วิธีการทำ Disavow Link ป้องกัน Backlink ที่ไร้คุณภาพ เพื่อ SEO ที่ดี

Disavow Link คืออะไร? ก่อนอื่นเลยต้องบอกว่าคนที่อยู่ในสายงานด้านการตลาดดิจิทัล หลายคนอาจคุ้นเคยกับการ ทำ SEO หรือ Search Engine Optimization และสิ่งสำคัญในการทำ SEO ก็คือการทำ Backlink ซึ่งเป็นตัวช่วยในการตัดสินจากทาง Google ว่าเว็บไซต์ของคุณเป็นเว็บไซต์ที่มีคุณภาพและมีความน่าเชื่อถือ เหล่านักการตลาดจึงมีความพยายามในการทำ Backlink ให้ได้ในปริมาณมากๆ เพื่อเพิ่มโอกาสให้เว็บไซต์ติดอันดับต้นๆ ในหน้าการค้นหาของ Google

อย่างไรก็ตาม การทำ Backlink ในปริมาณมากๆ ไม่ได้เป็นตัวการันตีว่าเว็บไซต์มีคุณภาพหรือน่าเชื่อถืออีกต่อไป เพราะปัจจุบันมีการ “โกง” การทำ SEO ด้วยการทำ Backlink ที่ไม่ดี หรือ Bad Backlink ซึ่งเป็นการเน้นปริมาณ แต่ไม่เน้นคุณภาพของ Backlink ทำให้ระบบการประมวลผลของทาง Google ได้เริ่มมีการเรียนรู้และอัปเดตอัลกอริทึม พร้อมพัฒนาเครื่องมือกำจัดลิงก์ดังกล่าว เรียกว่า Disavow Link บทความนี้ จึงจะพาไปดูว่า Disavow Link คืออะไร พร้อมวิธีการทำ Disavow Link เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการทำ SEO

ทำความรู้จัก Disavow Link คืออะไร

Disavow Link คือ กระบวนการที่เจ้าของเว็บไซต์ปฏิเสธลิงก์ที่ส่งมายังเว็บไซต์ และทำการแจ้งไปยัง Google เพื่อกำจัดลิงก์ดังกล่าวออกไป เพราะบางลิงก์ที่เว็บไซต์ได้รับ อาจเป็นลิงก์ที่ไม่ดี หรือไม่มีคุณภาพ ซึ่งจะส่งผลเสียระยะยาวต่อการทำ SEO จนทำให้อันดับเว็บไซต์ของคุณร่วงหล่นตกกระป๋อง หรือหากร้ายแรงที่สุดก็คือการโดนแบนเว็บไซต์ของคุณออกไปจากหน้าค้นหา

เพราะอย่างที่รู้กันว่า Backlink คือ องค์ประกอบสำคัญของการทำ SEO การพิจารณาจัดอันดับความน่าเชื่อถือ และคุณภาพของเว็บไซต์ การมี Backlink ที่ไม่ดีเข้ามาอยู่ในเว็บไซต์ของคุณจึงเป็นสิ่งที่ควรระวัง ต้องหมั่นตรวจสอบอยู่เสมอ หากมีการตรวจพบเจอและไม่รีบกำจัดออกไป Google อาจเข้าใจผิดว่าเว็บไซต์ของคุณกำลังทำการโกงอันดับในหน้า Search Engine ด้วยการทำ Backlink ที่ไม่ถูกวิธีได้

