what-is-e-e-a-t

แนะนำ E-E-A-T สำหรับเว็บไซต์ใหม่ปี 2026 สร้างความน่าเชื่อถือให้เป็นมิตรกับ Google ตั้งแต่หน้าแรก!

Table of Contents

Key Takeaway

องค์ประกอบ E-E-A-Tคำอธิบายสิ่งที่ต้องทำบนเว็บไซต์ใหม่
Experience (ประสบการณ์)การมีประสบการณ์จริงในการใช้ ทำ หรือแก้ปัญหาเรื่องนั้นๆแสดงขั้นตอน (How-to) จากประสบการณ์ตรง รีวิวสินค้าหรือบริการของตัวเอง
Expertise (ความเชี่ยวชาญ)ความรู้ในหัวข้อนั้นๆ ที่ได้รับการยอมรับในวงกว้างสร้างหน้า “เกี่ยวกับเรา” (Author Bio) ที่ชัดเจน อ้างอิงแหล่งข้อมูลที่น่าเชื่อถือ
Authoritativeness (อำนาจ)ชื่อเสียงและความน่าเชื่อถือในอุตสาหกรรมการได้รับการกล่าวถึง (Backlinks) จากเว็บไซต์คุณภาพ มีการรับรอง (Certificates)
Trustworthiness (ความน่าเชื่อถือ)ความปลอดภัย ความถูกต้อง และความโปร่งใสของเว็บไซต์ใช้ HTTPS มีนโยบายความเป็นส่วนตัว (Privacy Policy) ข้อมูลติดต่อชัดเจน

เว็บไซต์ใหม่ VS การเอาชนะความน่าเชื่อถือของ Google

เมื่อคุณเริ่มสร้างเว็บไซต์ใหม่ ความท้าทายที่ใหญ่ที่สุดไม่ใช่แค่การสร้างเนื้อหา แต่คือ การสร้างความน่าเชื่อถือ ในสายตาของ Google โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังจาก Google ได้อัปเดตแกนหลัก (Core Update) ครั้งใหญ่ ที่เน้นย้ำเรื่องE-E-A-T (Experience, Expertise, Authoritativeness, Trustworthiness) มากยิ่งขึ้น

เว็บไซต์ใหม่มักจะถูกจัดอยู่ในกลุ่มที่เรียกว่า “Untrusted” หรือมีความน่าเชื่อถือต่ำจนกว่าจะพิสูจน์ตัวเองได้ นี่คือสาเหตุที่หลายเว็บไซต์ที่เพิ่งเกิดใหม่ต้องใช้เวลาหลายเดือนกว่าจะเริ่มเห็นอันดับที่ดีขึ้น แต่ข่าวดีคือ มีกลยุทธ์ที่ออกแบบมาเพื่อเร่งกระบวนการนี้โดยเฉพาะ

คุณไม่จำเป็นต้องมีอายุเว็บไซต์เป็นสิบปีเพื่อพิชิต E-E-A-T หากเข้าใจหลักการที่ถูกต้อง และนี่คือบทความที่คุณจะได้เรียนรู้ทุกสิ่งที่จำเป็นในการทำให้เว็บไซต์ของคุณเป็นที่รักของ Google ตั้งแต่หน้าแรกที่คุณเผยแพร่ 

สำหรับใครที่ต้องการวางแผนการตลาดออนไลน์แบบครบวงจรตั้งแต่เริ่มต้นจนถึงการสร้างความน่าเชื่อถือระดับสูง ทีมงาน Minimice Group คือผู้เชี่ยวชาญด้าน Digital Marketing ที่พร้อมให้คำปรึกษาและลงมือปฏิบัติการทั้งหมดนี้

คำแนะนำในการทำ E-E-A-T ให้กับเว็บไซต์ใหม่

วิธีการทำ E-E-A-T ให้กับเว็บไซต์ใหม่ต้องเน้นที่การแสดงหลักฐานเชิงประจักษ์ให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้

E ตัวที่หนึ่ง Experience (ประสบการณ์) การลงมือทำจริง

E ตัวแรกนี้คือสิ่งที่เพิ่งเพิ่มเข้ามาในปี 2022 และกลายเป็นกุญแจสำคัญสำหรับเว็บไซต์ใหม่ ประสบการณ์คือหลักฐานของการลงมือทำจริง คุณต้องแสดงให้ Google เห็นว่าเนื้อหาของคุณไม่ได้มาจากการค้นคว้าบน Google เท่านั้น แต่มาจากการที่คุณเคย “ใช้” “ลอง” หรือ “แก้ปัญหา” นั้นด้วยตัวเองจริงๆ

