Instagram Ads เป็นช่องทางการโฆษณาบนแพลตฟอร์ม Instagram ที่ช่วยเพิ่มยอดขายและส่งเสริมการขายสินค้าและบริการของธุรกิจออนไลน์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ด้วยผู้ใช้งาน Instagram ที่มีจำนวนมากและเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง การใช้ Instagram Ads กลายเป็นอีกทางเลือกที่สำคัญที่ต้องคำนึงถึงในกลยุทธ์การตลาดของธุรกิจในยุคปัจจุบัน วันนี้เราจะมาทำความรู้จักกับ Instagram Ads ว่ามันคืออะไร และใช้งานยังไงจึงจะได้ยอดขายที่น่าพอใจ
![ทำความรู้จักกับ Instagram Ads](https://minimicegroup.co.th/wp-content/uploads/2023/08/MNM-Jul-Article-11-instagram-02-1024x536-1.jpg)
Content Marketing ทำการตลาดผ่านเนื้อหา คืออะไร?
Instagram Ads เป็นเครื่องมือที่มีความสำคัญอย่างมากในการส่งเสริมการตลาดและเพิ่มยอดขายสินค้าหรือบริการบนแพลตฟอร์ม Instagram โดยมีการใช้เนื้อหาที่หลากหลายเช่น ภาพถ่ายที่สวยงาม คลิปวิดีโอที่น่าสนใจ และโฆษณาใน Stories ซึ่งเป็นส่วนสำคัญในการนำเสนอผลิตภัณฑ์หรือบริการให้กับกลุ่มเป้าหมาย
การนำเสนอ Instagram Ads เป็นสิ่งสำคัญที่เสริมสร้างความน่าสนใจให้กับธุรกิจ ช่วยเพิ่มโอกาสในการตลาดและส่งเสริมการขายสินค้าหรือบริการอย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งควรให้ความสำคัญในการสร้างเนื้อหาที่น่าสนใจและคุ้มค่า รวมถึงการติดตามผลและปรับปรุงกลยุทธ์การโฆษณาให้เหมาะสมกับเป้าหมายของธุรกิจ
Instagram Ads คืออะไร ทำไมถึงสำคัญกับการขาย
Instagram Ads เป็นรูปแบบการโฆษณาที่สร้างขึ้นบนแพลตฟอร์ม Instagram ซึ่งเป็นเว็บไซต์และแอปพลิเคชันสังคมออนไลน์ที่มีผู้ใช้งานหนาแน่นมากที่สุดในปัจจุบัน ด้วยจำนวนผู้ใช้งานที่มากมายจึงทำให้การโฆษณาบน Instagram เป็นช่องทางที่ดีในการเข้าถึงผู้คนในจำนวนมาก และสามารถส่งเสริมการขายของธุรกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพ
โดย Instagram Ads ก็มีแนวโน้มที่จะเข้าถึงผู้ใช้งานได้ราวๆ 1.32 พันล้านคน โดยกลุ่มเป้าหมายที่สนใจมากที่สุดคือกลุ่มอายุ 18-24 ปี (ชาย 16.9% หญิง 13.9%) และกลุ่มอายุ 25-30 ปี (ชาย 16.4% หญิง 13.9%) รูปแบบ Instagram Ads ที่เป็นที่นิยมและมี Engagement Rate สูงที่สุดคือ Carousel Post (0.76%) ตามด้วย Video Post (0.66%) และ Photo Post (0.59%)
กลุ่มเป้าหมายของ Instagram Ads
เวลาพูดถึงกลุ่มเป้าหมายของ Instagram Ads ก็จะหมายถึงกลุ่มผู้ใช้งานที่เราต้องการโฆษณาสินค้าหรือบริการให้ถึงพวกเขา ซึ่งกลุ่มเป้าหมายของ Instagram สามารถแบ่งออกเป็นหลายประเภท โดยตัวอย่างก็จะมีดังนี้
