Table of Contents

Categories

Recent Posts

Conversion Rate คืออะไร? ทำไมนักการตลาดออนไลน์ไม่ควรพลาด

Conversion Rate คืออะไร? ทำไมนักการตลาดออนไลน์ไม่ควรพลาด

Table of Contents

โดยปกติแล้ว การทำโฆษณาออนไลน์ผ่าน Search Engine และ Social Media จะวัดผลกันที่จำนวนผู้เข้าชม จำนวนคลิก และ การมองเห็น แต่มีอีกหนึ่งค่าที่สามารถนำมาวัดผลได้ คือ conversion rate ซึ่งเป็นอีกสิ่งที่สำคัญกับการทำโฆษณาออนไลน์ ที่มีความเกี่ยวข้องสัมพันธ์กันอย่างไม่สามารถแยกออกจากกันได้  

โดยในบทความจะพาไปรู้จักกับ conversion rate ว่ามันคืออะไร รวมไปถึงวิธีคิด conversion rate ตลอดจนความสำคัญ และการเพิ่ม conversion rate ว่าจะมีวิธีการใดบ้างนั้น ตามมาอ่านกันต่อได้ในบทความนี้เลย

ทำความรู้จักกับ Conversion Rate

ทำความรู้จักกับ Conversion Rate

ก่อนที่จะเข้าสู่เนื้อหาของบทความ เรามาเริ่มต้นง่ายๆ จากนิยามของคำๆ นี้กันดีกว่า โดยคำว่า Conversion Rate Optimization คือ การตรวจสอบดูว่า ผู้เข้าชมเว็บไซต์ของเรานั้น มีอัตราปฏิสัมพันธ์ใดๆ กับเว็บไซต์ของเรามากเพียงใด เช่น กรอกข้อมูลเพื่อสมัครสมาชิก กดแชร์ กดติดตาม หรือมีการชำระค่าบริการสินค้าใดๆ บนเว็บไซต์ เราจะนำจำนวนคนที่มีปฏิสัมพันธ์เหล่านี้มาเป็นตัวตั้ง หารด้วยจำนวนคนที่เข้ามาเยี่ยมชมเว็บไซต์ทั้งหมด แล้วคูณด้วย 100 ก็จะได้อัตรา Conversion Rate ออกมา

Conversion Rate มีความสำคัญกับการโฆษณาออนไลน์แค่ไหน

Conversion Rate คือ ปัจจัยสำคัญในการทำโฆษณาออนไลน์ เพราะ Conversion Rate คือ ตัวบ่งชี้ ว่าใครคือกลุ่มเป้าหมายของการโฆษณาในครั้งนี้ และยังเป็นตัวช่วยสำคัญในการออกแบบกลยุทธ์ทางการตลาดให้ตรงใจกับกลุ่มเป้าหมาย ซึ่งจะช่วยลดต้นทุนและค่าใช้จ่ายแฝงอื่นๆ ในการทำโฆษณาออนไลน์เพิ่มเติมได้ด้วย

Conversion Rate คำนวณอย่างไร

Conversion Rate คำนวณอย่างไร

เราสามารถคำนวณ Conversion Rate ได้ตามสูตรด้านล่างนี้ โดยผลลัพธ์ที่ออกมา คือ รูปแบบเปอร์เซ็นต์ เพียงแค่นำจำนวนคนที่เข้ามาซื้อสินค้าหรือสมัครสมาชิกกับเว็บไซต์มาเป็นตัวตั้ง แล้วหารด้วยจำนวน Traffic หรือจำนวนคนที่เข้าเยี่ยมชมเว็บไซต์ทั้งหมด แล้วคูณด้วย 100 ก็จะได้ค่าอัตรา Conversion Rate แล้ว 

Conversion Rate = (จำนวนคนที่มีปฏิสัมพันธ์บนเว็บไซต์/จำนวนคนเข้าเว็บไซต์ทั้งหมด)*100 

ยกตัวอย่างเช่น มีคนเข้าเยี่ยมชมเว็บไซต์ 100 คน แต่มีคนกดสั่งซื้อสินค้า 20 คน

Conversion Rate คือ (20/100)*100 = 20%

เท่านี้เราก็จะทราบแล้วว่าอัตรา Conversion Rate ของเว็บไซต์เรา คือ 20%

Conversion Rate ที่ดีมีลักษณะอย่างไร

Conversion Rate ที่ดีมีลักษณะอย่างไร

ตามที่บอกไปข้างต้นเลยว่า Conversion Rate คือ ตัวกำหนดทิศทางในการทำการตลาด ยิ่งค่า Conversion Rate นั้นยิ่งสูงเท่าไรก็ยิ่งดี เพราะนั่นแปลว่าต้นทุนในการขายสินค้าของเรานั้นจะลดลงตามไปด้วย ยกตัวอย่างเช่น 

