Keyword Search Volume คืออะไร? คู่มือ SEO ครบจบในที่เดียว พร้อมวิธีหา Keyword สำหรับเว็บไซต์ใหม่

เราได้ยินมาตลอดเรื่อง Keyword นู้น Keyword นี้ แต่แล้ว Keyword มันคืออะไรล่ะ? แล้ว Search Volume คืออะไร? ทำไมการเลือก Keyword นั้น Search Volume ถึงเป็นจุดสำคัญในการเริ่มต้นการทำ SEO และเป็นพื้นฐานสำคัญในการเลือก Keyword ที่เหมาะสมที่สุด สำหรับธุรกิจ หรือเว็บไซต์ของเรา

ในบทความนี้เหมาะสำหรับ SEO Specialist Beginner Level และสำหรับคนที่ยังไม่มีประสบการณ์ด้าน SEO เนื่องจาก Keyword Search Volume นั้นเป็นสิ่งที่เราต้องเจอกันทุกวัน และการเลือก Keyword นั้นสามารถพลิกเกม SEO ของเราได้เลยทันที

เรามาดูกันว่า Keyword Search Volume คืออะไร?

Keyword Search Volume นั้นคือสิ่งที่สำคัญที่สุดของนักการตลาด SEO และเป็นพื้นฐานที่สำคัญที่สุดในการเริ่มต้นการขึ้นอันดับของเว็บไซต์เราเลยทีเดียว

Keyword Search Volume นั้นหมายถึง จำนวนการค้นหา ที่เข้ามาจาก Keyword นั้นๆ โดยตัวเลขที่เข้ามานั้น เป็นจำนวนการค้นหาที่เข้ามา และหารด้วย 12 เดือน หรือค่าหารค้นหาเฉลี่ยต่อเดือน จาก 12 เดือนที่ผ่านมานั้นเอง

การเรียนรู้ถึงเทคนิคการหา Keyword ที่ดีนั้น สามารถใช้ในการทำ SEO และ Google Ads (SEM) ในการให้ผู้คนเข้ามาในเว็บไซต์ของคุณ ทั้งนี้การเลือก Keyword ที่ถูกต้องในเว็บไซต์ใหม่ นั้นจะสามารถประหยัด งบประมาณ การโฆษณาได้อย่างมาก ไม่น่าจะเป็นการโฆษณา Google Ads หรือการทำ SEO 

ในนักการตลาด SEO มืออาซีพ จะดูจำนวนการค้นหาที่เข้ามาจาก Keyword อยู่เรื่อยๆ เพราะ Keyword นั้นสามารถที่การเข้ามาที่เข้าได้ จากหลากหลายปัจจัย หรือ จำนวนคู่แข่งที่มาสู้กับ Keyword ของเรานั้นอาจจะมากขึ้นกว่าที่เราคาดคิดได้ทุกเมื่อ และนักการตลาด SEO มืออาซีพ นั้นต้องวางแผน Keyword ให้ดี เพื่อให้เว็บไซต์ตัวเองนั้นเป็นที่หนึ่งอยู่เสมอ

Google Bot จะรู้ได้ยังไงว่า หน้านั้นๆเราอยากให้ขึ้นอันดับด้วย Keyword อะไร?

Google Bot นั้นเป็นระบบ AI ที่ทำทำงานตลอดทั้งวัน แต่ Google Bot นั้นจะรู้ว่ายังได้ว่า หน้านั้นๆเราเล็งด้วยอะไร?

“เมื่อสมัยก่อน ผู้คนจะใช้ Meta Keywords เพื่อให้ Google รู้ว่าเราเล็งหน้าไหนเป็นหลัก ทั้งนี้เมื่อปี 2009 นั้น Google ได้ออกมาประกาศการยกเลิกการใช้งาน Meta Keywords อย่างเป็นทางการ และ Googlebot จะไม่จับ Meta Keyword อีกต่อไป”

ในสมัยนี้นั้น Google Bot จะจับ Keyword ในหน้านั้นๆด้วยอะไรบ้าง? Google Bot จะจัดเรียงตามลำดับนี้

• URL Path
• Meta Title
• Meta Description
• Heading Structure
• Keyword Density
• Alt Tag
  
  