สำหรับเว็บไซต์ใหม่

  • เน้นเนื้อหาแบบ First-hand หากทำรีวิวสินค้า ต้องมีภาพถ่ายหรือวิดีโอที่เป็นของคุณเอง ไม่ใช่ภาพสต๊อก หากสอนการทำอะไรบางอย่าง ต้องแสดงขั้นตอนอย่างละเอียดพร้อมผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นจริง
  • ใช้มุมมองผู้ใช้จริง (User Perspective) เขียนเนื้อหาในลักษณะ “ฉันได้ลองทำสิ่งนี้แล้ว นี่คือสิ่งที่เกิดขึ้น” แทนที่จะเป็น “สิ่งที่ควรจะเกิดขึ้น”
  • Case Studies หรือ Before/After หากเป็นเว็บไซต์บริการ ให้ใช้กรณีศึกษาที่แสดงให้เห็นถึงการแก้ปัญหาที่ประสบความสำเร็จ

สรุปใจความ

  • Experience คือการแสดงหลักฐานว่าคุณได้ลงมือทำหรือใช้สิ่งนั้นจริง
  • เว็บไซต์ใหม่ควรเน้นการสร้างเนื้อหาที่มีภาพหรือวิดีโอต้นฉบับ
  • เขียนในมุมมองของ “ผู้ใช้” ไม่ใช่แค่ “ผู้รู้”
  • หลีกเลี่ยงการคัดลอกประสบการณ์ของคนอื่นโดยเด็ดขาด

E ตัวที่สอง Expertise (ความเชี่ยวชาญ) การพิสูจน์ความรู้

Expertise คือการแสดงความรู้ที่ลึกซึ้งในหัวข้อที่คุณเขียน ซึ่งมักจะเชื่อมโยงกับภูมิหลังหรือคุณวุฒิของผู้เขียนเนื้อหา (Author) Google ต้องการให้แน่ใจว่าข้อมูลที่คุณให้มีความถูกต้องและสามารถนำไปใช้งานได้จริงโดยไม่เกิดความเสียหาย โดยเฉพาะในกลุ่มเนื้อหา YMYL (Your Money Your Life)

สำหรับเว็บไซต์ใหม่

  • สร้าง Author Bio ที่แข็งแกร่ง ทุกบทความควรมีผู้เขียน (Author) ที่ระบุตัวตนชัดเจน พร้อมประวัติการศึกษา ประสบการณ์ทำงาน หรือวุฒิบัตรที่เกี่ยวข้องกับเนื้อหาที่เขียน
  • เชื่อมโยงผู้เขียนไปยัง LinkedIn/Social Media เพื่อพิสูจน์ว่าบุคคลนี้มีตัวตนจริงและมีประวัติการทำงานที่สอดคล้องกับความเชี่ยวชาญ
  • เนื้อหาต้องมีความลึก (Depth) อธิบายแนวคิดที่ซับซ้อนด้วยภาษาที่เข้าใจง่าย แต่ยังคงความถูกต้องทางวิชาการ (Academic Soundness)

Tips

ความเชี่ยวชาญไม่ได้แปลว่าต้องเป็นปริญญาเสมอไป อาจเป็นประสบการณ์ 10,000 ชั่วโมงก็ได้ ใช้ภาษาเฉพาะทาง (Jargon) อย่างเหมาะสมและอธิบายให้ผู้อ่านเข้าใจ ทุกบทความควรมีการระบุชื่อผู้เขียนที่ชัดเจน (Author Schema) อัปเดตความรู้ให้ทันสมัยอยู่เสมอ เพราะความเชี่ยวชาญในโลกดิจิทัลเปลี่ยนไปเร็ว”

A Authoritativeness (อำนาจ) การยอมรับจากภายนอก

อำนาจในที่นี้คือการเป็นที่ยอมรับในวงกว้างจากชุมชนหรืออุตสาหกรรมของคุณ เป็นเหมือน “เสียงส่วนใหญ่” ที่บอกว่าเว็บไซต์ของคุณคือแหล่งข้อมูลที่เชื่อถือได้ Google ใช้ Backlinks (ลิงก์จากเว็บไซต์อื่น) เป็นตัวชี้วัดหลักของ Authoritativeness