- กลุ่มอายุ 18-24 ปี เป็นกลุ่มที่ใช้งาน Instagram กลุ่มใหญ่ของแพลตฟอร์ม และมีความสนใจต่อการโฆษณาสินค้าหรือบริการต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับกลุ่มวัยนี้ เช่น สินค้าแฟชั่น หรือเครื่องสำอาง
- กลุ่มอายุ 25-30 ปี เป็นกลุ่มผู้ใช้งาน Instagram ที่มีจำนวนมากของแพลตฟอร์ม ที่กำลังเติบโตและเข้าสู่ช่วงอายุการทำงาน ทำให้เป็นกลุ่มที่มีความสนใจในสินค้าหรือบริการที่เกี่ยวข้องกับการทำงาน การเตรียมความพร้อมในชีวิต หรือเรื่องการออกกำลังกาย
- กลุ่มอายุ 31-40 ปี เป็นกลุ่มที่มีความสำคัญในการตัดสินใจซื้อสินค้าหรือบริการ ซึ่งเป็นกลุ่มที่ให้ความสนใจในเรื่องของครอบครัว การเงิน หรือสุขภาพ
- กลุ่มอายุ 41-50 ปี เป็นกลุ่มที่มีความมั่นคงด้านการเงิน และเป็นกลุ่มที่มีความสนใจในเรื่องของการเตรียมความพร้อมก่อนเกษียณ การลงทุน หรือการตัดสินใจทางการเงิน
- กลุ่มอายุ 51 ปีขึ้นไป เป็นกลุ่มที่มีความสำคัญในเรื่องของการเตรียมการเกษียณ การดูแลสุขภาพ และการท่องเที่ยว กลุ่มนี้อาจมีความสนใจในสินค้าหรือบริการที่เกี่ยวข้องกับการเกษียณ การรักษาความเยาว์วัย หรือการเดินทาง
ค่าใช้จ่ายในการทำโฆษณาบน Instagram
ค่าใช้จ่ายในการทำโฆษณาบน Instagram สามารถแบ่งออกเป็นหลายประเภท ซึ่งเป็นสิ่งที่ควรคำนึงถึงเมื่อวางแผนการโฆษณาบนแพลตฟอร์มนี้ โดยแต่ละประเภทก็มีลักษณะและความเหมาะสมต่อวัตถุประสงค์ที่แตกต่างกันไป
Cost Per Click (CPC)
Cost Per Click (CPC) คือรูปแบบการคิดค่าโฆษณาโดยคิดตามจำนวนครั้งที่ผู้ใช้คลิกเปิดดูโฆษณา ค่า CPC จะคำนวณโดยการหารจำนวนเงินที่เสียในการโฆษณากับจำนวนคลิกที่ได้รับ โดยราคา CPC อาจแตกต่างกันตามแต่ละกลุ่มเป้าหมาย
Cost Per Engagement (CPE)
Cost Per Engagement (CPE) คือรูปแบบการคิดค่าโฆษณาโดยคิดตามจำนวนครั้งที่ผู้ใช้มีการแสดงความสนใจโฆษณา เช่น การกด Like การคอมเมนต์ หรือการแชร์โพสต์ ราคา CPE จะคำนวณโดยหารจำนวนเงินที่จ่ายในการโฆษณากับจำนวนความสนใจที่ได้รับ โดยราคา CPE มักจะมีค่าสูงกว่า CPC
Cost Per Thousand Impression (CPM)
Cost Per Thousand Impression (CPM) คือรูปแบบการคิดค่าโฆษณาด้วยการคิดตามจำนวนการแสดงโฆษณาต่อกลุ่มเป้าหมาย ค่า CPM จะคำนวณโดยหารจำนวนเงินที่เสียในการโฆษณากับจำนวนการแสดงโฆษณาที่ได้รับ และมีความเหมาะสำหรับการโฆษณาที่ต้องการเพิ่มการรับรู้และการมองเห็นจากกลุ่มเป้าหมาย
![เลือกประเภทของโฆษณาบน Instagram ให้ตรงจุดประสงค์](https://minimicegroup.co.th/wp-content/uploads/2023/08/MNM-Jul-Article-11-instagram-03-1024x536-1.jpg)
เลือกประเภทของโฆษณาบน Instagram ให้ตรงจุดประสงค์
Instagram มีการโฆษณาหลายประเภทที่สามารถเลือกใช้ตามวัตถุประสงค์ในการโฆษณาสินค้าหรือบริการได้ โดยแต่ละประเภทก็จะมีลักษณะและการใช้งานที่แตกต่างกันไป ทำให้ Instagram Ads ที่เหมาะสมก็จะต่างกันไปด้วย โดยประเภทของโฆษณาก็จะมีดังนี้
1. Instagram Photo Ads
Instagram Photo Ads คือการโฆษณาที่ใช้ภาพถ่ายในการสร้างโฆษณา ซึ่งเป็นรูปแบบที่เข้าถึงง่ายที่สุดและสามารถสร้างความน่าสนใจให้กับสินค้าหรือบริการได้ง่าย ยิ่งในแพลตฟอร์มอย่าง Instagram ที่ออกแบบมาเพื่อการแชร์รูปภาพ การโฆษณาประเภทนี้ก็ยิ่งมีประสิทธิภาพดีขึ้นไปอีก เหมาะสำหรับสินค้าที่ต้องการโชว์ความงามหรือสีสันของสินค้าอย่างชัดเจน
2. Instagram Video Ads
Instagram Video Ads คือการโฆษณาที่ใช้คลิปวิดีโอในการสร้างโฆษณา ซึ่งสามารถสร้างความน่าสนใจให้กับสินค้าหรือบริการได้ด้วยการทำวิดีโอเคลื่อนไหวที่อาจจะมีเสียงหรือดนตรีประกอบ โดยคลิปวิดีโอจะมีความโดดเด่นกว่าการโฆษณาแบบอื่นๆ ตรงที่สามารถใส่คำพูดเสนอข้อมูลเกี่ยวกับสินค้าหรือบริการได้อย่างชัดเจน ทำให้ผู้ใช้สามารถฟังและรับรู้ได้โดยอัตโนมัติไม่ต้องรอให้ผู้ใช้อ่านเอง
3. Instagram Carousel Ads
Instagram Carousel Ads คือการโฆษณาที่ใช้ภาพถ่ายหลายรูปภาพในการสร้างโฆษณา ซึ่งช่วยให้คุณสามารถนำเสนอสินค้าหรือบริการของคุณในมุมมองที่หลากหลายและน่าสนใจ สามารถสร้างเรื่องราวในการโฆษณาและกระตุ้นความสนใจให้กับผู้ใช้งาน เหมาะสำหรับการขายสินค้าที่มีความหลากหลาย ที่ควรแสดงให้เห็นในมุมต่างๆ เช่น การขายสินค้าอย่างเสื้อผ้า หรือรองเท้าหลายๆ ยี่ห้อ
4. Instagram Collection Ads
Instagram Collection Ads คือการโฆษณาที่นำเสนอสินค้าโดยอาจจะมีรูปและตัวเลือกหรือเนื้อหาที่น่าสนใจอยู่ในหน้าเดียวกัน เน้นให้ผู้ใช้งานสามารถสำรวจสินค้าหรือบริการอย่างครอบคลุมในการมองเพียงครั้งเดียว เหมาะกับการขายอย่างอสังหาริมทรัพย์ที่สามารถแสดงรูป พร้อมกับเนื้อหาอย่างห้องมีกี่ห้อง มีความกว้างเท่าไร สามารถมองเนื้อหาครอบคลุมได้อย่างรวดเร็ว
5. Instagram Stories Ads
Instagram Stories Ads คือการโฆษณาที่แสดงโฆษณาในส่วนของ Stories ซึ่งเป็นรูปแบบที่ผู้ใช้งานมักจะเปิดดูอยู่เสมอ การโฆษณาใน Stories ช่วยสร้างความสนใจ เหมาะกับการแนะนำร้านค้ากับผู้ใช้งาน สามารถใช้ Stories Ads ในการโฆษณาสินค้าหรือบริการใหม่ๆ หรือแคมเปญโปรโมชั่นก็ได้
![ยิง Ads บน Instagram อย่างไรให้เห็นผล](https://minimicegroup.co.th/wp-content/uploads/2023/08/MNM-Jul-Article-11-instagram-04-1024x536-1.jpg)
ยิง Ads บน Instagram อย่างไรให้เห็นผล
การยิง Ads บน Instagram ให้เห็นผลอย่างมีประสิทธิภาพนั้นต้องดำเนินการและวางแผนการโฆษณาอย่างตรงจุดประสงค์ ซึ่งวิธีต่อไปนี้ก็สามารถนำไปปรับใช้ได้เมื่อต้องการทำ Instagram Ads
เลือกกลุ่มเป้าหมายให้ตรงจุด
การเลือกกลุ่มเป้าหมายที่เหมาะสมและเข้าใจความต้องการของกลุ่มเป้าหมายจะช่วยเพิ่มโอกาสในการสร้างความสำเร็จในการทำโฆษณาบน Instagram โดยต้องเน้นให้โฆษณาเป็นประโยชน์และน่าสนใจต่อกลุ่มเป้าหมายที่เราต้องการเข้าถึง เช่น หากต้องการจะขายสินค้าที่มีราคาอย่างบ้านหรือรถ ก็ควรจะมุ้งเป้าหมายไปที่คนที่มีอายุ 30+ ขึ้นไปเป็นหลักที่มีงานมั่นคงแล้วเป็นหลัก เพื่อเพิ่มโอกาสที่จะได้รับความสนใจให้ได้มากที่สุด
สร้างโฆษณาที่มีความน่าสนใจ
การสร้างโฆษณาบน Instagram ที่มีความน่าสนใจและน่าติดตามเป็นเรื่องสำคัญในการเพิ่มโอกาสในการคลิกและตอบโต้ของกลุ่มเป้าหมาย จึงควรให้ความสำคัญในการใช้ภาพถ่ายและคลิปวิดีโอที่น่าสนใจ โดยคอนเทนต์ที่เราโพสต์ควรเป็นภาพที่น่าสนใจและดูดี ไม่จำเป็นต้องใช้กล้องถ่ายรูปมืออาชีพ แต่ความชัดของภาพ แสงที่เพียงพอ และการจัดองค์ประกอบที่น่าสนใจเป็นสิ่งสำคัญ
ที่สำคัญอีกอย่างก็คือแคปชั่นที่ก็ต้องโดดเด่นเพื่อดึงดูดความสนใจของผู้ใช้งาน หากต้องการทำโฆษณาให้เห็นผลแต่ยังไม่รู้วิธี การติดต่อบริษัทรับเขียนโฆษณาอย่าง Minimice ก็เป็นตัวเลือกที่ดีในการช่วยสร้างโฆษณาที่จะสร้างความประทับใจให้กับลูกค้าในอนาคต
วางแผนเรื่องเวลาโพสต์ให้ดี
การทำโพสต์ในช่วงเวลาที่เหมาะสมจะช่วยเพิ่มโอกาสในการมองเห็นของผู้ใช้งานและเพิ่มผู้ติดตามในบัญชี Instagram ของธุรกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพ แต่ก็ควรทดลองและปรับปรุงกลยุทธ์การโพสต์เพื่อให้เหมาะสมกับกลุ่มเป้าหมายและกิจกรรมของผู้ใช้งานในแต่ละเวลาของแต่ละช่วงด้วย โดยจากข้อมูลการวิเคราะห์พบว่า มีช่วงเวลาที่เหมาะสำหรับการโพสต์คอนเทนต์ของแต่ละธุรกิจ ดังนี้
- การท่องเที่ยว วันศุกร์ เวลา 9.00 น. ถึง 13.00 น.
- สื่อบันเทิง วันอังคาร และพฤหัสบดี เวลา 12.00 น. ถึง 15.00 น.
- อาหาร การกินและเครื่องดื่ม วันศุกร์ เวลา 12.00 น.
- ธุรกิจขายปลีก วันอังคาร พฤหัสบดี และศุกร์ เวลา 12.00 น.
- ธุรกิจบริการ วันอังคาร พุธ และศุกร์ เวลา 9.00 น. และ 10.00 น.
- ธุรกิจที่ไม่แสวงหาผลกำไร วันอังคาร เวลา 10.00 น. และ 16.00 น.
- ธุรกิจขายส่งแบบ e-Commerce วันพฤหัสบดี เวลา 16.00 น. และ 21.00 น.
- สุขภาพและการแพทย์ วันพุธ และอาทิตย์ เวลา 9.00 น.
- ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดร่างกาย วันพฤหัสบดี และศุกร์ เวลา 13.00 น. ถึง 15.00 น.
- เทคโนโลยี วันจันทร์ และอังคาร เวลา 14.00 น.
- การศึกษา วันพฤหัสบดี เวลา 16.00 น. ถึง 17.00 น.
เชื่อมลิงก์
การเชื่อมโยงลิงก์ไปยังหน้าเว็บไซต์เป็นขั้นตอนที่สำคัญที่ไม่ควรละเลยในการโฆษณาบน Instagram ซึ่งจะส่งผู้ใช้ไปยังสินค้าหรือบริการที่โฆษณาโดยตรง เป็นวิธีที่รวดเร็วและไม่เสียเวลาที่จะต้องหาสินค้าอีกรอบ เพิ่มโอกาสที่จะเกิดการซื้อขายและแปลงผู้ใช้เป็นลูกค้าจริงๆ
สรุป
การโฆษณาบน Instagram เป็นเครื่องมือที่มีความสำคัญอย่างมากในการกระตุ้นยอดขายและส่งเสริมการขายสินค้าหรือบริการของธุรกิจ การนำเสนอโฆษณาในรูปแบบที่น่าสนใจและเหมาะสมกับกลุ่มเป้าหมาย รวมถึงการวางแผนเวลาโพสต์และการเชื่อมโยงลิงก์ไปยังเว็บไซต์เป็นสิ่งสำคัญในการเพิ่มโอกาสในการโปรโมทและสร้างความสำเร็จในการทำธุรกิจออนไลน์ผ่านแพลตฟอร์ม Instagram Ads ที่เป็นที่นิยมในปัจจุบัน
FAQ – คำถามที่พบบ่อย
Instagram Ads คืออะไร?
Instagram Ads เป็นการโฆษณาบนแพลตฟอร์ม Instagram ที่ใช้ภาพและวิดีโอเพื่อส่งเสริมการตลาดและเพิ่มยอดขายสินค้าหรือบริการ
Instagram Ads ช่วยกระตุ้นยอดขายอย่างไร?
ด้วยการนำเสนอเนื้อหาที่น่าสนใจและสร้างความตั้งใจให้กับผู้ใช้งาน ซึ่งช่วยส่งเสริมการแบ่งปันและการซื้อขาย ช่วยเพิ่มโอกาสในการตลาดและส่งเสริมยอดขายสินค้าหรือบริการ
การใช้ Instagram Ads มีประโยชน์อย่างไรต่อธุรกิจ?
การใช้ Instagram Ads ช่วยเสริมสร้างความน่าสนใจของธุรกิจ และเพิ่มโอกาสในการขายสินค้าหรือบริการอย่างมีประสิทธิภาพ ช่วยให้ธุรกิจสามารถติดตามและวัดผลการโฆษณาได้
Instagram Ads มีอยู่กี่รูปแบบและแต่ละรูปแบบเหมาะสำหรับธุรกิจประเภทใด?
Instagram Ads มี 5 รูปแบบ คือ Photo Ads เหมาะสำหรับการโฆษณาสินค้าที่ต้องการเน้นภาพ Video Ads เหมาะสำหรับโฆษณาที่ต้องการเล่าเรื่องราว Carousel Ads เหมาะสำหรับโฆษณาสินค้าหลายรายการในครั้งเดียว Collection Ads เหมาะสำหรับการนำเสนอสินค้าหลายรายการแบบเต็มหน้าจอ และ Stories Ads เหมาะสำหรับการโฆษณาที่ต้องการเรื่องราวที่น่าสนใจและสนุกสนาน
วิธีทำให้ Instagram Ads มีผลสำเร็จ?
ควรนำเสนอเนื้อหาที่น่าสนใจและสร้างความน่าเชื่อถือของธุรกิจ ตระหนักถึงกลุ่มเป้าหมายและเลือกเวลาโพสต์ที่เหมาะสม สร้างความสะดวกให้กับผู้ใช้งานที่จะกดเข้าไปดูสินค้า เพื่อส่งเสริมการแบ่งปันและการซื้อขาย