Google Bot จะจับปัจจัยนี้ทั้งหมดพร้อมๆกัน เพื่อที่จะรู้ว่าหน้านั้นเราอยากจะเล็ง Keyword ไหนบ้าง โดย Keyword ที่ Google จะจับนั้นไม่จำเป็นต้องเป็นคำเดียว แต่เป็นหลากหลายคำ ที่สามารถจะติดอันดับได้ โดยอิงจากเนื้อหา บนหน้านั้นเป็นหลัก

หากคุณอยากการใช้งาน Meta Tag ที่ถูกต้องนั้นสามารถเข้าไปดูบทความนี้ของเราได้เลย

ไขข้อสงสัย Meta Tag คืออะไร? พร้อมเคล็ดลับการปรับ Meta ให้ติดหน้าแรก Google

เบื้องต้นเรามาดูกันก่อนว่า Seasonal และ Evergreen Keywords คืออะไร?

การหยิบเลือก Keyword ที่ดีนั้น การรู้ถึงการเคลื่อนไหวของ Keyword นั้นเป็นซึ้งที่สำคัญ และการแยกแยะประเภทของ Keywords นั้นก็จะสามารถสู้คู่แข่งได้อย่างยั่งยืน ในทุกๆ Search Volume ที่เราจะเลือก เรามาดูกันก่อนว่า Seasonal keyword search volume คืออะไร และตามมาด้วย Evergreen keyword พร้อมเครื่องมือใช้ในการหาแต่ละอัน

Seasonal Keyword Search Volume คืออะไร? และจะดูยังไง?

Seasonal Keyword Search Volume นั้นเป็นสิ่งที่เราต้องคำนึงอย่างมาก เนื่องจาก keyword เหล่านี้นั้นสามารถที่จะหลอกตาเราได้เสมอ ถึง การแข่งขันที่มาก ซึ้งเราอาจจะเลือก keyword ที่ผิดในการที่เราจะติดอันดับช่วงแรกได้อย่างราบรื่น

Seasonal Keyword Search Volume คือ keyword ที่จะเพิ่มขึ้น และปรับตัวลงตาม ฤดูกาล โดยส่วนมากนั้นจะเป็น keyword ที่จะเพิ่มขึ้นในเดือนนั้นๆของทุกๆปี อย่างเช่น “ซื้อดอกกุหลาบ” หรือ “ของฝากปีใหม่ อะไรดี”

เครื่องมือในการดู Seasonal Keyword Search Volume

หากเราใช้เครื่องมือทั่วไปอย่าง Keyword Planner นั้นอาจจะไม่ได้เห็นพฤติกรรม การค้นหาของแต่ละคน ในแต่ละคำ ได้ เราจึงต้องใช้เครื่องมือที่เข้าใจง่ายที่สุดคือ Google Trends

ยกตัวอย่างเช่นการ ซื้อดอกกุหลาบ นั้นสามารถที่จะเป็น Seasonal Keyword ที่ดีมาก เนื่องจาก Search Volume ของ keyword เหล่านี้นั้นจะมีความไม่คงที่อยู่เสมอ อย่าง ซื้อดอกกุหลาบ นั้น search volume จะเพิ่มขึ้นอย่างมหาศาลในส่วน Valentine เท่านั้น และจะคงที่อยู่เรื่อยๆ

เราจะดูอะไรจากตรงนี้ได้ละ?

เราสามารถวิเคราะห์ได้เลยว่า Keyword นี้นั้น ไม่เหมาะสมสำหรับการทำตอนแรก เนื่องจากเป็น Keyword ที่มีการแข่งขันสูงมากๆ และเจ้าตลาดนั้นยึดครองคำนี้มาเป็นเวลานาน การที่เว็บไซต์ใหม่นั้นจะแข่งขันในคำนี้ต้องใช้ งบประมาณ อย่างมาก เราเควรจะเล็งคำอื่นดีกว่า คำเหล่านี้ ซึ้งเราสามารถโดนหลอกจาก Search volume ได้เสมอ เราจึงต้องระวังอย่างมาก

Evergreen Keyword Search Volume คืออะไร? ทำไมถึงต้องใช้คำประเภทนี้ก่อน สำหรับเว็บไซต์ใหม่

Evergreen Keyword Search Volume นั่นคือ Keyword ที่มีการค้นหาคงที่ และจะไม่กระโดดขึ้น-ลง ตามฤดูกาลใดๆ ในคำประเภทนี้นั้นไม่จำเป็นจะต้องมี ฆearch volume หรือจำนวนการค้นหาที่เยอะ เสมอไป Keyword นี้นั้นจะสามารถเป็นคำที่มีการค้นหาจำนวนน้อยได้ อาจจะน้อยได้ถึง 30 Search volume ต่อเดือน ก็เป็นได้

ตัวอย่างของ Evergreen keyword

ระบบน้ำ RO คืออะไร?

