Key Takeaway
- SEO Specialist คือผู้เชี่ยวชาญในการปรับปรุงเว็บไซต์ให้ติดอันดับ Google ด้วยการเลือกคีย์เวิร์ด ปรับโครงสร้าง และสร้างเนื้อหาคุณภาพ เพื่อเพิ่มการมองเห็นออนไลน์
- เครื่องมือที่ SEO Specialist ชอบใช้ เช่น Google Analytics, Google Search Console, SEMrush, Ahrefs, และ Google Keyword Planner
- หน้าที่ของ SEO Specialist คือการปรับปรุงเว็บไซต์ให้ติดอันดับ Google โดยเลือกคีย์เวิร์ดที่เหมาะสม ปรับโครงสร้าง สร้างเนื้อหาคุณภาพ และปรับกลยุทธ์ตามผลการทำงาน
- ทักษะจำเป็นของ SEO Specialist เช่น การวิเคราะห์คีย์เวิร์ด การปรับโครงสร้างเว็บไซต์ การสร้างเนื้อหาคุณภาพ การใช้เครื่องมือ SEO (เช่น Google Analytics) การเข้าใจ Google Algorithm และทักษะการติดตามผลและปรับกลยุทธ์
SEO Specialist คือผู้ที่ช่วยปรับเว็บไซต์ให้เหมาะสมกับเครื่องมือค้นหา เช่น Google เพื่อให้เว็บไซต์ติดอันดับสูงและถูกค้นพบง่ายขึ้น ซึ่งช่วยเพิ่มยอดขายและทำให้ธุรกิจเติบโต การทำ SEO เป็นส่วนสำคัญที่ทำให้เว็บไซต์โดดเด่นในช่องทางต่าง ๆ เช่น Google และ YouTube นอกจากนี้ยังมีการทำ Search Engine Marketing (SEM) ที่ช่วยผลักดันให้เว็บไซต์ปรากฏในตำแหน่งที่สูงขึ้นในผลการค้นหาผ่านการโฆษณาจ่ายเงิน เช่น Google Ads
เมื่อมีทีม SEO และ SEM ที่เชี่ยวชาญเข้ามาช่วย จะยิ่งทำให้ธุรกิจมั่นคงและเติบโตได้เร็วขึ้น ดังนั้นไม่แปลกที่ทุกแบรนด์ที่ต้องการเติบโตและเป็นที่รู้จักจะหันมาทำ SEO และ SEM กันมากขึ้น และในบทความนี้ เราจะพาทุกคนไปทำความรู้จักกับอาชีพ SEO Specialist ว่าคืออะไร ทำอะไรบ้าง และสำหรับคนที่สนใจจะทำงานในสายนี้ควรเริ่มต้นอย่างไร

SEO Specialist คือใคร? ตำแหน่งสำคัญช่วยเพิ่มอันดับเว็บไซต์
SEO Specialist คือผู้เชี่ยวชาญในการปรับแต่งเว็บไซต์ให้ค้นหาได้ง่ายผ่านเครื่องมือค้นหา เช่น Google ตัวอย่างเช่น เมื่อคนค้นหาสินค้า A ด้วยคำค้นบางคำ (คีย์เวิร์ด) แล้วเว็บไซต์ B ปรากฏในอันดับต้น ๆ นั่นคือผลลัพธ์จากการปรับแต่งเว็บไซต์โดย SEO Specialist
อาชีพ SEO Specialist กำลังได้รับความนิยม และหากมีความเชี่ยวชาญสูง จะสามารถเรียกเงินเดือนได้ดี การทำ SEO ช่วยให้ลูกค้าเข้าถึงแบรนด์ได้ง่ายขึ้นผ่านคีย์เวิร์ดที่เกี่ยวข้อง ซึ่งเป็นส่วนสำคัญของ Digital Marketing หากแบรนด์ปรากฏก่อนคู่แข่ง ลูกค้าก็มีโอกาสเลือกสินค้าของแบรนด์นั้นสูงขึ้น ช่วยให้ธุรกิจเติบโตและสร้างฐานลูกค้าได้ยั่งยืน

เครื่องมือ SEO ยอดนิยมที่ SEO Specialist ใช้ทำงาน
เครื่องมือ SEO ยอดนิยมที่ SEO Specialist ใช้ในการทำงานมีหลายตัวที่ช่วยในการวิเคราะห์และปรับปรุงเว็บไซต์ให้ติดอันดับสูงขึ้นในผลการค้นหา เครื่องมือที่มักใช้กัน ได้แก่
