Table of Contents

Categories

Recent Posts

แนวทางการทำ landing page เพื่อเพิ่ม conversion ให้เว็บไซต์

Landing Pages คืออะไร ออกแบบยังไงให้เกิด Conversion แบบปังๆ

Table of Contents

Landing Pages เป็นอีกส่วนสำคัญของการทำการตลาดออนไลน์ที่สามารถช่วยเพิ่ม Conversion ได้ เพราะมักมีการออกแบบมาให้ตอบโจทย์การใช้งานของกลุ่มเป้าหมายมากที่สุด ดังนั้น ในบทความนี้จะพาทุกคนไปทำความรู้จักกันว่า Landing Page คืออะไร? แตกต่างจากเว็บไซต์อย่างไร? และมีกี่ประเภท พร้อมเทคนิค และตัวอย่างในการทำ Landing Page ที่จะช่วยเพิ่มยอดผู้เข้าชมให้มากขึ้น

Landing Page คืออะไร?

Landing Page คือ หน้าเว็บไซต์ที่คลิกลิงก์เข้ามาแล้วเจอเป็นหน้าแรก โดยมีการออกแบบ และสร้างขึ้นมาเพื่อจุดประสงค์บางอย่างแค่เพียงอย่างใดอย่างหนึ่ง อาจจะเป็นการเก็บข้อมูล ให้ข้อมูลที่มีประโยชน์แก่ผู้เข้าชม ดึงดูดความสนใจของผู้เข้าชม หรือช่วยส่งเสริมให้ผู้เข้าชมตัดสินใจซื้อสินค้า หรือบริการ เป็นต้น ซึ่งส่วนใหญ่ Landing Pages นั้นมักจะใช้ในแคมเปญทางการตลาด หรือโฆษณา เพื่อให้ผู้เข้าชมสามารถเข้าถึงสินค้า หรือบริการได้ง่ายๆ และเข้าถึงได้ทันที หลังจากการคลิกลิงก์เพียงครั้งเดียวจากในอีเมล หรือโฆษณาต่างๆ เช่น Facebook, Instagram, Twitter หรือ Youtube เป็นต้น

Landing Page แตกต่างกับ Website ยังไง?

สำหรับความแตกต่างระหว่าง Website กับ Landing Page คือ Website นั้นจะมีการนำเสนอข้อมูลที่หลากหลาย และมีเมนูให้เลือกเยอะแยะ เพื่อให้ผู้เข้าชมเลือกเองว่าต้องการเข้าถึงข้อมูลแบบไหน แต่ว่า Landing Pages นั้นจะเป็นหน้าหนึ่งของเว็บไซต์ที่ออกแบบมาให้ผู้เข้าชมเข้าถึงข้อมูลนั้นโดยเฉพาะ เพื่อให้ผู้เข้าชมนั้นรู้ถึงสิ่งที่เราต้องการนำเสนอ โดยจะมีการระบุถึงเนื้อหา และข้อความที่ต้องการสื่อสารกับกลุ่มเป้าหมายของเราอย่างชัดเจน

การทำ Landing Page ช่วยอะไรในการทำ SEO

การทำ Landing Page ช่วยอะไรบ้าง

หลายๆ คนอาจจะกำลังสงสัยอยู่ว่าการทำ Landing Pages สามารถช่วยเรื่องอะไรได้บ้าง และสามารถส่งผลต่อการทำการตลาดออนไลน์ได้จริงหรือไม่ ดังนั้น เราจะไปดูประโยชน์ต่างๆ ของการทำ Landing Pages ดังนี้

ดึงดูดความสนใจของผู้ชม

การทำ Landing Pages สามารถช่วยดึงดูดความสนใจของผู้ชมได้เป็นอย่างดี เพราะว่าหน้า Landing Page นั้นมีการออกแบบให้ตอบโจทย์ความสนใจ หรือความต้องการของผู้ใช้งานมากที่สุด ไม่ว่าจะเป็นเนื้อหา ข้อความ รูปภาพ และดีไซน์ที่สวยงามที่ช่วยดึงดูดความสนใจที่อาจก่อให้เกิดการตัดสินใจซื้อตามมาได้

