ทำความรู้จัก Google Algorithm ทำงานอย่างไร สิ่งที่คนทำเว็บควรรู้

ทำความรู้จัก Google Algorithm ทำงานอย่างไร สิ่งที่คนทำเว็บควรรู้

Table of Contents

ความสงสัยใคร่รู้เป็นพื้นฐานของพฤติกรรมมนุษย์ ในปัจจุบันที่เทคโนโลยีพัฒนาไปไกลเกินกว่าจินตนาการ ผู้คนทั่วโลกนิยมใช้อินเทอร์เน็ตกันเป็นชีวิตจิตใจ มีเว็บไซต์กว่า 1.5 พันล้านเว็บไซต์ เพื่อตอบสนองจุดประสงค์ของแต่ละคนที่แตกต่างกันไป ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการกิน การนอน หรือความรู้เฉพาะในแต่ละเรื่อง 

เราจะเห็นได้ว่าเทคโนโลยีที่เรียกว่าอินเทอร์เน็ตอำนวยความสะดวกให้กับชีวิตประจำวันมากแค่ไหน แต่สิ่งที่ทำให้การค้นหาเป็นไปอย่างราบรื่นคือ ระบบ Google Algorithm แล้วระบบนี้คืออะไร ทำงานอย่างไร มี Algorithm ตัวไหนที่สำคัญบ้าง บทความนี้มีคำตอบ

Google Algorithm คืออะไร

Google Algorithm คืออะไร

Google Algorithm เป็นการจัดอันดับเว็บไซต์ต่างๆ และคัดเลือกเว็บไซต์ที่เกี่ยวข้องกับคีย์เวิร์ดที่ผู้ใช้ค้นหา จากนั้นจึงนำเสนอเว็บไซต์ที่ Google มองว่ามีคุณภาพดีที่สุดขึ้นมาแสดงผล โดยมี Google Algorithm Update หรือมีการอัปเดตระบบให้พัฒนาขึ้นอยู่เสมอ เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้ใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้นกว่าเดิม ทั้งนี้ การอัปเดตอาจส่งผลกระทบต่อเว็บไซต์ต่างๆ ได้ ไม่ว่าจะเป็นการลดอันดับ หรือเพิ่มอันดับการค้นหา ดังนั้น การทำเว็บไซต์จึงควรพิจารณา และติดตามความเปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ โดย Google จะมีการประกาศล่วงหน้าผ่านทาง Google Search Central ให้ทราบก่อน เพื่อที่คนทำเว็บไซต์จะได้ปรับปรุงให้เว็บไซต์อยู่ในเกณฑ์ที่ Google ต้องการ และอยู่ในอันดับการค้นหาที่ดี เพื่อสร้างการเข้าชมมากขึ้นไปอีกเรื่อยๆ ในอนาคต

การทำงานของ Google Algorithm

การทำงานของ Google Algorithm

Google Algorithm ถูกคิดค้นเพื่อให้การค้นหาของผู้ใช้งานแสดงผลตามที่ต้องการมากที่สุด โดย Google จะมีการดึงข้อมูลจากเอกสารที่เก็บข้อมูลเว็บไซต์ทั้งหมด (Index) เพื่อนำมาวิเคราะห์ และจัดแสดงผลการค้นหาที่ดีที่สุดขึ้นมาตามลำดับ ซึ่งปัจจัยที่ Google ใช้วิเคราะห์คุณภาพของเว็บไซต์มีอยู่ด้วยกัน 200 ปัจจัย แต่กระนั้น Algorithm ของ Google เปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา และมีการพัฒนาอยู่เสมอ การทำเว็บไซต์เพื่อให้ตรงตามเกณฑ์ของ Google จึงต้องคำนึงถึงความเปลี่ยนแปลงนี้อยู่เสมอ เพื่อรักษาคุณภาพของเว็บไซต์ไว้

Google Algorithm ตัวไหนที่สำคัญบ้าง

Google Algorithm ตัวไหนที่สำคัญบ้าง

Algorithm ผู้ทำหน้าที่ในการตรวจสอบเว็บไซต์ของ Google ที่สำคัญหลักๆ มีอยู่ด้วยกัน 9 ชนิด ดังนี้

