วิธีสร้างการรับรู้และยอดขายจาก youtube ads

ยิ่งเห็นมาก ยิ่งจำมาก Youtube Ads ตัวช่วยการเพิ่มลูกค้าใหม่ให้แบรนด์

Table of Contents

รู้หรือไม่ ปัจจุบันมีผู้ใช้งาน youtube มากถึง 1,900 ล้านคนทั่วโลก การรับชมต่อวันที่ 5,000 ล้านครั้งต่อวัน  จึงเป็นช่องทางและโอกาสที่ดีอย่างมากสำหรับนักการตลาดที่จะเข้าไปทำการโฆษณาเพื่อโปรโมทแบรนด์ สินค้าหรือบริการ เพื่อสร้างการรับรู้และยอดขายจากแพลตฟอร์มนี้ ซึ่งหลายคนที่ยังไม่รู้ว่า Youtube Ads คืออะไร จะมองว่าเป็นช่องทางการทำโฆษณาที่ยากและซับซ้อน แต่ความคิดเหล่านี้จะหมดไปหากได้อ่านบทความการทำ Youtube Ads จาก Minimice จะมีอะไรน่าสนใจบ้าง ไปอ่านกันได้เลย

Youtube ads คืออะไร?

Youtube ads คืออะไร?

เชื่อว่าหลายคนอาจจะเคยโดน Youtube Ads ยิงกันมาบ้างไม่มากก็น้อย รูปแบบการโฆษณาบน Youtube ของ Google Ads นี้ เป็นวิธีการโฆษณาวิดีโอของคุณใน Youtube หรือปรากฏขึ้นจากการค้นหาของผู้ใช้งานทั่วไปได้อีกด้วย นี่คืออีกหนึ่งรูปแบบการโฆษณายอดฮิตที่หลายธุรกิจมักเลือกใช้ เพื่อสร้างการรับรู้ของแบรนด์ หรือแคมเปญให้กับกลุ่มตลาดที่ต้องการสื่อสาร

ประเภทของ Youtube ads

หากลงลึกถึงเนื้อหาของ Youtube Ads ว่ามีอะไรบ้างจะพบว่ารูปแบบการโฆษณาของ Youtube Ads มีหลากหลาย และมีฟังก์ชันที่น่าสนใจแตกต่างกันออกไป ในเนื้อหาส่วนนี้จะเป็นการเจาะลึกเกี่ยวกับแต่ละรูปแบบของ Youtube Ads ว่ามีลักษณะเด่นอย่างไร ถ้าอยากรู้กันแล้วไปติดตามเนื้อหาที่นำมาฝากกันได้เลย

Skippable in-stream ads

รูปแบบการโฆษณาที่สามารถกดข้ามได้หลังจาก 5 วินาที โดยจะปรากฏขึ้นก่อนที่คลิปวิดีโอจะเริ่มเล่นนั้นเอง ความน่าสนใจของการใช้บริการรูปแบบนี้คือ ผู้ใช้บริการจะมีค่าใช้จ่ายหลังจากที่ผู้ชมดู หรือมีปฏิสัมพันธ์กับโฆษณาของคุณเป็นเวลา 30 วินาที จุดสำคัญที่เหล่านักการตลาดต้องรู้คือ คลิปวิดีโอโฆษณาของคุณจำเป็นต้องจับความสนใจของผู้ชมให้ได้ภายใน 5 วินาทีแรก เพื่อไม่ให้ผู้ชมปิดไปเสียก่อน

Non-skippable instream ads

Non-skippable instream ads เป็นรูปแบบการโฆษณาของ Youtube Ads ที่มีความนิยมน้อยที่สุดประเภทหนึ่ง ในช่วงแรกจะเป็นลักษณะการบังคับดูโฆษณา 30 วินาทีแบบข้ามไม่ได้ แต่ในปัจจุบันมีการเปลี่ยนแปลงเพื่อให้สอดคล้องกับผู้คนในยุคนี้มากยิ่งขึ้น โดยปรับเป็น 15-20 วินาทีแทน และสามารถเลือกให้โฆษณาปรากฏช่วงเวลาใดของคลิป Youtube ได้อย่างอิสระ ไม่จำเป็นต้องต้นคลิปเท่านั้น ไม่ว่าจะเป็นช่วงกลางคลิป หรือท้ายคลิปก็สามารถเลือกได้เองตามความเหมาะสม

