Key Takeaway
- ข้อดีของการใช้แอปไลฟ์สด คือ ช่วยสร้างการมีส่วนร่วม เพิ่มความน่าเชื่อถือ กระตุ้นยอดขาย และขยายฐานลูกค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ
- แอปไลฟ์สด เช่น Kaikong, CF Manager, V Rich App, CameraFi Live และ Prism Live Studio ที่ช่วยจัดการออเดอร์และเพิ่มลูกเล่นระหว่างไลฟ์
- โปรแกรมไลฟ์สด เช่น OBS Studio, StreamYard, ReStream, GoStream และ XSplit Broadcaster ที่รองรับการไลฟ์หลายแพลตฟอร์มพร้อมเครื่องมือเสริมระดับมืออาชีพ
- จุดเด่นโดยรวม ใช้งานง่าย รองรับหลายแพลตฟอร์ม มีฟีเจอร์ช่วยจัดการออเดอร์ เอฟเฟกต์ไลฟ์สด และช่วยให้ธุรกิจออนไลน์ดึงดูดลูกค้าได้มากขึ้น
ในยุคที่การตลาดออนไลน์เป็นหัวใจสำคัญของธุรกิจ การไลฟ์สด (Live Streaming) กลายเป็นเครื่องมือทรงพลังที่ช่วยสร้างการมีส่วนร่วมกับลูกค้า เสริมภาพลักษณ์แบรนด์ และเพิ่มยอดขายได้อย่างมีประสิทธิภาพ การเลือกใช้แอปไลฟ์สด หรือ โปรแกรมไลฟ์สดที่มีคุณภาพ จะช่วยให้การสตรีมมีความคมชัด มีลูกเล่นที่น่าสนใจ และดึงดูดผู้ชมได้มากขึ้น มาดู 11 แอปและโปรแกรมที่ช่วยให้การไลฟ์สดของคุณโดดเด่นและน่าติดตามกัน

ข้อดีของการใช้แอปไลฟ์สดทำการตลาดออนไลน์
การไลฟ์สดเป็นหนึ่งในช่องทางที่เหมาะสำหรับการทำการตลาดออนไลน์ ช่วยให้แบรนด์เข้าถึงลูกค้าได้แบบเรียลไทม์ สร้างความน่าเชื่อถือ และเพิ่มโอกาสในการปิดการขายได้อย่างมีประสิทธิภาพ มาดูกันว่าการใช้แอปไลฟ์สดมีข้อดีอะไรบ้าง
สร้างการมีส่วนร่วมผ่านการไลฟ์สด
การไลฟ์สดช่วยให้ธุรกิจสามารถโต้ตอบกับลูกค้าแบบเรียลไทม์ ผ่านคอมเมนต์ การตอบคำถาม และการโต้ตอบอื่นๆ ทำให้ผู้ชมรู้สึกมีส่วนร่วมและใกล้ชิดกับแบรนด์มากขึ้น ช่วยสร้างกิจกรรม เช่น การเล่นเกม แจกของรางวัล หรือการโหวตแบบสดๆ เพื่อกระตุ้นให้ผู้ชมมีส่วนร่วมมากขึ้น ทำให้เพิ่มโอกาสในการสร้างฐานลูกค้าได้เป็นอย่างดี
เพิ่มความโปร่งใสและความน่าเชื่อถือให้กับแบรนด์
ช่วยให้ลูกค้าเห็นสินค้าและบริการใน สภาพจริงแบบไม่ผ่านการตัดต่อ ทำให้ลูกค้ารับรู้ถึงคุณภาพและรายละเอียดได้ชัดเจน รวมถึงการตอบคำถามแบบสดๆ ในโปรแกรมไลฟ์สดยังช่วยให้ลูกค้ารู้สึกว่าแบรนด์จริงใจและให้ข้อมูลที่เชื่อถือได้ ลดความกังวลเกี่ยวกับการซื้อสินค้าออนไลน์ และเพิ่มโอกาสในการตัดสินใจซื้อ
สร้างการรับรู้และความเข้าใจในสินค้าและบริการ