1. Panda

Google Algorithm ชนิดนี้ถูกสร้างมาเพื่อคัดกรองคุณภาพของเว็บไซต์ และลดอันดับของเว็บไซต์ที่มีคุณภาพต่ำ เช่น เนื้อหาที่ซ้ำกัน หรือการคัดลอกผลงานผู้อื่น เนื้อหาน้อย และเนื้อหาสแปม เป็นต้น โดยวิธีทำให้ผ่านขั้นตอนการตรวจจับนี้ ควรเขียนเนื้อหาด้วยตัวเองโดยไม่คัดลอกจากเว็บไซต์อื่นมา โดยต้องเป็นเนื้อหาที่มีคุณภาพ และมีประโยชน์ต่อผู้อ่าน เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อผู้ที่เข้ามาชม และถูกจัดอันดับสูงขึ้นเมื่อมีการตรวจจับ

2. Penguin

Google Algorithm ชนิดนี้ถูกสร้างมาเพื่อตรวจสอบ Backlink ที่ถูกเชื่อมมายังเว็บไซต์ว่ามีคุณภาพมากน้อยเพียงใด หรือมีความเกี่ยวข้องกับเนื้อหาในเว็บไซต์หรือไม่ หากมีการใช้ Backlink ที่ไม่เข้ากับเนื้อหามากเกินไป อาจทำให้เนื้อหากลายเป็นสแปม ทำให้ถูกลดอันดับลงมาอีก โดยวิธีทำให้ผ่านขั้นตอนการตรวจจับนี้ ต้องตรวจสอบ Backlink ว่าน่าเชื่อถือ หรือเกี่ยวข้องกับเนื้อหาหรือไม่ ห้ามซื้อ Backlink หรือแสปม Backlink เพื่อปั่นอันดับให้สูง เพราะอาจถูกคัดเลือกให้เป็นเว็บไซต์คุณภาพต่ำทันที หรือเลวร้ายกว่านั้นคืออาจโดนแบนเว็บไซต์ออกจากหน้าการค้นหาใน Google ไปเลย

3. Pirate

Google Algorithm ชนิดนี้ถูกสร้างมาเพื่อตรวจสอบการละเมิดลิขสิทธิ์ของคอนเทนต์ทุกประเภท เช่น เว็บไซต์ที่ไม่ Official อย่างเว็บดูหนังฟรี หรือดูทีวีออนไลน์ เป็นต้น Google มีบทลงโทษต่อเว็บไซต์ประเภทนี้ด้วยการลดอันดับสูงสุดถึง 98% เลยทีเดียว โดยวิธีทำให้ผ่านขั้นตอนการตรวจจับนี้ คือต้องหลีกเลี่ยงการทำเว็บไซต์ประเภทดังกล่าว เนื่องจากการละเมิดลิขสิทธิ์ถือว่ามีโทษร้ายแรง ทั้งในด้านกฏระเบียบของ Google และในด้านกฏหมายด้วยเช่นกัน

4. Hummingbird

Google Algorithm ชนิดนี้ถูกสร้างมาเพื่อตรวจสอบความตั้งใจของผู้ใช้มากขึ้น โดยมีการคาดเดาจากการพิมพ์คีย์เวิร์ดในการค้นหาล่วงหน้า และนำเสนอผลลัพธ์ให้ตรงตามความต้องการของผู้ใช้ กล่าวคือ แม้มีการค้นหาด้วยประโยคยาวๆ หรือประโยคที่เข้าใจยาก Algorithm ชนิดนี้สามารถคาดเดา เรียบเรียง และนำเสนอได้ตรงตามเจตนาของผู้ใช้ ทั้งนี้ ความพิเศษของ Algorithm ชนิดนี้คือ มีการพัฒนาระบบการค้นหาแบบเสียง เพื่อให้ผู้ใช้สะดวกต่อการใช้มากยิ่งขึ้น