สำหรับเว็บไซต์ใหม่

  • เน้นการสร้าง Backlinks คุณภาพ (Quality over Quantity) Backlinks จากเว็บไซต์ที่มีชื่อเสียงในอุตสาหกรรมเดียวกัน มีพลังมากกว่า Backlinks จากฟอรัมหรือเว็บไดเรกทอรีที่ไม่เกี่ยวข้อง (https://developers.google.com/search/docs/fundamentals/how-search-works)
  • สร้างเนื้อหาที่น่าอ้างอิง (Linkable Assets) ทำ Infographics การวิจัยเชิงลึก สถิติเฉพาะอุตสาหกรรม หรือเครื่องมือฟรีที่คนอื่นอยากนำไปอ้างอิงถึง
  • การกล่าวถึงทางอ้อม (Mentions) การถูกกล่าวถึงชื่อแบรนด์หรือผู้เขียนในสื่ออื่นๆ แม้จะไม่มีลิงก์กลับมา ก็ยังช่วยเพิ่มอำนาจได้

สรุปใจความ

  • Authoritativeness คือการที่คนอื่น (เว็บไซต์อื่น) ยอมรับคุณ
  • กลยุทธ์สำคัญคือการทำ Outreach เพื่อขอลิงก์จากเว็บไซต์คุณภาพ
  • สร้างเนื้อหาที่ “ต้อง” มีคนมาอ้างอิงถึง เช่น การวิจัยใหม่ๆ
  • การเข้าร่วมงานสัมมนาและให้ความรู้ในวงกว้างช่วยเสริมสร้างอำนาจ

T Trustworthiness (ความน่าเชื่อถือ) พื้นฐานของเว็บไซต์ที่ดี

Trustworthiness คือองค์ประกอบที่พื้นฐานที่สุดแต่สำคัญที่สุด มันครอบคลุมตั้งแต่ความปลอดภัยของเว็บไซต์ไปจนถึงความถูกต้องของข้อมูล Google ต้องมั่นใจว่าผู้ใช้จะไม่ตกอยู่ในความเสี่ยงเมื่อเข้าชมเว็บไซต์ของคุณ

สำหรับเว็บไซต์ใหม่

  • ใช้ HTTPS/SSL เสมอ การเข้ารหัสเว็บไซต์เป็นสิ่งที่ต้องมีตั้งแต่เริ่มแรก
  • มีหน้าสำคัญที่ครบถ้วน ต้องมีหน้า Privacy Policy, Terms and Conditions ที่ชัดเจนและเข้าถึงง่าย
  • ข้อมูลติดต่อที่ตรวจสอบได้ (Verifiable Contact Information) มีเบอร์โทรศัพท์ อีเมล และที่อยู่สำนักงานที่ถูกต้องตรงตามความเป็นจริง
  • ความโปร่งใสในข้อมูลผู้เขียน แหล่งที่มา หากข้อมูลมาจากแหล่งอื่น ต้องมีการอ้างอิง (Citation) ที่ชัดเจน
องค์ประกอบความน่าเชื่อถือวิธีการตรวจสอบของ Googleผลกระทบต่อเว็บไซต์ใหม่
HTTPSการมีใบรับรอง SSL ที่ใช้งานได้บังคับใช้ ไม่มีอันดับที่ดีได้หากไม่มี HTTPS
นโยบายสำคัญการมีหน้า “Privacy Policy” และ “About Us”สร้างความมั่นใจว่าเว็บไซต์ไม่ได้มีเจตนาหลอกลวง
ความถูกต้องของข้อมูลมี Citation และมีการอัปเดตข้อมูลเมื่อมีการเปลี่ยนแปลงแสดงความรับผิดชอบต่อข้อมูลที่เผยแพร่

“Tips

เว็บไซต์ที่ทำธุรกรรม (E-commerce) ต้องมีนโยบายการคืนสินค้าหรือคืนเงินที่ชัดเจนทำให้ข้อมูลติดต่อมองเห็นง่ายใน Footer และหน้า Contact Us ใช้ Schema Markup เช่น Organization หรือ Person เพื่อบอก Google ว่าคุณเป็นใคร แก้ไขข้อผิดพลาดทางเทคนิค (Technical SEO) และข้อความผิดพลาด (Typo) ทันทีที่พบ”

The Triple-Threat Strategy กลยุทธ์เร่งเครื่อง E-E-A-T

สำหรับเว็บไซต์ใหม่ การทำ E-E-A-T แบบตั้งรับอาจไม่ทันการณ์ แต่เราต้องใช้กลยุทธ์เชิงรุกที่เรียกว่า “The Triple-Threat Strategy”

