Ahrefs สุดยอดเครื่องมือสำหรับทำ SEO ที่ครอบคลุมและมีประสิทธิภาพ
ทำความรู้จัก Ahrefs คืออะไร
Ahrefs คือ เครื่องมือ SEO ยอดนิยม แบบ all-in-one ครบ จบ ครอบคลุมทุกฟังก์ชันการใช้งาน มีความสามารถที่หลากหลาย และยังเป็นเครื่องมือที่ถูกแนะนำให้ใช้มากที่สุด จากเหล่าผู้เชี่ยวชาญในการทำ SEO
Ahrefs เป็นที่รู้จักในช่วงแรกๆ ว่าเป็นเครื่องมือตรวจเช็ก backlinks เพราะมีฐานข้อมูลของลิงก์ที่ใหญ่ที่สุด และมีสิ่งที่เรียกว่า AhrefsBot สุดแอคทีฟ ซึ่งทำหน้าที่เป็น web crawler อย่างขะมักเขม้น เดินท่องไปยังเว็บต่างๆ เพื่อรวบรวม ประมวลผลข้อมูลจำนวนมหาศาลในแต่ละวัน แต่ AHREFS ไม่ได้มีดีแค่นี้ ยังมีฟังก์ชันอื่นๆ ที่ช่วยติดตามผลการจัดอันดับ หรือวิเคราะห์คีย์เวิร์ดอีกด้วย
เครื่องมือสำคัญของ Ahrefs
1. Site Explorer
Site Explore เป็นเครื่องมือที่ช่วยให้คุณรู้เท่าทันคู่แข่ง โดยการหาข้อมูลเกี่ยวกับคีย์เวิร์ดที่ติดอันดับของคู่แข่ง ทั้งแบบ organic traffic (ผู้เข้าชมเว็บไซต์แบบไม่เสียค่าโฆษณา) และ paid traffic (ผู้เข้าชมเว็บไซต์แบบไม่เสียค่าโฆษณา) ซึ่งประโยชน์ตรงนี้จะช่วยให้เราสามารถวิเคราะห์ได้ว่า ผู้คนกำลังสนใจอะไร และมองหาอะไรอยู่นั่นเอง
ความสามารถของเครื่องมือ Site Explorer ใน Ahrefs คือ มีการคอยติดตาม จับตามองคีย์เวิร์ดจำนวนหลายร้อยล้านคีย์เวิร์ด ซึ่งตัวระบบคอยทำให้ข้อมูล organic traffic ของเว็บไซต์บน Google น่าเชื่อถือได้อีกด้วย นอกจากนี้ Site Explorer ยังมีการวิเคราะห์ backlinks เปรียบเทียบกับเว็บไซต์คู่แข่ง จึงช่วยให้คุณสามารถประเมินผลคุณภาพ backlinks ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
2. Keyword Explorer
คีย์เวิร์ด หนึ่งในองค์ประกอบหลักของการทำ SEO แต่เราจะรู้ได้อย่างไรว่าคีย์เวิร์ดไหนที่ใช่? Keyword Explorer จะช่วยแนะนำคีย์เวิร์ด แบบที่ว่ามีให้เลือกแบบจุใจ ไม่ต้องกลัวว่าจะไม่มีไอเดียในการหาคีย์เวิร์ดกันเลย พร้อมกับข้อมูลการคาดการณ์ traffic โดยดูจากความบ่อยครั้งที่คีย์เวิร์ดถูกค้นหา แถมยังอัปเดตข้อมูลใหม่ๆ ทุกเดือน ผ่าน 10 search engines นอกเหนือจาก Google เช่น Amazon, YouTube, Bing เป็นต้น
Keyword Explorer ใน Ahrefs ยังให้ข้อมูลเกี่ยวกับระดับความยากของคีย์เวิร์ด (Keyword Difficulty Score) อีกด้วย ซึ่งเป็นส่วนสำคัญที่จะช่วยให้คุณประเมินได้ว่าคีย์เวิร์ดนี้จะมีความยากง่ายแค่ไหนที่จะติดอันดับบนหน้าค้นหา โดยพิจารณาจากเว็บที่ติดอันดับ รวมไปถึงฟังก์ชันสุดพิเศษที่ให้ข้อมูลเกี่ยวคีย์เวิร์ดที่เรียกยอดคลิก ตรงนี้จะช่วยให้คุณสามารถเลือกคีย์เวิร์ดที่มีประสิทธิภาพมากที่สุดได้
3. Site Audit
Site Audit เครื่องมือสำคัญที่ขาดไม่ได้ ในการตรวจสอบสุขภาพเว็บไซต์ Ahrefsbot จะไป crawl เว็บไซต์ของเราเพื่อหาว่ามีข้อมูลตรงไหนที่ขาดหายไป ลิงก์เสีย เนื้อหาซ้ำ ปัญหาเว็บเพจโหลดช้า และอื่นๆ ไม่เพียงเท่านั้นยังนำเสนอวิธีแก้ไขให้อีกด้วย ถ้าไม่มีเครื่องมือตัวนี้ แล้วคุณต้องลงมือหาข้อผิดพลาดต่างๆ ที่เกิดขึ้นกับเว็บไซต์คุณด้วยตัวเอง คุณคงเกิดอาการท้อไปเสียก่อนแน่นอน