5. Pigeon

Google Algorithm ชนิดนี้ถูกสร้างมาเพื่อจัดอันดับผลการค้นหาตาม Location โดยอิงตามหลัก SEO เช่น เมื่อค้นหาร้านอาหาร ร้านที่ Google นำเสนอให้เป็นอันดับแรกๆ จะต้องมีข้อมูลของร้านครบถ้วนสมบูรณ์ตามที่ Google ต้องการ ไม่ว่าจะเป็นชื่อร้าน พิกัด หรือประเภทธุรกิจ เมื่อเว็บไซต์ครบถ้วน น่าเชื่อถือ และเป็นประโยชน์ต่อผู้ใช้ ร้านก็จะถูกจัดให้อยู่อันดับการค้นหาสูงมากขึ้น

6. Mobile Friendly Update

โทรศัพท์มือถือเป็นอุปกรณ์ที่มีความสำคัญต่อการใช้ชีวิตประจำวันของผู้คนในสังคมสมัยนี้ ดังนั้น เว็บไซต์ที่ทำให้ Google Algorithm ชนิดนี้ตรวจจับ และให้ผ่าน คือ เว็บไซต์ที่เป็นมิตร สะดวกต่อผู้ใช้ และสามารถแสดงผลได้ครบถ้วนสมบูรณ์แม้จะเป็นการใช้งานผ่านโทรศัพท์มือถือ

7. RankBrain

Google Algorithm ชนิดนี้ถูกสร้างมาเพื่อคัดกรอง และค้นหาความหมายของคำ เพื่อให้ได้เว็บไซต์ตรงตามความต้องการของผู้ใช้ โดย Google จะเลือกเว็บไซต์ที่มีความเกี่ยวข้องกับคำนั้นๆ มากที่สุด โดย Algorithm ชนิดนี้มีการเรียนรู้ และมีการพัฒนาระบบอยู่เสมอ เนื่องจากใช้ระบบ Machine Learning นั่นเอง

8. Possum

Google Algorithm ชนิดนี้ถูกสร้างมาเพื่อแสดงการค้นหาในบริเวณพื้นที่ที่ผู้ค้นหาอาศัยอยู่ เช่น การค้นหาร้านอาหาร Algorithm ชนิดก็จะแสดงผลลัพธ์ร้านอาหารที่อยู่ใกล้เคียงตามความต้องการของผู้ใช้

9. Fred

Google Algorithm ชนิดนี้ถูกสร้างมาเพื่อตรวจสอบมาตรฐานของเว็บไซต์ทั้งหมด หากเว็บไซต์ใดมีเนื้อหาที่คุณภาพต่ำ แสดง Ads หรือ Affiliate Link มากเกินไป อาจทำให้ถูกลดอันดับลงมาได้ โดยวิธีทำให้ผ่านขั้นตอนการตรวจจับนี้ คือ การเขียนคอนเทนต์ที่เกิดประโยชน์ต่อผู้ใช้งาน และที่สำคัญคือการไม่ควรยัดเยียดการโฆษณา หรือการขายของมากเกินไป

ทำไมการติดตามการอัปเดต Google Algorithm จึงสำคัญ

ทำไมการติดตามการอัปเดต Google Algorithm จึงสำคัญ

การติดตาม Google Algorithm Update ควรติดตามอย่างสม่ำเสมอ เนื่องจากอาจส่งผลกระทบต่ออันดับเว็บไซต์ และการทำคอนเทนต์แบบ SEO ซึ่งวิธีรับมือนั้นไม่ยากเลย เพียงแค่หมั่นตรวจสอบเนื้อหาในเว็บไซต์ให้มีคุณภาพอยู่เสมอ ดังนี้

  • ข้อมูลต้องน่าเชื่อถือเสมอ
  • เนื้อหาต้องมีสาระสำคัญ กระชับ และไม่สั้นเกินไป
  • ห้ามคัดลอกเนื้อหาจากเว็บไซต์อื่น
  • ห้ามใช้คีย์เวิร์ดมากเกินไป
  • ตรวจสอบคำผิด และการจัดวางที่ถูกต้อง