Video Discovery Ads

นี่จะเป็นโฆษณาที่แตกต่างออกไปจากสองแบบแรก เนื่องจากเป็นวิดีโอโฆษณาที่จะถูกดันมาเป็นอันดับแรกของการค้นหา เมื่อผู้ชมที่สนใจคลิกเข้าไปชม ในช่วงสุดท้ายของคลิปสามารถขึ้นแถบลิงก์แคมเปญ หรือร้านค้าได้ที่บริเวณมุมขวาของวิดีโอได้อีกด้วย มีความนิยมสำหรับการทำแคมเปญ หรือตั้งใจเรียกลูกค้าให้ไปติดตามรายละเอียดของสินค้าได้ต่อที่หน้าเพจหลัก

Bumper ads

มีความใกล้เคียงกับ Non-skippable instream ads ที่ผู้ชมโฆษณาไม่สามารถกดข้ามคลิปวิดีโอโฆษณาได้ เพียงแต่วิดีโอที่จะปรากฏนั้นจะมีช่วงระยะเวลาที่สั้นลงกว่ามาก เหลือเพียงแค่ 6 วินาทีเท่านั้น และยังคงสามารถเลือกช่วงลงคลิปโฆษณาทั้งในตอนต้น, ระหว่างกลางของคลิป และท้ายคลิปได้ตามเดิม ส่วนมากแล้วพวกนักการตลาดมักจะใช้วิธีนี้ประยุกต์กับวิธีอื่นๆ เพื่อให้เกิดการสร้างการรับรู้แบรนด์แบบตอกย้ำ

Sponsored card ads

จัดได้ว่าเป็นการโฆษณาที่รบกวนผู้ชมที่น้อยที่สุดก็ว่าได้ เนื่องจากรูปแบบการโฆษณานี้จะเป็นการขึ้นไอคอนอักษร i บริเวณมุมขวานของคลิปวิดีโอ ในช่วงเวลาที่เนื้อหาของคลิปมีความเกี่ยวข้องกัน หากผู้ชมคนใดที่สนใจอยากได้รายละเอียดเพิ่มเติม ก็สามารถนำเมาส์ไปคลิก และติดตามข้อมูลเพิ่มเติมได้ทันที เมื่อนำเมาส์ไปกดจะขึ้นทั้งคลิปที่เกี่ยวข้องได้ หรือเป็นภาพสินค้า เพื่อให้ผู้ชมสามารถกดสั่งซื้อสินค้าได้โดยง่าย

Overlay ads

อีกหนึ่งวิธีที่เป็นโฆษณาที่รบกวนผู้ชมน้อย และส่งเสริมแคมเปญที่ต้องการสื่อสารได้ดีทีเดียว โดยรูปแบบของการโฆษณานี้จะเป็นการขึ้นแบนเนอร์บริเวณตรงกลางด้านล่างของคลิป โดยผู้ใช้งานสามารถเลือกช่วงเวลาได้ตามปกติ หากต้องการผลักดันแคมเปญ หรือโปรโมท โปรโมชันนี่เป็นรูปแบบการโฆษณาที่แนะนำให้ไปทดลองใช้บริการกันอย่างแพร่หลาย

การทำโฆษณาบน Youtube ช่วยอะไรธุรกิจบ้าง

Youtube Ads คือหนึ่งในกลยุทธ์สำคัญทางการตลาดที่จะสร้างการรับรู้ของแบรนด์, แคมเปญ และโปรโมชันได้เป็นอย่างดี อีกทั้งยังมีข้อดีอื่นๆ อีกมากที่ส่งผลโดยตรง และในทางอ้อมให้กับธุรกิจ ในส่วนนี้จะพาไปดูข้อดีในการเลือกโฆษณาผ่าน Youtube Ads ที่เป็นประโยชน์ต่อธุรกิจของคุณกัน จะมีข้อดีอะไรบ้างนั้นติดตามกันต่อได้เลย ดังนี้

คุ้มค่ากับเงินที่ลงทุนไป

นี่เป็นรูปแบบการโฆษณาที่ทั้งประหยัด และได้ประสิทธิภาพสูงสุด เนื่องจากรูปแบบการคิดค่าใช้จ่ายเป็นแบบ PPC หรือการนับค่าใช้จ่ายหลังจากที่ผู้ชมกดคลิกนั้นเอง และผู้ใช้บริการโฆษณายังสามารถกำหนดค่าใช้จ่ายที่ต้องการทำ Ads ได้ เพื่อควบคุมค่าใช้จ่ายให้ไม่บานปลาย ทำให้คุณสามารถวางใจได้ว่าค่าใช้จ่ายทุกบาทที่จ่ายไป มีผู้รับสาร และรับรู้ถึงแคมเปญ หรือสินค้าของคุณแน่นอน

