Key Takeaway
- Internal Link คือการเชื่อมโยงลิงก์ระหว่างหน้าในเว็บไซต์เดียวกัน ช่วยผู้ใช้งานเข้าถึงข้อมูลได้ง่ายขึ้น
- Internal Link มีบทบาทสำคัญต่อ SEO เพราะช่วยให้ Google เข้าใจโครงสร้างเว็บไซต์และจัดอันดับได้ดียิ่งขึ้น
- Internal Link เชื่อมโยงภายในเว็บไซต์เดียวกัน ส่งเสริมการนำผู้ใช้งานไปยังหน้าที่เกี่ยวข้องในเว็บไซต์ ส่วน External Link เชื่อมโยงไปยังเว็บไซต์อื่น แล้วเพิ่มความน่าเชื่อถือด้วยการอ้างอิงแหล่งข้อมูลภายนอก
Internal Link คือลิงก์ที่ถูกนำมาแทรกลงในคำหรือประโยคของบทความหรือเนื้อหาในเว็บไซต์ เพื่อเชื่อมโยงไปยังหน้าอื่นๆ ของตัวเว็บไซต์ โดย Internal Link มีส่วนช่วยขับเคลื่อนการทำ SEO ได้อย่างมีประสิทธิภาพ บทความนี้จะมาอธิบายให้คุณเข้าใจอย่างละเอียด พร้อมแนะนำวิธีการทำ Internal Link ให้ได้ผลดี มาหาคำตอบไปพร้อมกัน

Hyperlink ตัวช่วยเชื่อมโยงข้อมูล ทำให้เว็บไซต์ใช้งานง่ายยิ่งขึ้น
Hyperlink เป็นส่วนสำคัญที่ช่วยเชื่อมโยงข้อมูลและเพิ่มความสะดวกในการนำทางบนเว็บไซต์ โดยทำหน้าที่เป็นลิงก์ที่ผู้ใช้งานสามารถคลิกเพื่อเปลี่ยนหน้าไปยังข้อมูลอื่นๆ ทั้งในเว็บไซต์เดียวกันหรือเว็บไซต์ภายนอกได้ โดยแบ่ง Hyperlink ออกเป็นประเภทต่างๆ ดังนี้
- Internal Hyperlink คือลิงก์ที่เชื่อมโยงระหว่างหน้าต่างๆ ภายในเว็บไซต์เดียวกัน ช่วยนำทางผู้ใช้งานไปยังเนื้อหาที่เกี่ยวข้อง
- External Hyperlink คือลิงก์ที่เชื่อมโยงเว็บไซต์ของเรากับเว็บไซต์อื่น เช่น ลิงก์อ้างอิง หรือ Backlink
- Text Links ลิงก์ในรูปแบบข้อความที่สามารถคลิกได้ โดยมักแสดงเป็น Anchor Text
- Image Links ลิงก์ในรูปของภาพ เช่น แบนเนอร์โฆษณาที่คลิกได้
- Anchor Links ลิงก์ที่เชื่อมโยงไปยังส่วนต่างๆ ในหน้าเดียวกัน เช่น ลิงก์จากสารบัญไปยังหัวข้อ
- Fat Links ลิงก์เดียวที่มีปลายทางหลายจุด ช่วยให้เลือกปลายทางได้จากลิงก์เดียว

Internal Link ตัวช่วยสร้างยอด Traffic ที่มีคุณภาพให้กับเว็บไซต์
Internal Link คือลิงก์ที่เชื่อมโยงระหว่างหน้าต่างๆ ภายในเว็บไซต์เดียวกัน ช่วยให้ผู้ใช้งานเข้าถึงเนื้อหาที่เกี่ยวข้องได้ง่ายขึ้น พร้อมส่งเสริมการจัดอันดับใน SEO โดยการสร้างโครงสร้างลิงก์ที่ชัดเจน โดยการใช้งาน Internal Link อย่างเหมาะสมไม่เพียงช่วยนำทางผู้ใช้งานเท่านั้น แต่ยังเพิ่มโอกาสให้พวกเขาใช้เวลาบนเว็บไซต์นานขึ้น และสร้างยอด Traffic ที่มีคุณภาพได้อย่างต่อเนื่อง
ตัวอย่างเช่น บทความรีวิวสินค้าอาจลิงก์ไปยังหน้า “วิธีการใช้งาน” หรือ “ติดต่อสั่งซื้อ” ในเว็บไซต์เดียวกัน หรือหน้าแรกของเว็บไซต์เชื่อมโยงไปยังหน้า “บริการของเรา” หรือ “เกี่ยวกับเรา”