เปลี่ยนน้ำมันเครื่องรถ ที่ไหนดี?

รีดเสื้อเชิ้ต ยังไง?

เครื่องในการหา Evergreen Keyword

เครื่องมือในการหา Evergreen Keyword นั้นมีหลากหลายในตลาด ทั้งนี้ส่วนมากนั้นเราจะใช้เครื่องเหล่านี้

• Google Keyword Planner
• Ubersuggest
• KWFinder by Mangools
  
  

และ Keyword อีกมากมายที่จะสามารถใช้ในการหา Search volume ที่ดีได้ หรือการหา Evergreen keyword ที่เหมาะสมกับเว็บไซต์เราจริงๆ ทั้งนี้เราดูถึงเครื่องในการหา Keyword Search Volume กันแล้ว เรามาดูกันว่าจะเครื่องมือแต่ละอันมีอะไรบ้าง และจะใช้งานยังไงได้บ้าง

เครื่องมือในการหา Keyword Search Volume เบื้องต้น พร้อมประเภทของการใช้งานอย่างเหมาะสมในแต่ละเครื่องมือ

เครื่องมือในการหา Keyword search volume นั้นมีหลากหลาย เครื่องมือในตลาด และเครื่องมือแต่ละอันก็มีจุดประสงค์ที่ต่างกันด้วยเช่นเดียวกัน ในเนื้อหานี้เราจะแยกเป็น 2 ประเภทหลักๆ

1. เครื่องมือในการหา Keyword พื้นฐาน และหา Search Volume ทั่วไป
2. เครื่องมือในการหา Keyword และ Search Volume จากคู่แข่ง และประมาณการ Traffic ที่เข้ามา
   
   

เครื่องมือพื้นฐานที่ใช้ในการหาคีเวิร์ดและหาจำนวน Search Volume

ในวันนี้นั้นทาง Minimice ขอแนะนำ เครื่องมือในการ Keyword Search Volume ตัวเดียว ที่ดีที่สุด และมีความสเถียร มากที่สุดในตลาด นั้นก็คือ Google Keyword Planner  เรามาดูกันว่าเราจะหา Keyword ยังไง และจะดู Search Volume ยังไง แต่เรามาดูกันก่อนว่า ข้อดี และข้อเสีย เบื้องต้นคืออะไร?

ข้อดีของ Google Keyword Planner

Google Keyword Planner นั้นคือเครื่องมีที่ดีที่สุดในตลาด เพราะ มันเป็นเครื่องมือของ Google เองนั้นเอง ข้อดีของเค้าคืออะไร?

• สามารถดูค่าเฉลี่ยของการค้นหาต่อเดือนได้อย่างแม่นยำ หรือ Keyword Search Volume 
• สามารถวิเคาะห์ปริมาณการเข้าค้นหา ได้ในแต่ละเดือน
• สามารถที่จะ Forecast หรือประมาณการว่าเดือนต่อๆไปจะมีการค้นหาเท่าไรบ้าง
• สามารถหา Keyword Search Volume ในปริมาณที่มาก พร้อมๆกันหลากหลายคำ
  
  

ข้อเสียของ Google Keyword Planner

ข้อดีของ Google Keyword Planner นั้นมีมากมายแต่ข้อเสียของเครื่องมือนี้อย่างเดียวเลยนั้นก็คือ

Google Keyword Planner นั้นต้องเสียตัง หรือยิงโฆษณาก่อนถึงจะแสดงตัวเองที่ชัดเจน

ถ้าเราไม่อยากยิงโฆษณาเราจะเห็นปริมาณ Keyword Search Volume เป็น range หรือเป็นภาพกว้างๆแบบนี้