หากเราสามารถทำกำไรได้ชิ้นละ 10 บาท แต่ละออเดอร์ซื้อกันไปคนละ 1 ชิ้น

โดย Conversion Rate ของเว็บไซต์เรา คือ 20% 

เราจะได้กำไรรวม = กำไรแต่ละชิ้น*จำนวนชิ้น*Conversion Rate

กำไรสุทธิ = 10*1*20 = 200 บาท

แต่ถ้าหาก Conversion Rate เปลี่ยนเป็น 30% เราจะได้กำไรรวม 300 บาท ดังนี้

กำไรสุทธิ = กำไรแต่ละชิ้น*จำนวนชิ้น*Conversion Rate

กำไรสุทธิ = 10*1*30 = 300 บาท

กลยุทธ์ในการเพิ่ม Conversion Rate

กลยุทธ์ในการเพิ่ม Conversion Rate

Conversion Rate คือ หัวใจสำคัญของการทำโฆษณาออนไลน์ การที่จะทำให้เว็บไซต์ของคุณมี Conversion Rate ที่ดีและได้ผล จึงต้องมีกลยุทธ์ และนี่คือตัวอย่างเทคนิคที่จะช่วยเพิ่ม Conversion Rate ให้กับเว็บไซต์ของคุณที่เรานำมาฝากกันในวันนี้

วาง Call to Action ในหน้าเว็บไซต์

เพราะ Conversion Rate คือสิ่งที่มองข้ามไปไม่ได้ เราจึงต้องเพิ่ม Conversion Rate ด้วยการวาง Call to Action ในหน้าเว็บไซต์ เช่น ใส่ปุ่มว่า กดสั่งซื้อ คลิก หรือกรอกข้อมูลของคุณได้ที่นี่ เพื่อบอกให้กับผู้เข้าเยี่ยมชมเว็บไซต์ของคุณทราบว่า เข้ามายังเว็บไซต์ของคุณแล้วต้องทำอะไรบ้าง เพราะผู้เข้าเยี่ยมชมเว็บไซต์บางคนพอเข้ามายังเว็บไซต์แล้ว ไม่รู้ว่าต้องทำอย่างไรต่อไป การมีปุ่ม Call to Action ในหน้าเว็บไซต์ จึงสามารถเพิ่ม Conversion Rate ให้กับเว็บไซต์ของคุณได้อย่างมีนัยยะสำคัญ

ใช้ Lead Flows เพิ่มอีกโอกาสในการขาย

Lead Flows คือ คนหรือกลุ่มคนที่มีแนวโน้มที่จะกลายมาเป็นลูกค้าของคุณได้ในอนาคต โดยเราสามารถทำนายลักษณะของ Lead Flows ได้จาก conversion rate ว่ามีคนกลุ่มใดสนใจเว็บไซต์และสินค้าของเราเป็นพิเศษ  

เมื่อรู้ลักษณะแล้ว จึงนำเอาลักษณะนั้นๆ มาใช้เป็นคุณลักษณะของ Lead Flows เพื่อหากลุ่มคนใหม่ๆ ที่มีลักษณะตรงกันกับกลุ่มคนที่เป็นฐานลูกค้าเดิมของเราอยู่แล้ว ให้มาเป็นลูกค้าใหม่ๆ ของเว็บไซต์ของเราเพิ่มมากขึ้นนั่นเอง ซึ่งวิธีการนี้จะช่วยให้เราประหยัดต้นทุนในการหากลุ่มลูกค้าใหม่ๆ ได้มาก เพราะไม่ต้องไปหว่านแหยิงโฆษณาให้กับทุกคนอย่างไม่รู้เป้าหมายนั่นเอง

ทำการทดสอบบนหน้า Landing Page

conversion rate คือ อีกหนึ่งปัจจัย ที่สามารถนำมาช่วยทดสอบบนหน้า Landing Page ของคุณว่ามีประสิทธิภาพมากเพียงใดได้ โดยการนำ conversion rate มาทำ A/B Testing หรือการทดสอบแบบเป็นคู่ๆ ว่าอะไรที่ดี และตรงใจกลุ่มเป้าหมายของเราได้มากกว่ากัน  