โปรแกรมไลฟ์สดสามารถนำเสนอรายละเอียดสินค้าและบริการได้ชัดเจน โดยใช้วิธีการสาธิตหรือทดลองใช้งานจริง ซึ่งทำให้ลูกค้าเข้าใจคุณสมบัติ จุดเด่น และประโยชน์ของสินค้าได้ดีกว่าการอ่านคำอธิบายเพียงอย่างเดียว และยังสามารถแชร์เคล็ดลับ วิธีใช้ หรือเปรียบเทียบสินค้ากับคู่แข่งได้ เพื่อให้ลูกค้าเห็นความแตกต่างและตัดสินใจได้ง่ายขึ้น
มีตัวชี้วัดเฉพาะเพื่อวัดผลสำเร็จ
แอปไลฟ์สดส่วนใหญ่มีเครื่องมือวิเคราะห์และตัวชี้วัด เช่น จำนวนผู้ชม ยอดไลก์ แชร์ คอมเมนต์ และยอดขายที่เกิดขึ้นระหว่างไลฟ์ ทำให้สามารถประเมินผลลัพธ์ได้ชัดเจน ทำให้สามารถนำข้อมูลมาปรับกลยุทธ์ให้ตรงกับพฤติกรรมของกลุ่มเป้าหมายได้มากขึ้น
ต้นทุนต่ำแต่ผลลัพธ์สูง
เมื่อเทียบกับโฆษณาแบบดั้งเดิม โปรแกรมไลฟ์สดเป็นวิธีที่ใช้ต้นทุนต่ำมาก เพราะไม่จำเป็นต้องมีค่าโปรดักชันสูงหรือค่าโฆษณาแพงๆ แต่สามารถเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้กว้างและสร้างการมีส่วนร่วมได้สูง หากใช้กลยุทธ์ที่เหมาะสม เช่น การโปรโมตล่วงหน้า การเลือกช่วงเวลาที่เหมาะสม และการมีโปรโมชันพิเศษ ก็สามารถช่วยเพิ่มยอดขายและสร้างกระแสให้กับแบรนด์ได้โดยไม่ต้องใช้เงินลงทุนมาก

11 แอปและโปรแกรมไลฟ์สดที่เหมาะกับธุรกิจออนไลน์ทุกขนาด
การเลือกใช้แอปและโปรแกรมไลฟ์สดที่เหมาะสม เช่น Facebook และเครื่องมือสำหรับ Content Creator สามารถช่วยให้ธุรกิจออนไลน์เติบโตและประสบความสำเร็จได้ง่ายขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการสร้างแบรนด์ การขายสินค้า หรือการสื่อสารกับลูกค้าแบบเรียลไทม์ ไปดูกันว่า 11 แอปและโปรแกรมไหนบ้างที่ช่วยให้การไลฟ์สดของคุณมีประสิทธิภาพมากขึ้น

1. OBS Studio โปรแกรมไลฟ์สดใช้ง่ายสำหรับมือใหม่
OBS Studio (Open Broadcaster Software) เป็นโปรแกรมไลฟ์สดแบบโอเพ่นซอร์ส ที่ได้รับความนิยมสูง เพราะใช้งานง่ายและเป็นโปรแกรมไลฟ์สด Facebook ฟรี เหมาะสำหรับทั้งมือใหม่และมืออาชีพ รองรับการไลฟ์สดไปยังแพลตฟอร์มต่างๆ เช่น Facebook Live, YouTube Live และ Twitch สามารถตั้งค่าภาพ เสียง และเอฟเฟกต์ได้อย่างอิสระ ทำให้การไลฟ์สดดูมืออาชีพมากขึ้น
- ค่าใช้จ่าย – ฟรี 100% (Open Source)
- รองรับระบบปฏิบัติการ – Windows, macOS, Linux
- ดาวน์โหลด – สามารถดาวน์โหลด OBS Studio ได้จากเว็บไซต์ทางการ obsproject.com
จุดเด่น