- Google Analytics แพลตฟอร์มวิเคราะห์พฤติกรรมผู้เข้าชมเว็บไซต์ช่วยให้เห็นข้อมูลสำคัญ เช่น แหล่งที่มาของ Traffic การใช้งานบนอุปกรณ์ต่างๆ และข้อมูลทางประชากรศาสตร์ เพื่อเข้าใจคุณภาพและความชอบของผู้เข้าชม
- Ahrefs เครื่องมือ SEO ครบวงจรที่ช่วยวิเคราะห์ Backlink ติดตามอันดับเว็บไซต์ และค้นหาคีย์เวิร์ดแม่นยำ ช่วยวางแผน SEO และเข้าใจกลยุทธ์ของคู่แข่งได้ดี
- Yoast SEO ปลั๊กอินยอดนิยมที่ช่วยปรับข้อมูล SEO เช่น Meta Title, Meta Descriptions, Slugs และ Schema Markup ได้ง่ายๆ
- Google Keyword Planner เครื่องมือวางแผนคีย์เวิร์ดจาก Google ที่แสดงปริมาณการค้นหา การแข่งขัน และประมาณการงบโฆษณา ช่วยค้นพบโอกาสทางการตลาดและคีย์เวิร์ดที่มีศักยภาพใน SEO
- Google Search console เครื่องมือฟรีจาก Google ที่ใช้วิเคราะห์การมองเห็นเว็บไซต์ในผลการค้นหาของ Google โดยเน้นข้อมูลจากคำค้นหา (Keyword) ต่างจาก Google Analytics ที่เน้นพฤติกรรมผู้ใช้งานบนเว็บไซต์
- Google Tag Manager เครื่องมือที่ช่วยจัดการการติดตามบนเว็บไซต์ เช่น การแท็กการคลิก “อ่านเพิ่มเติม” หรือการคลิกแอดไลน์ แล้วส่งข้อมูลไปยัง Google Analytics ผ่าน Tag Manager
- SEMrush แพลตฟอร์ม SEO ที่ให้ข้อมูลคีย์เวิร์ด วิเคราะห์คู่แข่ง ตรวจสอบคุณภาพ Backlinks และแนะนำการปรับปรุงเว็บไซต์ ช่วยวางกลยุทธ์ SEO ได้ครอบคลุม
- SEOquake ส่วนขยายเบราว์เซอร์ที่แสดงข้อมูล SEO เรียลไทม์ เช่น Domain Authority, Backlinks และการจัดอันดับ ช่วยวิเคราะห์คู่แข่งได้เร็ว
- Google Trends เครื่องมือดูเทรนด์การค้นหาที่แสดงความนิยมคีย์เวิร์ดตามเวลาและภูมิภาค ช่วยวางแผนเนื้อหาและ SEO ตามความสนใจผู้ใช้

เบื้องหลังการทำ SEO และหน้าที่ของ SEO Specialist ในทุกวัน
มาดูกันว่าในแต่ละวัน SEO Specialist ต้องทำหน้าที่อะไรบ้าง เพื่อให้เว็บไซต์มีอันดับดีและดึงดูดผู้เข้าชมได้มากขึ้น
1. Keyword Research ให้ตรงเป้าและเข้าใจ Intent
ขั้นตอนแรกของ SEO คือการค้นหาคีย์เวิร์ด (Keyword Research) ซึ่งแบ่งออกเป็น 3 ประเภท คือ Generic Keyword, On Core Keyword และ Longtail Keyword โดยเครื่องมือที่นิยมใช้ เช่น Google Keyword Planner, Google Trends, Ubersuggest, และ Social Listening Tools ช่วยให้ค้นหาคีย์เวิร์ดได้ง่ายและครอบคลุม
2. On-page Optimization เพื่อประสบการณ์การใช้งานที่ดีขึ้น
SEO Specialist จะตรวจสอบ On-page เพื่อเห็นปัญหาหรือข้อบกพร่องบนเว็บไซต์ เช่น การใช้คีย์เวิร์ดในคอนเทนต์อย่างสมดุล รวมถึงปรับ Site Structure และ Meta Tag ให้เหมาะสม เพื่อช่วยให้เว็บไซต์ตอบโจทย์ผู้ใช้และปรับปรุงการจัดอันดับบน Google
3. Link Building เพื่อยกระดับคีย์เวิร์ดและเพิ่ม Traffic
