การทำ backlink เพื่อช่วยให้อันดับ SEO ดีขึ้น

Backlink คืออะไร? มาทำ backlink เพื่ออันดับ SEO เว็บเรากัน

Table of Contents

ในปัจจุบันนั้นการทำ SEO ถือว่าเป็นการทำตลาดออนไลน์อีกอย่างหนึ่งที่นิยมทำการอย่างแพร่หลายเป็นอย่างมาก เพราะสามารถช่วยให้เว็บไซต์ของเรานั้นติดในหน้าแรกของ Google หรือติดอยู่ในอันดับดีๆ ได้ และส่งผลให้เว็บไซต์ หรือธุรกิจของเรานั้นมีคนรู้จักมากยิ่งขึ้น แต่รู้หรือไม่? ว่าการทำ SEO ที่ดีจะต้องมีการทำ Backlink ด้วย เพราะถือว่าเป็นอีกสิ่งสำคัญที่สามารถช่วยให้อันดับคะแนน SEO ของเว็บไซต์เราดีขึ้นด้วย ดังนั้น ในบทความนี้จึงจะพาทุกคนไปทำความรู้จักกับ Backlink กันมากขึ้น เพื่อที่จะได้รู้ถึงความสำคัญ และแนวทางวิธีการทำที่ถูกต้อง

Backlink คืออะไร

Backlink คืออะไร

Backlink มีชื่อเรียกอีกชื่อว่า Inbound Link หรือ Incoming Link คือ การที่เว็บไซต์อื่นๆ ได้ส่งลิงก์มายังเว็บไซต์ของเรา โดยเนื้อหาภายในเว็บไซต์นั้นๆ จะต้องมีเนื้อหาที่เกี่ยวข้องกันกับเนื้อหาของเว็บไซต์ของเรา ที่สำคัญเว็บไซต์ที่ส่งลิงก์มาหาเราจะต้องเป็นเว็บไซต์ที่มีคุณภาพและน่าเชื่อถือ โดยที่ Google จะเริ่มมองว่าเว็บไซต์ของเรานั้นมีคุณภาพตอบโจทย์ความต้องการของผู้ใช้งาน จึงส่งผลให้เว็บไซต์ของเราติดอันดับ SEO หน้าแรกมากยิ่งขึ้น เพราะว่าคะแนนของเว็บไซต์เรานั้นสูงขึ้นนั่นเอง

แล้ว Backlink สำคัญยังไงนะ?

Backlink เป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่สำคัญในการทำ SEO เพราะว่า Google จะนำมาใช้ในการวัดผล เพื่อจัดอันดับบนหน้า SERP (Search Engine Result Page) เมื่อมีเว็บไซต์อื่นส่งลิงก์กลับมาหาเว็บไซต์เราก็จะทำให้ Google มองว่าเว็บไซต์ของเรานั้นดูน่าเชื่อถือมากยิ่งขึ้น และทำให้ Google ดันเว็บไซต์ของเราให้ติดอันดับในหน้าแรก หรือติดอันดับดีๆ แถมยังส่งผลให้เว็บไซต์ของเรามียอด Website Traffic เพิ่มมากขึ้นอีกด้วย

6 ประเภทของลิงก์ในการทำ Backlink

ก่อนอื่นเรามาทำความรู้จักกับประเภทของ Backlink แต่ละประเภทก่อนว่าคืออะไร และมีลักษณะการทำงานอย่างไรบ้าง ดังนี้ 

  • Exact-match คือ การใส่ลิงก์ในคำที่ตรงตามคีย์เวิร์ดให้เหมือน 100% ตามคำค้นหาของผู้ใช้งาน
  • Partial-match คือ การใส่ลิงก์ในคำที่มาในรูปแบบวลี หรือประโยคที่มีคีย์เวิร์ดแทรกอยู่ด้วย
  • Branded  คือ การใส่ลิงก์หน้าเว็บไซต์ของแบรนด์นั้นๆ เข้าไปในชื่อของแบรนด์
  • Naked Link คือ การวางลิงก์ URL ไว้เฉยๆ โดยที่ไม่ได้ใส่ไว้ในคีย์เวิร์ด หรือคำอื่นๆ
  • Generic คือ การใช้คำว่า คลิก, คลิก ที่นี่, อ่านเพิ่มเติม คลิก หรือ Click Here เพื่อให้ผู้ใช้งานคลิกเข้าไป
  • Images คือ การใส่ลิงก์ไว้กับรูปภาพ

1. DoFollow Backlink

DoFollow Backlink คือ Backlink ที่มีคุณภาพสูง และสามารถส่งผลให้คะแนนของเว็บไซต์เรานั้นสูงมากยิ่งขึ้น และถ้าหากเว็บไซต์เราได้รับ Backlink จากเว็บไซต์ที่เป็นแบบ DoFollow Backink มากเท่าไหร่ ก็จะทำให้เว็บไซต์ของเรามีคะแนน SEO มากขึ้นเท่านั้น และทำให้ติดอันดับในหน้าแรกสูงมากขึ้น

2. NoFollow Backlink

ในทางเทคนิคนั้น NoFollow Backlink จะไม่ได้ส่งผลต่อคะแนน SEO หรือคะแนนเว็บไซต์มากเท่าไรเมื่อเทียบกับ DoFollow ซึ่งเจ้า NoFollow นั้นส่วนใหญ่แล้วจะมาจากโซเซียลมีเดีย เช่น การกดไลก์ กดแชร์ กระทู้ต่างๆ ทั้งนี้ NoFollow นี้ส่วนใหญ่มักจะใช้เพื่อป้องกันสแปมนั่นเอง ถึงอย่างไรก็ตามประเภทของ Backlink ชนิดนี้ก็ยังคงมีความสำคัญต่ออันดับ SEO แต่จะเป็นการช่วยทางอ้อม ที่จะส่งผลให้คะแนนเว็บไซต์ของคุณนั้นสูงขึ้น

3. Sponsored Backlink

Sponsored Backlink เป็นลิงก์ที่เหมาะสำหรับการสร้างคอนเทนต์สปอนเซอร์ เพราะว่าการสร้าง Backlink ประเภทนี้จะต้องมีการเสียค่าใช้จ่าย เพื่อให้ได้ลิงก์มา และทำ Backlink มายังหน้าเว็บไซต์ของตัวเอง

4. UGC Backlink

UGC Backlink หรือ User Generated Content คือ Backlink สำหรับคอนเทนต์เว็บไซต์ที่ผู้ใช้งานสร้างขึ้นมาเอง เช่น คอนเทนต์บนเว็บบอร์ด หรือคอมเมนต์ต่างๆ เป็นต้น ซึ่งลิงก์ประเภทนี้ยังไม่ค่อยเป็นที่นิยมมากนัก แต่ว่าก็เป็นอีก Backlink ที่ถือว่ามีความน่าเชื่อถือไม่น้อยกว่า Backlink ประเภทอื่นๆ เลย นอกจากนั้นยังสามารถแบ่งออกแต่ละรูปแบบตามแหล่งที่มาได้ ดังนี้

  • Non-Editorial Link คือลิงก์ที่ไม่ได้เกี่ยวข้องกับเนื้อหาบนเว็บไซต์ของเราโดยตรง อาจทำให้ Google มองว่าเป็นสแปม และส่งผลไม่ดีต่อเว็บไซต์ของเราได้
  • Natural Editorial Links คือลิงก์ที่ได้มาจากการเขียนบทความที่ให้ความรู้ หรือประโยช์กับผู้ใช้งาน ทำให้เกิดการแชร์ต่อ หรือใช้เป็นแหล่งอ้างอิง ส่งผลให้ลิงก์ หรือเว็บไซต์ของเรามีคุณภาพ และมีความน่าเชื่อถือมากขึ้น
  • Manual Link Building  คือลิงก์ที่เราเป็นคนสร้างขึ้นมาเองด้วยการนำเว็บไซต์ของเราไปทำ Backlink บนเว็บไซต์ต่างๆ โดยจะต้องการติดต่อเว็บไซต์ต่างๆ ที่มีความน่าเชื่อถือ และเกี่ยวข้องกับเว็บไซต์ของเรา เพื่อทำการซื้อ หรือขอให้เว็บไซต์นั้นๆ ทำ Backlink ให้

Backlink ลักษณะแบบนี้สิดี

สำหรับวิธีการทำ Backlink ให้มีคุณภาพ และได้ผลดีนั้นจะต้องทำให้ถูกต้องตามลักษณะของ Backlink ที่ดี ดังนี้

1. Backlink มาจากเว็บไซต์ที่น่าเชื่อถือ

การทำ Backlink ที่ดีนั้นจะต้องเป็นลิงก์ที่มาจากเว็บไซต์ที่น่าเชื่อถือ โดยอาจจะเช็กจากชื่อเสียงของเว็บไซต์ ปริมาณของผู้เข้าใช้งาน ข้อมูลภายในเว็บไซต์ หรือการออกแบบหน้าเว็บไซต์ให้น่าใช้งาน เป็นต้น แต่ถ้าหากเว็บไซต์มีเนื้อหาที่เกี่ยวกับการพนัน สิ่งอนาจาร หรือเนื้อหาที่ไม่เกี่ยวข้องกับเว็บไซต์ของเรา รวมถึงหน้าตาของเว็บไซต์ที่ดูแปลกตา ไม่น่าใช้งาน ดูไม่ปลอดภัย ก็อาจเป็นเว็บไซต์ที่เป็นสแปม และส่งผลต่อคะแนนของเว็บไซต์เราได้

2. Backlink มาจากเว็บไซต์ที่เกี่ยวข้องกับเว็บไซต์ของเรา

การทำ Backlink ที่มาจากเว็บไซต์ที่เกี่ยวข้องกับเว็บไซต์ของเรานั้นก็ถือว่าเป็นลักษณะของลิงก์ดีเช่นกัน โดยเว็บไซต์อื่นๆ ที่มีการทำลิงก์มายังเว็บไซต์ของเรานั้นจะต้องมีเนื้อหาโดยรวม หรือเนื้อหาบางส่วนที่เกี่ยวข้องกับเนื้อหาภายในเว็บไซต์ของเรา เพื่อทำ Backlink ได้แบบไม่ต้องเสียค่าใช้จ่าย เช่น หากธุรกิจของคุณคือ โรงเรียนสอนทำอาหาร เราก็คงอยากให้ลิงก์ที่ส่งกลับมายังเว็บไซต์คุณเป็นธุรกิจใกล้เคียงกัน ไม่ใช่เป็นลิงก์ที่มาจากโรงเรียนสอนกวดวิชา หรือธุรกิจอื่นๆ ที่ไม่เกี่ยวข้องนั่นเอง

3. เป็นลิงก์ที่มาจากเนื้อหา

Backlink ที่มาจากเนื้อหานั้นเป็นอีกลักษณะการทำลิงก์ที่ดี โดยเป็นการทำลิงก์ในส่วนของตัวเนื้อหาเท่านั้น และเป็น Backlink ที่ได้คะแนนมากกว่าลิงก์ที่มาจากส่วน Sidebar หรือ Footer

4. ลิงก์ที่มาจาก text ที่มีความเกี่ยวข้องกับเนื้อหาเว็บเรา

การทำ Backlink ที่มาจาก Text ที่มีความเกี่ยวข้องกับเนื้อหาของเว็บไซต์เรานั้นจะเป็นการทำลิงก์ที่จะใช้คำที่เกี่ยวข้องกับ Keyword หรือเนื้อหาของเว็บไซต์เรา หรือที่เรียกว่า Anchor Text หรือ Text Link ซึ่งเป็นลิงก์ที่มีพลังมากกว่าลิงก์ที่มาจาก Generic Link อีกด้วย

5. ลิงก์มาจากโดเมนที่หลากหลาย

การลิงก์มาจากโดเมนที่หลากหลาย เป็นลักษณะการทำ Backlink ที่ดีด้วยการลิงก์เว็บไซต์ของเรากับโดเมนที่หลากหลาย เพราะว่าจะมีประโยชน์มากกว่าการลิงก์กับโดเมนเดิมๆ ซ้ำๆ ที่เคยส่งลิงก์มาหาเว็บไซต์ของเราแล้ว

มาทำ Backlink กันเถอะ

การทำ Backlink มายังเว็บไซต์ของเรานั้นมีหลากหลายวิธี โดยหัวข้อนี้จะมาแนะนำวิธีการทำ Backlink ที่ไม่ผิดกฎของทาง Google ทั้งแบบ Natural Editorial Links และ Manual Link Building เพื่อช่วยให้เว็บไซต์ของเรานั้นได้รับคะแนน และไต่อันดับ SEO ได้ง่ายขึ้น โดยจะมีทั้งหมด 5 ขั้นตอน ดังนี้

สร้าง Content เนื้อหาดีๆ ที่เป็นประโยชน์

การสร้าง Content ที่มีเนื้อหาดี ครบถ้วน และมีประโยชน์ต่อผู้ใช้งาน เป็น 1 ในขั้นตอนการทำ Backlink ที่มีความสำคัญ โดยคอนเทนต์ที่ดีนั้นจะต้องมีเนื้อหาที่สามารถตอบโจทย์ หรือคำถามของผู้ใช้งานได้ดี และครบถ้วน มีคุณภาพมากพอที่จะสามารถช่วยให้คะแนนของเว็บไซต์ดีขึ้นได้ และไม่จำเป็นต้องอัปเดต หรือโพสต์อยู่บ่อยๆ และที่สำคัญ คือ คอนเทนต์ หรือบทความจะต้องมีโครงสร้างถูกต้องตามหลัก SEO ด้วย

ติดต่อเว็บไซต์อื่น

เริ่มทำ Backlink ด้วยการขอความช่วยเหลือ หรือขอความร่วมมือให้เว็บไซต์อื่นๆ ส่งลิงก์กลับมายังที่เว็บไซต์เรา วิธีนี้อาจจะต้องมีข้อแลกเปลี่ยนกับเจ้าของเว็บไซต์นั้นเล็กน้อย เช่น เข้าไปเขียนบทความหรือทำ Blog ให้ทางเว็บไซต์นั้นๆ เพื่อให้เขาส่งลิงก์กลับมายังที่เว็บไซต์ของเรา หรือหากเราพบว่ามีเว็บไซต์ที่พูดถึงเราแต่ไม่ได้ส่งลิงก์กลับมาที่เว็บไซต์เรา ในกรณีนี้คุณสามารถติดต่อให้เจ้าของเว็บไซต์นั้นๆ ส่งลิงก์กลับมายังเว็บไซต์ของคุณได้

นำเสนอเว็บไซต์ของเราเองไปเลย

การนำเสนอเว็บไซต์ของเราเอง ก็เป็นอีกวิธีหนึ่งในการทำ Backlink โดยวิธีนี้จะเป็นการที่เรานำบทความของเราเองไปโพสต์บนเว็บไซต์อื่นๆ ที่เปิดให้ลงบทความจากบุคคลภายนอกได้ หลังจากนั้นก็ทำการลิงก์กลับมายังเว็บไซต์ของเรา หรืออาจจะเป็นการตอบคอมเมนต์ หรือตามโพสต์ต่างๆ พร้อมกับแนบลิงก์กลับมายังเว็บไซต์ของเราก็ได้เช่นกัน แต่ว่าการทำ Backlink ด้วยวิธีนี้นั้นจะต้องไม่รบกวนการใช้งานของผู้อื่นด้วย เพราะว่า Google อาจจะมองว่าเป็นสแปม และส่งผลลบต่อเว็บไซต์ของเราได้

ซื้อ Backlink

การซื้อ Backlink เป็นวิธีที่ต้องเสียค่าใช้จ่าย โดยทำการติดต่อไปยังเว็บไซต์อื่นๆ ที่มีชื่อเสียง เพื่อขอพื้นที่ในการลงบทความ และลิงก์กลับมายังเว็บไซต์ของเรา หรืออาจจะเป็นเว็บไซต์ที่มีบริการเขียนบทความ พร้อมกับทำ Backlink ด้วย โดยลิงก์ที่ถูกส่งกลับมายังเว็บไซต์ของเราจะต้องเป็นแบบ Exact-match หรือ Partial-match หรือถ้ามีงบประมาณมากพอก็อาจจะซื้อต่อคอนเทนต์ของคนอื่นๆ ที่มีเนื้อเกี่ยวข้องกันกับเว็บไซต์ก็ได้เช่นกัน

สร้างเครือข่ายเว็บของเราเอง

การสร้างเครือข่ายเว็บของเราเอง เป็นอีกวิธีการทำ Backlink ที่ต้องออกแรงเอง และเสียค่าใช้จ่ายด้วย แต่ว่าวิธีนี้จะเสียค่าใช้จ่ายน้อยกว่าการไปซื้อ Backlink โดยวิธีนี้จะต้องทำการสร้างเว็บไซต์ของเราเองขึ้นมาหลายๆ เว็บ หรือที่เรียกว่า การทำ PBN (Private Blog Network) พร้อมกับเขียนบทความ หรือสร้างคอนเทนต์ขึ้นมาทีละอัน ทีละเว็บไซต์ แบบที่ไม่สามารถ Copy เนื้อหาได้ จึงทำให้การทำ PBN นั้นจะต้องเสียค่าใช้จ่ายในการจ้างทีมงาน หรือผู้อื่นมาช่วยทำบทความนั่นเอง

ชี้เป้าโปรแกรมเช็ค Backlink

สำหรับผู้ที่ต้องการหาตัวช่วยเสริมอย่างโปรแกรมเช็ก Backlink ที่เป็นเครื่องมือในการช่วยเช็ก Backlink ว่ามีเข้ามายังเว็บไซต์ของเราเท่าไหร่ มาจากเว็นไหนบ้าง หรือมีคนเข้าชมเว็บของเรามากขึ้นหรือไม่ โดยโปรแกรมสำหรับเช็ก Backlink ที่ใช้งานง่าย มีดังนี้

Google Search Console

  • เข้าไปที่ › จากนั้นคลิกที่เมนู Links เพื่อตรวจสอบว่ามีลิงก์จากเว็บไซต์ไหนส่งมาที่เว็บของเรา

การใช้ search console เพื่อตรวจดู backlink
  • เมื่อเข้ามาที่ส่วนของ Links แล้วจะพบในส่วนของ External Links, Internal Links ให้เข้าไปดูในส่วนของ External Links เพราะเป็นลิงก์ที่มาจากเว็บไซต์อื่นส่งเข้ามาในเว็บของเรา

เช็ค External Links จาก search console
  • หน้าต่างของ External Links จะบอกจำนวนลิงก์ทั้งหมดที่เข้ามาในเว็บไซต์ของเรา โดย Target page คือ Url เป้าหมายที่ทางเว็บไซต์นั้นใส่ใน Anchor text ขณะทำ backlink ส่งมาหาเรา ส่วน Incoming links คือจำนวนลิงก์ที่ถูกส่งมายังหน้าหรือ url นั้นๆ และสุดท้าย Linking site คือแหล่งเว็บไซต์ต้นทางที่ทำลิงก์กลับมาหาเรานั่นเอง

เช็ค backlink จากเครื่องมือ search console

Moz

  • Moz เป็นอีกหนึ่งเครื่องมือในการตรวจสอบ backlink ที่เข้ามายังเว็บไซต์ของเรา และเป็นเครื่องมือที่ทาง SEO Specialist นิยมใช้กันอีกด้วย โดยขั้นตอนแรกให้ log in และไปที่เมนู Link Research

การตรวจสอบ backlink โดย Moz
  • จากนั้นวาง url เว็บไซต์ของเราหรือเว็บที่เราต้องการตรวจสอบ backlinks จากนั้นกด analyze เพื่อรอให้ทาง Moz ตรวจสอบ

การใช้ Moz ตรวจสอบ backlink
  • หากจะตรวจสอบว่าเว็บไซต์ของเรามีจำนวนลิงก์ที่ถูกส่งเข้ามาในจำนวนเท่าไหร่ ให้ดูที่แท็บ Linking Domains โดยจะบอกจำนวนโดเมนทั้งหมดที่ทำ backlinks มาหาเรา รวมถึงยังแสดงค่า DA(Domain Authority) และ Spam Score (เพื่อให้เราหมั่นตรวจสอบหรือ disavow โดเมนหรือลิงก์ที่มีสแปมสูงออกจากเว็บไซต์ของเรา)

ตรวจสอบ backlink ค่า DA และ spam score จาก Moz
  • ส่วนแท็บ Anchor text จะเป็นการบ่งบอกว่าคำหรือวลีที่เป็น Anchor text ของโดเมนนั้นๆ ใช้คีเวิร์ดไหนในการส่งลิงก์กลับมาหาเรานั่นเอง

วิธีเช็ค backlink ว่ามากจาก Anchor text คำไหน

Ahrefs backlink-checker

  • การเช็ค Backlink ด้วย Ahrefs นั้น ขั้นตอกแรกให้เข้าไปที่ Ahrefs.com > Site  Explorer จากนั้นวาง url เว็บไซต์ของเราเพื่อทำการตรวจสอบ

ตรวจสอบ backlink โดยใช้เครื่องมือ Ahrefs
  • เมื่อ Ahrefs ประมวลผลแล้วให้เรากดเข้าไปดูที่แท็บ Backlink Profile > Backlink โดยจะบอกจำนวนลิงก์ทั้งหมดที่ถูกส่งมายังเว็บของเรา โดยรายละเอียดหลักที่ ahrefs บอกคร่าวๆ คือ เว็บไหนที่ส่งลิงค์มาหาเรา และมาด้วย Anchor text คำว่าอะไร

Ubersuggest

  • การเช็ค Backlink ด้วย Ubersuggest ทำได้ง่ายมากเพียงแคเข้าไปที่ ubersuggest.com จากนั้นไปที่แท็บ Backlinks โดยการเช็ค backlinks ของ ubersuggest สามารถดูได้ทั้งเว็บของเราและคู่แข่งอีกด้วย

การเช็ค Backlink ด้วย Ubersuggest
  • เมื่อวาง url ที่ต้องการตรวจสอบแล้วให้กดที่แท็บ Backlinks Overview ซึ่งจะพบข้อมูล backlink ที่ส่งมายังเว็บของเราโดยแถบ SOURCE PAGE TITLE & URL | TARGET PAGE จะบอกหน้าเพจที่เป็นแหล่งที่มาของลิงก์ ส่วน TARGET PAGE จะเป็นเพจปลายทางที่เว็บนั้นทำลิงก์ไปหานั่นเอง นอกจากนั้นทาง Ubersuggest ยังบอกค่าคะแนน DA, PA รวมถึง Spam Score เพื่อให้เรานำไปเช็คลิงค์ที่คาดว่าจะเป็นสแปมและทำการ Disavow ต่อไป

หาข้อมูล backlink คู่แข่งด้วย ubersuggest

สรุป

ถึงแม้ว่าการทำ Backlink นั้นจะเป็นส่วนสำคัญที่จะช่วยให้คะแนน SEO ของเว็บไซต์ของเรานั้นดีขึ้นได้ แต่ว่าก็ยังมีส่วนอื่นที่มีความสำคัญมากกว่า นั่นก็คือ การสร้างคอนเทนต์ให้มีประโยชน์ ตอบโจทย์ผู้ใช้งาน หน้าเว็บไซต์ดูสวยงาม ดูปลอดภัย และน่าใช้งาน รวมถึงการ Optimize ส่วนอื่นๆ ของเว็บไซตืให้ดีมากขึ้น เพื่อให้การทำ SEO นั้นได้ผลลัพธ์ที่ดีแบบยั่งยืนมากที่สุด

FAQ – คำถามที่พบบ่อย

Backlink คืออะไร

Backlink คือ การที่เว็บไซต์อื่นๆ ได้ส่งลิงก์มายังเว็บไซต์ของเรา โดยเนื้อหาภายในเว็บไซต์นั้นๆ จะต้องมีเนื้อหาที่เกี่ยวข้อง เพื่อส่งผลให้เว็บไซต์ของเราติดอันดับ SEO หน้าแรกมากยิ่งขึ้น

Backlink สำคัญยังไง

Backlink เป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่สำคัญในการทำ SEO เพราะว่า Google จะนำมาใช้ในการวัดผล เพื่อจัดอันดับ เมื่อมีเว็บไซต์อื่นส่งลิงก์กลับมาหาเว็บไซต์เราก็จะทำให้ Google มองว่าเว็บไซต์ของเรานั้นดูน่าเชื่อถือมากยิ่งขึ้น

ทำ Backlink แบบไหนถึงจะดี

สำหรับวิธีการทำ Backlink ให้มีคุณภาพ และได้ผลดีนั้นจะต้องทำให้ถูกต้องตามลักษณะของ Backlink ที่ดี ดังนี้ มาจากเว็บไซต์ที่น่าเชื่อถือ มาจากเว็บไซต์ที่เกี่ยวข้องกับเว็บไซต์ของเรา และลิงก์มาจากโดเมนที่หลากหลาย

ให้ธุรกิจของคุณเติบโตแบบก้าวกระโดดไปกับทีมการตลาดมืออาชีพ
รับการตอบกลับภายใน 2 ชั่วโมง
รับการตอบกลับภายใน 2 ชั่วโมง