Key Takeaway
- AI Video คือเทคโนโลยีที่ใช้ปัญญาประดิษฐ์ในการสร้างหรือตัดต่อวิดีโอ ช่วยแปลงข้อความหรือภาพเป็นวิดีโอได้อย่างรวดเร็วและอัตโนมัติ
- AI Video ช่วยประหยัดเวลา ลดต้นทุน ปรับแต่งได้หลากหลาย ใช้งานง่ายแม้ไม่มีพื้นฐาน และยังสร้างคอนเทนต์คุณภาพใกล้เคียงระดับมืออาชีพ
- AI Video ปัจจุบันมีหลายแพลตฟอร์ม เช่น ChatGPT Video, Google Veo 3, Pika Labs, Minimax, Runway ML, Luma AI, Wondershare Filmora, FVC Video Converter Ultimate และ Topaz Video AI แต่ละตัวมีจุดเด่นแตกต่างกัน
- การใช้ AI Video ควรระวังเรื่องลิขสิทธิ์ ความถูกต้องของข้อมูล ภาพลักษณ์แบรนด์ รวมถึงข้อจำกัดทางเทคนิค เพื่อป้องกันไม่ให้วิดีโอส่งผลเสียต่อธุรกิจในระยะยาว
ในยุคดิจิทัลที่ความรวดเร็วและความคิดสร้างสรรค์คือหัวใจสำคัญ ‘AI Video’ กำลังกลายเป็นเครื่องมือที่พลิกโฉมการสื่อสารและการตลาดอย่างแท้จริง ไม่ว่าจะเป็นการสร้างวิดีโออัตโนมัติ การปรับแต่งคอนเทนต์ให้ตรงใจผู้ชม หรือแม้แต่การผลิตวิดีโอคุณภาพสูงในเวลาอันสั้น
AI Video คือเทคโนโลยีช่วยสร้างวิดีโอจากข้อความ ปรับแต่งความละเอียด คุณภาพวิดีโอ และใส่เอฟเฟกต์ ซับไตเติล หรือตัดต่อวิดีโอโดยอัตโนมัติ เพื่อประหยัดเวลา ลดต้นทุน เรียกได้ว่า AI Video กำลังทำให้ธุรกิจและครีเอเตอร์เข้าถึงโอกาสใหม่ๆ ได้ง่ายขึ้นมาก หากคุณกำลังมองหาวิธีเพิ่มพลังให้คอนเทนต์ของคุณ นี่คือเทรนด์ใหม่ที่ไม่ควรมองข้าม!

AI Video ทางลัดสู่การสร้างคอนเทนต์ระดับโปร ที่ไม่ว่าใครก็ทำได้!
AI Video คือการนำเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) มาช่วยสร้างหรือปรับแต่งวิดีโอให้มีประสิทธิภาพและตอบโจทย์การใช้งานได้ง่ายขึ้น โดยไม่จำเป็นต้องมีทักษะด้านตัดต่อขั้นสูงก็สามารถทำวิดีโอที่ดูเป็นมืออาชีพได้ เทคโนโลยีนี้สามารถช่วยในหลายด้าน เช่น การสร้างวิดีโอจากข้อความ การปรับเสียง พากย์อัตโนมัติ หรือการเลือกภาพและสไตล์ที่เหมาะสมกับเนื้อหา
จุดเด่นของ AI Video คือความรวดเร็ว ความยืดหยุ่น และความสามารถในการทำงานซ้ำๆ ได้อย่างแม่นยำ นอกจากช่วยประหยัดเวลาและต้นทุนแล้ว ยังเปิดโอกาสให้ธุรกิจและครีเอเตอร์มีพื้นที่สร้างสรรค์คอนเทนต์ที่เข้าถึงผู้ชมได้มากขึ้นอีกด้วย

AI Video ทางลัดสู่ความสำเร็จของนักการตลาด ทำไมใครๆ ก็ใช้กัน?