ความสำคัญของการทำ Disavow Link

หากใครที่ทำ SEO อย่างถูกต้องตามกฎเกณฑ์ของทาง Google แล้ว แต่เว็บไซต์ของคุณยังไม่ได้รับการจัดอันดับให้อยู่ในหน้าแรกของการค้นหาสักที นั่นอาจเป็นเพราะว่าเว็บไซต์ของคุณอาจกำลังถูกโจมตีหรือถูกทำร้ายด้วย Backlink ที่ไม่ดีอยู่ ดังนั้น การหมั่นตรวจสอบและทำ Disavow Link เพื่อป้องกันปัญหาสแปม Backlink จากผู้ที่ไม่ประสงค์ดีต่อเว็บไซต์ของคุณ จึงมีความสำคัญอย่างมาก เพราะการทำ Disavow Link คือวิธีการที่เข้ามาช่วยแก้ไขปัญหาเหล่านี้ ก่อนที่เว็บไซต์ของคุณจะถูกลงโทษด้วยการลดอันดับในหน้าค้นหาหรืออาจถึงขั้นโดนแบนเว็บไซต์ไปตลอดกาล

ลักษณะของลิงก์ที่ไม่ดีและไม่มีคุณภาพ

หลายคนอ่านมาถึงตรงนี้คงมีคำถามว่าแล้ว Backlink ที่ไม่มีคุณภาพ หรือ Backlink ที่ไม่ดีมีลักษณะอย่างไร คำตอบคือทุกคนสามารถตรวจสอบรวมถึงแยกลักษณะต่างๆ ด้วยข้อสังเกตดังต่อไปนี้

• ลิงก์ที่มี Anchor Text หรือ Text link ที่มีคำแปลกๆ ที่ไม่มีความเกี่ยวข้องกับเนื้อหา ข้อมูล สินค้า หรือผลิตภัณฑ์ในเว็บไซต์ของเรา
• ลิงก์ที่มาจากเว็บไซต์ที่ไม่เกี่ยวข้องหรือเป็นเว็บไซต์ที่เราไม่รู้จัก
• ลิงก์ที่มาจากเว็บไซต์ที่มีเนื้อหาที่ไม่เป็นประโยชน์ ไม่มีสาระ หรือลามกอานาจาร
• ลิงก์ที่วางอยู่ในสแปมคอมเมนต์หรือมีซ้ำๆ อยู่ในหน้า Page เดียว
• ลิงก์ที่มาจาก Forum หรือกระทู้ที่ไม่มีความเกี่ยวข้องกับเว็บไซต์ของเรา
• ลิงก์ที่มาจากต่างประเทศที่ไม่ใช่กลุ่มลูกค้าหรือกลุ่มเป้าหมายของเว็บไซต์เรา
• ลิงก์ที่ถูกซ่อนเอาไว้ด้วยการเอารูปภาพมาบดบังหรือใช้สีข้อความที่จงใจให้มองไม่เห็น
  
  

ควรเริ่มทำ Disavow Link ตอนไหน

ก่อนเริ่มทำ Disavow Link ทุกคนสามารถตรวจสอบ หรือสังเกตได้จากปัญหาต่างๆ ที่อาจเกิดขึ้นกับเว็บไซต์ของคุณ ดังนี้

เมื่อได้รับคำเตือนจาก Google

สำหรับเว็บไซต์ที่มี Backlink ที่ไม่ดี ส่งเข้ามาเป็นจำนวนมาก โดยปกติแล้วจะได้รับคำเตือนจาก Google Search Console ในหัวข้อ “Unnatural links to your site” ซึ่งในคำเตือนนี้จะบอกวิธีการลบลิงก์ที่ไม่ดีเหล่านั้นเอาไว้อย่างชัดเจน เมื่อเราทำการกำจัดลิงก์ไม่ดีด้วยการทำ Disavow Link แล้ว ก็อาจทำให้อันดับของเว็บไซต์ดีขึ้นได้ 

แต่ในหลายครั้งก็ไม่ได้เป็นเช่นนั้นเสมอไป เพราะปัจจุบันมีเว็บไซต์จำนวนน้อยมากๆ ที่ได้รับคำเตือนจาก Google ดังนั้นการหมั่นตรวจสอบลิงก์แปลกปลอมหรือ Backlink ที่ไม่ดีอย่างเป็นประจำ และทำ Disavow Link เพื่อกำจัดลิงก์ไม่ดีเอาไว้ก่อน ก็จะส่งผลดีต่อเว็บไซต์ของคุณในระยะยาวได้ โดยที่ไม่ต้องรอคำเตือนจาก Google นั่นเอง อย่างไรก็ตามอันดับของเว็บไซต์ในหน้าค้นหาจะดีขึ้นมากหรือน้อย อาจขึ้นอยู่กับระยะเวลาและปัจจัยอื่นๆ ร่วมด้วยเช่นกัน