เจาะลึกกลุ่มเป้าหมายในการทำโฆษณาได้ละเอียด

ช่วยให้คุณสามารถมั่นใจได้ว่าแคมเปญที่กำลังทำเข้าถึงกลุ่มลูกค้าได้อย่างแม่นยำ เนื่องจากการใช้บริการ Youtube Ads สามารถเจาะลึกถึงกลุ่มเป้าหมายได้อย่างลึกซึ้ง ไม่ว่าจะเป็นข้อมูลประชากรทั้ง อายุ เพศ สถานะ หรือจังหวัดที่อยู่, เรื่องที่กลุ่มเป้าหมายสนใจ, ข้อมูลเก่าที่ลูกค้าใช้งาน หรือค้นหาทั้งออนไลน์ และออฟไลน์, การขยายกลุ่มเป้าหมายจากฐานกลุ่มผู้ชมที่คล้ายคลึงกัน, การรีมาร์เก็ตติงเพื่อย้ำแคมเปญกับผู้คนที่เคยมีปฏิสัมพันธ์กับโฆษณาในอดีต หรือแม้แต่การเร่งกลุ่มเป้าหมายที่มีโอกาสใช้บริการ / ซื้อสินค้าสูงได้อีกด้วย

เชื่อมต่อผู้ชมที่มีโอกาสเป็นกลุ่มเป้าหมายได้ดีกว่า

แบรนด์จะยิ่งดูน่าเชื่อถือ และเพิ่มโอกาสในการตัดสินใจซื้อของกลุ่มเป้าหมายได้ดีมากขึ้น เมื่อพวกเขารู้ว่าคุณเป็นใคร มีการศึกษาเพิ่มเติมว่ากลุ่มลูกค้ารู้สึกคุ้นเคยกับแบรนด์ที่เปิดเผยตัวตน หรือหน้าตาของผู้คนในโฆษณามากกว่าการเลือกซื้อสินค้ากับบุคคลนิรนาม หรือการโฆษณาที่เห็นเพียงแต่สินค้าเท่านั้น ด้วยรูปแบบการโฆษณาเป็นคลิปผ่าน Youtube ทำให้ลูกค้ารู้สึกสนิทกับแบรนด์ได้แบบไม่ยุ่งยาก และต้นทุนต่ำ ต่อให้คุณเป็นเจ้าของธุรกิจที่ไม่ใหญ่มากก็สามารถเริ่มต้นใช้บริการ Youtube Ads ได้

ติดตามและวัดผลได้ง่าย

หากการทำแคมเปญโดยไม่มีการวัดผล หรือสรุปผลสุดท้าย ถือว่าเป็นการทำแคมเปญที่ไม่สำเร็จ และเสียเวลาอย่างมาก เพราะหากคุณต้องทำแคมเปญอีกในอนาคต ก็มีโอกาสที่จะผิดพลาดในประเด็นเดิมซ้ำๆ การวัดผลจะเป็นการอุดรูรั่ว ปิดช่องว่างที่ทำให้แคมเปญติดขัดได้ และการเลือกใช้บริการ Youtube Ads คุณสามารถที่จะติดตามผลได้อย่างใกล้ชิด เพราะระบบจะทำการประเมินผลให้อยู่ตลอดเวลา

ได้ผลเร็ว

ในปัจจุบันมีผู้ใช้บริการใน Youtube มากกว่า 2 พันล้านคนต่อเดือน ทำให้นี่เป็นรูปแบบการโฆษณาที่มั่นใจได้ว่าสื่อสารแคมเปญออกไปได้เร็ว และมีผู้รับสารแน่นอน หากเปรียบเทียบกับกลยุทธ์การโฆษณาผ่านอีเมลที่ส่งออกไป 10 คน โดยกลุ่มเป้าหมายที่รับสารได้มากสุดคือ 10 คนเท่านั้น แต่ด้วยวิธีการโฆษณาผ่าน Youtube Ads ใน 1 ครั้ง สามารถมั่นใจได้ว่ามีผู้ชมมากกว่า 10 คน อย่างไม่ต้องสงสัย ทำให้นี่เป็นวิธีการโฆษณาที่เผยแพร่ได้เร็ว และมีประสิทธิภาพสูงด้วยในเวลาเดียวกัน

เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้เยอะ ด้วยผู้ใช้งานกว่า 2 พันล้านคน

ด้วยผู้ชมในแพลตฟอร์ม Youtube ที่มีจำนวนมาก ทำให้การโฆษณาด้วยวิธี Youtube Ads วางใจได้ว่าจะสื่อสารได้กับผู้คนในวงกว้างกว่ารูปแบบการโฆษณาอื่นๆ อย่างการแจกใบปลิว ที่เคยเป็นเทรนด์การโฆษณาออฟไลน์ในช่วงเวลาหนึ่ง ที่ทำการสื่อสารกึ่งบังคับกับกลุ่มเป้าหมายได้สูงสุดต่อวัน 20 คน นี่ก็ถือว่าเป็นปรากฏการณ์ที่น่าประทับใจมากแล้ว ตรงกันข้ามกับการเลือกใช้บริการ Youtube Ads ที่มั่นใจได้ว่ามีผู้ชมเกินล้านแน่นอนที่เห็นคลิปวิดีโอโปรโมตของคุณ

ขั้นตอนการทำ youtube ads

ลงโฆษณา Youtube ads ง่ายๆเพียง 7 ขั้นตอน

หากนี่เป็นครั้งแรกของคุณในการลงโฆษณา Youtube Ads สิ่งที่ต้องมีก่อนเลยก็คือ รูปภาพ หรือวิดีโอที่เกี่ยวข้องกับสินค้า หรือแคมเปญที่ต้องการโปรโมต หากใครที่ยังไม่มีไอเดียในการสร้างสรรค์รูปภาพ หรือคลิปวิดีโอที่จะใช้เป็นโฆษณา สามารถที่จะดูตัวอย่างงานโฆษณาที่ประสบความสำเร็จในการสื่อสารได้จากช่องทาง YouTube ads leaderboard ในแต่ละเดือนได้เลย ส่วนใครที่มีผลงานพร้อมแล้ว ก็ทำตามขั้นตอนดังต่อไปนี้ได้เลย

1. อัปโหลดวิดีโอที่จะทำโฆษณาลง Youtube

ขั้นตอนแรกคุณจำเป็นต้องอัปโหลดคลิปวิดีโอที่ต้องการใช้งานลงในช่องก่อน ในส่วนนี้ก็ให้ทำการคลิกที่รูปกล้อง และกดอัปโหลดคลิปวิดีโอ หลังจากนั้นก็ใส่รายละเอียดที่จำเป็นให้ครบถ้วน ไม่ว่าจะเป็น ชื่อคลิปวิดีโอ, คำอธิบายคลิปวิดีโอ และแท็กให้เรียบร้อย

2. สร้างแคมเปญโฆษณาใหม่

หลังจากที่อัปโหลดคลิปวิดีโอเสร็จแล้ว ให้ไปที่หน้าต่างของ Google Ads ลงชื่อผู้เข้าใช้บริการตามขั้นตอนปกติ ไปที่ “แคมเปญทั้งหมด” คลิกต่อที่เครื่องหมายบวก เพื่อเพิ่มแคมเปญในการโฆษณา (สำหรับผู้ใช้งานคนใดที่ยังไม่มีบัญชีผู้เข้าใช้ Google Ads ให้ทำการสมัครเพื่อเปิดบัญชีก่อน) ความน่าสนใจต่อมาหลังจากที่กดเครื่องหมายบวกคือ จะปรากฏหน้าต่างเพื่อให้เลือกเป้าหมายของการโฆษณา โดยจะมีตัวเลือกดังนี้ Search, Display, Shopping, Video และ Universal App อย่างไรก็ดีคุณสามารถที่จะเปลี่ยนแปลงในส่วนนี้ได้ตลอดระยะเวลาที่แคมเปญทำงาน