ในยุคที่การแข่งขันด้านคอนเทนต์เข้มข้นขึ้น การทำวิดีโอให้โดดเด่นและตรงใจผู้ชมคือสิ่งสำคัญ นักการตลาดจำนวนมากจึงหันมาใช้ AI Video เป็นเครื่องมือช่วยสร้างสื่อ เพราะตอบโจทย์ทั้งความเร็ว คุณภาพ และความคุ้มค่า ไม่ว่าจะเป็นแบรนด์เล็กหรือใหญ่ก็สามารถเข้าถึงได้ง่ายขึ้น
ประหยัดเวลาในการผลิตสื่อ
การทำวิดีโอจะง่ายและรวดเร็วขึ้น จากเดิมที่ต้องใช้เวลาในการถ่ายทำ ตัดต่อ ใส่เสียง และปรับแต่งรายละเอียด ตอนนี้สามารถทำได้อัตโนมัติด้วย AI เพียงป้อนข้อความหรือไอเดีย ระบบของ AI Video ก็สามารถสร้างวิดีโอพร้อมใช้งานได้ทันที สิ่งนี้ทำให้มีเวลามากขึ้นในการโฟกัสกับการวางกลยุทธ์และคิดคอนเทนต์สร้างสรรค์ แทนที่จะเสียเวลาไปกับงานเชิงเทคนิคที่กินเวลา
ลดต้นทุนการตัดต่อ
AI Video ช่วยให้หลายธุรกิจลดค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องกับการผลิตวิดีโอได้ จากเดิมที่ต้องลงทุนทั้งในอุปกรณ์ กล้อง ทีมถ่ายทำ และนักตัดต่อมืออาชีพ ตอนนี้สามารถใช้ AI จัดการขั้นตอนเหล่านี้แทนได้ในเวลาอันสั้น ไม่ว่าจะเป็นการตัดต่ออัตโนมัติ ใส่ซับไตเติล ปรับเสียง หรือเลือกภาพประกอบที่เหมาะสม ทำให้ไม่จำเป็นต้องใช้ทรัพยากรมากเหมือนเมื่อก่อน ช่วยให้ได้วิดีโอที่พร้อมใช้งานโดยใช้งบประมาณน้อยลง แต่ยังให้คุณภาพที่น่าพอใจ
ปรับแต่งได้หลากหลาย
เปิดโอกาสให้ผู้ใช้งานสามารถปรับแต่งวิดีโอได้ตามต้องการ ไม่ว่าจะเป็นการเลือกโทนสี ฟอนต์ ดนตรีประกอบ สไตล์ภาพเคลื่อนไหว หรือแม้กระทั่งการปรับรูปแบบการนำเสนอให้เหมาะกับแพลตฟอร์มที่ต่างกัน เช่น Facebook, TikTok หรือ YouTube
AI Video ทำให้วิดีโอแต่ละชิ้นสามารถสื่อสารกับกลุ่มเป้าหมายได้อย่างตรงใจและเหมาะสมกับบริบทมากขึ้น อีกทั้งยังสามารถทดลองหลายรูปแบบได้ง่าย โดยไม่ต้องเสียเวลาหรือค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมในการตัดต่อใหม่ทุกครั้ง
ใช้งานง่าย แม้ไม่มีพื้นฐานการทำวิดีโอ
AI Video ถูกออกแบบมาเพื่อให้ทุกคนสามารถใช้งานได้อย่างสะดวก แม้จะไม่มีความรู้ด้านการถ่ายทำหรือตัดต่อมาก่อน เพียงใส่ข้อความ อัปโหลดรูปภาพ หรือเลือกเทมเพลต ระบบก็จะช่วยจัดการขั้นตอนที่ซับซ้อนให้อัตโนมัติ ตั้งแต่การจัดเรียงภาพ ใส่เสียงพากย์ จนถึงการปรับแต่งเอฟเฟกต์ ทำให้ผู้ใช้งานสามารถสร้างวิดีโอที่ดูเป็นมืออาชีพได้ภายในเวลาไม่นาน ลดความยุ่งยากและเปิดโอกาสให้โฟกัสกับการเล่าเรื่องหรือไอเดียที่อยากนำเสนอแทน
สร้างคอนเทนต์ได้ในปริมาณมาก
AI Video ช่วยให้การผลิตวิดีโอจำนวนมากเป็นเรื่องง่ายและรวดเร็ว จากเดิมที่ต้องใช้เวลาหลายวันหรือหลายสัปดาห์ในการสร้างสื่อเพียงไม่กี่ชิ้น ปัจจุบันสามารถสร้างวิดีโอหลายเวอร์ชันได้ภายในเวลาไม่นาน เพียงแค่เปลี่ยนข้อความ รูปภาพ หรือสไตล์ ระบบก็สามารถปรับแต่งและผลิตวิดีโอใหม่ได้ทันที สิ่งนี้ทำให้สามารถสร้างคอนเทนต์ที่หลากหลาย รองรับทุกแพลตฟอร์ม และอัปเดตได้ต่อเนื่อง เพื่อให้ผู้ชมได้มีส่วนร่วมอย่างสม่ำเสมอ
ได้คุณภาพที่ใกล้เคียงมืออาชีพ
AI Video มาพร้อมเทคโนโลยีที่ช่วยปรับแต่งทั้งภาพ เสียง และเอฟเฟกต์ให้มีความสมบูรณ์แบบมากขึ้น วิดีโอที่ได้จึงมีความคมชัด สีสันสวยงาม และการตัดต่อที่ลื่นไหลใกล้เคียงกับผลงานของทีมโปรดักชันมืออาชีพ นอกจากนี้ยังสามารถเพิ่มองค์ประกอบอย่างซับไตเติล กราฟิก หรือเสียงพากย์ได้อย่างลงตัว ทำให้แบรนด์สามารถนำวิดีโอไปใช้งานได้จริงทั้งในด้านการตลาด การนำเสนอ หรือการสื่อสารบนโซเชียล โดยไม่ลดทอนความน่าเชื่อถือและภาพลักษณ์ของธุรกิจ

อัปเดตเทรนด์ AI Video กำลังมาแรง! 10 เครื่องมือสร้างวิดีโอด้วย AI ที่ต้องลองปีนี้
ในยุคที่คอนเทนต์วิดีโอต้องเปล่งประกายน่าสนใจ AI Video กลายเป็นพลังที่ช่วยให้ครีเอเตอร์และนักการตลาดก้าวกระโดดขึ้นไปในระดับมืออาชีพ ปีนี้มีเครื่องมือสุดเจ๋งถึง 10 ตัวที่กำลังมาแรง ลองเลือกดูว่าจะมีอะไรที่ตรงใจคุณบ้าง!
