Key Takeaway
- Quality Score เป็นการวัดคุณภาพของโฆษณา Google Ads โดยคำนึงถึงความเกี่ยวข้องของคำหลัก ความเกี่ยวข้องของโฆษณา และประสบการณ์หน้า Landing Page อีกทั้งยังมีผลต่อค่าใช้จ่ายในการโฆษณา และตำแหน่งการแสดงผลของโฆษณา
- Quality Score สามารถวัดได้ที่ระดับบัญชี กลุ่มโฆษณา คำหลัก โฆษณา และหน้า Landing Page แต่ละประเภทมีการคำนวณที่แตกต่างกัน
- การปรับปรุง Quality Score สามารถทำได้โดยการปรับแต่งข้อความโฆษณา จัดโครงสร้างบัญชีให้ละเอียด เลือกหน้า Landing Page ที่เกี่ยวข้องสูง ใช้ส่วนขยายของโฆษณา และการเพิ่มประสิทธิภาพโฆษณา
- การตรวจสอบ Quality Score สามารถทำได้ผ่าน Google Ads Interface โดยติดตามคะแนนและปรับปรุงตามคำแนะนำที่ได้รับ
ในโลกของการทำ Google Ads การเข้าใจและเจาะลึกเรื่อง Ads Quality Score ถือเป็นหนึ่งในกุญแจสำคัญที่นำไปสู่ความสำเร็จในการทำโฆษณาออนไลน์ได้อย่างแท้จริง Quality Score คือ สิ่งที่ Google ใช้ในการประเมินประสิทธิภาพของโฆษณา ซึ่งไม่เพียงแต่ส่งผลต่อการจัดอันดับโฆษณา แต่ยังมีบทบาทสำคัญในการกำหนดค่าใช้จ่ายต่อคลิก (CPC) อีกด้วย
ดังนั้น บทความนี้จะพาไปทำความเข้าใจ ถึง Ads Quality Score คืออะไร พร้อมเคล็ดลับเพิ่มคะแนน เพื่อปรับปรุงประสิทธิภาพโฆษณา พร้อมลดต้นทุนอย่างมีประสิทธิผล
Quality Score ดัชนีชี้วัดคุณภาพโฆษณา
Ads Quality Score หรือคะแนนคุณภาพ คือ ตัวชี้วัดที่ Google Ads ใช้ในการประเมินความเกี่ยวข้องและคุณภาพของโฆษณา โดยคะแนนนี้จะอยู่ในช่วง 1 ถึง 10 ซึ่งแสดงถึงระดับคุณภาพของโฆษณา คีย์เวิร์ด และหน้า Landing Page ซึ่งคะแนนที่สูงหมายถึงโฆษณามีความเกี่ยวข้อง และดึงดูด ผู้เยี่ยมขมเว็บได้ดี โดยมีรายละเอียด ดังนี้
- คะแนน 1-3 = แย่มาก: โฆษณาอาจมีปัญหาเรื่องความเกี่ยวข้องกับคีย์เวิร์ด หรือหน้า Landing Page ที่ไม่ได้รับการปรับปรุง
- คะแนน 4-6 = ทั่วไป: โฆษณามีคุณภาพระดับกลางๆ อาจต้องปรับแต่งเพิ่มเติมเพื่อให้ดึงดูดกลุ่มเป้าหมายได้ดียิ่งขึ้น
- คะแนน 7-8 = ดี: โฆษณามีคุณภาพดี มีความเกี่ยวข้องและดึงดูด แต่ยังสามารถปรับปรุงได้อีกเล็กน้อย
- คะแนน 9-10 = ดีมาก: โฆษณามีคุณภาพสูงสุด และสามารถดึงดูดผู้เยี่ยมชมได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้มีโอกาสสูงที่จะได้รับอันดับที่ดีกว่าในราคาที่ต่ำกว่า
ดังนั้น จะเห็นว่า Google Ads ใช้ Quality Score เป็นหนึ่งในปัจจัยสำคัญในการคำนวณอันดับโฆษณา (Ad Rank) ซึ่งมีผลโดยตรงต่อการแสดงผลของโฆษณาและค่าใช้จ่ายต่อคลิก (CPC) ด้วยการใช้สูตร Ad Rank=Quality Score×Max CPC Bid เพราะยิ่ง Quality Score สูงมากเท่าไร โฆษณาก็ยิ่งมีโอกาสได้อันดับที่ดีกว่าในราคาที่ต่ำลง
Google วัด Quality Score จากอะไรบ้าง
Google ใช้ Ads Quality Score เป็นเครื่องมือสำคัญในการประเมินคุณภาพของโฆษณาด้วยการวัดคะแนนคุณภาพจากปัจจัยหลัก 3 ข้อที่ช่วยให้ Google สามารถคัดเลือกโฆษณาที่มีคุณภาพและมีความเกี่ยวข้องที่สุดได้อย่างแม่นยำ ซึ่งการทำความเข้าใจถึงปัจจัยเหล่านี้ จะช่วยให้สามารถปรับปรุงโฆษณา และเพิ่มประสิทธิภาพของแคมเปญได้อย่างมีประสิทธิผล โดยมีปัจจัยหลัก 3 ข้อดังต่อไปนี้
Expected CTR
Expected CTR (Click-Through Rate) คือ ตัวชี้วัดที่ Google Ads ใช้ในการประเมินความน่าดึงดูดของโฆษณา ซึ่งหากต้องการเพิ่ม Expected CTR ให้สูงขึ้น คุณสามารถทำได้หลายวิธี ดังนี้
- ปรับปรุงเนื้อหาโฆษณาด้วยการสร้างข้อความโฆษณาที่ชัดเจนและดึงดูดความสนใจ
- ทดลองกับข้อความโฆษณาต่างๆ เพื่อหาว่าแบบไหนที่ทำงานได้ดีที่สุดและปรับปรุงอัตราการคลิก
Ad Relevance
Ad Relevance คือ การวัดความสอดคล้องระหว่างข้อความของโฆษณา และคีย์เวิร์ดที่ใช้ในการกำหนดโฆษณา ซึ่งหากต้องการเพิ่ม Ad Relevance ให้มีประสิทธิภาพที่สูงขึ้น สามารถทำได้หลายวิธีเช่นกัน ดังนี้
- เขียนข้อความโฆษณาที่ชัดเจนและตรงกับคีย์เวิร์ด
- ปรับปรุงหน้า Landing Page มีเนื้อหาที่เกี่ยวข้องกับโฆษณาและคีย์เวิร์ด เพื่อให้ประสบการณ์ของผู้ใช้ตรงกับสิ่งที่คาดหวัง
Landing Page Experience
Landing Page Experience คือการประเมิน Quality ว่าเมื่อ User คลิกโฆษณาแล้วเข้าสู่หน้า Landing Page นั้นๆ จะทำให้ได้รับประสบการณ์ที่ดี และตรงตามความคาดหวังหรือไม่ โดยหน้า Landing Page ที่ดีจะต้องประกอบด้วย 3 สิ่งหลักดังต่อไปนี้
- ความชัดเจน (Clear) คือ หน้า Landing Page ควรมีข้อมูลที่ชัดเจนและเข้าใจง่าย โดยผู้ใช้สามารถหาข้อมูลที่ต้องการได้อย่างรวดเร็ว ซึ่ง การปรับปรุงความชัดเจนสามารถทำได้โดยการตรวจสอบให้แน่ใจว่าเนื้อหาของหน้า Landing Page ตรงกับข้อความโฆษณาและคีย์เวิร์ดที่ใช้ และการออกแบบหน้าให้สวยงามและใช้งานง่าย
- มีประโยชน์ (Useful) คือ หน้า Landing Page ควรมีข้อมูลที่มีคุณค่าและเป็นประโยชน์ต่อ User ซึ่งสามารถปรับปรุงได้โดยการให้เนื้อหาที่ตรงกับความต้องการของกลุ่มเป้าหมายและการเพิ่มฟังก์ชันที่ช่วยให้ผู้ใช้สามารถทำสิ่งที่ต้องการได้อย่างง่ายดาย