- ฟรีและไม่มีค่าใช้จ่าย เหมาะสำหรับผู้เริ่มต้นและมืออาชีพ
- แอปไลฟ์สด Facebook หน้าเนียน ที่สามารถปรับแต่งความคมชัด เฟรมเรต และแหล่งเสียงได้ตามต้องการ
- รองรับการเพิ่มเอฟเฟกต์และฉากหลายเลเยอร์ สร้างไลฟ์สดที่ดูเป็นมืออาชีพมากขึ้น
- รองรับการใช้ปลั๊กอินเสริม สามารถเพิ่มฟังก์ชันใหม่ๆ ได้ตามต้องการ
2. ZORT โปรแกรมไลฟ์สดที่ช่วยจัดการออเดอร์
ZORT เป็นโปรแกรมไลฟ์สดบริหารออเดอร์สำหรับการไลฟ์สดที่ช่วยให้พ่อค้าแม่ค้าสามารถจัดการคำสั่งซื้ออย่างเป็นระบบ เพื่อลดความผิดพลาดในการจดออเดอร์ระหว่างไลฟ์ รองรับการเชื่อมต่อกับแพลตฟอร์มยอดนิยม เช่น Facebook Live, LINE และ Shopee Live สามารถเก็บข้อมูลลูกค้า อัปเดตสต๊อกสินค้า และออกบิลได้อัตโนมัติ
- ค่าใช้จ่าย – มีแพ็กเกจให้เลือกทั้งแบบรายเดือนและรายปี เริ่มต้นประมาณ 399 บาท/เดือน
- รองรับระบบปฏิบัติการ – ใช้งานผ่านเว็บเบราว์เซอร์และแอปพลิเคชันบน iOS และ Android
- ดาวน์โหลด – สามารถดาวน์โหลดและสมัครใช้งานได้ที่เว็บไซต์ zortout.com
จุดเด่น
- อัปเดตสต๊อกสินค้าแบบเรียลไทม์ ป้องกันการขายเกินจำนวนที่มีอยู่
- ออกบิลและแจ้งยอดชำระอัตโนมัติ ลดภาระงานหลังไลฟ์
- เก็บข้อมูลลูกค้าและประวัติการซื้อ ช่วยให้ติดตามลูกค้าและสร้างแคมเปญการตลาดได้ง่ายขึ้น
- สามารถตั้งค่าโปรโมชันและคูปองส่วนลด กระตุ้นยอดขายได้มากขึ้น

3. ไลฟ์สดหลายที่พร้อมกัน ด้วยแอป GoStream
GoStream เป็นแอปไลฟ์สดที่ช่วยให้สามารถสตรีมพร้อมกันหลายช่องทาง เช่น Facebook, YouTube, TikTok และแพลตฟอร์มอื่นๆ เหมาะสำหรับธุรกิจที่ต้องการขยายการเข้าถึงลูกค้าในหลายช่องทางแบบเรียลไทม์ รองรับการไลฟ์สดจากวิดีโอที่บันทึกไว้ล่วงหน้า (Pre-Recorded Video) ช่วยให้สามารถวางแผนและจัดการคอนเทนต์ได้อย่างเป็นระบบ
- ค่าใช้จ่าย – มีทั้งแบบใช้ฟรีและแบบสมัครสมาชิก รายเดือนเริ่มต้นประมาณ 10 ดอลลาร์/เดือน
- รองรับระบบปฏิบัติการ – ใช้งานผ่านเว็บเบราว์เซอร์ ไม่ต้องติดตั้งโปรแกรม
- ดาวน์โหลด – สามารถสมัครใช้งานได้ที่ gostream.co
จุดเด่น
- ไลฟ์จากวิดีโอที่บันทึกไว้ล่วงหน้า ช่วยให้วางแผนการตลาดและกำหนดช่วงเวลาไลฟ์ได้
- ตั้งเวลาไลฟ์ล่วงหน้า ลดภาระของแอดมินและช่วยจัดการคอนเทนต์ได้ง่ายขึ้น
- ใช้งานง่ายผ่านเว็บเบราว์เซอร์ ไม่ต้องดาวน์โหลดหรือติดตั้งโปรแกรมเพิ่มเติม