Internal Link VS External Link ต่างกันอย่างไร
Internal Link คือลิงก์ที่เชื่อมโยงภายในเว็บไซต์ของคุณเอง ช่วยนำทางให้ผู้ใช้ไปยังหน้าอื่นๆ ได้สะดวก รวดเร็ว และง่ายดาย และยังช่วยให้ Search Engine เข้าใจโครงสร้างเว็บไซต์ของคุณได้ดียิ่งขึ้น ส่งผลให้การจัดอันดับดีขึ้น
ในทางกลับกัน External Link คือลิงก์ที่เชื่อมโยงไปยังเว็บไซต์อื่น ช่วยเพิ่มความน่าเชื่อถือให้กับเว็บไซต์ของคุณ และช่วยส่งสัญญาณไปยัง Search Engine ว่าเว็บไซต์ของคุณมีความเกี่ยวข้องกับหัวข้อนั้นๆ
Internal Link สำคัญกับการทำ SEO อย่างไร
การทำ Internal Link หรือการเชื่อมโยงลิงก์ภายในเว็บไซต์มีความสำคัญในการเพิ่มประสิทธิภาพ SEO เพราะช่วยให้เว็บไซต์มีโครงสร้างที่เป็นระเบียบและง่ายต่อการนำทางของผู้ใช้งาน รวมทั้งช่วยให้ Google เข้าใจเนื้อหาและโครงสร้างเว็บไซต์ได้ดีขึ้น โดยมีความสำคัญหลักๆ ต่อการทำ SEO ดังนี้
1. เพิ่มประสบการณ์ใช้งานที่ดียิ่งขึ้น
Internal Link ช่วยให้ผู้ใช้ค้นหาข้อมูลเพิ่มเติมได้ง่ายโดยไม่ต้องกลับไปค้นหาใหม่ ทำให้การนำทางในเว็บไซต์สะดวกยิ่งขึ้น หากเชื่อมโยงเนื้อหาที่เกี่ยวข้อง ผู้ใช้ก็จะพบข้อมูลเพิ่มเติมที่น่าสนใจได้ทันที ซึ่งช่วยให้เวลาที่ผู้ใช้อยู่ในเว็บไซต์นานขึ้นและประสบการณ์ในการใช้งานดียิ่งขึ้น นอกจากนี้ยังเป็นตัวช่วยที่ทำให้ Google เห็นว่าเว็บไซต์ของคุณเป็นแหล่งข้อมูลที่มีคุณค่าและเชื่อถือได้ ซึ่งช่วยเสริมอันดับ SEO ของเว็บไซต์อีกด้วย
2. สร้างยอดการค้นหาในแพลตฟอร์มออนไลน์
Internal Link ช่วยเพิ่มการค้นพบเนื้อหาของเว็บไซต์บนแพลตฟอร์มออนไลน์ได้ดียิ่งขึ้น เพราะเมื่อเชื่อมโยงหน้าต่างๆ ภายในเว็บไซต์อย่างมีระเบียบ ผู้ใช้สามารถค้นพบข้อมูลเพิ่มเติมที่เกี่ยวข้อง ซึ่งจะช่วยให้ผู้ใช้อยู่บนเว็บไซต์นานขึ้น และเพิ่มโอกาสในการพบเนื้อหาที่ตรงกับความต้องการ ส่งผลดีต่อการจัดอันดับในผลการค้นหาของ Google
3. ขยายโอกาสด้านธุรกิจ
Internal Link ช่วยเชื่อมโยงหน้าเว็บที่เกี่ยวข้องกับสินค้าและบริการต่างๆ ภายในเว็บไซต์ ทำให้ลูกค้าหรือผู้เข้าชมสามารถค้นหาข้อมูลเกี่ยวกับธุรกิจได้ง่ายขึ้น นอกจากนี้ยังช่วยเพิ่มการเข้าถึงและการรับรู้ของแบรนด์ ซึ่งช่วยขยายโอกาสในการสร้างยอดขายและเพิ่มโอกาสทางธุรกิจได้เป็นอย่างดี
4. ช่วยให้ Google เข้าถึงหน้าเว็บได้ง่ายขึ้น