3. ตั้งค่าแคมเปญ Youtube ads

ในส่วนนี้จะเป็นการตั้งค่าภายในของแคมเปญ เลือกชื่อให้เรียบร้อย และใส่รายละเอียดที่อธิบายแคมเปญของคุณให้ละเอียด หากในอนาคตมีการสร้างแคมเปญจำนวนมาก การหาแคมเปญจะได้เป็นเรื่องง่าย ไม่ซับซ้อน โดยจะมีรายละเอียดที่ต้องใส่ให้ครบ ได้แก่ งบของแคมเปญ, ระยะเวลาวันเริ่มต้นแคมเปญ – วันสิ้นสุดแคมเปญ, ช่องทางที่ต้องการให้โฆษณาไปปรากฏ, ภาษา และสถานที่ที่ต้องการสื่อสาร, ลักษณะการนับค่าใช้จ่าย ซึ่งมีหลากหลายอย่าง นับตามจำนวนการชม, นับตามจำนวนการปฏิสัมพันธ์ หรือนับตามจำนวนผู้ชมที่เห็นผ่านตา เป็นต้น, เลือกสื่อสารเป็นแนวร่วมกับกลุ่มเป้าหมายข้างเคียงได้ หากแบรนด์มีกลุ่มเป้าหมายที่ใกล้เคียงกับแบรนด์ในกลุ่มสินค้าเดียวกัน และต้องการเข้าถึงกลุ่มลูกค้าส่วนนี้ สามารถตั้งค่าเพิ่มเติมได้ เพื่อให้มั่นใจได้ว่าระบบจะปล่อยโฆษณาได้อย่างตรงกลุ่มคนที่ต้องการจริงๆ ก่อนกดตกลง ควรตรวจสอบรายละเอียดให้ถี่ถ้วน เพื่อประหยัดเวลาในการกลับมาแก้ไขในภายหลัง

4.เลือกกลุ่มเป้าหมายในการทำโฆษณา

ก่อนที่จะไปลงลึกถึงการเลือกกลุ่มเป้าหมายในการทำโฆษณา คุณควรตั้งชื่อของกลุ่มเป้าหมายในส่วนนี้ให้ชัดเจน และเป็นเอกลักษณ์ เนื่องจากหากต้องการใช้งานซ้ำ เพื่อย้ำแคมเปญ จะได้ไม่ต้องทำการเซตระบบในส่วนนี้ใหม่นั้นเอง ในการตั้งค่าประชากรนี้ คุณสามารถที่จะระบุได้ตั้งแต่อายุ, เพศ, สถานะ หรือแม้กระทั่งที่พักอาศัย เพื่อให้ระบบสามารถจับกลุ่มเป้าหมายที่ต้องการสื่อสารได้อย่างแม่นยำ

5.เลือกตำแหน่งที่จะให้โฆษณาไปแสดงผล

ในส่วนนี้จะเป็นการตั้งค่าเพื่อให้โฆษณาของคุณไปปรากฏในสถานที่ที่เกี่ยวข้องกับกลุ่มเป้าหมาย โดยสามารถใส่เป็นคำคีย์เวิร์ดเพื่อให้ระบบตรวจจับได้, เลือกหัวข้อที่เกี่ยวข้องกับสินค้า หรือลูกค้า และเลือกสถานที่ในการปรากฏโฆษณา หากผู้ใช้บริการไม่ได้ใส่ขอบเขตในการเผยแพร่โฆษณา ระบบจะทำการแสดงผลอัตโนมัติโดยคำนึงถึงลักษณะ และการตั้งค่าพื้นฐานก่อนหน้า ซึ่งอาจจะแสดงผลในคลิปวิดีโอบน Youtube หรือแบนเนอร์ตามความเหมาะสม

6.ส่ง Video Ads ไปยัง channels ต่างๆที่ยูทูปจัดประเภทไว้

กดอัปโหลดคลิปวิดีโอที่ต้องการใช้เป็นคลิปโฆษณาเพื่อให้ระบบเพิ่มเข้าสู่ระบบ โดยในส่วนนี้ผู้ใช้งานสามารถที่จะคัดลอก และวาง URL หรืออัปโหลดใหม่ได้อีกครั้ง ในกรณีที่ไม่ได้ทำการอัปโหลดมาในตอนต้น

7.กำหนดรูปแบบของวิดีโอโฆษณา

หน้าต่างจะปรากฏตัวเลือกให้คุณได้เจาะจงว่า ต้องการใช้บริการ Youtube Ads รูปแบบใดตามที่ได้แบ่งประเภทของ Youtube Ads ไว้ในช่วงต้นของบทความ เมื่อเลือกประเภทของโฆษณาเรียบร้อยแล้ว ตรวจสอบข้อมูลให้ครบถ้วนอีกครั้ง และเลือกคลิก “บันทึก และไปต่อ” และกดคลิก “ดำเนินแคมเปญ” เพียงเท่านี้ก็เสร็จสิ้นขั้นตอนการทำ Youtube Ads แล้ว