การเช็กสุขภาพเว็บไซต์เป็นสิ่งที่จำเป็นมาก เพราะปัญหาเหล่านี้สามารถส่งผลต่อการแสดงผล และการจัดอันดับบน search engines ได้เลย Site Audit จึงถือเป็นตัวช่วยที่ทุ่นทั้งแรงและเวลาให้กับคนทำ SEO ได้อย่างดีเลยแหละ
4. Rank Tracker
Rank Tracer เป็นเครื่องมือที่ช่วยรายงานผลการจัดอันดับเว็บไซต์ของคุณบน Google ทั้งบนมือถือ และ Desktop แบบรายวัน รายสัปดาห์ หรือรายเดือน คุณสามารถดูได้ว่ามียอดคลิกเข้าชมเว็บไซต์เป็นจำนวนเท่าไร Rank Tracker ยังให้คุณเปรียบเทียบประสิทธิภาพระหว่างเว็บไซต์ของคุณ และคู่แข่งได้ เพียงป้อนคีย์เวิร์ดลงไป พร้อมกับเลือกประเทศได้แบบไม่จำกัด และจบที่การคัดลอก URLs ของคู่ลงไป เท่านี้ Rank Tracker ก็จะรายงานผลให้คุณอย่างสม่ำเสมอ
Rank Tracker สำคัญมากสำหรับการทำ SEO เพราะมันคอยช่วยรายงานผลการจัดอันดับเว็บไซต์ของคุณเพื่อให้คุณสามารถวางแผน และพัฒนาการจัดอันดับของเว็บไซต์ได้
5. Content Explorer
ค่าใช้จ่ายของเครื่องมือ Ahrefs
Ahrefs เป็นเครื่องมือ SEO ที่มีทั้งแบบฟรี และมีค่าใช้จ่าย ซึ่งแน่นอนว่าในเวอร์ชั่นเสียเงินนั้น เราสามารถเข้าถึงฟังก์ชันที่หลากหลาย ครอบคลุมกว่า ทำให้การทำ SEO มีประสิทธิภาพมากขึ้นได้ โดยแผนการใช้จ่ายแบ่งออกได้เป็น 4 ระดับ ดังนี้
- Lite $99 ต่อเดือน แผนการใช้งานในราคาเริ่มต้นจะอยู่ที่ 99 ดอลล่าร์สหรัฐ เหมาะสำหรับธุรกิจเล็กๆ หรือโปรเจ็กงานอดิเรก ฟีเจอร์ที่จะได้ในแพคเกจนี้ก็จะมี SEO Dashboard, Site Explorer, Keywords Explorer, SERP comparison, Site Audit, Rank Tracker และ Alerts
- Standard $199 ต่อเดือน เหมาะสำหรับคนทำ SEO ฟรีแลนซ์ และที่ปรึกษาการตลาด ตัว Standard นี้ ผู้ใช้จะสามารถเข้าถึงการใช้งานที่มีใน Lite ได้หมดทุกตัว และที่มีเพิ่มขึ้นมาก็ประกอบไปด้วย Portfolios, Position history chart, SERP updates, Site Explorer, Alerts, Mentions, Batch Analysis, และ Reports sharing
- Advanced $399 ต่อเดือน ในระดับนี้จะมีเครื่องมือเพิ่มเติม ซึ่งเหมาะสำหรับการใช้งานของทีมการตลาด ฟีเจอร์ที่ได้ก็จะเพิ่มเติมจากตัว Standard อย่างเช่น Site Explorer (Site Structure,HTML history), Site Audit (HTTP authentication), Looker Studio และ Web Explorer
- Enterprise $999 ต่อเดือน แผนนี้เหมาะสำหรับเอเจนซี่และธุรกิจ ซึ่งตัวนี้จะได้ฟีเจอร์ทั้งหมดที่ Advanced มี และได้ฟีเจอร์ Access management, Pay by invoice, Directory listingAudit log, API และ SSO เพิ่มเติมมาอีกด้วย
ประโยชน์ของ Ahrefs กับการทำธุรกิจในยุคดิจิทัล
ต้องยอมรับเลยว่าการมีเครื่องมือ SEO เจ๋งๆ สักตัวเอาไว้ใช้งานช่วยในการทำ SEO ของเราง่ายขึ้นไปอีกหลายเท่าเลย แต่หลายๆ คนอาจจะยังมองไม่เห็นภาพว่า Ahrefs มีประโยชน์มากแค่ไหนกับการทำธุรกิจในยุคดิจิทัล หลักๆ คือ Ahrefs