สรุปการอัปเดตที่สำคัญของ Google Algorithm ปี 2022-2023

สรุปการอัปเดตที่สำคัญของ Google Algorithm ปี 2022-2023

ในปี 2022-2023 Google Algorithm มีการ Update เพื่อคัดกรองคอนเทนต์ให้มีคุณภาพมากขึ้น ดังนี้

Page Experiences 2022

ในเดือนกุมภาพันธ์มีการปรับเอา Page Experience Signals หรือสัญญาณที่บอกว่าเว็บไซต์นั้นใช้ได้ดี มาเป็นเกณฑ์ในการพิจารณา ซึ่งจะบอกได้ด้วยมาตรวัด Core Web Vitals สำคัญ ดังนี้

  • LCP (Largest Content Paint) การโหลดหน้าเว็บเพื่อแสดงผล
  • FID (First Input Delay) การตอบสนองต่อผู้ใช้
  • CLS (Cumulative Layout Shift) ความเสถียรของหน้าจอ

โดยผลลัพธ์จากการวัดข้างต้นจะมีผลต่อการจัดอันดับเว็บไซต์ของเว็บไซต์ต่างๆ ใน Google

Product Reviews Update 2022

จากสถิติของการค้นหาใน Google 53% ของนักช็อปมักค้นหาข้อมูลเกี่ยวกับสินค้านั้นๆ ก่อนตัดสินใจซื้อ ในเดือนมีนาคม Algorithm ชนิดนี้จึงมีการอัปเดตขึ้น เพื่อให้ผู้ใช้ได้เห็นเว็บไซต์การรีวิวที่มีความน่าเชื่อถือ และมาจากประสบการณ์การใช้งานจริง

ในเดือนกรกฎาคม มีการพิจารณาเพิ่มเติม โดยเฉพาะเนื้อหารีวิวภาษาอังกฤษที่ให้ประโยชน์ต่อผู้อ่าน โดยประกอบไปด้วย ภาพ หรือวิดีโอประกอบการรีวิวที่แสดงถึงประสบการณ์ที่ใช้งานจริง มีทางเลือกการซื้อสินค้าที่หลากหลายเพื่อให้คนอ่านมีโอกาสเลือกได้ตามความสมัครใจ

Core Update 2022

ในเดือนพฤษภาคม มีการอัปเดตที่สำคัญมาก เพราะส่งผลต่ออันดับของเว็บไซต์อย่างชัดเจน เนื่องจากมีการพิจารณาภาพรวมคุณภาพเนื้อหาบนทุกเว็บไซต์ โดยเนื้อหาควรเป็นเนื้อหาแบบไม่คัดลอก มีหัวข้อ คำอธิบายที่ครอบคลุมเข้าใจง่าย และเนื้อหามีการวิเคราะห์ที่แสดงถึงความเข้าใจที่แท้จริง

Google Helpful Content Algorithm Update 2022

ในเดือนสิงหาคม มีการอัปเดตที่เน้นไปที่การผลิตเนื้อหาบนเว็บไซต์ โดยเป็นเนื้อหาที่มีประโยชน์ และมีลักษณะการเขียนเพื่อเน้นให้คนอ่านเข้าใจอย่างแท้จริง ซึ่งเป็นการคัดกรองการเขียนที่เขียนด้วยตัวมนุษย์เอง และการเขียนด้วย AI

Product Reviews Update 2023

ในเดือนกุมภาพันธ์ มีการอัปเดตภาษาสำหรับการรีวิวผลิตภัณฑ์เป็น 11 ภาษา ได้แก่ 

  • ภาษาดัตช์
  • ภาษาอังกฤษ
  • ภาษาฝรั่งเศส
  • ภาษาเยอรมัน
  • ภาษาอินโดนีเซีย
  • ภาษาอิตาลี
  • ภาษาโปแลนด์
  • ภาษาโปรตุเกส
  • ภาษารัสเซีย
  • ภาษาสเปน
  • ภาษาเวียดนาม

Algorithm Update 2023

การอัปเดตในเดือนมีนาคม ถือว่าเป็นการอัปเดตที่ใหญ่ที่สุดเลยก็ว่าได้ โดยมีเป้าหมายในการจัดการเนื้อหาทุกประเภท ในทุกที่ และทุกภาษา สนันสนุน และให้รางวัลแก่เว็บไซต์ที่มีคุณภาพสูง การอัปเดตอาจส่งผลกระทบต่ออันดับการค้นหา โดยความเปลี่ยนแปลงของอันดับสำหรับการอัปเดตในเดือนมีนาคม 2023 นั้น มากกว่าการอัปเดตในเดือนกันยายน 2022 ก่อนหน้าเสียอีก

Review Revamp 2023

ในเดือนเมษายน 2023 มีการอัปเดต Review update ซึ่งเสร็จสิ้นในวันที่ 25 เมษายน และส่งผลต่ออันดับการค้นหา การอัปเดตนี้ครอบคลุม Review System ที่มีการวิเคราะห์บทความ บล็อก หน้าเว็บไซต์ และเนื้อหาประเภทอื่นๆ ที่เขียนเพื่อแสดงความคิดเห็น หรือบทวิจารณ์ต่างๆ อีกทั้งยังครอบคลุมสื่อ เช่น ภาพยนตร์ วิดีโอเกมเป็นต้น โดยเนื้อหาที่ได้รับผลกระทบจากการอัปเดตในครั้งนี้ อาจไม่สามารถกู้คืนได้จนกว่าจะมีการอัปเดตครั้งต่อไป อย่างไรก็ตาม การเปลี่ยนแปลงสามารถเกิดขึ้นได้ตลอดเวลาด้วยเหตุผลหลายประการ โดยคำแนะนำสำหรับการเขียนรีวิวอย่างมีคุณภาพ ได้แก่

  • แสดงให้เห็นว่าคุณเป็นผู้เชี่ยวชาญในสิ่งที่คุณกำลังรีวิว โดยอาจใช้ภาพ หรือเสียงเพื่อแสดงหลักฐาน
  • รีวิวผลิตภัณฑ์จากมุมมองของผู้ใช้
  • รวมลิงก์ไปยังแหล่งข้อมูลที่เป็นประโยชน์อื่นๆ เพื่อช่วยให้ผู้อ่านศึกษาได้สะดวกขึ้น

ทั้งนี้ แนวทางปฏิบัติที่ดีที่สุด เพื่อให้ได้เนื้อหาที่มีคุณภาพสูงสำหรับผู้อ่าน และถูกต้องตามหลัก SEO ควรปฏิบัติตามหลักเกณฑ์ของ EAT ดังนี้

  • Expertise ประสบการณ์ และความเชี่ยวชาญ หรือการที่มีความรู้ในเรื่องใดเรื่องหนึ่งอย่างลึกซึ้ง
  • Authority ความเป็นเจ้าของผลงาน หรือการไม่ลอกเลียนแบบผลงานของผู้อื่น
  • Trustworthiness ผลงานมีความน่าเชื่อถือ หรือการค้นหาข้อมูลที่เชื่อถือได้มาสร้างงานของตัวเอง

สรุป

Google Algorithm เป็นการคัดเลือกเว็บไซต์ที่เกี่ยวข้องกับคีย์เวิร์ดที่ผู้ใช้ค้นหา จากนั้นจึงเสนอเว็บไซต์ที่มีคุณภาพดีที่สุดขึ้นมาแสดง Google Algorithm ถูกคิดค้นมาเพื่อให้การค้นหาของผู้ใช้งานแสดงผลตามที่ต้องการมากที่สุด แต่กระนั้น Algorithm ของ Google ยังคงมีการพัฒนาอยู่เสมอ การทำเว็บไซต์เพื่อให้ตรงตามเกณฑ์ของ Google จึงต้องคำนึงถึงความเปลี่ยนแปลงนี้เพื่อรักษาคุณภาพของเว็บไซต์ไว้ในอนาคต 