SEO Specialist จะทำการสำรวจตลาดคอนเทนต์และวางแผนการทำ Backlink เป็นส่วนสำคัญของ Off-Page SEO เพื่อเพิ่มการอ้างถึงเว็บไซต์และรับ Link Juice ซึ่งช่วยเพิ่ม Authority และการจัดอันดับใน Google การทำ Backlink กับสื่อคุณภาพยังช่วยเพิ่ม Traffic และเสริมความน่าเชื่อถือให้กับเว็บไซต์
4. Content Audit เพิ่มคุณค่าให้กับบทความ
ขั้นตอนนี้คือการตรวจสอบและวัดคุณภาพคอนเทนต์ในเว็บไซต์โดยใช้เครื่องมือเช่น Google Analytics, Google Search Console, Screaming Frog หรือ Ahrefs เพื่อปรับปรุงและอัปเดตเนื้อหาให้สดใหม่และตรงกับเทรนด์ปัจจุบัน
5. Technical Audit ปรับโครงสร้างเว็บไซต์ให้ใช้งานง่าย
ก่อนเริ่มทำ SEO จริงจัง SEO Specialist จะตรวจสอบภาพรวมของเว็บไซต์ในทุกมิติ เช่น On-page SEO, Off-page SEO, Sitemap, URL, Performance และ Broken Links เพื่อวางแผนการปรับปรุงเว็บไซต์
6. ปรับปรุง SEO ผ่านการวิเคราะห์ผลและรายงาน
สุดท้าย SEO Specialist จะสรุปภาพรวมและวางเป้าหมายด้วยการตั้ง KPI เพื่อประเมินผลลัพธ์ เช่น รายเดือนหรือไตรมาส การติดตามผลช่วยให้เห็นพัฒนาการและปรับกลยุทธ์เมื่อจำเป็น

มองค่าตอบแทน SEO Specialist เทียบกับตำแหน่ง Digital Marketing อื่นๆ
- Media Planner
- Digital Marketing Analyst
- Digital Marketing Manager
SEO Specialist มีค่าตอบแทนที่แตกต่างกันไปตามประสบการณ์และตำแหน่งในองค์กร โดยรายได้ในต่างประเทศจะอยู่ที่ประมาณ 20,000 – 100,000 บาทต่อเดือน ขึ้นอยู่กับทักษะและผลงานของแต่ละคน ในบางประเทศที่มีรายได้เฉลี่ยต่อปีราวๆ $4,782 ซึ่งเมื่อแปลงเป็นเงินบาทจะเท่ากับประมาณ 181,405.17 บาทต่อเดือน การหางานในตำแหน่งนี้จะเปิดโอกาสในการเติบโตตามทักษะที่พัฒนา
มาดูกันว่าตำแหน่งอื่นๆ ใน Digital Marketing จะมีค่าตอบแทนเท่าไรบ้าง เพื่อเห็นภาพรวมของอาชีพในสายนี้
- Media Planner ประสบการณ์ 1-5 ปี เงินเดือนประมาณ 30,000-40,000 บาท ประสบการณ์ 5 ปีขึ้นไป เงินเดือนประมาณ 50,000-80,000 บาท
- Digital Marketing Analyst ประสบการณ์ 1-5 ปี เงินเดือนประมาณ 25,000-45,000 บาท ประสบการณ์ 5 ปีขึ้นไป เงินเดือนประมาณ 50,000-85,000 บาท
- Digital Marketing Manager ประสบการณ์ 1-5 ปี เงินเดือนประมาณ 40,000-60,000 บาท ประสบการณ์ 5 ปีขึ้นไป เงินเดือนประมาณ 65,000-100,000 บาท
ค่าตอบแทนของ SEO Specialist คุ้มค่าเพราะต้องใช้ความเชี่ยวชาญในการทำให้เว็บไซต์ติดอันดับ Google ซึ่งช่วยเพิ่มการเข้าถึงและรายได้ให้ธุรกิจ แม้ไม่ถึงระดับ Manager แต่เงินเดือนสูงเทียบเท่าหรือต่ำกว่าบางตำแหน่งใน Digital Marketing เพราะ SEO เป็นการลงทุนที่ยั่งยืน

เริ่มต้นการเป็น SEO Specialist อย่างมั่นใจ ด้วยทักษะที่ต้องรู้
การทำ SEO ต้องเริ่มจากการหาความรู้ ลงมือทำจริง และเก็บผลงานที่สามารถแสดงถึงทักษะและประสบการณ์ด้าน SEO ซึ่งจะช่วยเพิ่มโอกาสในการเติบโตในสายงานนี้ โดยควรมีทักษะดังนี้
