงข้อมูล ทำให้การติดอันดับบน Google เป็นไปได้ยากขึ้น
ซึ่งเมื่อไม่นานมานี้ ทาง Google เองก็ตระหนักถึงการใช้ AI มาช่วยในการ Generated Content ว่าผู้ใช้งานของ Google อาจได้ข้อมูลที่ผิดพลาดหรือคาดเคลื่อนในการสืบหาข้อมูลหรือไม่ ทาง Google จึงได้มีการ Update Algorithms เพื่อจัดการเนื้อหาที่ทำด้วย AI ด้วยเช่นกัน นั่นก็คือ
E-E-A-T Factor เป็นอัลกอริทึม ที่มาจาก 4 คำ ประกอบกัน คือ
- Experience (E) ประสบการณ์
- Expertise (E) ความเชี่ยวชาญ
- Authoritativeness (A) การมีอิทธิพล
- Trustworthiness (T) ความน่าเชื่อถือ
อธิบายง่ายๆ คือ Google ต้องการเนื้อหาข้อมูลที่เกิดจากประสบการณ์ (Experience) โดยตรงของผู้เขียนหรือเกิดจากความเชี่ยวชาญ (Expertise) ในเรื่องนั้น ๆ มาเป็นข้อมูลให้กับผู้อ่านข่าวสารในหน้า Google ส่วนด้านการมีอิทธิพล (Authoritativeness) เปรียบได้กับชื่อเสียงของเว็บไซต์ที่ถูกพูดถึงในวงกว้างจากแหล่งที่มาอื่นๆ หรือไม่ ด้านความน่าเชื่อถือ (Trustworthiness) ในที่นี้หมายถึงเว็บไซต์ที่ทำการเผยแพร่ข้อมูลนั้นมีตัวตนอยู่จริง โดยต้องมีข้อมูลต่าง ๆ เพื่อเป็นการยืนยัน เช่น ข้อมูลติดต่อ เบอร์โทรศัพท์ สถานที่อยู่ของบริษัทหรือบริการ
ในส่วนประกอบที่กล่าวไปข้างต้นนี้จะเห็นได้ว่าการเขียนบทความด้วย AI 100% ไม่สามารถการันตีการขึ้นอันดับบน Google ได้ เพราะ Google ได้มีการคัดเลือกเนื้อหาในการขึ้นอันดับจาก E-E-A-T Factor รวมถึงอัลกอริทึมตัวอื่นๆ ที่ช่วยในการคัดกรองเนื้อหาที่มีประสิทธิภาพเพื่อเป็นประโยชน์ต่อผู้อ่านนั่นเอง
สรุป
โปรแกรม AI ช่วยคิดคอนเทนต์นั้นมีมากมายให้ได้เลือกใช้ตามฟีเจอร์สำคัญของ AI ที่ช่วยในการเขียนบทความ SEO เช่น
- การวิเคราะห์คีย์เวิร์ด
- การเสริมสร้างไอเดียคอนเทนต์
- การช่วยคิดโครงสร้างของบทความ
- ช่วยเขียนบทความ
- การสร้างนำเสียงของบทความ
- ช่วยแปลภาษา
แต่ทั้งนี้ก็ยังคงมีข้อจำกัดบางอย่างที่ยังไม่ได้มีการพัฒนาให้มีประสิทธิภาพมากพอในปัจจุบัน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องภาษาที่ไม่สามารถรองรับได้ทุกภาษา โดยเฉพาะภาษาไทย หรือการที่ AI Writer ยังเขียนบทความ SEO ได้ไม่ดีพอที่จะไต่อันดับที่หน้าแรกของ Google ได้ รวมถึงยังมีความคิดสร้างสรรค์ไม่มากพอเทียบเท่ากับมนุษย์
คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับ AI ตัวช่วยเขียนบทความ (FAQ)
วันนี้ทาง Minimice ได้รวบรวมข้อสงสัยเกี่ยวกับ AI Writer หรือ AI ช่วยเขียนบทความมาตอบคำถามเพื่อให้รู้จักกับ AI Writer มากยิ่งขึ้น ดังนี้
AI ช่วยเขียนงานวิจัยได้ไหม เหมาะสมหรือไม่?
AI สามารถช่วยเขียนงานวิจัยได้ อย่างการค้นหาข้อมูล บทความ งานวิจัยอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับหัวข้องานวิจัยของเรา จากนั้น AI จะนำข้อมูลมาวิเคราะห์เพื่อให้ได้ข้อมูลที่น่าเชื่อถือ แล้วจึงทำการสรุปและสร้างโครงสร้างให้กับงานวิจัย นอกจากนี้ยังช่วยแก้ไขข้อความในงานวิจัยให้ถูกต้องตรงหลักภาษาและไวยากรณ์ และยังช่วยสร้างรายการอ้างอิงกับบรรณานุกรมได้
แต่อย่างไรก็ตาม AI ยังเป็นแค่เครื่องมือช่วยเหลือสำหรับงานวิจัยเท่านั้น จึงควรระมัดระวังในการใช้ เพื่อไม่ให้ผิดหลักจริยธรรมในการทำงานวิจัย
AI Write ช่วยเขียนนิยายได้ไหม?
นอกจาก AI จะช่วยเขียนบทความได้แล้ว AI ยังสามารถช่วยเขียนนิยายได้ด้วย อย่าง ChatGPT ที่ช่วยเขียนนิยายตั้งแต่เริ่มต้นจนจบเรื่อง ซึ่งสามารถคิดพล็อตนิยาย สร้างตัวละครโดยอิงถึงลักษณะนิสัย ความต้องการและความสัมพันธ์ของตัวละคร เขียนบทสนทนารวมถึงบรรยายฉากต่างๆ ให้ดูสมจริงและมีชีวิตชีวา
AI Writer โปรแกรมไหนที่สามารถรองรับภาษาไทยได้ดีที่สุด?
ปัจจุบันมีระบบ AI Writer หรือ AI เขียนบทความภาษาไทยฟรีที่สามารถเขียนภาษาไทยได้อย่างเป็นธรรมชาติแล้วคือ Claude เป็น AI ที่สามารถวิเคราะห์ข้อมูลที่ซับซ้อนและตอบคำถามเกี่ยวกับข้อเท็จจริงได้แม่นยำ ถูกพัฒนาโดยบริษัท Antropic ซึ่งมีความเข้าใจภาษาไทยได้ดี สามารถตอบโต้เป็นภาษาไทยได้ใกล้เคียงกับมนุษย์ เพราะสามารถเข้าใจบริบทรวมถึงอารมณ์ในบทสนทนาได้ มีการเขียนคอนเทนต์ภาษาไทยออกมาเป็นภาษาที่เข้าใจง่าย อีกทั้งยังมีเนื้อหาครอบคลุมและน่าสนใจอีกด้วย