กลยุทธ์นี้เน้นการสร้างความเชื่อมั่นใน 3 ระดับพร้อมกัน

  1. Level 1 Internal Proof (พิสูจน์ภายใน) เน้นการเติมเต็ม Experience และ Trustworthiness ภายในเว็บไซต์ของคุณเอง เช่น มีหน้า Author Page นโยบาย HTTPS และเนื้อหาแบบลงมือทำ
  2. Level 2 External Validation (การรับรองจากภายนอก) เน้นที่ Authoritativeness ผ่านการสร้าง Backlinks และ Mention คุณภาพ โดยการทำ Guest Posting บนเว็บไซต์ที่มี Domain Authority สูงในอุตสาหกรรมเดียวกัน
  3. Level 3 Perpetual Update (การอัปเดตต่อเนื่อง) เน้นที่ Expertise โดยการกลับมาอัปเดตเนื้อหาเก่า (Content Refresh) ให้ทันสมัยทุก 3 – 6 เดือน เพื่อแสดงให้ Google เห็นว่าคุณเป็นแหล่งข้อมูลที่ทันยุค

Minimice Group กับการสร้าง E-E-A-T ให้ธุรกิจ Niche

ปัญหา ลูกค้าของ Minimice Group รายหนึ่งเป็นบริษัทที่เพิ่งก่อตั้งใหม่ด้านเทคโนโลยีการแพทย์ (Health-Tech) ซึ่งเป็นกลุ่ม YMYL (Your Money Your Life) ที่ Google เข้มงวดเรื่อง E-E-A-T มาก การทำ SEO แบบปกติไม่สามารถทำให้อันดับขึ้นได้

  1. E-E-A-T Audit ทีมงานวิเคราะห์ช่องว่าง E-E-A-T พบว่าเนื้อหาส่วนใหญ่เป็นคำนิยาม แต่ขาด Experience และ Expertise ของผู้เขียน
  2. Expert Content Strategy Minimice Group แนะนำให้ดึงผู้เชี่ยวชาญหรือแพทย์ภายในบริษัททุกคนมาเขียนบทความ โดยบังคับให้ใส่ Author Bio ที่มีใบอนุญาตและประสบการณ์ชัดเจน (Expertise & Trustworthiness)
  3. Data-Driven Experience ทุกบทความด้านเทคโนโลยีต้องมีการอ้างอิงงานวิจัยทางการแพทย์ที่ตีพิมพ์แล้ว (Citation) และมีการนำเสนอ Case Study การใช้เทคโนโลยีนั้นๆ ที่ประสบความสำเร็จ (Experience)
  4. Authority Building ทีมงานเน้นการทำ Digital PR โดยการส่งข้อมูลเชิงลึกเหล่านี้ไปยังสื่อสุขภาพชั้นนำ เพื่อให้ได้ Backlinks จากแหล่งข้อมูลที่มี Authoritativeness สูง

ผลลัพธ์ ภายใน 6 เดือน เว็บไซต์ได้รับ Trust Score สูงขึ้นอย่างรวดเร็ว และเริ่มติดอันดับ Top 3 ในคีย์เวิร์ดที่มีการแข่งขันสูงในตลาด Health-Tech เพราะ Google มองว่านี่คือ “แหล่งข้อมูลที่มีประสบการณ์และเชี่ยวชาญอย่างแท้จริง”

คลังศัพท์น่ารู้สำหรับมือใหม่

  • YMYL (Your Money Your Life) เนื้อหาที่สามารถส่งผลกระทบต่อสุขภาพ ความมั่นคงทางการเงิน ความปลอดภัย หรือความเป็นอยู่ที่ดีของผู้ใช้ Google เข้มงวดเรื่อง E-E-A-T กับเนื้อหาเหล่านี้เป็นพิเศษ
  • Search Quality Rater Guidelines คู่มือที่ Google ใช้ฝึกอบรมผู้ประเมินคุณภาพการค้นหา (Raters) ซึ่งเป็นแหล่งที่มาของแนวคิด E-E-A-T (https://static.googleusercontent.com/media/guidelines.raterhub.com/th/assets/searchqualityevaluatorguidelines.pdf)
  • Author Schema Markup โคดที่ใส่เข้าไปใน HTML ของเว็บไซต์เพื่อระบุว่าใครคือผู้เขียนบทความและแสดงข้อมูลของผู้เขียนนั้นๆ ต่อ Google โดยตรง
  • Backlinks ลิงก์ที่มาจากเว็บไซต์อื่นชี้มายังเว็บไซต์ของคุณ ถือเป็น “คะแนนเสียง” ที่แสดงถึง Authoritativeness