เป็นเครื่องมือ SEO ที่ครบครันและครอบคลุมแทบทุกฟังก์ชันการใช้งาน มีประสิทธิภาพสูงที่จะช่วยให้นักการตลาดออนไลน์ หรือธุรกิจวางแผนกลยุทธ์ เพื่อเพิ่มการมองเห็นของเว็บไซต์ให้เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้อย่างตรงจุดมากยิ่งขึ้น
แต่ถ้าใครยังไม่มีเวลาทำเอง หรือยังไม่มั่นใจว่าจะใช้เครื่องมือได้ถูกต้อง ก็สามารถให้ Minimice ช่วยได้ เพราะเราเป็นบริษัทเอเจนซีที่เชี่ยวชาญการตลาดดิจิทัลและการทำ SEO โดยเฉพาะ สามารถช่วยให้บริษัท หรือธุรกิจของคุณดีขึ้นได้ เพราะเราทำการตลาดออนไลน์แบบครบวงจร โดยมีทีมงานคุณภาพที่พร้อมช่วยเหลือธุรกิจของคุณให้ขับเคลื่อนสู่ความสำเร็จได้อย่างง่ายดาย
ทำไมธุรกิจถึงควรใช้ Ahrefs
มีฟังก์ชันการใช้งานที่ครอบคลุม และใช้งานง่าย
ให้ข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับ SEO อย่างละเอียด
มีการปรับปรุง และอัปเดตฟีเจอร์ใหม่ๆ อยู่เสมอ
มีบริการดูแลลูกค้า หรือผู้ใช้งานเป็นอย่างดี
ข้อจำกัดของเครื่องมือ Ahrefs
ค่าใช้จ่ายค่อนข้างสูง
ฟีเจอร์และข้อมูลที่ซับซ้อน ไม่เหมาะกับผู้เริ่มต้น
ข้อมูลอาจจำกัดในบางประเทศ
ตัวเลือกอื่นๆ ที่คล้ายคลึงกับ Ahrefs
Ahrefs เป็นเครื่องมือ SEO ยอดนิยม ที่ช่วยให้เว็บไซต์ของคุณติดอันดับบนหน้า Google แต่เครื่องมือ SEO ก็ไม่ได้มีเพียงแค่ Ahrefs แต่ยังมีเครื่องมืออื่นๆ อีกมากมาย ที่มีความโดดเด่นแตกต่างกันออกไป ให้คุณได้เลือกใช้งานตามความต้องการ
- SEMRush - เครื่องมือ SEO แบบ all-in-one อีกตัวที่มีความน่าสนใจไม่แพ้ Ahrefs SEMRush มีฟีเจอร์ที่ครบครัน ใช้งานได้แบบครบเครื่อง แต่ขอแอบกระซิบว่าราคาก็แรงไม่แพ้ Ahrefs
- Google Search Console - Google Search Console เป็นเครื่องมือ SEO ที่สามารถใช้งานได้แบบฟรีๆ สามารถช่วยตรวจสุขภาพเว็บไซต์ รายงานข้อผิดพลาดต่างๆ และรายงานการจัดอันดับ
- Moz - Moz เครื่องมือ SEO ที่ช่วยคุณเพิ่มประสิทธิภาพเว็บไซต์ และมีฟีเจอร์ต่างๆ ให้เลือกใช้งาน แต่ก็ยังถือว่าน้อยกว่า Ahrefs ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับความต้องการในการใช้งานของแต่ละบุคคล และธุรกิจ
- Answer the Public - Answer the Public เป็นเครื่องมือที่ช่วยให้คุณเข้าถึงข้อมูลเชิงลึกว่าลูกค้าของคุณต้องการอะไร ช่วยค้นหา niche และคีย์เวิร์ดที่จะเพิ่มยอดการเข้าชมเว็บไซต์ รวมทั้งช่วยสร้างไอเดียในการผลิตคอนเทนต์ให้ตรงใจผู้บริโภคได้มากขึ้น
- Ubersuggest - เครื่องมือค้นหาคีย์เวิร์ดสำหรับการทำ SEO ที่ให้คุณใช้งานได้แบบไม่เสียค่าใช้จ่าย ช่วยวิเคราะห์เว็บไซต์ของเราและคู่แข่ง เพื่อวางกลยุทธ์ในการสร้างคอนเทนต์ที่จะช่วยเพิ่ม traffic ให้กับเว็บไซต์
- SERPstat - SERPstat คือ เครื่องมือ SEO all=in-one อีกตัว ที่มีฟีเจอร์หลักๆ ได้แก่ Rank Tracking, Backlink Analysis, Keyword Research, Site Audit และ Competitor Researchึ
สรุป
Q&A
Category
- Digital Marketing Hub (68)
- Journal (75)
- Paid Media (31)
- SEO Blog (62)
- Technical SEO (10)