1. ChatGPT
- จุดเด่น เป็นฟีเจอร์แปลงข้อความ (Text prompt) ให้กลายเป็นคลิปวิดีโอสั้นโดยตรงใน ChatGPT ใช้งานง่ายและเน้นให้เราเล่าไอเดียแล้วได้ผลลัพธ์ไว เหมาะมากสำหรับทำตัวอย่างคอนเทนต์ สื่อโซเชียล หรือไอเดีย Reels โดยไม่ต้องผ่านขั้นตอนตัดต่อแบบคลาสสิก
- ความยาววิดีโอสูงสุด
- Plus สูงสุด 5 วินาที (ที่ความละเอียด 720p)
- Pro สูงสุด 20 วินาที (ที่ความละเอียด 1080p)
- ความละเอียดสูงสุด
- Plus 720p
- Pro 1080p (Full HD)
- การประมวลผล Pro ได้รับสิทธิ์ประมวลผลงานก่อนและเร็วกว่า Plus โดยมีจำนวน ‘concurrent generations’ สูงกว่า (Plus 2 ครั้งพร้อมกัน Pro 5 ครั้ง) อย่างไรก็ตามในช่วงคนใช้งานเยอะอาจต้องรอหน่อย
- ราคา
- ChatGPT Plus ประมาณ $20 (730 บาท) ต่อเดือน ให้สิทธิ์สร้างวิดีโอ 50 ชิ้น ความละเอียด 720p ความยาว 5 วินาที
- ChatGPT Pro ประมาณ $200 (7,300 บาท) ต่อเดือน ให้สิทธิ์สร้างวิดีโอ 500 ชิ้น ที่ความละเอียด 1080p และความยาว 20 วินาที พร้อมดาวน์โหลดแบบไม่มีลายน้ำ และการสร้างพร้อมกันหลายชิ้น
2. Google Veo 3
- จุดเด่น สามารถสร้างวิดีโอ 8 วินาที พร้อมเสียงที่ซิงค์กันอย่างสมจริง ไม่ว่าจะเป็นเสียงบรรยากาศ เสียงเอฟเฟกต์ หรือเสียงพูดจากข้อความหรือภาพนิ่งเท่านั้น ทำให้เหมาะกับการทำคอนเทนต์สั้น เช่น วิดีโอสนุกๆ หรือสตอรีบอร์ด ที่ต้องการความสมจริงและบรรยากาศครบจบตัวเดียว
- ความยาววิดีโอสูงสุด รองรับความยาวสูงสุด 8 วินาทีต่อคลิป
- ความละเอียดสูงสุด
- Gemini API / Google Photos ให้คลิปที่ความละเอียด 720p (24 fps)
- Veo3.ai (ภายนอก) รองรับ 1080p แต่ตามเอกสารหลักของ Google ยังยึด 720p เป็นหลัก
- การประมวลผล Veo 3 ได้รับคำชมว่าประมวลผล ค่อนข้างรวดเร็ว ไม่ต้องรอนาน และแพ็กเกจที่สูงกว่าจะได้ Priority Processing หรือ ‘ประมวลผลเร็วกว่า’ ด้วย
- ราคา
- AI Pro (Google Gemini/Flow) ราคาเพียง $19.99 (730 บาท) ต่อเดือน
- AI Ultra ราคา $249.99 (9,125 บาท) ต่อเดือน
- Veo3.ai แผน Plus $37.50 (1,370 บาท) ต่อเดือน Pro $70 (2,555 บาท) ต่อเดือน Enterprise และ $130 (4,745 บาท) ต่อเดือน
3. Minimax
- จุดเด่น การเคลื่อนไหวของตัวละครที่สมจริง การคุมกล้อง เช่น การแพนหรือซูมอย่างเป็นธรรมชาติ และการจำลองฟิสิกส์ อย่างขนหรือผิวสัมผัสที่ดูสมจริง เหมาะกับสร้างคอนเทนต์สั้นที่ต้องการความสมจริง เช่น วิดีโอสัตว์ เคลื่อนไหวในฉากสมจริง หรือการเล่าเรื่องแบบมีสไตล์ จับตามเทรนด์ เช่น แมวกระโดดโอลิมปิกที่ไวรัลบนโซเชียล
- ความยาววิดีโอสูงสุด Minimax เช่น Hailuo-02 สร้างวิดีโอสั้นได้ประมาณ 5-10 วินาที ต่อคลิป