- รองรับการแสดงคอมเมนต์จากหลายแพลตฟอร์มในที่เดียว ช่วยให้ตอบโต้ลูกค้าได้สะดวก
4. โปรแกรมไลฟ์สดสำเร็จรูป Xsplit Broadcaster
XSplit Broadcaster เป็นโปรแกรมไลฟ์สดบนมือถือที่ใช้งานง่ายและครบวงจร ออกแบบมาเพื่อช่วยให้การสตรีมมิงมีคุณภาพสูง เหมาะสำหรับทั้งผู้เริ่มต้นและมืออาชีพ เนื่องจากมีฟีเจอร์ช่วยให้การไลฟ์สดดูเป็นมืออาชีพ เช่น การปรับแต่งฉาก หรือการสลับหน้าจอระหว่างกล้องและไฟล์วิดีโอ
- ค่าใช้จ่าย – มีทั้งเวอร์ชันฟรีและเวอร์ชันพรีเมียม (เริ่มต้นประมาณ 5 ดอลลาร์/เดือน สำหรับฟีเจอร์เสริม)
- รองรับระบบปฏิบัติการ – Windows
- ดาวน์โหลด – สามารถดาวน์โหลด XSplit Broadcaster ได้ที่ xsplit.com
จุดเด่น
- อินเทอร์เฟซใช้งานง่าย เหมาะสำหรับทั้งมือใหม่และมืออาชีพ
- รองรับการสลับหน้าจอแบบเรียลไทม์ เหมาะสำหรับการไลฟ์สดที่ต้องการนำเสนอหลายมุมมอง
- มีเครื่องมือเพิ่มคุณภาพวิดีโอและเสียง เช่น การปรับแต่งเสียงไมโครโฟนและการลดเสียงรบกวน
- รองรับการใช้งานร่วมกับอุปกรณ์เสริม เช่น กล้องเว็บแคม ไมโครโฟน และการ์ดแคปเจอร์
- สามารถบันทึกวิดีโอไลฟ์สดเพื่อนำไปใช้ภายหลัง ช่วยให้สามารถตัดต่อและนำไปใช้ซ้ำได้

5. Camerafi Live แอปไลฟ์สดพร้อมฟีเจอร์ตัดต่อเรียลไทม์
CameraFi Live เป็นแอปไลฟ์สดสำหรับสมาร์ตโฟน ที่มาพร้อมฟีเจอร์ตัดต่อแบบเรียลไทม์ ช่วยให้ผู้ใช้สามารถเพิ่มเอฟเฟกต์ ใส่ข้อความ สลับฉาก และใช้ฟิลเตอร์ระหว่างการถ่ายทอดสดได้อย่างง่ายดาย เหมาะสำหรับครีเอเตอร์ นักขายออนไลน์ และผู้ที่ต้องการไลฟ์สดแบบมืออาชีพ
- ค่าใช้จ่าย – มีทั้งเวอร์ชันฟรีและเวอร์ชันพรีเมียม (เริ่มต้นประมาณ 7.99 ดอลลาร์/เดือน สำหรับฟีเจอร์เสริม)
- รองรับระบบปฏิบัติการ – Android และ iOS
- ดาวน์โหลด สามารถดาวน์โหลด CameraFi Live ได้ที่
- Android – Google Play Store
- iOS – App Store
จุดเด่น
- ใช้สมาร์ตโฟนเป็นกล้องหลัก ไม่ต้องพึ่งพาอุปกรณ์เสริมราคาแพง
- รองรับการเชื่อมต่อกับกล้องภายนอก เช่น กล้อง DSLR หรือกล้องวิดีโอผ่าน USB
- ปรับแต่งคุณภาพวิดีโอได้สูงสุดระดับ Full HD ช่วยให้ภาพคมชัด
- รองรับการสตรีมแนวตั้งและแนวนอน ปรับให้เหมาะกับแต่ละแพลตฟอร์ม
- สามารถเพิ่มโลโก้และแบรนด์ดิง เพื่อสร้างเอกลักษณ์ให้กับธุรกิจ
- มีระบบแต่งหน้าด้วยฟิลเตอร์และบิวตี้โหมด ช่วยให้ใบหน้าดูสวยงามขึ้นระหว่างไลฟ์
6. Prism Live Studio แอปช่วยเพิ่มสีสันตอนไลฟ์สด