เพิ่ม Conversion Rate

เมื่อ Landing Pages สามารถช่วยดึงดูดความสนใจของผู้ชมได้แล้ว ก็จะส่งผลให้ Conversion Rate เพิ่มมากยิ่งขึ้น เพราะว่าหน้า Landing Page นั้นสามารถจูงใจให้ผู้ชมคล้อยตามจุดประสงค์ หรือเป้าหมายที่เราวางไว้ได้ง่ายขึ้น ด้วยการออกแบบมาเป็นอย่างดี ไม่ให้มีสิ่งอื่นรบกวน เช่น โฆษณา จึงทำให้ผู้ชมตัดสินใจได้ง่ายขึ้น และนำไปสู่ Conversion Rate ที่เพิ่มมากขึ้นนั่นเอง

ช่วยลดต้นทุนในการหาลูกค้า (Cost Per Acquisition)

การทำ Landing Pages สามารถช่วยลดต้นทุนในการหาลูกค้า (Cost Per Acquisition) ได้เป็นอย่างดี เพราะว่า Conversion และ Conversion Rate เพิ่มมากขึ้น ก็จะทำให้ต้นทุนในการหาลูกค้าลดลง หรือว่าใช้เงินในการซื้อโฆษณาเท่าเดิม แต่ว่าได้ลูกค้าเพิ่มมากขึ้น

เพิ่ม Quality Score

การทำ Landing Page SEO หรือการทำ Google Ads ที่มีความเกี่ยวข้องกับ Keyword, Copywriting และ Landing Page สามารถช่วยเพิ่ม Quality Score ให้เพิ่มมากขึ้นได้ และเมื่อ Quality Score สูงมากขึ้น ก็จะทำให้ Ad Rank ดีขึ้นไปด้วย ส่งผลให้ Ads ของเรานั้นอยู่ตำแหน่งที่ดีกว่าคู่แข่ง และกลุ่มเป้าหมายสามารถเห็นเราได้ง่ายมากยิ่งขึ้น

ประเภทของหน้า Landing Page

หลังจากที่รู้จักกันไปแล้วว่า Landing Page คืออะไร? มีความแตกต่างกับเว็บไซต์อย่างไร และเมื่อทำ Landing Page แล้วมีประโยชน์ หรือช่วยเรื่องอะไรได้บ้าง ต่อไปเราจะไปทำความรู้จักกับประเภทของหน้า Landing Pages ที่สามารถแบ่งออกได้เป็น 2 ประเภท ได้แก่ Transactional และ Reference โดยแต่ละประเภทนั้นมีรายละเอียด ดังนี้

Landing Pages ประเภท Transactional

Transactional

ประเภทของหน้า Landing Pages แบบ Transactional หรือที่หลายๆ คนอาจจะรู้จักกันในชื่อว่า Lead Generation Landing Page ที่เรียกย่อว่า Lead Gen หรือ Lead Capture เป็นประเภทของหน้า Landing Page ที่มี “แบบฟอร์ม” โดยมีจุดประสงค์หลัก คือ การทำให้ผู้เข้าชมเกิดการตัดสินใจ โดยอาจจะเป็นการตัดสินใจกรอกแบบฟอร์มที่ให้ผู้ชมนั้นกรอกรายละเอียดต่างๆ เช่น ชื่อ ที่อยู่ และอีเมลของผู้ใช้งาน และจะได้รวบรวมข้อมูลของผู้เข้าชมได้ทุกครั้ง หรือกระตุ้นให้ผู้ชมนั้นเกิดการตัดสินใจซื้อด้วยวิธีการที่ให้ผู้เข้าชมสามารถสั่งซื้อในหน้า Landing Page นั้นๆ ได้เลย

Landing Pages แบบ Reference

Reference

ประเภทของหน้า Landing Pages อีกแบบหนึ่ง คือ Reference หรือที่หลายๆ คนอาจจะรู้จักกันในชื่อว่า Clickthrough Landing Page เป็นประเภทของหน้า Landing Page ที่นิยมใช้ในกลุ่มการตลาดแบบ E-commerce และ SaaS (Software as a Service เป็นบริการซอฟต์แวร์พร้อมใช้งานที่ผู้ใช้บริการสามารถใช้งานผ่านอินเทอร์เน็ต โดยสามารถสมัครสมาชิก และเข้าใช้งานได้ทันที) โดยประเภทของ Landing Page นี้มีจุดประสงค์หลัก คือ การเขียนข้อมูลให้ดึงดูด หรือเชิญชวนให้ผู้ชมเกิดความต้องการซื้อ หรือตัดสินใจซื้อสินค้า หรือบริการนั้นๆ ซึ่งจุดสังเกตของ Landing Page ประเภทนี้ คือ มีปุ่มให้คลิกต่อไปยังหน้าอื่นแทน และจะไม่มีการกรอกแบบฟอร์มเหมือนกับประเภท Transactional