Internal Link ช่วยให้ Google บอทสามารถค้นพบและรวบรวมข้อมูลจากหน้าเว็บของคุณได้ง่ายขึ้น เพราะการเชื่อมโยงแต่ละหน้าเว็บจะช่วยให้บอทเดินทางผ่านเว็บไซต์และทำดัชนีได้อย่างมีประสิทธิภาพ ส่งผลให้เว็บไซต์ของคุณได้รับการจัดอันดับในผลการค้นหาของ Google ได้ดียิ่งขึ้น
5. ปรับปรุงโครงสร้างเว็บไซต์ให้ดียิ่งขึ้น
Internal Link ช่วยเสริมโครงสร้างเว็บไซต์ของคุณให้มีความชัดเจนและเชื่อมโยงกันมากขึ้น โดยช่วยจัดระเบียบเนื้อหาภายในเว็บไซต์ให้ง่ายต่อการนำทางและทำให้ทั้ง Google และผู้ใช้งานเข้าใจเว็บไซต์ได้ดียิ่งขึ้น
การใช้ลิงก์ภายในช่วยเชื่อมโยงหน้าเว็บที่เกี่ยวข้องกัน และสามารถข้ามจากหัวข้อหนึ่งไปยังอีกหัวข้อหนึ่งได้ ซึ่งทำให้เว็บไซต์มีประสบการณ์การใช้งานที่ราบรื่นและสมบูรณ์แบบยิ่งขึ้น ส่งผลดีต่อ SEO โดยการทำให้เว็บไซต์เป็นแหล่งข้อมูลที่เชื่อมโยงและเข้าใจได้ง่าย

ปรับปรุงการทำ Internal Link ให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้นได้ง่ายๆ ได้อย่างไร
การปรับปรุง Internal Link เป็นอีกหนึ่งเทคนิค SEO ที่สำคัญมาก เพราะช่วยให้ Search Engine เข้าใจโครงสร้างเว็บไซต์ได้ดีขึ้น และช่วยให้ผู้ใช้ค้นหาข้อมูลได้ง่ายขึ้น โดยมีวิธีการต่างๆ ดังต่อไปนี้
1. เลือกใช้ Anchor Text
การใช้ Internal Link ประเภท Anchor Link ภายในหน้าเดียวกันก็เป็นอีกหนึ่งเทคนิคที่น่าสนใจ โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับเนื้อหาที่มีความยาวและซับซ้อนมีส่วนช่วยให้ผู้ใช้สามารถนำทางไปยังส่วนต่างๆ ของหน้าได้อย่างรวดเร็วและง่ายดาย
ตัวอย่างเช่น การใช้ Table of Contents เพื่อแบ่งหัวข้อภายในบทความ นอกจากนั้นยังช่วยให้ Google เข้าใจโครงสร้างของเนื้อหาได้ดียิ่งขึ้น และอาจทำให้เว็บไซต์ของคุณได้รับการจัดอันดับที่ดีขึ้นในผลการค้นหา โดย Google อาจแสดง Anchor Link บางส่วนในผลการค้นหา ซึ่งจะช่วยให้เว็บไซต์ของคุณโดดเด่นและดึงดูดผู้คลิกมากขึ้น
2. ออกแบบข้อความให้ชัดเจนน่าคลิก
การออกแบบข้อความ Anchor Text ให้ชัดเจนและน่าคลิกเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่ง เพราะจะช่วยให้ผู้ใช้เข้าใจได้ง่ายว่าลิงก์นั้นจะนำไปสู่เนื้อหาใด
ตัวอย่างเช่น แทนที่จะใช้ “คลิกที่นี่” ลองใช้ข้อความที่สื่อความหมาย เช่น “เรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับประโยชน์ของการออกกำลังกาย” หรือ “ดูสูตรอาหารสุขภาพ” เพราะ การใช้คำที่เฉพาะเจาะจงและตรงประเด็นจะช่วยกระตุ้นให้ผู้ใช้สนใจและคลิกลิงก์นั้นมากขึ้น นอกจากนี้ การใช้คำถามที่น่าสนใจก็เป็นอีกเทคนิคหนึ่งที่ช่วยดึงดูดความสนใจของผู้ใช้ เช่น “ทำไมการนอนหลับถึงสำคัญ?”