Hard Skills ที่ควรมีสำหรับ SEO Specialist
- ทักษะในการหาข้อมูล การทำ SEO เริ่มต้นด้วยการหาคีย์เวิร์ดที่คนค้นหาผ่านเครื่องมือวิเคราะห์ รวมถึงดูว่าคู่แข่งใช้คำค้นหาอะไร เพื่อช่วยให้แบรนด์ของเรามีโอกาสติดอันดับสูงขึ้นใน Google
- ทักษะภาษา Programming เช่น HTML หรือ CSS ที่ SEO Specialist ควรเข้าใจเบื้องต้น เพื่อจะได้ติดตามงานและทำงานร่วมกับทีมพัฒนาเว็บไซต์ (Website Developer) ได้อย่างราบรื่น
- ทักษะในการใช้เครื่องมือเฉพาะ เนื่องจากการทำ Keyword Research และตรวจสอบอื่นๆ ต้องใช้เครื่องมือเฉพาะเยอะ หากคุณเสริมความรู้ในส่วนนี้ จะช่วยให้หางานและทำงานได้ง่ายขึ้นมาก
- ทักษะในการเขียน การทำ SEO ไม่ได้แค่แทรกคีย์เวิร์ดในบทความ แต่ต้องใช้คีย์เวิร์ดให้ดูเป็นธรรมชาติ SEO Specialist อาจไม่ต้องเขียนคอนเทนต์เอง แต่การเข้าใจเรื่องนี้จะช่วยให้มีโอกาสมากขึ้นและเข้าใจงานได้ดีขึ้น
- ทักษะใช้ข้อมูลเพื่อขับเคลื่อน สรุปผลงานที่ทำไปแล้วเพื่อดูว่ามีผลมากน้อยแค่ไหน และหาวิธีพัฒนาให้ดียิ่งขึ้น โดยสามารถเรียนรู้เพิ่มเติมจากผู้เชี่ยวชาญในแพลตฟอร์มออนไลน์ และศึกษาจาก Case Study เพื่อนำมาปรับใช้ในการทำ SEO ต่อไป
- ทักษะใส่ใจในรายละเอียด คุณสมบัติที่สำคัญของ SEO Specialist คือความรอบคอบและใส่ใจในทุกรายละเอียด เพื่อเพิ่ม Engagement และลดข้อผิดพลาดในการทำงานให้มากที่สุด
Soft Skills สำคัญของ SEO Specialist
- ทักษะในการสื่อสารระหว่างบุคคล แม้ SEO Specialist จะทำงานได้ทั้ง In-House หรือ Freelance แต่ยังต้องรับ Feedback และสื่อสารกับนายจ้างหรือทีมอื่นๆ อยู่เสมอ
- ทักษะการมองภาพรวม SEO Specialist ต้องมองภาพรวมของเว็บไซต์ก่อนเริ่มทำ SEO ทั้งจุดแข็งและจุดอ่อน เพื่อใช้ในการวางแผนและดำเนินการต่อไป
- ทักษะในการพึ่งพาตัวเอง งานในสายนี้เน้นใช้เทคโนโลยี ทำให้การพึ่งพาตัวเองสำคัญมาก หากขาดความกระตือรือร้นในการเรียนรู้ใหม่ๆ อาจตามไม่ทันเทรนด์ โดยเฉพาะการอัปเดตอัลกอริธึมของ Search Engine
- ทักษะในการเอาตัวรอด งานด้านเทคโนโลยีต้องตามทันและพร้อมพัฒนา SEO Specialist จึงต้องอัปเดตความรู้ตลอดเวลา หากไม่ปรับตัวจะตามไม่ทันแน่นอน
จาก SEO Specialist สู่ตำแหน่งระดับสูงในสายงานตลาดดิจิทัล
SEO Specialist สามารถพัฒนาและเติบโตในหลากหลายทิศทางในสายงานตลาดดิจิทัล เช่น
- SEO Analyst ผู้เชี่ยวชาญในการวิเคราะห์และใช้เครื่องมืออย่าง Google Analytics เพื่อวางแผนการตลาดดิจิทัล
- SEO Manager ผู้จัดการที่ต้องเข้าใจและเห็นภาพรวมของแคมเปญเพื่อผลักดันให้สำเร็จตามเป้าหมาย
- SEO Director ผู้เชี่ยวชาญ SEO กำหนด KPI และทำรายงานประเมินผลงานเพื่อปรับแผนและรับมือกับสถานการณ์ที่ไม่คาดฝัน
จะหา SEO Specialist ที่ใช่มาช่วยเพิ่มอันดับเว็บไซต์ได้จากที่ไหนบ้าง?