ยกตัวอย่างเช่น ทำการทดสอบว่าพื้นหลังสีน้ำเงินหรือสีแดงดีกว่ากัน โดยการสร้าง Landing Page ที่มีสีพื้นหลังต่างกัน โดยให้ลิงก์ A เป็นสีแดง และลิ้งค์ B เป็นสีน้ำเงิน แล้วดู Conversion Rate ว่าแบบนี้จะมี Conversion Rate สูงกว่ากัน แล้วนำมาใช้เป็นสีพื้นหลังหลักของเว็บไซต์ของคุณ นอกจากนี้ คุณยังสามารถนำไปใช้กับการจัดวางรูปภาพหรือขนาดของปุ่ม Call to Action หรือตำแหน่งที่จะวางปุ่มต่างๆ ได้อีกด้วย

ช่วยให้ผู้เข้าชมกลายมาเป็น MQL

MQL นั้นย่อมาจากคำว่า Marketing Qualified Lead คือ Lead ที่มีคุณสมบัติครบถ้วน ซึ่งได้มาจากการที่เราทำการตลาดไป แต่คนกลุ่มนี้ยังไม่ได้ซื้อสินค้าเรานั่นเอง แต่หากเราสามารถเปลี่ยนให้คนกลุ่มนี้กลายเป็นลูกค้าเราได้ Conversion Rate ที่เพิ่มสูงขึ้น เพราะกลุ่ม MQL นั้นเป็นว่าที่ลูกค้าใหม่ ที่มีลักษณะคล้ายกลุ่มลูกค้าเก่าเรา ซึ่งอาจจะกลายมาเป็นลูกค้าใหม่ของเราได้ในอนาคต

นำ Workflow แบบอัตโนมัติ เข้ามาช่วยงาน

เมื่อเราทราบแล้วว่า Conversion Rate คือ ตัวชี้วัดว่าเว็บไซต์ประสบความสำเร็จมากน้อยเพียงใด เราก็จะสามารถนำระบบ Workflow แบบอัตโนมัติ เข้ามาทำงานร่วมกันกับทางทีมบนเว็บไซต์ได้ เพราะถึงแม้ Workflow แบบอัตโนมัติจะเป็น AI ที่จะเข้ามาจัดแต่ง สลับข้อมูลต่างๆ ไว้ตามที่โปรแกรมกำหนดแบบอัตโนมัติ แต่เราก็ยังสามารถตรวจสอบประสิทธิภาพการทำงานของ Workflow แบบอัตโนมัติได้ผ่าน Conversion R ate อยู่ดี จึงไม่ต้องกังวลแต่อย่างใด เมื่อจะนำระบบ Workflow แบบอัตโนมัติมาติดตั้ง

เพิ่มคุณสมบัติในการส่งข้อความ

เมื่อคุณได้ข้อมูลลูกค้าที่ซื้อสินค้าบนเว็บไซต์ของคุณมาแล้ว อย่าลืมส่งข้อความไปขอบคุณหรือเสนอโปรโมชั่นใหม่ๆ ตามโอกาสพิเศษต่างๆ ด้วยล่ะ เพราะลูกค้าเก่านี่แหละที่รู้ดีว่าสินค้าในร้านของคุณนั้นใช้งานดีแค่ไหน การส่งข้อความไปหา ก็อาจจะทำให้ลูกค้าเก่ากลับมาซื้อซ้ำ จนกลายเป็นลูกค้าประจำของร้านคุณไปเลยก็ได้ เห็นกันหรือยังว่า conversion rate คือ คำตอบของการทำโฆษณาออนไลน์จริงๆ

เพิ่มประสิทธิภาพของเนื้อหาในเว็บไซต์

เพราะ Conversion Rate คือ สิ่งที่ขาดไปไม่ได้ในการทำโฆษณาออนไลน์ หากคุณต้องการเพิ่มประสิทธิภาพของเนื้อหาบนเว็บไซต์ของคุณ ก็สามารถใ่ช้ Conversion Rate เข้ามาช่วยได้ ผ่านการทำ A/B Tesing ทดลองใส่เนื้อหาต่างๆ เทียบกัน แล้วดูอัตรา Conversion Rate ว่าการใส่เนื้อหาแบบไหนได้ผลดีมากกว่ากัน เช่น ลิงก์ A ทดสอบด้วยการแทรกรูปภาพเยอะๆ ส่วนลิงก์ B ทดสอบด้วยการใส่ข้อมูลอ้างอิงและเนื้อหาวิชาการเยอะๆ แล้วเปรียบเทียบดูว่าลูกค้าจะสั่งซื้อสินค้าผ่านลิงก์ไหนมากกว่ากัน