- ความละเอียดสูงสุด รองรับความละเอียดสูงสุด 1080p (Full HD) โมเดลก่อนหน้านี้รองรับ 720p ที่ 25 fps
- การประมวลผล ได้รับการกล่าวถึงว่าประมวลผลเร็วกว่า Veo 3 ของ Google และให้ผลลัพธ์ที่มีความสมจริงในระดับสูงด้วย
- ราคา
- Minimax AI (Hailuo Video-01) บน Segmind API คิดราคาที่ $0.625 ต่อการสร้างวิดีโอในแต่ละครั้ง หากใช้ 1 ครั้ง ประมาณ 23 บาท
- Minimax AI Video Generator (แพลตฟอร์มทั่วไป) เริ่มต้นที่ $29.9 (1,090 บาท) ต่อเดือน
- ผ่าน Overchat AI มีแพ็กเกจเสียเงินเช่น $4.99 (182 บาท) ต่อสัปดาห์ หรือ $59.99 (2,190 บาท) ต่อปี
4. Kling AI
- จุดเด่น วิดีโอคุณภาพสูง เคลื่อนไหวสมจริง แก้ไขง่ายผ่าน Multi-Elements เหมาะกับครีเอเตอร์ที่ต้องการวิดีโอแบบ Cinematic แอนิเมชัน หรือคอนเทนต์สั้นแบบสร้างสรรค์
- ความยาววิดีโอสูงสุด 5-10 วินาที (เวอร์ชันฟรี) หรือ 60 วินาที (เวอร์ชัน Pro) และสูงสุด 2-3 นาที (เวอร์ชันขั้นสูง)
- ความละเอียดสูงสุด จาก 720p ถึง 1080p และรองรับ 4K (ในบางรุ่น)
- การประมวลผล เวอร์ชันเสียค่าใช้จ่ายจะเร็วกว่าเวอร์ชันฟรี
- ราคา มีตั้งแต่เวอร์ชันฟรี ไปจนถึงแบบเสียค่าใช้จ่าย
- Standard ประมาณ $6.99 หรือ (255 บาท) ต่อเดือน
- Pro ประมาณ $25.99 (950 บาท) ต่อเดือน
- Premier ประมาณ $64.99 (2,370 บาท) ต่อเดือน
5. Luma AI
- จุดเด่น เปลี่ยนข้อความหรือภาพนิ่งเป็นวิดีโอสั้นแสนสมจริง พร้อม Motion Fluid, Physics-aware และ Transitions Cinematic เหมาะกับครีเอเตอร์สายโฆษณา สื่อสังคม หรือเรื่องสั้นที่อยากเล่าให้น่าสนใจ
- ความยาววิดีโอสูงสุด จำกัดที่สูงสุด 10 วินาทีต่อคลิป
- ความละเอียดสูงสุด รองรับ 1080p (Full HD) โดยสามารถเลือกได้ระหว่าง 720p หรือ 1080p ขึ้นอยู่กับแพ็กเกจ
- การประมวลผล ระบบประมวลผลค่อนข้างรวดเร็ว โดยเฉพาะผู้ใช้แบบจ่ายเงินจะได้สิทธิ์ Priority แต่แผนฟรีมักจะเจอคิวหรือรอผลนานกว่า
- ราคา มีตั้งแต่การแบบใช้ฟรีไปจนนถึงเสียค่าใช้จ่าย
- Lite $9.99 (365 บาท) ต่อเดือน
- Plus: $29.99 (1,095 บาท) ต่อเดือน
- Unlimited: $94.99 (3,465 บาท) ต่อเดือน
6. Pika Labs
- จุดเด่น สร้างวิดีโอสั้นจากข้อความหรือภาพนิ่งได้ ควบคุมทิศทางกล้อง เอฟเฟกต์ และสไตล์ได้ตามใจ เหมาะกับครีเอเตอร์สายโซเชียลมีเดียหรือทำแนว Storytelling ให้โดดเด่นและเป็นตัวเอง
- ความยาววิดีโอสูงสุด เลือกได้ตั้งแต่ 1-10 วินาทีต่อคลิป ให้ความยืดหยุ่นเหมาะกับคอนเทนต์สั้นแบบ Reels หรือ Story
- ความละเอียดสูงสุด รองรับระดับ 1080p (Full HD) โดยเฉพาะในเวอร์ชัน Pika 2.1 หรือใหม่กว่า