3. เชื่อมโยงไปยังหน้าเว็บที่สำคัญ
วิธีการคือการใช้เครื่องมือค้นหาขั้นสูงของ Google เพื่อค้นหาหน้าเว็บภายในเว็บไซต์ของคุณที่มีเนื้อหาเกี่ยวข้องกับหน้าเว็บที่สำคัญ จากนั้นคุณสามารถสร้าง Internal Link จากหน้าเว็บเหล่านั้นไปยังหน้าเว็บที่สำคัญ เพื่อช่วยส่งเสริมอันดับ SEO และเพิ่มปริมาณการเข้าชมหน้าเว็บ
นอกจากนั้นคุณยังสามารถสร้าง Internal Link จากหน้าเว็บที่มี Page Authority สูง หรือได้รับ Backlink จากเว็บไซต์ภายนอกมาเชื่อมโยงไปยังหน้าเว็บที่ต้องการ โดยเฉพาะอย่างยิ่งหน้าเว็บภายในเว็บไซต์ของคุณที่อาจจะไม่ได้มีปริมาณการเข้าชมหรือยอดขายสูง แต่มีศักยภาพด้าน SEO ที่ดี
4. กระตุ้นให้ผู้ใช้งานอยากกดเข้าไปดู
การเลือกใช้ Anchor Text บน Internal Link เพื่อกระตุ้นให้ผู้ใช้คลิกลิงก์นั้นต้องอาศัยปัจจัยหลายอย่าง หนึ่งในนั้นคือการสร้างความอยากรู้อยากเห็น ตัวอย่างเช่น การใช้คำว่า “เคล็ดลับสุดยอด” “สูตรลับ” หรือ “เทคนิคเด็ด” จะช่วยดึงดูดความสนใจของผู้ใช้ให้ต้องการคลิกเข้าไปดู
นอกจากนี้การสร้างความรู้สึกเร่งด่วน เช่น “จำกัดจำนวน” “เฉพาะช่วงเวลา” หรือ “โปรโมชั่นพิเศษ” ก็เป็นอีกวิธีหนึ่งที่ช่วยกระตุ้นให้ผู้ใช้ตัดสินใจคลิกลิงก์ได้เร็วขึ้น อีกเทคนิคหนึ่งคือการใช้ตัวเลข เช่น “5 วิธี” “10 ขั้นตอน” หรือ “3 เหตุผล” ซึ่งจะช่วยให้ผู้ใช้เห็นภาพและเข้าใจได้ง่ายขึ้นว่าจะได้รับอะไรจากการคลิกลิงก์นั้น
5. หมั่นตรวจสอบและซ่อมแซมลิงก์ที่เสีย
ลิงก์ที่เสียเป็นปัญหาที่พบได้บ่อยในเว็บไซต์ โดยเฉพาะเว็บไซต์ขนาดใหญ่ที่มีหน้าเว็บจำนวนมาก ลิงก์ที่เสียจะนำไปสู่หน้า Error 404 ซึ่งเป็นเหมือนทางตันสำหรับทั้งผู้ใช้และ Search Engine นอกจากนี้ ยังอาจทำให้เกิดหน้า Orphan Page ที่ Search Engine ไม่สามารถเข้าถึงได้
การแก้ไขปัญหานี้สามารถทำได้โดยใช้เครื่องมือ Google Search Console เพื่อตรวจสอบหน้าที่เกิดข้อผิดพลาด หรือใช้เครื่องมือที่ทรงประสิทธิภาพอย่าง Screaming Frog ในการค้นหาลิงก์ที่เสียทั้งหมดภายในเว็บไซต์ การตรวจสอบและซ่อมแซมลิงก์ที่เสียอย่างสม่ำเสมอจะช่วยปรับปรุงประสบการณ์ของผู้ใช้ และช่วยให้ Search Engine เข้าใจโครงสร้างของเว็บไซต์ได้ดียิ่งขึ้น
เช็กให้ชัวร์! ตรวจสอบคุณภาพการทำ Internal Link ได้อย่างไร
การทำ Internal Link เป็นหนึ่งในกลยุทธ์สำคัญที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของเว็บไซต์ในด้าน SEO แต่การจะมั่นใจได้ว่า Internal Link ที่คุณสร้างขึ้นมามีคุณภาพหรือไม่ คุณสามารถตรวจสอบได้ง่ายๆ ด้วยเครื่องมือฟรีอย่าง Google Search Console โดยทำตามขั้นตอนดังนี้