ทริคทำ Landing Page ยังไงให้ปัง

เมื่อรู้ถึงความหมาย ประเภท และประโยชน์ของการทำ Landing Pages ไปแล้ว ต่อไปเราจะไปดูถึงเทคนิคในการทำ Landing Page ที่จะช่วยเพิ่มความน่าสนใจ และดึงดูดผู้ใช้งาน จนเกิดการตัดสินใจกรอกแบบฟอร์ม หรือตัดสินใจซื้อ เพื่อส่งผลให้ค่า Conversion และ Conversion Rate ดีขึ้น จนทำให้ผลลัพธ์ที่ได้นั้นมีประสิทธิภาพมากที่สุด โดยเทคนิคในการทำ Landing Pages ให้ปังแบบง่ายๆ ที่ทุกคนสามารถทำตามได้ มีดังนี้

  • มีเพียงสิ่งเดียวที่ต้องการให้ผู้ชมทำ เป็นการที่เราจะใช้จุดประสงค์หลักเพียงจุดประสงค์เดียวเท่านั้น ไม่ว่าจะเป็นการขายของ การสั่งซื้อ การกรอกแบบฟอร์ม หรือการสมัครสมาชิก เป็นต้น โดยจะต้องเลือกเพียงอย่างใดอย่างหนึ่งเท่านั้น เพราะถ้าหากมีหลายสิ่งที่ต้องการให้ผู้ชมทำ อาจทำให้ผู้ชมเกิดการตัดสินใจได้ยาก และเสียโอกาสไปทั้งหมดได้
  • มีจุดประสงค์ หรือเป้าหมายที่ชัดเจน การที่เรามีจุดประสงค์ หรือเป้าหมายที่ชัดเจนว่าต้องการจะทำอะไร หรือทำไปเพื่ออะไร จะทำให้การทำ Landing Pages นั้นง่ายขึ้น เพราะว่าสามารถจำกัดการออกแบบ หรือปัจจัยต่างๆ ได้แคบลง และทำให้เห็นผลลัพธ์ได้ชัดเจนมากขึ้น
  • ขอข้อมูลที่เฉพาะที่จำเป็นเท่านั้น ถ้าหากทำ Landing Pages ประเภท Transactional ให้ขอข้อมูล หรือให้ผู้ชมกรอกข้อมูลเฉพาะที่จำเป็นเท่านั้น โดยส่วนใหญ่มักจะขอแค่ ชื่อ-นามสกุล อีเมล และเบอร์โทรศัพท์ แต่ถ้าหากข้อมูลที่เราต้องการมีมากกว่านั้น และรู้ว่าจะนำข้อมูลดังกล่าวไปทำอะไร หรือนำไปใช้ประโยชน์อะไร ก็สามารถขอได้เช่นกัน แต่สิ่งที่สำคัญ คือ เราต้องรู้ว่าขอข้อมูลเหล่านั้นขอไปเพื่ออะไร
  • ปุ่ม Call To Action (CTA) ต้องเด่นชัด เพราะว่าปุ่ม Call to action หรือ CTA นั้นเป็นอีกปัจจัยที่ช่วยกระตุ้นให้ผู้ชมลงมือทำในสิ่งที่เราต้องการมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการสั่งซื้อสินค้า การดาวน์โหลด การกรอกข้อมูล หรือการสมัครสมาชิก โดยปุ่ม CTA ของเรานั้นจะต้องมีขนาดใหญ่กว่าตัวอักษรต่างๆ ในหน้า Landing Pages มีสีสันที่ชัดเจน หรือตัดกับสีพื้นหลัง และคำในปุ่ม CTA จะต้องสั้น ได้ใจความ และบอกอย่างชัดเจนว่า เมื่อกดแล้วจะได้อะไร เช่น ซื้อเลย! ดาวน์โหลด คลิกที่นี่ หรือ สมัครสมาชิก เป็นต้น
  • Copywriting ต้องดี ในส่วนของ Copywriting นั้นถือว่าเป็นอีกส่วนที่สำคัญในการทำ Landing Pages เช่นกัน เพราะว่าข้อความในส่วนนี้จะเป็นการสื่อสารถึงผู้ชมแบบสั้นๆ แต่ได้ใจความว่า เขากำลังจะทำอะไร และทำไปแล้วจะได้อะไรกลับมา เช่น สมัครสมาชิกวันนี้ ได้รับคูปองส่วนลด 50% หรือ กด Subscribe รับ E-book ฟรี เป็นต้น เพื่อเป็นการกระตุ้นให้ผู้ชมทำตามสิ่งที่เราต้องการนั่นเอง
  • ดีไซน์ของหน้า Landing Page ให้สวย การที่เราดีไซน์หน้า Landing Pages ให้ดูสวยงาม และน่าใช้งานนั้นสามารถช่วยให้ผู้ชมรู้สึกอยากจะใช้งาน หรือกระตุ้นให้กดดูสิ่งต่างๆ ภายในหน้านั้นมากขึ้นได้ โดยจะต้องทำการจัดวางองค์ประกอบต่างๆ ให้ดี เลือกสีให้เข้ากันกับสินค้า หรือบริการ โลโก้ไม่จม ฟอนต์ตัวหนังสือน่าอ่าน และที่สำคัญ คือ ต้องเป็นมิตรกับการใช้งานทุกรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นการใช้บนคอมพิวเตอร์ หรือโทรศัพท์มือถือ ที่ต้องมีการแสดงผลออกมาให้ดูสวยงาม อ่านง่าย และพอดีมากที่สุด
  • องค์ประกอบหน้า Landing Page ต้องครบ ถึงแม้ว่าจะทำ Landing Page ตามเทคนิคต่างๆ ที่กล่าวมาข้างต้นแล้ว แต่สิ่งที่สำคัญที่สุด คือ องค์ประกอบของหน้า Landing Pages ที่ประกอบไปด้วยหัวข้อหลัก, รูปภาพ หรือวิดีโอ, ย่อหน้ารอง, หัวข้อย่อย, รีวิวจากลูกค้า, รางวัลต่างๆ ที่ได้รับ, ปุ่ม CTA, ลิงค์ไปหน้านโยบายความเป็นส่วนตัว (Privacy Policy) และหน้าขอบคุณ รวมถึงส่วนของแบบฟอร์ม สำหรับ Landing Page ประเภท Transactional หรือปุ่มคลิกเพื่อไปยังหน้าถัดไป สำหรับ Landing Page ประเภท Reference