Algorithm ที่ทำหน้าที่ในการตรวจสอบเว็บไซต์ของ Google ที่สำคัญ เช่น Panda ที่ถูกสร้างมาเพื่อคัดกรองคุณภาพของเว็บไซต์ และลดอันดับของเว็บไซต์ที่มีคุณภาพต่ำ หรือ Hummingbird ที่ถูกสร้างมาเพื่อตรวจสอบ และคาดเดาจากการพิมพ์คีย์เวิร์ดในการค้นหาล่วงหน้า รวมถึงนำเสนอผลลัพธ์ให้ตรงตามความต้องการของผู้ใช้ และ RankBrain ที่ถูกสร้างมาเพื่อคัดกรองและค้นหาความหมายของคำ เป็นต้น

คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับ Google Algorithm (FAQ)

คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับ Google Algorithm (FAQ)

AI Algorithms บน Applications ที่สำคัญของ Google คือชนิดใด

Applications ของ Google มีระบบ AI Algorithm ที่สำคัญในการตอบสนองความต้องการของผู้ใช้ ดังนี้

  • Statistical Machine Translation (SMT) เป็น Algorithm ใน Google Translate ที่ช่วยแปลภาษา โดยการวิเคราะห์อย่างละเอียด เพื่อคัดเลือกคำแปลที่แม่นยำที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้
  • Image Recognition เป็น Algorithm ใน Google Photos ที่ช่วยจัดเรียงรูปภาพ และแยกประเภทให้มีระเบียบมากขึ้น เมื่อผู้ใช้ค้นหา ผลลัพธ์ที่ได้จะเป็นรูปภาพที่ดีที่สุดจากการวิเคราะห์ของ Algorithm ชนิดนี้
  • RankBrain เป็น Algorithm ใน Google Search ช่วยวิเคราะห์และคาดเดาจากการค้นหาด้วยประโยคยาวๆ เช่น การค้นหา ‘ใครคือภรรยาของ CEO Google’ ก็จะได้ผลลัพธ์เป็นชื่อ ‘Anjali Pichai’ เป็นต้น

ปัจจัยการจัดอันดับอัลกอริทึมการค้นหาของ Google คืออะไร

ปัจจัยการจัดอันดับ ที่ควรคำนึงหลักๆ ของ Google มีดังนี้

  • Backlink ลิงก์ย้อนกลับที่เชื่อถือได้
  • Fresh Content เนื้อหาที่สดใหม่ และมีการอัปเดตอยู่เสมอ
  • Keyword Density ความหนาแน่นของคีย์เวิร์ดที่ไม่ควรมากจนเกินไป
  • User Experience ประสบการณ์ของผู้ใช้ที่ดี โดยเฉพาะความเร็วในการดาวน์โหลด
  • Authority การเป็นศูนย์กลางของข้อมูลในเรื่องใดเรื่องหนึ่ง

ทำไมการติดตามการอัปเดตของ Google Algorithm จึงสำคัญ?

การเปลี่ยนแปลงนี้จะทำให้อันดับแสดงผลเปลี่ยนไป ซึ่งอาจทำให้การใช้กลยุทธ์ตามหลัก SEO ได้รับผลกระทบกระจายเป็นวงกว้าง ส่งผลทำให้อันดับของเว็บไซต์เพิ่ม หรือลดก็เป็นได้ แต่ทั้งนี้ Google ก็ถือว่าเป็นผู้คุมกฏที่มักออกกฏใหม่ๆ มาเพื่อตอบสนองความต้องการของผู้ใช้งานให้ได้มากที่สุด ในฐานะของคนทำเว็บไซต์ หรือการทำ SEO จึงต้องทำตามกฏนั้น เพื่อที่ให้เว็บไซต์ของคุณเป็นไปตามกฏที่วางไว้ หากเว็บไซต์ไหนทำตามกฏได้มากที่สุด ก็จะได้ผลตอบแทนคือการได้รับการจัดอันดับให้อยู่ในหน้าแรกๆ ของ Google

ให้ธุรกิจของคุณเติบโตแบบก้าวกระโดดไปกับทีมการตลาดมืออาชีพ
รับการตอบกลับภายใน 2 ชั่วโมง
รับการตอบกลับภายใน 2 ชั่วโมง