ยอดคนเข้าชมเว็บไซต์ และอันดับเว็บไซต์ลดลงอย่างรวดเร็ว

อีกหนึ่งข้อสังเกตก่อนทำ Disavow Link คือ หากยอดคนเข้าชมเว็บไซต์หรือยอด Traffic รวมถึงอันดับของเว็บไซต์ในหน้าค้นหาลดลงอย่างรวดเร็ว สิ่งที่ควรตรวจสอบเป็นอันดับแรกคือ Backlink ที่ส่งเข้ามาในเว็บไซต์ของคุณ เพื่อดูว่ามีเว็บไซต์ที่น่าสงสัย ดูไม่น่าเชื่อถือ หรือมีลักษณะของ Backlink ที่ไม่ดีหรือไม่ หากมีเว็บไซต์เหล่านี้ ต้องรีบทำ Disavow Link ทันทีเพื่อลบลิงก์ไม่ดีเหล่านั้นออกไป เนื่องจากเป็นที่ทราบกันดีกว่า Backlink มีผลต่อการจัดอันดับของเว็บไซต์ในหน้าค้นหา ซึ่งการถูกลดอันดับเว็บไซต์ หรือการถูกแบนจากทาง Google อาจส่งผลกระทบโดยตรงต่อการสร้างการรับรู้ และการเพิ่มจำนวนยอดขายของแบรนด์หรือธุรกิจได้

วิธีการทำ Disavow Link เพื่อเพิ่มคุณภาพการทำ SEO

เมื่ออ่านมาถึงตรงนี้ ทุกคนคงรู้แล้วใช่ไหมว่า Backlink ที่ไม่ดี ส่งผลเสียต่อเว็บไซต์อย่างไรบ้าง โดยสามารถสังเกตได้จากลักษณะต่างๆ ที่ได้กล่าวไป พร้อมตรวจสอบความผิดปกติเป็นประจำ แต่เพื่อให้เว็บไซต์ของคุณมีคุณภาพมากที่สุด ต้องรู้วิธีกำจัดลิงก์ที่ไม่ดีออกไป เราขอพาไปดูวิธีการทำ Disavow Link เพื่อเพิ่มคุณภาพการทำ SEO ให้เว็บไซต์ติดอันดับต้นๆ ในหน้าค้นหาของ Google จะมีวิธีการอย่างไรบ้าง ไปดูกันเลย

1. ตรวจสอบ Backlink ของเว็บไซต์ตัวเอง

สิ่งแรกที่ต้องทำเลย คือ การตรวจสอบ Backlink ในเว็บไซต์ของตัวเองก่อน เพื่อสังเกตว่าลิงก์ที่มีปัญหานั้นมาจากโดเมน หรือ URL อะไร โดยสามารถใช้เครื่องมือต่างๆ ในการตรวจสอบได้ ดังนี้

• Google Search Console
• Ubersuggest
• Mangools 
• ahrefs
• Semrush
  
  

2. ค้นหาลิสต์รายชื่อโดเมน หรือ URL ที่ไม่ดี

หลังจากที่ได้รายชื่อ Backlink ทั้งหมดมาแล้ว สิ่งที่ต้องทำต่อไปคือการค้นหาลิสต์รายชื่อโดเมน หรือ URL ที่ไม่ดี และไม่มีคุณภาพ โดยสามารถสังเกตได้จากลักษณะของลิงก์ที่ไม่ดีในหัวข้อที่อธิบายไว้ก่อนหน้านี้ จากนั้นแยกรายชื่อลิงก์ที่ไม่ดีออกมารวบรวมไว้ใน Spreadsheet