กำหนดเป้าหมายใหม่ เพื่อเพิ่มยอดเข้าชม

ไม่สามารถปฏิเสธได้เลยจริงๆ ว่า  Conversion Rate คือ สิ่งที่สามารถชี้นำทิศทางการกำหนดเป้าหมายใหม่ เพื่อเพิ่มยอดชมให้เว็บไซต์ของคุณได้ เพราะ Conversion Rate ไม่เพียงแต่จะช่วยให้คุณทำ A/B Testing ได้ง่ายขึ้น แต่คุณยังสามารถใช้ข้อมูลของฐานกลุ่มลูกค้าเก่าของคุณมาปรับปรุงเว็บไซต์ ให้โดนใจกลุ่มเป้าหมายของคุณได้มากยิ่งขึ้นด้วย และนี่คือสิ่งที่ Conversion Rate สามารถช่วยพัฒนาเว็บไซต์ของคุณได้

ข้อดีของการเพิ่ม Conversion Rate

ข้อดีของการเพิ่ม Conversion Rate

Conversion Rate คือ สิ่งที่ขาดไม่ได้ในการทำโฆษณาออนไลน์ เพราะมันช่วยให้คุณประหยัดเงินในการทำการตลาดออนไลน์ได้อย่างมหาศาล ต่อไปเราจะพาคุณไปทำความรู้จักกับข้อดีของ Conversion Rate และเหตุผลดีๆ ว่าทำไมจึงควรเพิ่ม Conversion Rate กันล่ะ จะมีอะไรบ้างนั้น ตามมาอ่านกันได้เลย

รู้จักลูกค้าได้ดีมากขึ้น

Conversion Rate คือ สิ่งที่ทำให้คุณสามารถรู้จักลูกค้าของคุณได้ดีกว่าเดิม เพราะ Conversion Rate นั้นบอกว่าใครเป็นคนซื้อของจากคุณ โดยคุณควรนำข้อมูลลูกค้าจาก Conversion Rate มาใช้กำหนดเป็นกลุ่มเป้าหมาย เพราะนี่แหละคือลักษณะและคุณสมบัติที่แท้จริงของคนที่อยากซื้อสินค้าจากเว็บไซต์ของคุณ

ลดต้นทุนแต่ได้ลูกค้าเพิ่ม

Conversion Rate คือ สิ่งที่ช่วยให้คุณลดต้นทุน ได้ลูกค้าเพิ่ม เพราะในการหาลูกค้าออนไลน์ต้องใช้เงินลงทุน หากคุณมีลูกค้าเก่ามาซื้อซ้ำนั่นคือกำไร แต่คุณสามารถปรับกลุ่มเป้าหมายในการยิงโฆษณาใหม่ให้ตรงกับกลุ่มคนที่อยากซื้อสินค้าของคุณมากขึ้นได้ และนั่นจะช่วยลดต้นทุนในการหาลูกค้าของคุณลง เช่น 

จากเดิมมีคนเข้าเว็บไซต์ของคุณใช้เงิน 100 บาท เพื่อให้มีคนเข้ามาเยี่ยมชมเว็บไซต์ของคุณ 100 คน มี Conversion Rate = 20 และแต่ละออเดอร์คุณได้กำไร 10 บาท เท่ากับว่าคุณมีต้นทุน 100 บาท แต่ได้รายได้ 200 บาท หักต้นทุนแล้วมีกำไร 100 บาท

หาก Conversion Rate ของคุณเพิ่มเป็น 30 โดยที่ต้นทุนในการหาคนเข้าเว็บไซต์ของคุณยังอยู่ที่ 100 บาทเท่าเดิม แต่รายได้ของคุณจะเพิ่มขึ้นเป็น 300 บาท และจะมีกำไรสุดท้ายเพิ่มขึ้นเป็น 200 บาทนั่นเอง