- การประมวลผล สร้างวิดีโอได้เร็วและลื่นไหล โดยเฉพาะในแพ็กเกจเสียค่าใช้จ่าย และมีเครื่องมือช่วยเพิ่มครีเอทีฟ เช่น ‘Selfie With Your Younger Self’ ที่ใช้งานง่ายและสร้างวิดีโอได้ไว
- ราคา
- Standard $10 (365 บาท) ต่อเดือน
- Pro $35 (1,280 บาท) ต่อเดือน
- Fancy $95 (3,470 บาท) ต่อเดือน
7. Runway ML
- จุดเด่น เครื่องมือครบด้าน ไม่ว่าจะเป็นการสร้างวิดีโอจากข้อความ สร้างวิดีโอจากภาพนิ่ง เป็น AI ตัดต่อวิดีโอ สร้างเสียงพูดด้วย AI และเอฟเฟกต์พิเศษ พร้อมเทมเพลตจากโมเดล Gen-3 และ Gen-4 ที่ช่วยให้สร้างเนื้อหารวดเร็ว เหมาะทั้งกับนักการตลาด ครีเอเตอร์ และแม้แต่ทีมงานระดับมืออาชีพ
- ความยาววิดีโอสูงสุด สร้างได้สูงสุดประมาณ 20 วินาที โดยระบบจะตัดวิดีโอส่วนเกินอัตโนมัติ หรือใช้ฟีเจอร์ Extend เพื่อเพิ่มคลิปเดิมให้ยาวได้ถึง 40 วินาที
- ความละเอียดสูงสุด วิดีโอที่สร้างโดยตรง (Generative Video) จะเป็น 720p แต่สามารถใช้ฟีเจอร์ อัปสเกล 4K ได้ในแพ็กเกจเสียค่าใช้จ่าย
- การประมวลผล แพ็กเกจแบบเสียเงิน เช่น Pro หรือ Unlimited จะได้รับคิวประมวลผลที่รวดเร็วขึ้นและมี Priority ในการสร้าง ซึ่งช่วยลดเวลาในการรอ
- ราคา มีให้ใช้ฟรีและเสียค่าใช้จ่าย
- Standard $12 ต่อเดือน (คิดแบบรายปี) ประมาณ 440 บาทต่อเดือน
- Pro $28 ต่อเดือน (คิดแบบรายปี) ประมาณ 1,020 บาทต่อเดือน
- Unlimited $76 ต่อเดือน (คิดแบบรายปี) ประมาณ 2,775 บาทต่อเดือน
8. Topaz Video AI
- จุดเด่น โดดเด่นด้านการอัปสเกลและเป็น Enhancer AI Video ที่ช่วยปรับคุณภาพวิดีโอ เช่น แก้เบลอ ลดนอยซ์ ลบสั่น และแปลงเฟรมเรตสม่ำเสมอ เหมาะกับงานฟื้นฟูวิดีโอเก่า Footage มือถือ หรือครีเอเตอร์ที่ต้องการภาพคมชัดระดับสตูดิโอ
- ความยาววิดีโอสูงสุด ไม่จำกัดความยาว เพราะเป็นซอฟต์แวร์แบบ Desktop ที่ประมวลผลได้ตามทรัพยากรเครื่อง ไม่มีข้อจำกัดเรื่องความยาวไฟล์วิดีโอ
- ความละเอียดสูงสุด รองรับการอัปสเกลได้ถึง 4K, 8K หรือ 16K และมีฟีเจอร์เสริมอื่นด้วย
- การประมวลผล ช้าและใช้ทรัพยากรสูง โดยเฉพาะหากคุณใช้การประมวลผลแบบละเอียด เช่น สมูทเฟรมหรือระดับสูง บางครั้งใช้เวลานานหลายชั่วโมง ขึ้นอยู่กับฮาร์ดแวร์
- ราคา เป็นซอฟต์แวร์ประเภทซื้อขาด (One-time license) ราคา $299 สำหรับไลเซนส์แบบถาวรพร้อมอัปเดตฟรี 1 ปี (ประมาณ 10,900 บาท) หลังจากปีแรก หากต้องการอัปเดตเพิ่มเติม $149 ต่อปี (ประมาณ 5,440 บาท)
9. Wondershare Filmora
- จุดเด่น โดดเด่นด้วยฟีเจอร์ครบครัน ทั้ง AI Tools เช่น สร้างวิดีโอจากข้อความ สร้างซับไตเติลอัตโนมัติ ตัดคลิปสั้นอัตโนมัติ เอฟเฟกต์พิเศษ ทรานซิชันเปลี่ยนฉาก หรือการตัดต่อหลายกล้องที่ใช้ง่าย เหมาะกับทั้งมือใหม่ ครีเอเตอร์โซเชียล หรือทีมการตลาดที่ต้องการทำคอนเทนต์ให้ปังได้เร็วๆ