สำหรับนักธุรกิจที่เห็นความสำคัญของ SEO การทำ SEO จะช่วยต่อยอดธุรกิจในระยะยาว แต่ต้องใช้ทักษะของ SEO Specialist ที่มีประสบการณ์ ที่ Minimice เรามีทีมผู้เชี่ยวชาญพร้อมซัปพอร์ตธุรกิจคุณ และฟีเจอร์ที่ตอบโจทย์ทุกธุรกิจ ติดต่อเราได้ที่ [email protected] หรือคลิกที่นี่!
หากคุณสนใจเป็น SEO Specialist และร่วมงานกับเรา สมัครได้ที่ [email protected] เพื่อก้าวนำเหนือทุกเทรนด์การตลาด
สรุป
SEO Specialist คือผู้เชี่ยวชาญในการปรับปรุงเว็บไซต์เพื่อให้ติดอันดับบน Google ด้วยการใช้เทคนิคต่างๆ เช่น การค้นหาคีย์เวิร์ด การปรับเนื้อหา และการวิเคราะห์ข้อมูล โดยต้องมีทักษะด้านเทคโนโลยีและการวิเคราะห์เพื่อวางแผนการตลาดดิจิทัลอย่างมีประสิทธิภาพ อีกทั้งต้องคอยติดตามผลและปรับกลยุทธ์ตามสถานการณ์
ซึ่ง SEO Specialist ยังสามารถก้าวสู่ตำแหน่งที่สูงขึ้นในสายงานดิจิทัล เช่น Digital Marketing Manager หรือ Data Analyst หากพัฒนาเพิ่มเติมในด้านการใช้เครื่องมือวิเคราะห์และการวางแผนกลยุทธ์
คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับ SEO Specialist (FAQ)
เราจะมาตอบคำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับ SEO Specialist เพื่อช่วยให้คุณเข้าใจอาชีพนี้มากขึ้น ทั้งในด้านหน้าที่การทำงาน ทักษะที่จำเป็น รวมถึงเส้นทางการเติบโตในสายงานดิจิทัล และความสำคัญของ SEO ในการพัฒนาเว็บไซต์เพื่อเพิ่มการเข้าถึงและรายได้ให้กับธุรกิจ
SEO Specialist ช่วยเพิ่มอันดับของเว็บไซต์ได้จริงหรือไม่?
SEO Specialist ช่วยเพิ่มอันดับของเว็บไซต์ได้จริง โดย SEO Specialist จะช่วยปรับปรุงโครงสร้างเว็บไซต์และเพิ่มการมองเห็นใน Google โดยการทำให้เว็บไซต์มีคุณภาพตามหลัก SEO การทำ SEO อย่างต่อเนื่องจะช่วยให้เว็บไซต์ของคุณติดหน้าแรกของ Google ได้ดีขึ้น
SEO Specialist ควรเลือกคีย์เวิร์ดอย่างไร?
SEO Specialist จะเลือกคีย์เวิร์ดที่เกี่ยวข้องและแข่งขันพอเหมาะ โดยใช้เครื่องมืออย่าง Google Keyword Planner, SEMrush หรือ Ahrefs เพื่อเพิ่มการเข้าถึงและช่วยให้เว็บไซต์ติดอันดับ Google
องค์กรประเภทไหนต้องการ SEO Specialist บ้าง?
SEO Specialist สามารถทำงานได้หลายที่ เช่น บริษัทการตลาดดิจิทัล หน่วยงานด้านการโฆษณา หรือแม้แต่ทีมการตลาดของบริษัทขนาดใหญ่
ความท้าทายระหว่าง In-house และ Digital Agency SEO Specialist
การทำงานใน In-House เน้นการทำ SEO ให้กับบริษัทเดียว ส่วนในเอเจนซี่ต้องจัดการ SEO หลายลูกค้าพร้อมกัน ซึ่งแต่ละธุรกิจมีเป้าหมายและกลุ่มเป้าหมายต่างกัน จึงต้องปรับกลยุทธ์ให้เหมาะสม และมีทักษะในการจัดลำดับความสำคัญและบริหารเวลาได้ดี
ในยุคที่ AI เข้ามามีบทบาทในการทำการตลาดออนไลน์ SEO Specialist จะโดนผลกระทบไหม
งาน SEO ใช้เทคโนโลยีในการพัฒนาประสิทธิภาพการทำงาน ดังนั้น SEO Specialist ไม่ต้องกังวลเรื่อง digital disruption เพราะพวกเขาจะต้องติดตามข่าวสารด้านเทคโนโลยีและอัปเดตจาก Google อย่างสม่ำเสมอเพื่อพัฒนาทักษะและปรับตัวกับการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา