Off-Page SEO คืออะไร สำคัญแค่ไหน ทำอย่างไรให้ส่งผลดีต่อ SEO

เมื่อพูดถึงการทำ SEO สิ่งที่ขาดไม่ได้เลยคือกลยุทธ์ที่เรียกว่า การทำ Off-Page SEO หรือ Off-Page-Optimization คือ การทำ SEO ไปใช้นอกเว็บไซต์ โดยมีจุดประสงค์เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือ และปรับปรุงอันดับของเว็บไซต์ในหน้าค้นหาให้ดีขึ้น ซึ่งรายละเอียดทั้งหมดของ Off-Page SEO จะมีอะไรอีกบ้าง กลยุทธ์นี้มีการทำงานอย่างไร มีเทคนิคแบบไหน มีความสำคัญกับการทำ SEO อย่างไร ไปทำความรู้จักกับ Off-Page SEO ด้วยกันได้ในบทความนี้

กลยุทธ์ Off-Page SEO คืออะไร

Off-Page SEO คือ ทุกอย่างที่ทำนอกเว็บไซต์เพื่อให้ Google และเครื่องมือค้นหาอื่นๆ เห็นว่าเว็บไซต์ดูน่าเชื่อถือ และดูมีอำนาจ เพื่อให้ส่งผลต่อการจัดอันดับเว็บไซต์ภายในหน้าการค้นหา มีอิทธิพลต่อผู้ใช้งานที่ค้นพบหน้าเซ็บไซต์ และการมีส่วนร่วมกับเนื้อหาของคุณ

นอกจากนี้ Off-Page SEO ยังอาจหมายถึงกิจกรรมที่มีการทำนอกเว็บไซต์ เพื่อเพิ่มอันดับเครื่องมือค้นหาของเว็บไซต์ด้วย ได้แก่ การสร้าง Backlink การส่งเสริมการค้นหาแบรนด์ การเพิ่มการมีส่วนร่วม และการแชร์บนแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดีย

Off-Page SEO มีการทำงานอย่างไร

Off-Page SEO อาจแตกต่างกันไปตามแต่ละองค์กร แต่ขั้นตอนส่วนใหญ่ที่ใช้มีดังนี้

• ระบุเป้าหมาย เจาะจงเกี่ยวกับสิ่งที่ต้องการให้บรรลุเป้าหมาย เพื่อวัดว่าความพยายามนั้นประสบความสำเร็จหรือยัง อาจจำเป็นต้องปรับแคมเปญ เป้าหมาย หรือความคาดหวังด้วย
• ใช้การติดตาม ใช้การวิเคราะห์กับแง่มุมต่างๆ ของแคมเปญที่สามารถติดตามได้
• ระบุสินทรัพย์ ประเมินสิ่งที่คิดว่าสมควรได้รับการเชื่อมโยง แบ่งปันทางสังคม หรือดำเนินการโดยสาธารณะ

• เปิดใช้งานเนื้อหา ไม่ว่าจะเป็นการเผยแพร่บทความใหม่ การส่งอีเมลการตลาด การเสนอเป็นแขกรับเชิญของพอดแคสต์ การเผยแพร่ไปยังผู้มีอิทธิพลทางสังคม หรือแขวนป้ายใหม่ในหน้าต่างหน้าร้านเพื่อขอคำวิจารณ์ ที่สำคัญคืออย่าลืมบันทึกวันที่เริ่มต้น และลักษณะของแคมเปญที่ทำด้วย
• วัดผล เกณฑ์มาตรฐานความสำเร็จในช่วงเวลาต่างๆ ผลลัพธ์ของ Off-Page SEO บางรูปแบบอาจใช้เวลาหลายเดือน หรือหลายปีในการพัฒนา โดยเริ่มเรียนรู้จากการทดลอง บันทึกความสำเร็จ และการไม่หยุดเรียนรู้เพิ่มเติมเสมอ
  
  