- มีความเกี่ยวข้องของหน้า Landing Page (Relevant) คือ หน้า Landing Page ต้องมีความเกี่ยวข้องกับโฆษณาและคีย์เวิร์ดที่ใช้ ซึ่งสามารถปรับปรุงได้ด้วยการสร้างหน้า Landing Page ที่มีเนื้อหาตรงกับข้อเสนอในโฆษณาและการใช้คีย์เวิร์ดที่ตรงตามความต้องการของ User
Quality Score บน Google Ads สำคัญอย่างไร
Ads Quality Score คือ คะแนนคุณภาพที่มีความสำคัญต่อโฆษณาบน Google ด้วยเหตุผล 3 ข้อ ดังนี้
- Quality Score มีบทบาทสำคัญในการกำหนดอันดับที่โฆษณา จะปรากฏในผลการค้นหา ยิ่ง Quality Score สูง โฆษณาก็มีโอกาสแสดงในอันดับที่ดีกว่า ซึ่งสามารถเพิ่มโอกาสในการได้รับคลิกและการมองเห็น
- โฆษณาที่มี Quality Score สูงมักจะมีค่าใช้จ่ายต่อคลิก (CPC) ที่ต่ำกว่า เนื่องจาก Google มีแรงจูงใจในการแสดงโฆษณาที่มีคุณภาพดี และเกี่ยวข้อง เพื่อให้ Userได้รับประสบการณ์ที่ดีที่สุด
- Quality Score ช่วยให้เข้าใจประสิทธิภาพของโฆษณาได้ดีขึ้น โดยการพิจารณาจากความเกี่ยวข้องของโฆษณา และประสบการณ์ของหน้า Landing Page ทำให้คุณสามารถปรับปรุงโฆษณาและกลยุทธ์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
7 ประเภทของ Quality Score ที่ต้องรู้
Ads Quality Score บน Google Ads ไม่เพียงแต่เป็นตัวชี้วัดคุณภาพของโฆษณาเพียงอย่างเดียวเท่านั้น แต่ยังสามารถแบ่งออกเป็นหลากหลายหมวดหมู่ ซึ่งแต่ละประเภทก็มีลักษณะ และรายละเอียดที่แตกต่างกัน ดังนี้
1. Account-Level Quality Score
Account-Level Quality Score คือคะแนนที่สะท้อนประสิทธิภาพรวมของคีย์เวิร์ดกับโฆษณาทั้งหมดในบัญชี Google Ads โดยคะแนนนี้จะลดลงหากบัญชีมีคีย์เวิร์ดและโฆษณามีประสิทธิภาพต่ำ ซึ่งส่งผลให้การเพิ่มคีย์เวิร์ดใหม่นั้นอาจทำได้ยากขึ้น ดังนั้น จึงควรปรับปรุงภายในบัญชีเดิมโดยการปรับโครงสร้างเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพให้สูงขึ้นนั่นเอง
2. Ad Group Quality Score
Ad Group Quality Score คือการวัดคุณภาพของกลุ่มโฆษณาที่ช่วยให้ระบุพื้นที่ที่ต้องปรับปรุงภายในแคมเปญ หากมีคะแนนคุณภาพคีย์เวิร์ดต่ำในกลุ่มโฆษณาหนึ่ง แต่คะแนนเฉลี่ยรวมของบัญชีอยู่ที่ 7 ขณะที่กลุ่มโฆษณาอีกกลุ่มมีคะแนนเฉลี่ยที่ 4 จะเห็นได้ชัดเจนว่าควรมุ่งเน้นการปรับปรุงที่ไหนก่อน การปรับปรุงกลุ่มโฆษณาที่มีคะแนนเฉลี่ยต่ำช่วยให้บรรลุ ROI ที่ดีกว่า
3. Keyword-Level Quality Score
Keyword-Level Quality Score คือคะแนนของคีย์เวิร์ดซึ่งแสดงใน Google Ads โดยคะแนนมีช่วง 1–10 โดย 1 หมายถึงคุณภาพต่ำ และ 10 หมายถึงคุณภาพดีเยี่ยม ซึ่งคีย์เวิร์ดจะได้รับคะแนนตามประสิทธิภาพย้อนหลังใน Google จนกว่าจะมีการแสดงผลจำนวนมากในบัญชี (หลายพันครั้ง) ซึ่งเรียกว่าขีดจำกัดการแสดงผล เมื่อคีย์เวิร์ดมีการแสดงผลจำนวนมาก คะแนนจะสะท้อนถึงประสิทธิภาพในบัญชีมากขึ้น
4. Ad-Level Quality Score
Ad-Level Quality Score คือคะแนนที่มอบให้กับโฆษณาในแต่ละกลุ่ม ซึ่งช่วยกำหนด Quality Score รวมของบัญชี หากกลุ่มโฆษณามีโฆษณาที่มี CTR ต่ำมาก โฆษณาเหล่านี้อาจลด Quality Score โดยรวม เพราะ Google Ads จะพิจารณาโฆษณาทั้งหมดจากการคำนวณ โดยการใช้โฆษณาที่มีการใส่คีย์เวิร์ดแบบไดนามิก (DKI) ช่วยเพิ่ม CTR ได้ เพราะโฆษณาจะมีความเกี่ยวข้องมากขึ้นกับคำค้นหาของผู้ใช้ แต่ต้องระวังไม่ให้ CTR สูงโดยที่โฆษณาไม่ทำการแปลงนั่นเอง
5. Landing Page Quality Score
Landing Page Quality Score คือการประเมินคุณภาพของหน้า Landing Page โดยพิจารณาจากเนื้อหาที่เกี่ยวข้อง ความเป็นต้นฉบับ และความสามารถในการนำทาง ดังนั้น การมีหน้า Landing Page ที่ใช้งานง่าย และโหลดเร็วสามารถช่วยเพิ่มโอกาสในการเปลี่ยนผู้เยี่ยมชมเป็นลูกค้า พร้อมทั้งยังสามารถปรับปรุง ROI ได้อีกด้วย
6. Display Network Quality Score
Display Network Quality Score คือ การพิจารณาประสิทธิภาพโฆษณาในเว็บไซต์ที่เกี่ยวข้อง ความเกี่ยวข้องของโฆษณา และคุณภาพของหน้า Landing Page ซึ่งในกรณีที่ใช้ CPM คะแนนจะขึ้นอยู่กับคุณภาพของหน้า Landing Page ส่วน CPC จะพิจารณาจาก CTR ประวัติของโฆษณา และคุณภาพของหน้า Landing Page ด้วยการทดสอบประเภทโฆษณาต่างๆ เพื่อช่วยปรับปรุง Quality Score นั่นเอง
7. Mobile Quality Score
Mobile Quality Score คือ การถูกคำนวณในลักษณะเดียวกันกับอุปกรณ์อื่นๆ แต่ระบบจะพิจารณาระยะทางระหว่าง User และสถานที่ธุรกิจเมื่อมีข้อมูลที่เกี่ยวข้อง โดยใช้ข้อมูลตำแหน่งของอุปกรณ์ และข้อมูลการขยายตำแหน่ง แม้ว่าโฆษณาจะมีคะแนน QS ที่แตกต่างกันระหว่างเวอร์ชันมือถือและเดสก์ท็อป แต่ไม่ต้องกังวลไปเพราะจริงๆ แล้วคะแนน Quality Score นั้นยังคงเหมือนเดิม
5 เคล็ดลับการปรับปรุง Quality Score ให้สูงขึ้น
หากต้องการเพิ่ม Ads Quality Score หรือคะแนนคุณภาพของโฆษณาบน Google Ads ให้ดียิ่งขึ้น สามารถทำได้ด้วยการปรับปรุงตามเคล็ดลับ 5 วิธี ดังนี้
1. การปรับแต่งข้อความ (Tailored ad copy)
การปรับแต่งข้อความโฆษณา คือการทำให้ข้อความตรงกับคีย์เวิร์ดที่กำหนด เพื่อเพิ่มความเกี่ยวข้องและประสบการณ์ของ User ซึ่งสามารถช่วยเพิ่ม Quality Score ได้อย่างมีประสิทธิภาพ เช่น การใช้ข้อความเช่น “เสื้อยีนลดราคาพิเศษ” จะทำให้โฆษณาดึงดูดความสนใจมากขึ้น นอกจากนี้ การเพิ่มข้อเสนอพิเศษจะช่วยเพิ่มอัตราการคลิกผ่าน (CTR) ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญในการคำนวณ Quality Score
2. การจัดการโครงสร้างของ Google Ads (Granular account structure)
การจัดการโครงสร้างของบัญชี Google Ads (Granular account structure) หมายถึงการสร้างโครงสร้างบัญชีที่มีการจัดกลุ่มโฆษณาอย่างละเอียด และมีความเฉพาะเจาะจง ตัวอย่างเช่น หากต้องการขายเสื้อผ้า การสร้างกลุ่มโฆษณาที่แยกตามประเภทของเสื้อผ้าจะช่วยให้โฆษณาตรงกับความต้องการของ User มากขึ้น
3. การเลือกหน้า Landing Page ที่มีความเกี่ยวข้องสูง (Choose highly relevant landing pages)
การเลือกหน้า Landing Page ที่มีความเกี่ยวข้องสูงหมายถึงการเลือกหน้าเว็บไซต์ที่ตรงกับคำค้นหา และเนื้อหาของโฆษณาเพื่อเพิ่ม Quality Score ตัวอย่างเช่น หากโฆษณาเกี่ยวกับ “เสื้อยีน” ควรเลือกหน้า Landing Page ที่แสดงรายละเอียดเกี่ยวกับเสื้อยีน เช่น รูปภาพ และปุ่มซื้อที่ชัดเจน การออกแบบหน้าเว็บไซต์ให้โหลดเร็ว และใช้งานง่ายจะช่วยปรับปรุงประสบการณ์ของ User ทั้งยังช่วยเพิ่มความเกี่ยวข้องของหน้าเว็บไซต์ได้เช่นกัน
4. การให้ความสำคัญกับส่วนขยายของโฆษณา (Ad extensions)
การให้ความสำคัญกับส่วนขยายของโฆษณา (Ad extensions) หมายถึงการเพิ่มฟีเจอร์เสริมในโฆษณาเพื่อเพิ่มความน่าสนใจ และการมีส่วนร่วมของ User ซึ่งจะช่วยปรับปรุง Quality Score คือ การใช้ส่วนขยายเช่น ข้อมูลติดต่อ รีวิว ข้อเสนอพิเศษที่จะช่วยให้โฆษณาดูโดดเด่น และให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์เพิ่มเติมแก่ผู้ใช้ จะทำให้โฆษณามีความเกี่ยวข้องมากขึ้น และเพิ่มโอกาสที่ User จะคลิกนั่นเอง
5. การเพิ่มประสิทธิภาพของโฆษณา (Optimization)
การเพิ่มประสิทธิภาพของโฆษณา (Optimization) หมายถึงการปรับปรุงโฆษณา และการตั้งค่าแคมเปญเพื่อให้โฆษณามีประสิทธิภาพสูงสุด โดยการปรับแต่งจะเน้นที่การทำให้โฆษณามีความเกี่ยวข้อง และตรงตามความต้องการของ User มากขึ้น ตัวอย่างเช่น การทดสอบ A/B ของข้อความโฆษณาเพื่อหาคำที่มีอัตราการคลิกผ่าน (CTR) สูงที่สุด ซึ่งการปรับปรุงเหล่านี้ช่วยให้โฆษณามีความเกี่ยวข้องมากขึ้นกับคำค้นหา และความสนใจของ User ซึ่งจะส่งผลให้มีอัตราการคลิกผ่านสูงขึ้น และคะแนนคุณภาพดีขึ้นนั่นเอง