- ความยาววิดีโอสูงสุด ไม่มีการจำกัดความยาว ผู้ใช้สามารถตัดต่อวิดีโอได้ยาวเท่าที่ต้องการ ขึ้นอยู่กับทรัพยากรฮาร์ดแวร์และรูปแบบไฟล์ที่ใช้งาน
- ความละเอียดสูงสุด รองรับการส่งออกวิดีโอที่ความละเอียดสูงสุดถึง 4K (ในแพ็กเกจที่รองรับ) ร่วมกับการเลือกอัตราส่วนตามแพลตฟอร์มได้สะดวก
- การประมวลผล ประสิทธิภาพการประมวลผลถือว่า รวดเร็วและใช้งานได้ลื่น ด้วยฟีเจอร์ AI แบบเรียลไทม์และเทมเพลตช่วยแก้ไขงานได้ไวมากขึ้น
- ราคา มีแบบทดลองใช้งานฟรีได้ หรือจะเสียค่าใช้จ่ายก็ได้
- Annual Plan ประมาณ $49.99 (1,825 บาท) ต่อปี
- Perpetual (ซื้อขาด) ประมาณ $79.99 (2,920 บาท)
- Subscription Bundle (รวม Filmstock) ประมาณ $109.99 (4,015 บาท) ต่อปี
- Cross-Platform Plan ประมาณ $69.99 (2,555 บาท) ต่อปี
- Education/Student Plan เริ่มต้น $19.99 (730 บาท) ต่อเดือน (ราคานี้สำหรับบุคคลทั่วไปที่เป็นนักเรียนหรือนักศึกษา)
10. FVC Video Converter Ultimate
- จุดเด่น เป็นโปรแกรมครบวงจรที่ช่วยแปลงไฟล์ เสริมคุณภาพ บีบอัด และเป็น AI ตัดต่อวิดีโอและเสียงได้อย่างรวดเร็วและง่าย เหมาะสำหรับคนที่ต้องการทำคลิปคุณภาพสูงโดยไม่ซับซ้อน ทั้งมืออาชีพและมือใหม่
- ความยาววิดีโอสูงสุด ไม่มีจำกัดความยาววิดีโอ ใช้งานตามขนาดทรัพยากรเครื่องได้เต็มที่
- ความละเอียดสูงสุด รองรับการแปลงและเสริมคุณภาพวิดีโอระดับ 4K และ 8K อย่างรวดเร็ว ด้วยเทคโนโลยีเร่งความเร็วด้วยฮาร์ดแวร์ (GPU acceleration)
- การประมวลผล ประมวลผลเร็วสูงถึง 30 เท่า เมื่อเทียบกับการแปลงทั่วไป โดยใช้ GPU acceleration จากทั้ง NVIDIA/Intel/AMD ช่วยให้การแปลงหรือแก้ไขวิดีโอเร็วและลื่นไหล
- ราคา โปรแกรมมีเวอร์ชันทดลองฟรีให้ใช้งานก่อน แต่มีข้อจำกัด หากต้องใช้แบบเต็มฟีเจอร์มีค่าใช้จ่ายดังนี้
- 1-month License ประมาณ $14.50 (530 บาท) ต่อเดือน
- Lifetime License (ซื้อครั้งเดียว) ประมาณ $49.96 (1,820 บาท)
ก่อนจะปังต้องระวัง! 5 ข้อควรระวังก่อนเริ่มสร้างวิดีโอด้วย AI
การใช้ AI ตัดต่อวิดีโอ หรือสร้างวิดีโอนั้นถือเป็นโอกาสที่ดีในการเพิ่มความเร็วและความสร้างสรรค์ แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าจะปลอดภัยไร้ข้อกังวล 100% เพราะการทำงานกับ AI ยังมีประเด็นที่เราต้องใส่ใจ ทั้งเรื่องกฎหมาย ความน่าเชื่อถือ และผลกระทบต่อภาพลักษณ์ของธุรกิจ หากละเลยไปอาจทำให้วิดีโอที่ตั้งใจให้ ‘ปัง’ กลายเป็น ‘พัง’ ได้ง่ายๆ ดังนั้นก่อนเริ่มต้นเรามาดูกันว่ามีเรื่องอะไรที่ต้องระวังเป็นพิเศษบ้าง!