สนับสนุนการทำ SEO

Conversion Rate คือ สิ่งที่ช่วยสนับสนุนการทำ SEO เพราะหากมีคนเข้ามายังเว็บไซต์ของคุณแล้วทำปฏิสัมพันธ์ ไม่ว่าจะเป็นการกดถูกใจ กดแชร์ หรือกดสั่งซื้อสินค้า ก็จะทำให้ทาง Search Engine มองว่าเว็บไซต์ของคุณเป็นเว็บไซต์ที่มีประสิทธิภาพ และจะให้คะแนนกับทางเว็บไซต์ของคุณเพิ่มขึ้น จึงทำให้ Ranking ของคุณไต่อันดับสูงขึ้นตามไปด้วย

เพิ่มมูลค่าตลอดการใช้งานของลูกค้า

Conversion Rate คือ สิ่งที่เพิ่มมูลค่าการใช้งานของลูกค้า เมื่อลูกค้าเก่ากลับมาซื้อซ้ำ ดังนั้น คุณควรเก็บข้อมูลการติดต่อของลูกค้าเดิมเอาไว้ให้ดี แล้วส่งจดหมายเชิญให้มาชมสินค้าใหม่ๆ หรือส่งอีเมลไปหาในช่วงเทศกาลสำคัญ เพื่อเป็นการรักษาการติดต่อของลูกค้าเดิมเอาไว้ ให้กลายเป็นลูกค้าประจำของร้านค้าของคุณ

มีความสามารถเหนือคู่แข่ง

Conversion Rate คือ สิ่งที่ช่วยให้คุณมีความสามารถเหนือคู่แข่ง เพราะคุณรู้แล้วว่ากลุ่มเป้าหมายของคุณคือใคร และพวกเขามีโอกาสจะกลับมาซื้อซ้ำ จนกลายเป็นลูกค้าประจำของเว็บไซต์คุณได้ในอนาคต นอกจากนี้คุณยังสามารถใช้ข้อมูลจาก Conversion Rate มาทำ A/B Testing เพื่อพัฒนาเว็บไซต์ของคุณให้มีเนื้อหาดียิ่งๆ ขึ้นไปได้อีกด้วย

การรับรู้ของแบรนด์มีความพัฒนา

Conversion Rate คือ สิ่งที่ช่วยให้รับรู้ได้ว่าแบรนด์มีความพัฒนามากยิ่งขึ้นจากจำนวน conversion rate ที่เพิ่มมากขึ้น เช่น ตอนเปิดเว็บไซต์มี Conversion Rate = 1 แต่ตอนนี้ Conversion Rate เพิ่มขึ้นมาเป็น 10 ทำให้ทราบได้ว่าแบรนด์ได้พัฒนามาถูกทางแล้ว

สรุป

เพราะ Conversion Rate คือ หัวใจของการทำโฆษณาออนไลน์ เพราะเป็นตัวบ่งชี้ความสำเร็จของการทำเว็บไซต์ ยิ่งมีค่า Conversion Rate มากเท่าไร ยิ่งแปลว่าเว็บไซต์ของคุณประสบความสำเร็จมากเท่านั้น นอกจากนี้ Conversion Rate ยังช่วยลดต้นทุนในการหาลูกค้าให้คุณ ซึ่งหมายถึงกำไรที่เพิ่มมากขึ้น หากคุณอยากทำเว็บไซต์เพื่อหารายได้ ก็ควรศึกษาเรื่อง Conversion Rate ไว้ให้ดี

FAQ – คำถามที่พบบ่อย

Conversion Rate คืออะไร

conversion rate คือ ตัวบ่งชี้ ว่าใครคือกลุ่มเป้าหมายของการโฆษณาในครั้งนี้ และยังเป็นตัวช่วยสำคัญในการออกแบบกลยุทธ์ทางการตลาดให้ตรงใจกับกลุ่มเป้าหมาย

Conversion Rate คำนวณอย่างไร

conversion rate = (จำนวนคนที่มีปฏิสัมพันธ์บนเว็บไซต์/จำนวนคนเข้าเว็บไซต์ทั้งหมด)*100

Conversion Rate ที่ดีมีลักษณะอย่างไร

ยิ่งค่า conversion rate นั้นยิ่งสูงเท่าไรก็ยิ่งดี เพราะนั่นแปลว่าต้นทุนในการขายสินค้าของเรานั้นจะลดลงตามไปด้วย

Related Articles

ให้ธุรกิจของคุณเติบโตแบบก้าวกระโดดไปกับทีมการตลาดมืออาชีพ
รับการตอบกลับภายใน 2 ชั่วโมง
รับการตอบกลับภายใน 2 ชั่วโมง