ตัวอย่าง Landing Page แบบนี้สิถึงจะดี

ตัวอย่าง Landing Page ที่ดี

เครื่องมือที่ใช้สร้าง Landing Page

ถ้าหากใครกำลังสนใจในการสร้าง Landing Pages และไม่รู้จะเริ่มต้นที่ตรงไหนดี ในหัวข้อนี้เราจะมาทำความรู้จักกับเครื่องมือที่ใช้ในการสร้าง Landing Page ที่จะช่วยให้ทุกคนสามารถสร้าง Landing Page เป็นของตัวเองได้ง่ายๆ ดังนี้

เครื่องมือสร้าง Landing Pages แบบไม่ต้องเขียนโค้ด

1. Unbounce

Unbounce เป็นเครื่องมือสร้าง Landing Pages ที่นิยมใช้กันเป็นอย่างมาก เพราะว่าสามารถสร้าง Landing Page ขึ้นมาได้ง่ายๆ โดยไม่ต้องเขียนโค้ดเอง แถมยังมีเทมเพลทให้เลือกใช้มากกว่า 100 แบบ ถึงแม้จะเป็นมือใหม่ก็สามารถสร้าง Landing Page เองได้ มาพร้อมกับฟีเจอร์หลักที่ช่วยให้ Landing Page ของเรานั้นเพิ่ม Conversion Rate ได้สูงมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นฟีเจอร์การสร้าง Landing Page ด้วยการ Drag and Drop ที่รองรับ Custom Scripts และรองรับ Integrations และฟีเจอร์ Popups and Sticky Bars ที่ช่วยสร้างป๊อปอัพสวยๆ สามารถกำหนดแบบได้เอง เพื่อให้ตรงกับคำค้นหา หรือความต้องการของลูกค้าได้ รวมถึง Account Management ที่ช่วยสร้างระบบ และจัดระเบียบให้กับผู้ใช้งาน และลูกค้าได้เป็นอย่างดี เหมาะสำหรับธุรกิจแบบ Agency, E-commerce และ SaaS