ลิขสิทธิ์เนื้อหา
การสร้างวิดีโอด้วย AI อาจดึงเอาข้อมูล ภาพ เสียง หรือองค์ประกอบอื่นๆ ที่มีเจ้าของลิขสิทธิ์มาใช้โดยไม่ได้ตั้งใจ หากไม่ตรวจสอบให้รอบคอบ อาจเสี่ยงต่อการละเมิดสิทธิ์ทางกฎหมาย และสร้างปัญหาตามมาทั้งในด้านชื่อเสียงและค่าใช้จ่ายที่ไม่คาดคิด ดังนั้น การตรวจสอบแหล่งที่มาจึงเป็นสิ่งสำคัญก่อนนำวิดีโอไปใช้งานจริง
ความถูกต้องของข้อมูล
แม้ว่า AI จะช่วยสร้างวิดีโอได้อย่างรวดเร็ว แต่ข้อมูลที่ถูกนำมาใช้อาจไม่แม่นยำเสมอไป หากเผยแพร่โดยไม่ตรวจสอบ อาจทำให้ผู้ชมได้รับข้อมูลที่ผิดพลาด ส่งผลกระทบต่อความน่าเชื่อถือของธุรกิจ และยังอาจทำให้แบรนด์ถูกมองว่าไม่ใส่ใจในคุณภาพของคอนเทนต์ได้ด้วย
ภาพลักษณ์ของแบรนด์
การใช้ AI สร้างวิดีโอแม้จะช่วยให้งานออกมาเร็วและง่ายขึ้น แต่ถ้าเนื้อหาหรือโทนการนำเสนอไม่ตรงกับบุคลิกของแบรนด์ ก็อาจทำให้ผู้ชมรู้สึกสับสนหรือไม่เชื่อมโยงกับแบรนด์ได้ นอกจากนี้ยังเสี่ยงต่อการส่งสารผิดพลาด ซึ่งอาจกระทบต่อความน่าเชื่อถือและความไว้วางใจในระยะยาวได้

ตัวอย่าง Prompt สำหรับ AI Video
การเขียน Prompt ที่ชัดเจนและละเอียดคือหัวใจสำคัญของการสร้างวิดีโอด้วย AI เพราะ Prompt จะเป็นตัวกำหนดทิศทาง เนื้อหา โทน และสไตล์ของวิดีโอ หากกำหนดได้ถูกต้องก็จะช่วยให้ AI สร้างวิดีโอออกมาตรงใจและใช้งานได้จริง มาลองดูตัวอย่าง Prompt ที่สามารถนำไปปรับใช้กับงานประเภทต่างๆ ได้เลย!
Prompt สำหรับวิดีโอการตลาดบนโซเชียล
“สร้างวิดีโอแนวสดใส ความยาว 30 วินาที โปรโมตโปรโมชันส่วนลด 50% ของร้านเสื้อผ้าออนไลน์ ใช้โทนสีสว่าง เพิ่มข้อความตัวหนาแบบดึงดูดใจ และใส่เสียงดนตรีจังหวะเร็วเพื่อสร้างความสนุกสนาน”
“สร้างวิดีโอความยาว 20 วินาที โปรโมตร้านกาแฟสไตล์มินิมอล ใช้โทนสีอบอุ่น แสดงภาพบรรยากาศร้าน กาแฟแก้วสวย และใส่ข้อความสั้นๆ ‘ซื้อ 1 แถม 1 ทุกวันจันทร์’ พร้อมดนตรีสบายๆ แนว Lo-fi”
“สร้างวิดีโอแนวสดใส ความยาว 25 วินาที โปรโมตร้านขนมออนไลน์ ใช้โทนสีพาสเทล ใส่ข้อความดึงดูด เช่น ‘สั่งวันนี้ ส่งฟรีทั่วประเทศ’ พร้อมดนตรีจังหวะเร็วเพื่อดึงดูดผู้ชมบน TikTok/Instagram”
Prompt สำหรับสร้างวิดีโอโปรโมตสินค้า
“สร้างวิดีโอความยาว 1 นาที แนะนำสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ ใช้เอฟเฟกต์ไฮเทค ภาพเคลื่อนไหวแบบ 3D ใส่ข้อความแสดงคุณสมบัติเด่น เช่น กล้อง 108MP แบตเตอรี่ใช้งานได้ 2 วัน พร้อมปิดท้ายด้วยโลโก้แบรนด์อย่างชัดเจน”
“สร้างวิดีโอความยาว 40 วินาที โปรโมตเครื่องฟอกอากาศในบ้าน ใช้ภาพ 3D แสดงการทำงานของตัวกรองอากาศ ใส่ข้อความคุณสมบัติเด่น เช่น ‘ดักฝุ่น PM 2.5 ได้ 99%’ และจบด้วยภาพครอบครัวที่กำลังใช้ชีวิตอย่างมีความสุขในบ้านที่สะอาด”