วิธีดู Quality Score จากการทำโฆษณา
ถ้าหากต้องการตรวจสอบค่า Quality Score ของโฆษณาเพื่อประเมินประสิทธิภาพ และปรับปรุงแคมเปญ สามารถทำตามขั้นตอนดังนี้
- เข้าสู่ระบบ Google Ads
- เลือกแคมเปญหรือกลุ่มโฆษณา
- ไปที่แท็บ “คำหลัก” เพื่อดูข้อมูลเกี่ยวกับคะแนน Quality Score
- คลิกที่ปุ่ม “คอลัมน์” และเลือก “Quality Score” จากเมนู
- ตรวจสอบคะแนน
- คลิกที่คะแนน Quality Score เพื่อดูข้อมูลรายละเอียดเพิ่มเติม
- ปรับปรุงตามข้อมูล
สรุป
Ads Quality Score คือ คะแนนคุณภาพของ Keyword บนโฆษณา Google ที่มีความสำคัญต่อการทำการตลาดในปัจจุบัน เป็นส่วนประกอบที่ส่งผลต่อการปรากฏของโฆษณา และสามารถบอกผู้ใช้งานได้ว่าตรงกับความต้องการมากหรือน้อยแค่ไหน ทำให้การมีคะแนนคุณภาพที่สูงก็จะทำให้สินค้าได้รับความสนใจมากขึ้น และการมีคะแนนดังกล่าวสูง ยังส่งผลให้ค่าใช้จ่ายในการลงทุนทำการตลาดกับ Google Ads ลดลงอีกด้วย
FAQ – คำถามที่พบบ่อย
ทำไม Google Ads ถึงมี Quality Score ต่ำ
Google Ads อาจมี Quality Score ต่ำได้จากหลายปัจจัยหลัก เช่น ความไม่เกี่ยวข้องของคำหลักหรือข้อความโฆษณากับเนื้อหาของหน้า Landing Page ซึ่งส่งผลให้ CTR ต่ำและการตอบสนองของ User ไม่ดี นอกจากนี้ประสบการณ์ของหน้า Landing Page ที่ไม่ดีก็สามารถลด Quality Score ได้เช่นกัน
Quality Score ของ Google Ads เปลี่ยนแปลงและอัปเดตบ่อยแค่ไหน
Quality Score ของ Google Ads จะเปลี่ยนแปลงและอัปเดตบ่อยครั้งเพื่อสะท้อนประสิทธิภาพล่าสุดของโฆษณา โดยปกติจะมีการอัปเดตอย่างสม่ำเสมอทุกวัน หรือทุกครั้งที่มีการคลิกโฆษณาใหม่ การเปลี่ยนแปลงนี้เกิดจากการวิเคราะห์ข้อมูลใหม่
การปรับปรุง Quality Score ต้องใช้เวลานานแค่ไหน
การปรับปรุง Quality Score อาจใช้เวลาหลายสัปดาห์ถึงหลายเดือน ขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายประการ เช่น ความถี่ของการคลิกโฆษณา และการเปลี่ยนแปลงที่ทำในโครงสร้างโฆษณาและหน้า Landing Page
Quality Score เป็น KPI หรือไม่
Quality Score ไม่ถือเป็น KPI (Key Performance Indicator) โดยตรง แต่เป็นตัวชี้วัดที่สำคัญใน Google Ads ซึ่งช่วยประเมินประสิทธิภาพของโฆษณา และผลกระทบต่อค่าใช้จ่าย รวมถึงตำแหน่งการแสดงผลของโฆษณา