3. รวบรวมรายชื่อใส่ลงใน Disavow File เพื่อส่งให้ Google

เมื่อทำการลิสต์รายชื่อโดเมน หรือ URL ที่ไม่ดีทั้งหมดแล้ว ต่อมาคือการรวบรวมรายชื่อเหล่านั้นใส่ลงใน Disavow File ที่ทาง Google กำหนดไว้ว่าต้องเป็นไฟล์ข้อความ .txt (สกุลไฟล์ TXT) และเข้ารหัสในรูปแบบ UTF-8 หรือ ASCII แบบ 7 บิต โดยสามารถใช้โปรแกรม Notepad ในการสร้างได้ ซึ่งไฟล์ลิงก์ต่างๆ ที่รวบรวมมาใส่ไว้ใน Disavow File ต้องมีลักษณะดังต่อไปนี้

• สามารถระบุเป็น URL หรือชื่อโดเมน (Domain Name) ก็ได้ แต่ต้องระบุ 1 รายการต่อ 1 บรรทัด
• หากเลือกระบุเป็นชื่อโดเมน ให้ใส่ “domain:” ไว้ข้างหน้า เช่น domain:website.com
• URL มีอักขระได้สูงสุด 2,048 ตัว
• จำนวนบรรทัดต้องไม่เกิน 100,000 บรรทัด
• ไฟล์ต้องมีขนาดไม่เกิน 2 MB
• หากใส่เครื่องหมายสี่เหลี่ยม (#) Google จะไม่ประมวลผลบรรทัดที่ขึ้นต้นด้วยเครื่องหมายดังกล่าว
  
  

4. อัปโหลดไฟล์ลิงก์ลงใน Google Search Console

ขั้นตอนสุดท้าย หลังจากรวบรวมรายชื่อลิงก์ที่ไม่ดีใส่ลงใน Disavow File แล้ว คือ การอัปโหลดไฟล์ลิงก์ลงใน Google Search Console ในหน้า Disavow Tool โดยมีขั้นตอนดังนี้

• ไปที่หน้า Disavow Tool
• เลือก Property จากรายการ Property เพื่อเลือก Bad Backlink ที่ต้องการจะปฏิเสธ
• กดปุ่มอัปโหลด
• เลือก Disavow File จากนั้นกด Submit เป็นอันเสร็จสิ้น
  
  

หลังจากที่อัปโหลดเสร็จสมบูรณ์แล้ว อาจต้องใช้เวลา 2-3 สัปดาห์ เพื่อให้อัลกอริทึมทำการรวบรวมข้อมูลและประมวลผลในการจัดอันดับเว็บไซต์อีกครั้ง บางครั้งอาจใช้เวลามากกว่า 3-4 เดือน และต้องหมั่นปรับปรุงเว็บไซต์ให้ตรงตามเกณฑ์ของ SEO อยู่เสมอ เพื่อให้เว็บไซต์ติดอันดับบนหน้าค้นหาของ Google ได้นานๆ

สรุป

การทำ Disavow Link คือ กระบวนการที่ Google เปิดให้เจ้าของเว็บไซต์ได้ทำการกำจัดปัญหา Backlink ที่ไม่ดีหรือไม่มีคุณภาพที่อาจส่งเข้ามา จึงทำให้ลดความน่าเชื่อถือของเว็บไซต์ลง จนส่งผลให้อันดับของเว็บไซต์ร่วงหล่นลงได้ เนื่องจาก Backlink เป็นหนึ่งในปัจจัยสำคัญของการทำ SEO หากเว็บไซต์ของคุณมี Bad Backlink

คำถามที่เกี่ยวกับ Disavow Link (FAQ)

Minimice Group ได้รวมคำถามที่คนสงสัยหรือถามเข้ามาบ่อยเกี่ยวกับ Disavow Link พร้อมคำตอบดังนี้