เปรียบเทียบผลลัพธ์ที่ได้จาก Youtube Ads และสื่อประเภทอื่นๆ

Youtube ads เทียบกับกำทำโฆษณาแบบวิดีโอของแฟลตฟอร์มอื่นๆ

หลังจากที่ได้ทำความเข้าใจจนเห็นภาพรวมของฟังก์ชันการใช้งานของ Youtube Ads กันมาบ้างแล้ว คาดว่าหลายคนน่าจะเกิดคำถามในใจเกี่ยวกับแพลตฟอร์มข้างเคียงอื่นๆ ว่าผลลัพธ์ที่ได้จาก Youtube Ads และสื่อประเภทอื่นๆ ว่าแบบไหนดีกว่า และเหมาะสมกับธุรกิจของคุณมากกว่า เนื้อหาในส่วนนี้จะช่วยคลายความสงสัยให้กับคุณได้ดีเลยทีเดียว

สิ่งที่ทำให้ Youtube ads แตกต่างจากวิดีโอแฟลตฟอร์มอื่นๆ

แน่นอนว่าทั้งแพลตฟอร์ม Facebook และ Youtube เป็นที่นิยมสำหรับนักการตลาดที่จะทำโฆษณาเพื่อโปรโมตแคมเปญต่างๆ แต่หากลงลึกถึงเรื่องความคุ้มค่า และความง่ายดายในการใช้งานแล้ว Youtube กลับเป็นแพลตฟอร์มที่เหนือชั้นกว่า Facebook มาก และเหมาะกับมือใหม่ที่สนใจอยากลองใช้บริการ Ads อีกด้วย อย่างไรก็ดีความได้เปรียบของ Facebook คือสามารถเจาะรายละเอียดประชากรที่ต้องการสื่อสารได้ในเชิงลึก หากคุณเป็นนักการตลาดที่มีความสามารถ และเชี่ยวชาญในด้านการทำโฆษณา การใช้สื่ออย่าง Facebook ก็เป็นอีกเครื่องมือที่ไม่ควรพลาด สรุปแล้วทั้งสองคือเครื่องมือทางการตลาดที่ดี และมีความโดดเด่นคนละด้าน ต้องกลับมาโฟกัสว่ากลุ่มเป้าหมายในการสื่อสารของคุณใช้เวลาอยู่บนแพลตฟอร์มไหนมากกว่ากัน หากกลุ่มเป้าหมายของคุณอยู่บน Youtube การเลือกใช้บริการ Youtube Ads ก็จะเป็นตัวเลือกที่คุ้มค่า และได้ประสิทธิภาพมากกว่านั้นเอง

สถิติที่น่าสนใจของการทำ Youtube ads

สิ่งที่ทำให้เครื่องมืออย่าง Youtube Ads ดึงดูดเหล่านักการตลาดในปัจจุบันอย่างมาก เพราะว่าระดับความสนใจของการทำโฆษณาบน Youtube นั้นเพิ่มสูงขึ้นจากแพลตฟอร์มโซเชียลอื่นๆ ถึง 1.8 เท่า จากการศึกษาของ Nielsen Consumer Neuroscience, U.S ที่ทำวิจัยการข้ามแพลตฟอร์มวิดีโอจาก Google โดยมีการใช้โฆษณา 8 ตัว 4 แพลตฟอร์ม และผู้เข้าร่วมการทดลองทั้งหมด 400 คน ช่วงอายุ 18-35 ปี ทำให้ Youtube Ads คือเป็นเครื่องมือการตลาดที่ถูกจับตามอง และหลายธุรกิจให้ความสำคัญ

เทรนด์และเทคนิคที่ต้องรู้ในการทำ Youtube ads ปี 2023

เทรนด์และเทคนิคที่ต้องรู้ในการทำ Youtube ads ปี 2023

แน่นอนว่า Youtube Ads เป็นเครื่องมือที่หลายธุรกิจทั้งในปัจจุบัน และในอนาคตยังต้องพึ่งพาเพื่อสื่อสารกับกลุ่มเป้าหมายทั้งสร้างยอดขาย และเพิ่มการรับรู้ของแบรนด์ โดยเทรนด์ Youtube Ads 2023 ที่นำมาฝากนี้เป็นสิ่งที่คุณควรรู้เพื่อก้าวให้ทันโลก และนำไปปรับใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุดกับแบรนด์ได้ จะมีเทรนด์อะไรที่ไม่ควรพลาดบ้างไปติดตามกันต่อไเลย

  • Youtube ยังคงโตอย่างต่อเนื่อง ผู้คนดูคลิป Youtube จนจบมากกว่า 70% บนมือถือ นั้นหมายความว่าตลาดนี้ยังไม่วาย และยังมีแสงสว่างที่เจิดจ้าอย่างต่อเนื่อง 
  • Youtube และโรคระบาด กับการต่อสู้ของข้อมูลที่ผิดเพี้ยน Youtube เป็นแพลตฟอร์มที่มีการดูแล และตรวจสอบเรื่อง Fake News ที่น่าไว้วางใจ จากการไล่ลบวิดีโอที่ให้ข้อมูลผิดเพี้ยนถึง 200,000 คลิป ทำให้กลายเป็นแพลตฟอร์มที่มีความน่าเชื่อถือ และปลอดภัยอีกที่หนึ่ง 
  • Youtube Live คอนเทนท์แนว ถาม-ตอบ หรือรีวิวมีผู้คนสนใจ และกำลังกลายเป็นเทรนด์ที่หลายๆ แบรนด์ต้องเริ่มได้แล้ว เพราะสามารถตอบโต้ปฏิสัมพันธ์กับลูกค้าได้อย่างอิสระ ช่วยเพิ่มความใกล้ชิดระหว่างแบรนด์ และลูกค้าได้ดี 
  • เรียกน้ำย่อยด้วยวิดีโอช็อปปิง มีการสำรวจว่าแบรนด์ที่ใส่รายละเอียดสินค้าครบถ้วน มียอดในการขายเพิ่มขึ้น 2 เท่าตัว วิธีนี้ช่วยเพิ่มโอกาสในการปิดการขายได้ง่ายขึ้น 
  • วิดีโอแนว How to แบรนด์สามารถเก็บตกสิ่งที่สื่อสารบกพร่องได้จากการทำคอนเทนท์แนว How to เพื่อตอกย้ำการใช้งาน หรือแก้ข้อมูลที่ลูกค้าเข้าใจผิดพลาดได้ 
  • คอนเทนท์เสิร์ฟใหม่ที่ผู้คนสนใจ แบรนด์สามารถสร้างความตื่นเต้นผ่านคอนเทนท์ เพื่อเร้าให้เกิดการเลือกซื้อสินค้าได้เพิ่มเติม 
  • คอนเทนท์แนวกิจวัตรยังขายได้ แบรนด์สามารถเล่าเรื่อง และสะท้อนภาพให้ลูกค้าเห็นภาพได้ชัดมากยิ่งขึ้นว่าสินค้าของคุณตอบโจทย์ และได้แก้ไขปัญหาในชีวิตของกลุ่มเป้าหมายอย่างไรได้แบบตรงไปตรงมา 
  • วิดีโอแนว 360-Degree นักการตลาดสามารถใช้มุมกล้องแบบ 360 องศาเพื่อเก็บตกสิ่งที่รูปภาพ หรือมุมอับที่ลูกค้าไม่เห็นให้ชัดเจนครบทุกมุมได้แบบง่ายดาย 
  • โฆษณา Youtube ที่มีมากกว่าโฆษณาใน TV ปฏิเสธไม่ได้ว่าเทรนด์การพึ่งพา Youtube Ads กำลังค่อยๆ กลืนกินการโฆษณาแบบเดิมอย่างโทรทัศน์ขึ้นเรื่อยๆ 
  • Youtube ช่องดังที่กระแสดีไม่มีตก บทบาทของอินฟลู Youtube ยังคงสร้างความน่าสนใจ และเรียกยอดขายให้กับแบรนด์ได้ไม่มีแผ่ว 
  • สารคดี ขายดีเสมอ มีผู้สนใจคอนเทนท์แนวสารคดีเพิ่มขึ้น การได้ลองร่วมงานกับเหล่า content creator สายสารคดี เพื่อทำคอนเทนท์แบบใหม่ๆ ก็เป็นการสื่อสารที่เพิ่มเสน่ห์ และดึงดูดกลุ่มลูกค้าเป็นไอเดียที่ไม่ควรพลาด
  • ASMR / วาไรตี้ ไม่มีกระแสตก แบรนด์ที่เกี่ยวกับการทำสมาธิ หรือสินค้าที่มีคุณสมบัติทำให้จรรโลงใจ มีกลุ่มอินฟลูแนว ASMR เกิดขึ้น การร่วมงานกันอาจทำให้รายได้ของแบรนด์ทวีคูณได้แบบที่คุณคาดไม่ถึง 
  • ค้นหาอะไรก็เจอใน Youtube ระบบการค้นหาของ Youtube ถูกพัฒนาในทุกวัน ทำให้ผู้คนเริ่มเข้ามาใช้ Youtube เป็นหนึ่งในเครื่องมือ Search Engine มากยิ่งขึ้น 
  • ปฏิบัติการกู้หน้าสวย ขายได้ตลอด คอนเทนท์แนวเปลี่ยนหน้าไม่สวย สู่หน้าเป๊ะผิวปัง ยังคงรายได้ให้กับทั้งกลุ่มอินฟลู และสินค้าที่เข้ามาเป็นพาร์ทเนอร์อยู่ไม่มีขาดสาย 
  • ช่องเกมจงเจริญ คอนเทนทที่ไม่มีวันตายบน Youtube เพราะไม่ว่าใครก็เป็น Content Creator สายเกมเมอร์ได้ ทำให้คอนเทนท์แนวนี้หลากหลาย และไม่มีวันเบื่อ
  • ความยั่งยืน ไม่เสื่อมคลาย คอนเทนท์แนวซีเรียสที่ต้องการความน่าเชื่อถือก็มีอยู่มากมาย ทำให้ธุรกิจแนวอสังหา หรือการเงินเข้ามาเป็นอีกหนึ่งแนวธุรกิจที่กำลังโตอย่างต่อเนื่องใน Youtube