อีกหนึ่งโปรแกรมไลฟ์สด Facebook มือถือกับแอปไลฟ์สด Prism ที่มาพร้อมฟีเจอร์ตกแต่งภาพและเอฟเฟกต์แบบเรียลไทม์ ช่วยให้การสตรีมมิงดูมีสีสันและน่าสนใจมากขึ้น
- ค่าใช้จ่าย – ฟรี (มีตัวเลือกซื้อฟีเจอร์เสริมภายในแอป)
- รองรับระบบปฏิบัติการ – Android, iOS และ Windows
- ดาวน์โหลด
- Android – Google Play Store
- iOS – App Store
- Windows – prism.live
จุดเด่น
- รองรับบิวตี้โหมดและฟิลเตอร์แต่งหน้า ให้ภาพคมชัดและดูสวยงามยิ่งขึ้น
- ระหว่างไลฟ์สด สามารถเพิ่มข้อความ สติกเกอร์ และภาพซ้อน รวมถึงสลับกล้องหน้า-หลัง
- รองรับการแชร์หน้าจอและเล่นวิดีโอพร้อมกัน ช่วยในการนำเสนอข้อมูลหรือสตรีมเกม
- รองรับการบันทึกวิดีโอขณะไลฟ์ เพื่อนำไปใช้ซ้ำหรือโพสต์ภายหลัง
- ใช้งานโปรแกรมไลฟ์สดได้ทั้งบนมือถือและคอมพิวเตอร์ สะดวกต่อการใช้งานในทุกสถานการณ์

7. Kaikong ครบจบในแอปเดียว สำหรับการไลฟ์สด
Kaikong เป็นแอปไลฟ์สดที่ออกแบบมาสำหรับร้านค้าออนไลน์ที่ต้องการไลฟ์สดขายสินค้าแบบครบวงจร ช่วยให้การไลฟ์สดมีประสิทธิภาพมากขึ้น
- ค่าใช้จ่าย – มีแพ็กเกจฟรีและแพ็กเกจพรีเมียม (เริ่มต้นประมาณ 499 บาท/เดือน)
- รองรับระบบปฏิบัติการ – Android และ iOS
- ดาวน์โหลด
- Android: Google Play Store
- iOS: App Store
- เว็บไซต์: kaikong.live
จุดเด่น
- ระบบจัดการออเดอร์อัตโนมัติ ลดความผิดพลาดจากการจดออเดอร์เอง
- แสดงคีย์เวิร์ดสำหรับจองสินค้า ทำให้ลูกค้าซื้อสินค้าได้ง่ายขึ้น
- แจ้งเตือนอัตโนมัติผ่าน LINE และ Facebook Messenger
- รองรับการไลฟ์พร้อมกันหลายแพลตฟอร์ม เช่น Facebook และ TikTok
- ระบบเก็บข้อมูลลูกค้าและประวัติการซื้อ ช่วยให้วางแผนการตลาดได้ดีขึ้น
- ออกใบเสร็จและแจ้งเลขพัสดุอัตโนมัติ ทำให้มีความสะดวกต่อการใช้งาน
- ใช้งานง่าย ไม่ต้องมีความรู้ด้านเทคนิค
8. StreamYard โปรแกรมไลฟ์สดบนเบราว์เซอร์
StreamYard เป็นโปรแกรมไลฟ์สดที่ใช้งานผ่านเว็บเบราว์เซอร์ ไม่ต้องดาวน์โหลดหรือติดตั้งซอฟต์แวร์เพิ่มเติม และมีฟีเจอร์ที่ช่วยให้ไลฟ์ดูเป็นมืออาชีพ เช่น การเพิ่มโลโก้ แสดงคอมเมนต์จากผู้ชม และเชิญแขกเข้าร่วมไลฟ์สดได้ง่ายๆ
- ค่าใช้จ่าย
- เวอร์ชันฟรี – รองรับการไลฟ์สดพื้นฐาน
- แพ็กเกจพรีเมียม – เริ่มต้นที่ 20 ดอลลาร์/เดือน สำหรับการไลฟ์สดแบบไม่มีโลโก้ StreamYard และฟีเจอร์เสริม