เทคนิคในการทำ Off-Page SEO ให้ได้ผล

รวม 5 เทคนิคที่แตกต่างกันในการทำ Off-Page SEO ที่เป็นรูปแบบที่สามารถนำไปปรับใช้ เพื่อเพิ่มสิทธิ์ให้กับเว็บไซต์ และเพิ่มปริมาณการค้นหาทั่วไปบนหน้าค้นหาได้

1. การสร้างลิงก์

เนื่องจาก Off-Page SEO คือ การทำทุกอย่างนอกเว็บไซต์ จึงต้องมีการสร้างลิงก์ เพื่อทำให้เว็บไซต์อื่นๆ สามารถเชื่อมโยงไปยังหน้าต่างๆ ในเว็บไซต์ได้ ซึ่งในทาง SEO เรียกลิงก์เหล่านี้ว่า Backlink ยิ่งมี Backlink จากเว็บไซต์ที่มีสิทธิ์ในหน้าหนึ่งๆ มากเท่าใด ก็จะยิ่งดูน่าเชื่อถือสำหรับ Google มากขึ้นเท่านั้น ซึ่งการทำ Backlink สามารถช่วยให้อันดับของหน้าเว็บไซต์สูงขึ้นได้ โดยมีปัจจัยสำคัญ 2 ประการที่ควรพิจารณาในการสร้างลิงก์ ดังนี้

มีโดเมนที่ไม่เหมือนใคร

เมตริกในการสร้างลิงก์ที่สำคัญประการหนึ่งสำหรับการทำ Off-Page SEO คือ จำนวนโดเมนที่แยกจากกัน (โดเมนอ้างอิง) ที่เชื่อมโยงไปยังเว็บไซต์ การได้รับลิงก์จากโดเมนที่ไม่เหมือนใคร มีความเกี่ยวข้อง และมีคุณภาพมากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ ควรเป็นจุดสนใจหลักของกลยุทธ์ โดยสามารถดูจำนวนโดเมนเฉพาะที่เชื่อมโยงมายังเว็บไซต์ได้อย่างรวดเร็วใน Backlink Analytics ด้วยวิธีการป้อนโดเมน และคลิกไปยังวิเคราะห์ แดชบอร์ดจะแสดงจำนวนโดเมนอ้างอิงอย่างรวดเร็ว

สิทธิ์

สิทธิ์ คือ การวัดคุณภาพโดยรวมของเว็บไซต์ หรือหน้าเว็บ ขึ้นอยู่กับจำนวน Backlink คุณภาพสูงที่มี หากต้องการลิงค์จากเว็บไซต์ที่มีสิทธิ์สูง สิ่งนี้มักมีค่ามากกว่า และสามารถช่วยให้เว็บไซต์มีอันดับสูงขึ้นได้ หรือหากต้องการดูคะแนนอำนาจของเว็บไซต์ ให้ใช้เครื่องมือวิเคราะห์ Backlink แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ไม่ได้หมายความว่าควรหลีกเลี่ยงลิงก์จากเว็บไซต์ที่มีสิทธิ์น้อย แม้อาจไม่มีค่าเท่า แต่ก็ไม่ได้ส่งผลเสียต่อการทำ SEO

2. Content Marketing

Content Marketing หรือการทำคอนเทนต์ทางการตลาด คือ กลยุทธ์ Off-Page SEO ที่สำคัญ เนื่องจากการเผยแพร่เนื้อหาที่ยอดเยี่ยม ถือเป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพในการรับ Backlink รับความสนใจจากสื่อ และการหาวิธีเผยแพร่เนื้อหานั้นไปยังช่องทางอื่นๆ โดยสามารถเพิ่มสัญญาณ Off-Page ได้ ตามช่องทางต่างๆ ดังนี้

Digital PR

Digital PR คือ กลยุทธ์การสร้างลิงก์ที่การทำ SEO หลายๆ แห่งเลือกใช้ เพราะเป็นวิธียอดเยี่ยมในการรับลิงก์ที่เชื่อถือได้ในวงกว้าง การศึกษาแสดงให้เห็นว่าแคมเปญโดยเฉลี่ยได้รับลิงก์จากโดเมนอ้างอิงระหว่าง 10 ถึง 24 โดเมน โดยการทำ PR ช่วยสนับสนุนสัญญาณ Off-Page SEO ในหลายๆ ทางมากกว่าการสร้างลิงก์

Social Media

โซเชียลมีเดียไม่ใช่ปัจจัยในการจัดอันดับของ Google โดยตรง แต่เป็นการดีที่จะได้รับความสนใจมากขึ้น

ยิ่งผู้คนบนโซเชียลแบ่งปันเนื้อมากเท่าไร ก็จะยิ่งได้รับลิงก์สำหรับเนื้อหาเฉพาะนั้นมากขึ้นเท่านั้น แม้ว่าคุณจะไม่ได้รับลิงก์ แต่ก็ได้รับความสนใจมากขึ้น โดยความสนใจที่มากขึ้นนี้สามารถนำไปสู่การค้นหา และกล่าวถึงแบรนด์ได้มากขึ้น เทียบแล้วการทำคอนเทนต์ทางการตลาดแบบนี้ คือสิ่งที่มีแต่ได้กับได้ สำหรับ Off-Page SEO

Influencer Marketing

สิ่งที่จะทำให้เว็บไซต์เป็นที่รู้จักได้ง่ายอีกทางสำหรับ Off-Page SEO คือ Influencer Marketing ซึ่งเป็นกลยุทธ์ที่แบรนด์ทำงานร่วมกับบล็อกเกอร์ยอดนิยม และผู้สร้างโซเชียลมีเดีย เพื่อโปรโมตผลิตภัณฑ์ หรือบริการของตน เป็นวิธีที่ยอดเยี่ยมในการสร้างแบรนด์ ขยายเนื้อหา และเข้าถึงผู้ชมใหม่ๆ เพราะ Influencer มีผู้ชมจำนวนมาก ช่วยให้มั่นใจว่าสามารถนำเสนอแบรนด์ หรือธุรกิจบนแพลตฟอร์มที่แตกต่างหลากหลายได้

การโพสต์ของแขกรับเชิญ

ตัวช่วยที่ดีของการทำ Off-Page SEO คือ การโพสต์จากแขกรับเชิญ เพราะมีโอกาสทำให้แบรนด์ได้ปรากฏตัวต่อผู้ชมกลุ่มต่างๆ นำไปสู่การกล่าวถึงแบรนด์ และ Backlink ได้ เป็นการส่งสัญญาณไปยังเครื่องมือค้นหาว่าแบรนด์ หรือธุรกิจของคุณเป็นผู้เชี่ยวชาญในด้านนั้นๆ นอกจากนี้ ยังเป็นหนึ่งในกลยุทธ์การสร้างลิงก์ที่มีประสิทธิภาพที่สุด

พอดแคสต์

พอดแคสต์เป็นที่นิยมอย่างมากในปัจจุบัน หากไม่นำมาใช้เป็นส่วนหนึ่งของกลยุทธ์ทางการตลาด ก็อาจทำให้พลาดโอกาสมากมาย เพราะธุรกิจส่วนใหญ่ยังไม่ใช้พอดแคสต์เป็นส่วนหนึ่งของกลยุทธ์ ดังนั้น จึงเป็นวิธีที่ดีในการสร้างความได้เปรียบในการแข่งขัน นอกจากนี้ พอดแคสต์ยังเป็นวิธีที่ดีในการเข้าถึงผู้ชมใหม่ๆ และได้รับการมองเห็นบนเว็บไซต์อื่นๆ อีกทั้งพอดแคสต์ยังให้ประโยชน์เพิ่มเติมด้าน SEO ในเรื่องของ Backlink หากคุณเป็นแขกรับเชิญในพอดแคสต์ พวกเขาอาจลิงก์มาที่เว็บไซต์ของคุณ หรือหากพอดแคสต์กำลังสนทนาเรื่องใดเรื่องหนึ่ง พวกเขาอาจพบเว็บไซต์ของคุณ และใช้เป็นแหล่งข้อมูลในคำอธิบายของพวกเขา และหากทราบว่าพอดแคสต์นั้นครอบคลุมเนื้อหาใด ก็อาจลองติดต่อพวกเขา พร้อมแนะนำให้ทำการลิงก์ไปยังเนื้อหาของคุณอีกที พอดแคสต์จึงเป็นอีกหนึ่งวิธีที่ดี และสามารถช่วยให้การทำ Off-Page SEO ประสบความสำเร็จได้

การแผยแพร่เนื้อหา

การเผยแพร่เนื้อหา คือ Off-Page SEO ที่ชัดเจนอย่างหนึ่ง กล่าวคือ เป็นการเผยแพร่เนื้อหาซ้ำบนเว็บไซต์อย่างน้อยหนึ่งเว็บไซต์ สื่อสิ่งพิมพ์บางฉบับต้องการเผยแพร่เนื้อหา เพราะเป็นสิ่งที่ง่ายกว่าการสร้างเนื้อหาใหม่ตลอดเวลา ซึ่งเป็นวิธีที่ส่งผลดีต่อแบรนด์ หรือธุรกิจ เพราะการเผยแพร่เนื้อหาช่วยให้เนื้อหาของคุณกลายเป็นที่มองเห็นต่อหน้าผู้ชมกลุ่มใหม่ๆ

กระทู้

การวางลิงก์ในกระทู้เพื่อจุดประสงค์ด้าน Off-Page SEO ไม่ได้ช่วยให้เว็บไซต์ของคุณมีอันดับดีขึ้นใน Google แต่คุณสามารถใช้กระทู้นั้นๆ เพื่อสร้างการมีส่วนร่วมในการสนทนาที่เกี่ยวข้องกับความเชี่ยวชาญของคุณได้ กล่าวคือ คุณสามารถวางตำแหน่งตัวเองเป็นผู้เชี่ยวชาญในแบรนด์ หรือธุรกิจของคุณ เพื่อนำเสนอเนื้อหาที่เป็นประโยชน์ต่อผู้ใช้งาน หรือกลุ่มลูกค้าเป้าหมาย เนื่องจากมีแพลตฟอร์มอื่นๆ น้อยมากที่อนุญาตให้เปิดการสนทนากับผู้มีโอกาสเป็นลูกค้า การวางลิงก์ในกระทู้จึงเป็นวิธีที่ยอดเยี่ยมในการเริ่มต้นสร้างความสัมพันธ์ และความไว้วางใจระหว่างแบรนด์ กับกลุ่มลูกค้าเป้าหมายได้

3. Local SEO

Local SEO คือ กระบวนการเพิ่มประสิทธิภาพการนำเสนอออนไลน์ เพื่อเพิ่มการเข้าชมในท้องถิ่น การมองเห็น และการรับรู้ถึงแบรนด์ โดยองค์ประกอบ Local SEO ที่สำคัญสำหรับการทำ Off-Page SEO มีดังนี้

Google Business Profile

Google Business Profile คือ เครื่องมือแสดงรายชื่อธุรกิจแบบฟรีที่ช่วยให้ควบคุมการแสดงผลธุรกิจของคุณใน Google ได้ เนื่องจากสิ่งนี้เกิดขึ้นนอกเว็บไซต์ของคุณ การเพิ่มประสิทธิภาพ Google Business Profile จึงเป็นกลยุทธ์การทำ Off-Page SEO ที่สำคัญ รวมถึงเป็นปัจจัยสำคัญในการจัดอันดับ Local SEO และช่วยเพิ่มการมองเห็นเว็บไซต์ในตำแหน่งที่มีมูลค่าสูงในหน้าผลการค้นหาของ Google ได้

NAP Citations

NAP Citations เป็นสถานที่ออนไลน์ที่กล่าวถึงข้อมูลสำคัญเกี่ยวกับธุรกิจของคุณ ได้แก่ ชื่อ ที่อยู่ และหมายเลขโทรศัพท์ (NAP) การอ้างอิงมักปรากฏใน Business Directories โปรไฟล์โซเชียลมีเดีย และเว็บไซต์รีวิว แต่สามารถแสดงได้บนเว็บไซต์ทุกประเภท

4. บทรีวิว

บทรีวิว หรือบทวิจารณ์เป็นวิธีที่ดีในการช่วยให้ผู้อื่นไว้วางใจในธุรกิจของคุณ อันที่จริง รีวิวเป็นหนึ่งในปัจจัยที่สำคัญที่สุดที่ Google คำนึงถึงเมื่อทำการประเมินเว็บไซต์ หมายความว่ามีความสำคัญอย่างมากต่อความสำเร็จของ Local SEO โดย Google แนะนำให้ตอบกลับรีวิวทั้งหมด ทั้งดีและไม่ดี เพราะการทำเช่นนี้แสดงออกถึงการให้ความสำคัญกับธุรกิจ และคำติชมของลูกค้า

5. อีเวนต์

อีเวนต์สามารถนำไปสู่กลยุทธ์ Off-Page SEO ได้ กล่าวคือ ไม่เพียงแต่สามารถดึงดูดผู้ชม แต่ยังได้รับประโยชน์จากการสร้างกระแสให้กับธุรกิจ ซึ่งสามารถขับเคลื่อนการมีส่วนร่วม และการเชื่อมโยงทางสังคม เช่น การกล่าวถึงแบรนด์ได้ในขณะที่กิจกรรมกำลังได้รับการโปรโมต หรือหากมีผู้เข้าร่วมเขียนบทความสรุปในภายหลัง หน้า Landing Page ของงาน ยังสามารถแทรกลิงก์ได้อีกด้วย หรือบางครั้งที่มีผู้คนทั่วไป หรืออินฟลูเอนเซอร์ชื่นชอบอีเวนต์ และอาจต้องการพูดโปรโมต หรือแชร์ต่อเพื่อเป็นประโยชน์แก่ผู้ชมของพวกเขาได้

ความสำคัญของ Off-Page SEO

Off-Page SEO คือ การสร้างชื่อเสียงให้กับเว็บไซต์ของคุณ โดยเว็บไซต์ที่มีชื่อเสียงมาก มักมีแนวโน้มของอันดับที่ดีขึ้นได้ เนื่องจากเครื่องมือค้นหา Google มีการพิจารณาว่าเว็บไซต์ของคุณมีความเชี่ยวชาญ มีอำนาจ และน่าเชื่อถือมากกว่าเว็บไซต์อื่นๆ สิ่งที่สามารถทำได้ผ่าน Off-Page SEO เช่น Backlink บทวิจารณ์ และคำแนะนำ ซึ่ง Off-Page SEO ไม่เพียงแค่มีความสำคัญในเรื่องเหล่านี้เท่านั้น แต่ยังมีบทบาทสำคัญที่สามารถจัดอันดับเว็บไซต์ได้อีกด้วย โดยหลักๆ มีความสำคัญอยู่ดังนี้

เป็นแนวทางให้กับผู้ประเมินคุณภาพการค้นหา

Google ใช้ทีมงานผู้ประเมินคุณภาพจากทั่วโลก โดยมีหน้าที่ประเมินว่าอัลกอริทึม และการทดสอบปัจจุบันให้ผลลัพธ์ที่เกี่ยวข้องกันหรือไม่ หลักเกณฑ์ที่ครอบคลุมที่พวกเขาได้รับไม่ควรเทียบโดยตรงกับการจัดอันดับ แต่การอ่านคำแนะนำเหล่านี้เผยให้เห็นแนวคิดเกี่ยวกับคุณภาพ ความเชี่ยวชาญ ประสบการณ์ และความน่าเชื่อถือของ Google ได้อย่างมาก ซึ่งในเอกสารระบุชัดเจนว่า Google ให้ความสำคัญกับจำนวนลิงก์ และกล่าวถึงหน้าเว็บไซต์ หรือเนื้อหาที่เผยแพร่ สิ่งนี้จึงเป็นเหตุผลหลักว่าทำไม Off-Page SEO คือกลยุทธ์ที่มุ่งเน้นไปที่การรับการแจ้งเตือนประเภทนี้