เรายังสามารถดูได้อยู่ แต่ก็อาจจะไม่แม่นยำมากนัก เครื่องมือฟรี อื่นๆในตลาดนั้นจึงสามารถเกิดขึ้นมาได้ และช่วยเหลือผู้คนที่ยังไม่ได้ยิงโฆษณากับ Google อยู่

หลายละเอียดการใช้งานเครื่องมือ Google Keyword Planner

เรารู้ถึงข้อมูลเบื้องต้นของเครื่องมือนี้กันแล้ว เรามาดูกันว่าเครื่องมือจะเริ่มใช้งานกันยังไง

อย่างแรกนั้นเราสามารถเข้าไปในหน้า Tools and Setting > หมวดหมู่ Planning > กดเข้าไปใน Keyword Planner

เราจะเข้ามาเจอหน้านี้ เรามาดูกันว่าแต่ละช่องทางนั้นสื่อถึงอะไรบ้าง

1. Discover new keywords – หา Keyword Search Volume ใหม่ๆ จาก Keyword ที่เราต้องการหา โดยการใส่เพียงไม่กี่คำ และจะสามารถเจอคำอื่นๆที่มีในตลาดได้
2. Get search volume and forecast – หมวดนี้นั้นใส่ในตอนที่เรามีชุด Keywords ที่เยอะมากๆแล้ว และเราต้องการหา Search Volume ต่อเดือนในคำเหล่านั้นเท่านั้น
3. Plans created by you – แผนการ keyword ที่เราหามาก่อนหานี้ และเราสามารถกลับไปดูได้ตลอดเวลา
   
   

Discover new keywords ในเครื่องมือ Google Keyword Planner

ในหมวดหมู่นี้เราสามารถใส่ Keywords เบื้องต้นที่เราต้องการหาในตลาดเพิ่มเติม โดยเราสามารถพิมพ์ลงในหน้านี้ได้เลย และกด Get results

เราจะเข้ามาในหน้า Keywords ทั้งหมดเหล่านี้ พร้อมเห็นในส่วน Avg. monthly searches หรือ ปริมาณ Search Volume ที่เข้ามาในคำนี้ทั้งหมดต่อเดือน

หากเรานำ Mouse ของเราไปชี้ตรง กราฟ นั้น เราจะเห็นปริมาณ Keyword search volume ในแต่ละเดือน เป็นระยะเวลา 12 เดือน แต่เบื้องต้นเราสามารถวิเคราะห์ได้เลยว่า คำนี้เป็น Seasonal keywords เพราะว่ามีกราฟที่สูงขึ้นในช่วงเวลาหนึ่งเท่านั้น

ต่อมานั้นสามารถที่จะหยิบเรื่อง Keyword search volume ทั้งหมดที่เราต้องการได้ และกดที่ Add keywords to create plan เพื่อหยิบเลือก

พอเรากด Add keyword เข้าไปแล้วนั้น เราจะเห็นปุ่มเขียว ตรงนี้

หลังจากนั้น

1. เรากดไปที่ Keyword Plan
2. เข้าไปดูปุ่ม download

ไปที่หมวด Plan historical metrics และเลือกตามที่เราต้องการได้เลย แต่ในส่วนนี้เราจะ download เข้ามาใน Google Sheets

เราจะเห็นภาพรวมของ Keyword search volume ทั้งหมดที่เราได้ทำการหยิบเลือกมา และเราสามารถนำไปใช้ต่อจากนี้ได้เลย ในส่วนของ Keyword strategy ของเว็บไซต์เรา

เครื่องมือในการหา Keyword Search Volume จากคู่แข่ง และประมาณการ Traffic ที่เข้ามา

หากเรายังไม่รู้ในการตลาดว่าเราควรจะใช้ Keyword อะไรในการใช้กับเว็บไซต์ตัวเองนั้น ง่ายที่สุดก็คือ การหา Keyword search volume จากคู่แข่งเรา และนำมาถึง Keyword ที่เราต้องสู้กับคู่แข่งของเรา ในหมวดนี้เราจะใช้ เครื่องมือ ahrefs หลักๆ

ในกรณีนี้เราจะใช้คู่แข่งในตลาดที่เกี่ยวกับ ดอกกุหลาบ เป็นหลัก เครื่องมือ ahrefs เราจะเข้ามาเห็นหน้าตาแบบนี้