“สร้างวิดีโอความยาว 45 วินาที แนะนำสมาร์ทวอชรุ่นใหม่ ใช้ภาพ 3D แสดงการทำงานของฟีเจอร์ เช่น ตรวจวัดหัวใจ กันน้ำ ใส่ข้อความสั้นๆ ตัวหนา และปิดท้ายด้วยโลโก้แบรนด์ + Call to Action ‘สั่งซื้อเลยวันนี้’”
Prompt สำหรับทำวิดีโอการ์ตูน
“สร้างวิดีโอการ์ตูนความยาว 45 วินาที ตัวละครเด็กผู้ชายกับสุนัขผจญภัยในป่า สไตล์การ์ตูนญี่ปุ่น สีสันสดใส เน้นความน่ารักและบรรยากาศอบอุ่น เพิ่มเสียงบรรยายสั้นๆ เล่าเรื่องประกอบ”
“สร้างวิดีโอการ์ตูนความยาว 1 นาที ตัวละครหุ่นยนต์น้อยออกเดินทางตามหาดาวเคราะห์ใหม่ ภาพแนวไซไฟการ์ตูน สีสันสดใส มีฉากเปลี่ยนหลายมุม เพิ่มเสียงเอฟเฟกต์สนุกๆ และดนตรีผจญภัย”
“สร้างวิดีโอการ์ตูนความยาว 2 นาที ตัวละครกระต่ายน้อยผจญภัยในสวนดอกไม้ สไตล์อนิเมะ สีสันสดใส เพิ่มเสียงบรรยายเล่าเรื่องสั้นๆ และดนตรีน่ารักเพื่อสร้างความอบอุ่นและสนุกสนาน”
สรุป
AI Video กำลังกลายเป็นเทรนด์สำคัญในยุคดิจิทัล ที่ช่วยให้นักการตลาดและธุรกิจสามารถสร้างคอนเทนต์ได้รวดเร็ว มีคุณภาพ และลดต้นทุนในการผลิตวิดีโอ จุดเด่นอยู่ที่ความสามารถในการปรับแต่งหลากหลาย ใช้งานง่าย แม้ไม่มีพื้นฐานด้านการตัดต่อ และยังสร้างสื่อได้จำนวนมากในเวลาอันสั้น อย่างไรก็ตามก่อนใช้งานก็ต้องระวังเรื่องลิขสิทธิ์ ความถูกต้องของข้อมูล และภาพลักษณ์ของแบรนด์ เพื่อไม่ให้เกิดผลกระทบเชิงลบในระยะยาว
หากคุณต้องการนำ AI Video และกลยุทธ์การตลาดดิจิทัลมาใช้ให้เกิดผลลัพธ์สูงสุด Minimice Group พร้อมช่วยดูแลครบวงจร ตั้งแต่ SEO, Google Ads, Social Media Ads, Content Marketing ไปจนถึงการพัฒนาเว็บไซต์ โดยทีมผู้เชี่ยวชาญที่เน้นผลลัพธ์ที่วัดได้จริง และการันตี KPI ทุก 3 เดือน ให้ธุรกิจของคุณเติบโตอย่างมั่นใจในยุคที่ AI ขับเคลื่อนการตลาด!คำถามที่พบบ่อยที่พบบ่อยเกี่ยวกับ AI Video (FAQ)
คำถามที่พบบ่อยที่พบบ่อยเกี่ยวกับ AI Video (FAQ)
Video Enhance AI คืออะไร?
Video Enhance AI Online คือซอฟต์แวร์ที่ใช้ปัญญาประดิษฐ์ช่วยปรับคุณภาพวิดีโอ เช่น เพิ่มความละเอียด ซ่อมภาพแตกเบลอ หรือปรับความคมชัด ให้ได้ภาพที่ใกล้เคียงต้นฉบับระดับมืออาชีพ
AI สร้างวิดีโอจากข้อความภาษาไทยมีอะไรบ้าง?
ปัจจุบันมีหลายแพลตฟอร์มที่รองรับภาษาไทย เช่น Runway ML, Pika Labs, Luma AI และ Google Veo 3 ซึ่งสามารถป้อน Prompt ภาษาไทยเพื่อสร้างวิดีโอจากข้อความได้โดยตรง เหมาะกับนักการตลาดออนไลน์และครีเอเตอร์ที่ต้องการทำงานแบบรวดเร็ว
AI Video มีข้อจำกัดอะไรบ้าง?
ข้อจำกัดของ AI Video ได้แก่ คุณภาพวิดีโอที่อาจยังไม่เทียบเท่ามืออาชีพทุกกรณี ความถูกต้องของรายละเอียดที่อาจเพี้ยน รวมถึงปัญหาลิขสิทธิ์และต้นทุนการใช้งานที่ต้องวางแผนให้เหมาะสมก่อนนำมาใช้จริง