ช่วยในการปรับปรุงระบบอัลกอริทึม

เนื่องจาก Google เผยแพร่การอัปเดตอัลกอริทึมที่ได้รับการยอมรับเป็นประจำ จึงสามารถดูสรุปการอัปเดตเหล่านี้ได้ที่นี่ ทุกๆ 2-3 เดือน โดย Google จะเปิดตัวการอัปเดตหลักอยู่แล้ว แต่อาจมีการออกการอัปเดตอื่นๆ ออกมาด้วยเป็นระยะๆ เพื่อแก้ปัญหาที่มีความเฉพาะเจาะจงมากขึ้น โดยผู้ที่ทำเว็บไซต์ SEO ควรมีการติดตาม และศึกษาการอัปเดตอยู่เสมอ 

การทำ SEO ต้องเรียนรู้ว่า Google พึ่งพาลิงก์ และการอ้างอิงมากแค่ไหนในการประมวลผล และจัดอันดับผลลัพธ์ รวมถึงต้องเรียนรู้ว่า Google ไม่ชอบอะไร และเรียนรู้แนวทางปฏิบัติมีบางอย่างที่อาจส่งผลต่อการเพิ่มขึ้น หรือลดลงของอันดับเว็บไซต์

ช่วยในการทดลอง และพัฒนาการทำ SEO

SEO ที่ดี คือ การทดลอง ศึกษา และสำรวจด้วยตนเองอย่างต่อเนื่อง เพื่อค้นหาข้อมูลเชิงลึกเพิ่มเติมเกี่ยวกับวิธีใช้ SEO ประเภทต่างๆ มีอิทธิพลต่อการมองเห็นในเครื่องมือค้นหา และพฤติกรรมของผู้ค้นหา SEO จำนวนมากเผยแพร่ผลการทดลองของตนเป็นประจำ ด้วยเหตุนี้ Off-Page SEO จึงให้ความสำคัญกับการหาลิงก์ และการอ้างอิง เนื่องจากปัจจัยเหล่านี้อาจส่งผลต่อการมองเห็น และการค้นพบเว็บไซต์ของเครื่องมือค้นหาได้

สรุป

Off-Page SEO คือการกระทำต่างๆ ที่ทำนอกเว็บไซต์เพื่อให้ Google และเครื่องมือค้นหาอื่นๆ เห็นว่าเว็บไซต์ดูน่าเชื่อถือ ซึ่งส่งผลต่อการจัดอันดับภายในหน้าการค้นหา โดยเทคนิคการทำ Off-Page SEO คือ เริ่มจากการสร้างลิงก์ รวมไปถึงสามารถกิจกรรมนอกเว็บไซต์ เช่น Content Marketing, Local SEO บทวิจารณ์ และอีเวนต์ โดยการทำ Off-Page SEO ต่างๆ นี้ ส่งผลต่อเว็บไซต์ได้ทั้งทางตรง และทางอ้อม ถือเป็นกลยุทธ์ที่ดีที่ควรทำ หากคุณอยากทำ SEO เพื่อให้เว็บไซต์ขึ้นการค้นหาอันดับต้นๆ ในหน้าแรกแล้วสนใจกลยุทธ์ Off-Page SEO ก็สามารถนำไปประยุกต์ใช้ได้ หรือหากต้องการทำ SEO โดยใช้กลยุทธ์อื่นๆ สามารถปรึกษากับทาง Minimice Group ได้ เพราะเรามีทีมงานผู้มีประสบการณ์ในการทำ SEO ให้กับหลายธุรกิจ เพื่อออกแบบกลยุทธ์ที่ดี และเหมาะสมให้กับธุรกิจของคุณ เพื่อผลลัพธ์ที่มีประสิทธิภาพสูงสุด

คำถามที่เกี่ยวข้องกับ Off-Page SEO (FAQ)

เราได้รวบรวมคำถาม และตอบข้อสงสัยต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับเรื่องของ Off-Page SEO เพื่อให้เข้าใจ และรู้จักกับกลยุทธ์นี้ให้มากขึ้น