1. เราจะเห็น ค่า metrics ทั้งหมด หาคู่แข่งเจ้านี้นั้นว่า ทำอะไรบ้าง และสถานะของเว็บไซต์นั้นเป็นยังไงบ้าง
2. เรากราฟนี้นั้นเราจะเห็น ogranic traffic ตั้งแต่ที่เค้าเริ่มเว็บไซต์ และการเติบโตของเว็บไซต์นั้นๆ

นอกจาก metrics ที่เราดูได้แล้วนั้น เราจะดูอะไรได้อีกบ้างล่ะ?

การหา Keyword search volume ของคู่แข่งทั้งหมด

เครื่องมือ Ahrefs นั้นเป็นการดู Keyword search volume ของคู่แข่งได้ดีที่สุด เริ่มต้นนั้นเราต้องเข้าไปหน้า Organic keywords

ในนี้เราจะเห็น Keyword ทั้งหมดที่ คู่แข่ง เราใช้อยู่ และกำลังได้ Traffic เข้ามาในแต่ละเดือน พร้อมกับ Traffic ที่ได้รับ และ Position หรือตำแหน่งที่ คู่แข่ง เจ้านั้นๆกำลังติดอันดับอยู่ ข้อดีของการใช้เครื่องมือนี้นั้น เราสามารถหยิบคำเหล่านี้มาใช้ได้เลย และเข้าไปในหน้านั้นๆ เพื่อแข่งขัน กับคู่แข่งเราได้ในทันที

เครื่องมือในดู Keyword Search Volume ที่เข้ามาในเว็บไซต์เรา เพื่อพัฒนาต่อ

หากเราได้ทำ SEO มาในระยะเวลาหนึ่งแล้วนั้น และ keyword นั้นติดอันดับมาในระดับหนึ่งแล้ว เราไม่ควรมองข้าม Keyword ที่เรายังไม่ติดอันดับ หรืออยู่ในตำแหน่งที่ไม่สูงมาก เครื่องมือที่เราจะใช้นั้นคือ Google Search Console ในการหาคำเหล่านี้ของเรา

ทั้งนี้หากต้องการรู้เกี่ยวกับ Google Search Console เพิ่มเติมนั้นสามารถเข้าไปดูในบทความของเราอันนี้ได้เลย

Google Search Console คืออะไร? พร้อมแนะนำอย่างละเอียด และวิธีดึงประสิทธิภาพ GSC ออกมาให้เต็มที

หากเราเข้ามาใน Google Search Console แล้วนั้น เราเข้าไปดูใน Performance เราจะเห็น ประสิทธิภาพของ เว็บไซต์เราทั้งหมด และ Keyword ที่ติดอันดับ และได้รับการค้นหาเข้ามากี่ครั้ง

หลังจากนั้นให้เรากดไปที่ Average Position เราจะเห็นตำแหน่งอันดับ ของเราทั้งหมด ในเว็บไซต์เรา หลังจากนั้นให้เรากด Sort Position เราจะเห็นอันดับที่น้อยที่สุดที่เข้ามาในเว็บไซต์เรา และเราสามารถเข้าไปให้ความสำคัญกับคำเหล่านั้นทั้งหมด

เทคนิคการเลือก Keyword ที่เหมาะสมกับเว็บไซต์เรา

หลังจากเราได้รู้ในส่วนเครืองมือ และวิธีการใช้งานทั้งหมดแล้ว เราจะเลือก Keyword search volume ที่เหมาะสมกับเรายังไงกันละ? และเทคนิคไหนที่ดีที่สุดในการหาคำที่ดีที่สุดสำหรับขั้นตอนแรกของเว็บไซต์เรา

เข้าใจถึงจุดประสงค์ของแต่ละ Keyword ก่อนนำมาใช้งาน

เบื้องต้นนั้นเราต้องเข้าใจการใช้งาน และเหตุผลของแต่ละ Keywords ก่อน เราสามารถแบ่งประเภทของคีย์เวิร์ดในการทำ Keyword Research ได้ 3 ส่วนหลักๆ