สิ่งที่ต้องทำทันทีเพื่อ E-E-A-T

Checklist ทำ E-E-A-T สำหรับเว็บไซต์ใหม่

  • ติดตั้ง SSL/HTTPS ให้เรียบร้อย
  • สร้างหน้า About Us, Contact Us, Privacy Policy และ Terms of Service ให้ครบถ้วน
  • ระบุชื่อผู้เขียน (Author) ที่มีตัวตนจริงในทุกบทความ
  • สร้าง Author Bio Page ที่ระบุความเชี่ยวชาญหรือประสบการณ์ของผู้เขียนอย่างชัดเจน
  • ปรับเนื้อหาเก่าให้มีองค์ประกอบ Experience (เช่น รูปจริง วิดีโอจริง ขั้นตอนทำเอง)
  • ตรวจสอบ Citation และแหล่งอ้างอิงทุกครั้งที่เขียนข้อมูลเชิงสถิติหรือวิชาการ
  • เริ่มวางแผนการทำ Content Outreach เพื่อให้ได้ Backlinks คุณภาพ

สรุป

การทำ E-E-A-T ไม่ใช่แค่เทคนิค SEO ชั่วคราว แต่คือ การสร้างรากฐานที่มั่นคงสำหรับธุรกิจออนไลน์ของคุณ ในระยะยาว มันคือการปรับมุมมองจากการเป็นแค่ “เว็บไซต์” ไปสู่การเป็น “แหล่งข้อมูลที่เชื่อถือได้ที่สุด” ในสายตาของผู้คนและ Algorithm ของ Google

สำหรับเว็บไซต์ใหม่ การทำ E-E-A-T คือการพิสูจน์ตัวเองอย่างหนัก แต่ถ้าทำได้สำเร็จ ผลลัพธ์คือการจัดอันดับที่ยั่งยืน Traffic ที่มีคุณภาพ และความน่าเชื่อถือที่นำไปสู่ยอดขายจริง

หากคุณยังไม่แน่ใจว่าจะเริ่มต้นวางโครงสร้าง E-E-A-T ที่ซับซ้อนนี้อย่างไร หรือต้องการทีมงานผู้เชี่ยวชาญที่สามารถนำกลยุทธ์เชิงรุกอย่าง The Triple-Threat Strategy ไปปฏิบัติการได้อย่างมีประสิทธิภาพ เราพร้อมช่วยเหลือ

พร้อมที่จะเปลี่ยนเว็บไซต์ใหม่ของคุณให้เป็นแหล่งข้อมูลที่เป็นมิตรกับ Google แล้วหรือยัง?เริ่มต้นปรึกษากลยุทธ์ E-E-A-T และ Digital Marketing แบบครบวงจรได้ที่ Minimice Group วันนี้

FAQs คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับ E-E-A-T

เว็บไซต์เล็กๆ ที่ไม่มีชื่อเสียงจะทำ E-E-A-T ได้อย่างไร?

เว็บไซต์เล็กๆ ควรเน้นไปที่ E ตัวแรกคือ Experience ก่อนเป็นอันดับแรก ให้คุณเป็นผู้เชี่ยวชาญในตลาดเฉพาะกลุ่ม (Niche) ของคุณเอง สร้างเนื้อหาที่ไม่มีใครมีได้ เช่น การทดลอง การใช้สินค้า การรีวิวแบบเจาะลึกที่อิงจากประสบการณ์ตรง เมื่อคุณทำเนื้อหาที่ “ดีที่สุด” ในหัวข้อนั้นๆ ได้ Authority จะตามมาเอง

E-E-A-T สำคัญกว่าการทำ On-Page SEO หรือไม่?

ไม่เชิง E-E-A-T เป็นส่วนหนึ่งของ On-Page SEO ที่เน้นไปที่คุณภาพของเนื้อหาและผู้เผยแพร่ ในขณะที่ On-Page SEO อื่นๆ เน้นที่โครงสร้างเว็บไซต์ ความเร็ว และการใช้คีย์เวิร์ด การทำ SEO ที่ดีที่สุดต้องทำทั้งสองส่วนพร้อมกัน

สามารถสร้างผู้เขียนปลอมเพื่อเพิ่ม Expertise ได้ไหม?