- รองรับระบบปฏิบัติการ – ใช้งานผ่านเว็บเบราว์เซอร์ (Chrome, Firefox, Edge)
- ดาวน์โหลด – ไม่ต้องดาวน์โหลด สามารถใช้งานได้ที่ streamyard.com
จุดเด่น
- รองรับการไลฟ์สดหลายแพลตฟอร์มพร้อมกัน เช่น Facebook, YouTube, Twitch
- เชิญแขกร่วมไลฟ์สดได้ง่ายๆ ผ่านลิงก์ เหมาะสำหรับการสัมภาษณ์หรือพอดแคสต์
- รองรับการบันทึกวิดีโอไลฟ์สดเพื่อใช้ภายหลัง
- มีระบบแชร์หน้าจอและเล่นวิดีโอระหว่างไลฟ์
- อินเทอร์เฟซใช้งานง่าย ไม่ต้องมีความรู้ด้านเทคนิค

9. CF Manager โปรแกรมไลฟ์สดเพื่อขายของออนไลน์
CF Manager เป็นโปรแกรมช่วยจัดการออเดอร์สำหรับการไลฟ์สดขายสินค้าโดยเฉพาะ เหมาะสำหรับร้านค้าออนไลน์ที่ต้องการระบบช่วยให้การขายผ่านไลฟ์สดเป็นเรื่องง่ายขึ้น แอปไลฟ์สดนี้ช่วยจดออเดอร์อัตโนมัติ ลดความผิดพลาดในการรับออเดอร์ และมีฟีเจอร์แจ้งเตือนลูกค้าผ่าน Facebook Messenger และ LINE รองรับการใช้งานร่วมกับ Facebook Live และ Shopee Live ทำให้การขายผ่านไลฟ์เป็นระบบมากขึ้น
- ค่าใช้จ่าย
- มีแพ็กเกจฟรีสำหรับทดลองใช้งาน
- แพ็กเกจพรีเมียมเริ่มต้นที่ 499 บาท/เดือน สำหรับฟีเจอร์ขั้นสูง
- รองรับระบบปฏิบัติการ – ใช้งานผ่านเว็บเบราว์เซอร์
- ดาวน์โหลด – สามารถสมัครและใช้งานได้ที่ cfmanager.live
จุดเด่น
- แสดงรหัสจองสินค้าให้ลูกค้าเห็นแบบเรียลไทม์ ทำให้กระบวนการ CF ง่ายขึ้น
- ออกใบแจ้งหนี้และเลขพัสดุอัตโนมัติ ลดขั้นตอนในการจัดการออเดอร์
- สามารถบันทึกข้อมูลลูกค้าและประวัติการซื้อ เพื่อใช้ในการวางแผนการตลาด
- อินเทอร์เฟซใช้งานง่าย ไม่ต้องมีความรู้ด้านเทคนิค
10. V Rich App แอปไลฟ์สดช่วยประหยัดเวลาทำงาน
V Rich App เป็นแอปไลฟ์สดที่ช่วยจัดการไลฟ์สดสำหรับการขายสินค้าออนไลน์ ช่วยลดขั้นตอนการทำงานให้สะดวกและรวดเร็วยิ่งขึ้น ฟีเจอร์หลักของแอป คือ การจดออเดอร์อัตโนมัติ แจ้งเตือนลูกค้า และออกใบแจ้งหนี้อัตโนมัติ ทำให้สามารถเข้าถึงลูกค้าได้กว้างขึ้นโดยไม่ต้องเสียเวลาจัดการหลายช่องทางแยกกัน
- ค่าใช้จ่าย
- มีแพ็กเกจทดลองใช้งานฟรี
- แพ็กเกจพรีเมียมเริ่มต้นที่ 399 บาท/เดือน
- รองรับระบบปฏิบัติการ – Android และ iOS
- ดาวน์โหลด สามารถดาวน์โหลด V Rich App ได้ที่
- Android – Google Play Store
- iOS – App Store
- เว็บไซต์ – vrichapp.com
จุดเด่น
- แจ้งเตือนลูกค้าอัตโนมัติผ่าน LINE และ Facebook Messenger