• Generic Keywords – Keywords ที่มีการค้นหาเป็นจำนวนมาก ส่วนมากนั้นจะเป็นคำที่กว้างในหมวดหมู่ของแต่ละเว็บไซต์ ส่วนมากนั้นจะเป็นคำที่มีการแข่งขันสูงมาก และ % ของการที่ผู้คนจะค้นหาสินค้าเรานั้นจะไม่เยอะมากนัก
• Core Keywords – Keywords หลักที่ใช้ในการซื้อขายของเรา อาจจะไม่ใช้คำที่ค้นหาสูงที่สุด แต่ตรงกลุ่มเป้าหมายของเรา
• Long Tail Keywords – Keywords ที่ขยายความ หรือยาวหน่อย อาจจะมีการค้นหาที่ไม่เยอะมาก แต่ทุกคนที่ค้นหานั้นตรงกลุ่มเป้าหมายเราแน่นอน
  
  

Generic Keyword คืออะไร?

Generic Keyword คือ คำที่กว้างมากๆ หรือเป็นคำเดี่ยวๆ ที่อธิบายถึงภาพรวมของเว็บไซต์เรา ส่วนมากนั้น Generic Keyword นั้นจะใช้ เพื่ออธิบายคำ ที่อธิบายหมวดหมู่นั้นๆทั้งหมดได้ ถ้ายกตัวอย่างง่ายๆนั้น 

Generic Keywords จะเป็นคำเหล่านี้

ร้านดอกไม้ – อธิบายหน้า Homepage ทั้งหมด

กุหลาบ – อธิบาย ภาพรวมของหมวดหมู่สินค้าเรา

ไฮเดรนเยีย – อธิบาย ภาพรวมของหมวดหมู่สินค้า ที่ 2 ของเรา

Core Keyword คืออะไร?

Core Keyword เป็นคำที่ใช้ในการขายสินค้า หรือบริการหลักของเราทั้งหมด Core Keyword นั้นส่วนมากจะเป็น คำที่มีความยาว 2 – 3 คำใน keyword นั้นๆ และส่วนมากจะเป็นคำที่คนพิมพ์เข้ามาเพื่อหาสินค้า หรือบริการนั้นๆ โดยเฉพาะ

Core Keywords จะเป็นคำเหล่านี้

ขายช่อกุหลาบ – คำที่เข้าไปหา หน้าที่ ช่อกุหลาบ เท่านั้น

ขายกล่องกุหลาบ – คำที่เข้าไปหา หน้า กล่องกุหลาบ เท่านี่น

รับจัด ดอกกุหลาบ – คำที่เข้าไปในหน้า รับจัด และตกแต่ง ดอกกุหลาบ

Long Tail Keyword คืออะไร?

Long Tail Keyword คือ คำที่มีความยาว มากกว่า 3 คำขึ้นไป ในการพิมพ์เข้ามา โดยส่วนมากนั้นจะเป็นคำที่ตรงกับสิ่งที่ลูกค้าเราต้องการโดยเฉพาะ และไม่จำเป็นต้องเป็นคำที่ ขายสินค้า/บริการ ของเรา แต่ความที่จะเป็นคำบทความได้ด้วยเช่นเดียวกัน 

Long Tail Keywords จะเป็นคำเหล่านี้

ร้านดอกไม้ รามอินทรา – สามารถที่จะอธิบายหน้า สาขา ที่เรามี

ซื้อมงกุฎดอกกุหลาบ สีขาว – อธิบาย หน้าสินค้าของเรา

รับจัดไฮเดรนเยีย งานแต่งงาน – เข้าไปถึงหน้าสินค้า และบริการของเรา

ไอเดียวการตกแต่งดอกไม้ งานแต่งด้วยตัวเอง – เข้าไปถึงหน้าบทความของเรา

ขั้นตอนการทำ Keyword Research ในการหา Keyword Search Volume สำหรับเว็บไซต์ใหม่

สำหรับเว็บไซต์ใหม่นั้น เราจะแนะนำการใช้ Keyword Search Volume ที่มีการค้นหาไม่เยอะมาก สลับกับ Keyword search volume หลักของเรา นั้นก็คือการใช้คำที่อยู่ในหมวดหมู่

• Core Keywords
• Long Tail Keywords
• Blog Keywords
  
  