ไม่แนะนำ Google มีความสามารถในการตรวจสอบความเชื่อมโยงของชื่อผู้เขียน ข้อมูลติดต่อ และประวัติการทำงานผ่านเครื่องมือต่างๆ หากตรวจพบว่าผู้เขียนไม่มีตัวตนจริง (Fictitious Author) จะส่งผลเสียต่อ Trustworthiness อย่างรุนแรง

 ต้องใช้เวลานานแค่ไหนกว่า E-E-A-T จะส่งผลต่ออันดับ?

การเปลี่ยนแปลงด้าน E-E-A-T มักจะเห็นผลเมื่อ Google มีการอัปเดตแกนหลัก (Core Update) ซึ่งอาจใช้เวลา 3 – 6 เดือนขึ้นไป อย่างไรก็ตาม การปรับปรุง Trustworthiness (HTTPS และ นโยบาย) จะเห็นผลเร็วกว่า

E-E-A-T มีผลกับทุกเว็บไซต์ไหม หรือแค่ YMYL?

E-E-A-T มีผลกับทุกเว็บไซต์ แต่จะมีความสำคัญมากสำหรับเว็บไซต์ YMYL (สุขภาพ การเงิน) อย่างไรก็ตาม Google แนะนำให้ทุกเว็บไซต์พยายามแสดง E-E-A-T ให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้

Backlinks ที่ซื้อมาช่วยทำ Authoritativeness ได้ไหม?

การซื้อ Backlinks ที่ไม่มีคุณภาพหรือมาจาก PBNs (Private Blog Networks) จะไม่ช่วย และอาจทำให้เว็บไซต์ถูกลงโทษ (Penalty) ได้ ควรเน้นการสร้างลิงก์ด้วยเนื้อหาคุณภาพ (Editorial Backlinks) เท่านั้น

ควรจ้างนักเขียนที่ไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญมาเขียนบทความหรือไม่?

หากคุณจ้างนักเขียน แต่เนื้อหานั้นถูกตรวจสอบ (Fact-Checked) และรับรองโดยผู้เชี่ยวชาญภายในของคุณเอง (Subject Matter Expert) ก็สามารถทำได้ โดยชื่อผู้เชี่ยวชาญควรเป็นผู้ที่ปรากฏเป็น Author

หน้า About Us ต้องใส่อะไรบ้างเพื่อช่วย E-E-A-T?

ควรอธิบายพันธกิจ วิสัยทัศน์ ประวัติบริษัทหรือทีมงาน และที่สำคัญที่สุดคือ หลักฐานความสำเร็จ หรือ การรับรอง วุฒิบัตร ที่เกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมของคุณ

E-E-A-T เกี่ยวข้องกับการทำ SEO ในปี 2026 อย่างไร?

ในปี 2026 AI Search Engine อย่าง SGE (Search Generative Experience) จะเข้ามามีบทบาทมากขึ้น AI จะเลือกใช้ข้อมูลจากแหล่งที่ “เชื่อถือได้สูงสุด” (Highest E-E-A-T Score) ในการสร้างคำตอบ ทำให้ E-E-A-T เป็นตัวชี้วัดความอยู่รอดทาง SEO

ควรใช้ Social Media เพื่อช่วย E-E-A-T ได้อย่างไร?

การมีโปรไฟล์โซเชียลมีเดียที่ Active และมีการปฏิสัมพันธ์ที่สอดคล้องกับเนื้อหาบนเว็บไซต์ ช่วยยืนยันว่าแบรนด์หรือผู้เขียนมีตัวตนจริง (Trustworthiness) และมีส่วนร่วมในชุมชน (Authoritativeness)

Harit Posanakul

Harit Posanakul

Managing Director

I started Minimice group to be the change I wanted to see. I wanted to build an agency with a heart, one that measures success not just in traffic, but in the real-world growth of our clients. For me, SEO isn't just a technical process; it's a tool for empowerment. It's how we level the playing field so that the businesses with the most passion, not just the biggest budgets, can win.I can't wait to hear your story and help you share it with the world.

ให้ธุรกิจของคุณเติบโตแบบก้าวกระโดดไปกับทีมการตลาดมืออาชีพ
รับการตอบกลับภายใน 2 ชั่วโมง
รับการตอบกลับภายใน 2 ชั่วโมง