เครื่องมือสร้าง Landing Pages แยกตามประเภทธุรกิจ

2. Leadpages

Leadpages เป็นอีกเครื่องมือสร้าง Landing Pages ที่ได้รับความนิยมเช่นกัน เพราะว่ามีเทมเพลทให้เลือกใช้หลากหลาย มีภาพลักษณ์ที่ดูเป็นมืออาชีพ และมีการจัดหมวดหมู่เทมเพลทตามประเภทธุรกิจ จึงทำให้เราสามารถเลือกใช้งานได้เหมาะสมกับธุรกิจของเราได้ง่ายมากยิ่งขึ้น นอกจากนั้นยังมีฟีเจอร์ให้ใช้อย่างหลากหลายที่สามารถช่วยอำนวยความสะดวกแก่เราได้เป็นอย่างดี ไม่ว่าจะเป็นตัวนับเวลาถอยหลัง ตัวเลือกการจอง หรือการจองแบบ OpenTable เป็นต้น แถมยังมีค่าใช้จ่ายน้อยกว่าเครื่องมือสร้าง Landing Page อื่นๆ อีกด้วย จึงสามารถตอบโจทย์ธุรกิจได้ทุกรูปแบบ

Instapage เครื่องมือสร้าง Landing Pages ที่เรียบง่ายและเป็นมืออาชีพ

3. Instapage

Instapage เป็นอีกเครื่องมือสร้าง Landing Pages ที่เป็นตัวเลือกที่ดีไม่แพ้กันกับ 2 เครื่องมือที่กล่าวมาข้างต้น และได้รับความนิยมไม่แพ้กันเลยทีเดียว เพราะว่า Instapage นั้นมีเทมเพลทให้เลือกใช้หลากหลาย มีองค์ประกอบของ Landing Page ครบถ้วน ใช้งานง่าย มีภาพลักษณ์ที่ดูทันสมัย แถมยังใช้เวลาในการสร้าง Landing Page น้อยมาก และมีค่าใช้จ่ายที่ไม่สูงจนเกินไปด้วย จึงเป็นอีกเครื่องมือสร้าง Landing Page ที่สามารถตอบโจทย์ธุรกิจทุกรูปแบบได้เช่นกัน

สรุป

หลังจากที่รู้กันไปแล้วว่า Landing Page คืออะไร มีกี่ประเภท แต่ละประเภทเป็นแบบไหน และการสร้าง Landing Page มีประโยชน์อย่างไร ที่สามารถช่วยให้เรารู้ได้ว่าควรจะเลือกทำ Landing Page แบบไหน ให้สามารถตอบโจทย์ผู้ใช้งานได้เป็นอย่างดี เพื่อเพิ่ม Conversion และ Conversion Rate ที่จะช่วยเพิ่มโอกาสในการปิดยอดขายได้มากขึ้น โดยสามารถสร้าง Landing Page ขึ้นมาได้ง่าย ด้วยเครื่องมือสร้าง Landing Pages ที่ได้นำมาฝากในบทความนี้ พร้อมกับใช้เทคนิคในการสร้าง Landing Page ที่จะช่วยเพิ่มความปังมากขึ้น

FAQ – คำถามที่พบบ่อย

Landing Page คืออะไร

Landing Page คือหน้าเว็บไซต์ที่ถูกสร้างขึ้นเพื่อจุดประสงค์บางอย่างเฉพาะทาง เช่น ต้องการให้ข้อมูล ต้องการดึงดูดใจลูกค้า หรือต้องการปิดการขายทางธุรกิจ เป็นต้น

Landing Page แตกต่างจาก Website ยังไง

สองหน้านี้จะแตกต่างกันตรงจุดมุ่งหมาย โดยหน้า Website ทั่วไปอาจจะสร้างขึ้นมาเพื่อให้ข้อมูลทั่วๆ ไป ไม่ได้มีจุดมุ่งหมายที่เจาะจง แต่ Landing Page จะสร้างขึ้นมาเพื่อวัตถุประสงค์บางอย่าง เช่น การเปลี่ยนผู้เข้าชมให้กลายเป็นลูกค้านั่นเอง

ประโยชน์ของการทำ Landing Page

การมี Landing Page ที่ดีจะช่วยดึงดูดให้ผู้เข้าชมเว็บไซต์กลายมาเป็นลูกค้าได้ นั่นหมายถึง Conversion ที่เพิ่มมากขึ้น และเมื่อมี Conversion และ Conversion Rate ที่มากขึ้น ต้นทุนในการหาลูกค้าก็จะลดลง อีกทั้งยังช่วยให้เรื่อง Quality Score ด้วย

Categories

Recent Posts

Picture of Earth
Earth
Success is the sum of small efforts
รับการตอบกลับภายใน 2 ชั่วโมง