ในการเลือก Keyword ที่ดีนั้นเราจะต้องทำการสลับการทุ่มเท ให้กับในแต่ละคำนั้น โดยเราจะยังไม่แตะในคำ Generic เด็ดขาด เนื่องจากเป็นคำที่มีการแข่งขันที่สูงมากๆ และต้องใช้ทรัพยากร เยอะในการแข่งขันคำเหล่านี้

“เว็บไซต์ที่เพิ่งทำ SEO ใหม่ๆนั้นต้องเลือก Keyword ที่หาค้นหา ไม่เยอะมากก่อน แล้วค่อยๆไต่ระดับ ไปหาคำที่ค้นหาเยอะขึ้นเรื่อยๆ”

ยกตัวอย่างการใช้ Keyword Search Volume สำหรับเว็บไซต์ใหม่

หากเราเป็นธุรกิจขายดอกไม้ นั้นเราจะแนะนำการใช้ Keywords เหล่านี้ก่อน

Core Keywords 

จัดดอกไม้ งานแต่งงาน

จัดดอกไม้ วันแม่

จัดดอกไม้ รับปริญญา

จัดดอกไม้ ตรุษจีน

จัดดอกไม้ เยี่ยมคนไข้

จัดดอกไม้ ปีใหม่

Long Tail Keywords

จัดดอกไม้สีขาว งานแต่งงาน

ช่อดอกไม้ ขนาดเล็ก

ช่อดอกไม้ ขนาดกลาง

ช่อดอกไม้ ขนาดใหญ่

แจกันดอกไม้ ปลอม

มงกุฎ ดอกไม้ สีชมพู

Blog Keywords – ควรจะมีอย่างน้อย 2 – 4 บทความต่อเดือน

วิธีเก็บดอกไม้ ให้สดใหม่

ไอเดียการจัดช่อดอกไม้

การจัดแจกันดอกไม้ สำหรับมือใหม่

ความหมายของดอกไม้ แต่ละชนิด

หากเราติดอันดับมาแล้วในระดับหนึ่ง เราควรจะใช้เครื่องมือ Google Search Console ในการค้นหา keyword search volume ที่เราจะยังไม่ติดอันดับ เพื่อมายกตำแหน่ง คำเหล่านั้นขึ้นมา ให้ติดอันดับ 1 อยู่เรื่อยๆ

บทสรุป Keyword Search Volume คืออะไร และการใช้เครื่องมือในการทำ Keyword Research ที่เหมาะสม

เพื่อให้เข้าใจง่ายๆนั้น Keyword Search Volume คือ จำนวนการค้นหา ที่เข้ามาในแต่ละคำ โดยเฉลี่ยในแต่ละเดือน ทั้งนี้การหา Keyword ที่เหมาะสมนั้นต้องเข้าใจถึงหลักการ การทำงานของแต่ละคำก่อน และต้องใช้เครื่องมีที่เหมาะสมในแต่ละคำด้วยเช่นเดียวกัน โดยเราต้องรู้ข้อมูลดั่งนี้

• แยกแยะระหว่าง Seasonal และ Evergreen Keywords
• เครื่องมือที่ใช้ในการหา Keywords พื้นฐาน
• เครื่องมือที่ใช้ในการหา Keywords จากคู่แข่ง
• เครื่องมือที่ใช้ในการพัฒนา ให้เว็บไซต์ดียิ่งขึ้น
• แยกแยะจุดประสงค์ของ Keywords ให้ออกระหว่าง – Generic Keyword, Core Keyword, และ Long Tail Keyword
• ท้ายที่สุด คือหลักการ การหยิบเลือก Keywords ที่เหมาะสมสำหรับเว็บไซต์ใหม่
  
  

การค้นหา และหยิบเลือก Keyword Search Volume ที่เหมาะสมนั้นจะสามารถทำให้เว็บไซต์เรา ติดอันดับได้เร็วกว่าคู่แข่งทั่วๆไป และสามารถที่จะติดอันดับได้อย่างยั่งยืนด้ยอีกเช่นเดียวกัน ทั้งนี้หากคุณต้องการรู้เรื่อง SEO ไม่ว่าจะพื้นฐาน หรือในระดับ Advance แล้วก็ตาม สามารถเข้าไปดูใน Minimice Journal ของเราได้เสมอ

FAQ – คำถามที่พบบ่อย