- ออกใบแจ้งหนี้และเลขพัสดุอัตโนมัติ ลดภาระงานแอดมิน
- รองรับการไลฟ์สดหลายแพลตฟอร์มพร้อมกัน ขายสินค้าได้หลายช่องทางในเวลาเดียวกัน
- สามารถตั้งค่าคำสั่ง CF และรหัสสินค้า ให้ลูกค้าจองสินค้าได้ง่ายขึ้น
- มีระบบจัดการสต๊อกสินค้าแบบเรียลไทม์ ป้องกันปัญหาขายเกินจำนวนที่มี
- บันทึกข้อมูลลูกค้าและวิเคราะห์พฤติกรรมการซื้อ เพื่อช่วยวางแผนการตลาด
- อินเทอร์เฟซใช้งานง่าย เหมาะสำหรับทั้งมือใหม่และมืออาชีพ

11. ReStream โปรแกรมไลฟ์สดแบบไม่จำกัดเวลา
ReStream เป็นโปรแกรมไลฟ์สดที่ช่วยให้สามารถสตรีมพร้อมกันหลายแพลตฟอร์ม เช่น Facebook Live, YouTube, Twitch, Twitter, LinkedIn และอื่นๆ เหมาะสำหรับธุรกิจและครีเอเตอร์ที่ต้องการเพิ่มการเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายให้กว้างขึ้น รองรับการไลฟ์สดจากกล้อง เว็บแคม หรือการแชร์หน้าจอ และสามารถเพิ่มข้อความ กราฟิก และโลโก้เพื่อสร้างแบรนด์ดิงระหว่างไลฟ์ได้
- ค่าใช้จ่าย
- เวอร์ชันฟรี – รองรับการไลฟ์สดพื้นฐาน
- แพ็กเกจพรีเมียมเริ่มต้นที่ 16 ดอลลาร์/เดือน สำหรับฟีเจอร์เสริม เช่น การสตรีมแบบ Full HD และการไลฟ์สดพร้อมกันหลายช่องทาง
- รองรับระบบปฏิบัติการ – ใช้งานผ่านเว็บเบราว์เซอร์ (Chrome, Firefox, Edge)
- ดาวน์โหลด – ไม่ต้องดาวน์โหลด สามารถใช้งานได้ที่ restream.io
จุดเด่น
- ไลฟ์สดได้แบบไม่จำกัดเวลา เหมาะสำหรับครีเอเตอร์และธุรกิจที่ต้องการสตรีมมาราธอน
- สามารถแชร์หน้าจอและเล่นวิดีโอระหว่างไลฟ์สด
- มีระบบแสดงคอมเมนต์จากหลายแพลตฟอร์มในที่เดียว ทำให้โต้ตอบกับผู้ชมได้สะดวก
- รองรับการบันทึกวิดีโอไลฟ์สดเพื่อใช้ภายหลัง
- ใช้งานผ่านเว็บเบราว์เซอร์ ไม่ต้องติดตั้งโปรแกรมเพิ่มเติม
สรุป
การไลฟ์สดเป็นเครื่องมือสำคัญในการทำการตลาดออนไลน์ ช่วยสร้างการมีส่วนร่วมกับลูกค้า เพิ่มความน่าเชื่อถือของแบรนด์ และกระตุ้นยอดขายได้อย่างมีประสิทธิภาพ การเลือกใช้แอปและโปรแกรมไลฟ์สดที่เหมาะสม จะช่วยให้การไลฟ์ดูเป็นมืออาชีพมากขึ้น
โปรแกรมไลฟ์สดบนมือถือยังมีฟีเจอร์เสริมที่ช่วยอำนวยความสะดวก เช่น OBS Studio, StreamYard, ReStream และ GoStream ที่รองรับการไลฟ์หลายแพลตฟอร์ม หรือ Kaikong, CF Manager และ V Rich App ที่เน้นการจัดการออเดอร์สำหรับร้านค้าออนไลน์ ซึ่งแอปไลฟ์สดเหล่านี้จะช่วยให้ธุรกิจออนไลน์เติบโตและสร้างความสำเร็จได้ง่ายขึ้น