สรุป

คงได้รู้กันแล้วว่า youtube ads มีอะไรบ้าง หรือ โฆษณา youtubeมีกี่แบบ ซึ่งYoutube Ads คือ การทำโฆษณาของ Google Ads บน Youtube ยิ่งในยุคนี้ที่มีคนใช้ Youtube กันเป็นจำนวนมาก จึงเป็นอีกเครื่องมือที่สามารถสร้างการรับรู้ และตอบโจทย์ได้กับทุกแคมเปญ หลังจากที่ทุกคนได้รู้จักกับเครื่องมือนี้ไปแล้วว่าคืออะไร, มีรูปแบบอะไรบ้าง รวมถึงมีจุดเด่นกว่าแพลตฟอร์มอื่นอย่างไร จะทำให้คุณไม่พลาดกับโอกาสใหม่ๆ ในการบุกเบิกแบรนด์ด้วย Youtube Ads กัน

FAQ – คำถามที่พบบ่อย

Youtube Ads มีกี่ประแบบและมีอะไรบ้าง

Youtube ads มีอยู่ด้วยกันทั้งหมด 6 ประเภท ได้แก่ 

  • Skippable in-stream ads
  • Non-skippable instream ads 
  • Video Discovery Ads 
  • Bumper ads 
  • Sponsored card ads 
  • Overlay ads

Youtube Ads มีการคำนวณค่าโฆษณาจากอะไร

Youtube Ads มีการคำนวณค่าโฆษณาจาก CPV และ CPM โดย CPV คือ cost per view การคิดค่าโฆษณาต่อการรับชม 1 ครั้งตามระยะเวลาที่กำหนด (ระยะเวลาที่กำหนดคือ 30 วินาที หรือแล้วแต่กรณีหากวิดีโอสั้นกว่านั้น) ส่วน CPM คือ cost per impression เป็นการคิดค่าโฆษณาเมื่อมีการแสดงผลครบ 1,000 ครั้ง(จุดนี้จะไม่สนใจว่าจะมีคนคลิกหรือดูจนจบหรือไม่)

โฆษณา Youtube ที่เราเห็นและกดข้ามไม่ได้ เรียกว่าอะไร

โฆษณาที่เราเห็นและกดข้ามไม่ได้ในยูทูป เราเรียกว่า BUMPER ADS เป็นวิดีโอโฆษณาที่แทรกขึ้นมาในทุกช่วงของการเล่นในวิดีโอ โดยมีระยะเวลาในการแสดงผลเพียงแค่ 6 วินาทีเท่านั้น โดยโฆษณาตัวนนี้เหมาะสำหรับแบรนด์ที่ต้องการโปรโมทสินค้าตัวใหม่ และต้องการเป็นที่จดจำใน Top of mind ของลูกค้า

ให้ธุรกิจของคุณเติบโตแบบก้าวกระโดดไปกับทีมการตลาดมืออาชีพ
รับการตอบกลับภายใน 2 ชั่วโมง
รับการตอบกลับภายใน 2 ชั่วโมง