- เข้าสู่เว็บไซต์ Google Search Console ไปที่ลิงก์ https://search.google.com/search-console/about และล็อกอินด้วยบัญชี Google ที่เชื่อมต่อกับเว็บไซต์ของคุณ
- เลือกเมนู “Links” ในแถบด้านซ้ายมือ เมื่อเข้าสู่หน้าหลักของ Google Search Console สังเกตแถบเมนูด้านซ้าย และคลิกที่คำว่า “Links”
- ตรวจสอบข้อมูล Internal Link ในหน้าจอ “Links” คุณจะพบส่วนที่แสดงข้อมูลเกี่ยวกับ Total Internal Links ซึ่งบอกจำนวนลิงก์ที่เชื่อมโยงจาก URL หนึ่งไปยังอีก URL หนึ่งในเว็บไซต์ของคุณ โดยคุณสามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ว่า
- URL ไหนมีการทำ Internal Link ไปแล้วกี่ลิงก์
- URL ใดบ้างที่มีลิงก์เชื่อมโยงเข้ามา
สรุป
Internal Link คือกุญแจสำคัญในการเพิ่มประสิทธิภาพของเว็บไซต์ การทำ SEO การดันเว็บไซต์ขึ้นอันดับหนึ่งในผลการค้นหา การเชื่อมโยงภายในเว็บไซต์อย่างถูกต้องช่วยให้ทั้งผู้ใช้และเครื่องมือค้นหาเข้าใจโครงสร้างของเว็บไซต์ได้ดียิ่งขึ้น ส่งผลให้ผู้ใช้พบข้อมูลที่ต้องการได้ง่ายขึ้น และเว็บไซต์ก็ได้รับการจัดอันดับที่ดีขึ้นในผลการค้นหา การออกแบบ Anchor Text ที่ชัดเจน น่าคลิก และการเชื่อมโยงไปยังหน้าเว็บที่สำคัญ เป็นส่วนหนึ่งของเทคนิคในการสร้าง Internal Link ที่มีประสิทธิภาพ และการตรวจสอบและปรับปรุง Internal Link อย่างสม่ำเสมอจะช่วยให้เว็บไซต์ของคุณประสบความสำเร็จในระยะยาวได้
FAQ – คำถามที่พบบ่อย
รวมคำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับการทำ Internal link และ External link ซึ่งจะช่วยให้ผู้อ่านเข้าใจภาพรวมมากยิ่งขึ้น
ข้อความที่จะทำ Internal link ควรเป็นอย่างไร
“Anchor Text” หรือ “Link Text” ควรเป็นคำหรือวลีที่เกี่ยวข้องกับเนื้อหานั้นๆ หลีกเลี่ยงการใช้คำว่า “อ่านเพิ่มเติม” หรือ “คลิกที่นี่” ยกเว้นกรณีที่คุณต้องการให้คำเหล่านั้นเป็นคำที่ใช้จัดอันดับในเครื่องมือค้นหาโดยเฉพาะ
Internal Link มีข้อเสียไหม
การทำ Internal Link มากเกินไปอาจส่งผลเสียต่อ SEO ได้ เช่น มูลค่าลิงก์ที่ลดลง เนื่องจากลิงก์ที่มากเกินไปกระจายความสำคัญจนบางเกินไป ทำให้เครื่องมือค้นหาเข้าใจโครงสร้างเว็บไซต์ได้ยาก
ใส่ Internal Link เท่าไรถึงจะดี
ไม่มีจำนวนที่ตายตัว แต่โดยทั่วไปแนะนำไม่เกิน 150 ลิงก์ต่อหน้า เพื่อให้ PageRank ถูกกระจายอย่างเหมาะสม
หากเว็บไซต์มีอำนาจหน้า (Page Authority) สูง อาจใส่ได้มากกว่าโดยไม่กระทบ SEO แต่สำหรับเว็บไซต์เล็กหรือใหม่ ควรควบคุมจำนวนลิงก์และใช้โครงสร้างลิงก์แบบลำดับชั้นเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