Key Takeaway
- Content Marketing คือการสร้างและเผยแพร่คอนเทนต์ที่มีคุณค่าและเกี่ยวข้อง เพื่อดึงดูดและรักษาความสนใจของกลุ่มเป้าหมาย โดยไม่เน้นการขายโดยตรง
- เป้าหมายของการทำ Content Marketing คือการสร้างความสัมพันธ์กับกลุ่มเป้าหมาย โดยการให้ข้อมูลที่มีคุณค่าและตรงใจ ช่วยเพิ่มการรับรู้ในแบรนด์ สร้างความน่าเชื่อถือ และกระตุ้นการตัดสินใจซื้อสินค้าในระยะยาว
- ประเภทของ Content Marketing ได้แก่ Infographic Content, Video Content, Blog Content, Longform Content, E-Book และ Case Study
- ในปี 2024-2025 เทรนด์ Content Marketing ที่น่าสนใจ เช่น วิดีโอสั้น Affiliate, การใช้ AI เทคโนโลยี AR/VR, Live Streaming และ พอดแคสต์
การทำ Content Marketing คือหนึ่งในกลยุทธ์การตลาดดิจิทัลที่ช่วยให้แบรนด์สื่อสารกับลูกค้าได้อย่างตรงจุดและมีประสิทธิภาพ โดยการนำเสนอเนื้อหาที่มีคุณค่าและมีความหมายกับกลุ่มเป้าหมาย วันนี้เราจะมาดูกันว่าวิธีการทำ Content Marketing ที่ดีจะช่วยเพิ่มมูลค่าให้แบรนด์และทำให้ธุรกิจเติบโตได้อย่างไรบ้าง!

กลยุทธ์สร้างแบรนด์ด้วยเนื้อหา (Content Marketing) คืออะไร?
Content Marketing คือกลยุทธ์การตลาดที่ใช้การสื่อสารอย่างสร้างสรรค์และต่อเนื่องกับกลุ่มเป้าหมาย เพื่อสร้างการรับรู้เกี่ยวกับแบรนด์ และสร้างความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดระหว่างลูกค้ากับแบรนด์ นอกจากนี้ยังช่วยเพิ่มการมีส่วนร่วม และผลักดันยอดขายออนไลน์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งเป็นหนึ่งในความสามารถที่หลายคนอาจไม่เคยรู้มาก่อนว่าคอนเทนต์สามารถทำได้

เป้าหมายหลักของการทำ Content Marketing
การกำหนดเป้าหมายที่ชัดเจนคือกุญแจสำคัญในการสร้าง Content Marketing ที่มีประสิทธิภาพ เพราะเมื่อรู้ว่าเนื้อหามีผลอย่างไร เช่น การสร้างการรับรู้ การเพิ่มยอดขาย หรือการสร้างความสัมพันธ์ระยะยาว เราจะสามารถออกแบบเนื้อหาที่ตรงกับความต้องการของกลุ่มเป้าหมายได้ โดยสามารถกำหนดเป้าหมายได้ดังนี้
สร้างการรับรู้ของแบรนด์
คอนเทนต์คือวิธีการสื่อสารผ่านเนื้อหาหลากหลายที่สะท้อนตัวตนและสาระสำคัญของแบรนด์ เพื่อสร้างการรับรู้ในวงกว้าง ผ่านการทำคอนเทนต์ไวรัลบนโซเชียล เมื่อแบรนด์เป็นที่รู้จักมากขึ้น ก็ยิ่งมีโอกาสเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายและเพิ่มยอดขายได้มากขึ้น
ตัวอย่างการทำ Content Marketing ของ Spotify คือ Spotify Wrapped ที่เป็นแคมเปญการตลาดคอนเทนต์ที่ประสบความสำเร็จของ Spotify ซึ่งในตอนท้ายปี ผู้ใช้จะได้รับการสรุปเพลงที่ฟังมากที่สุดในปีนั้น พร้อมกราฟิกสีสันสดใสและเพลย์ลิสต์ส่วนตัวที่สามารถแชร์บนโซเชียลมีเดีย ทำให้แคมเปญนี้กลายเป็นไวรัลทุกปี
ทำให้แบรนด์น่าเชื่อถือ
สิ่งสำคัญในการทำ Content Marketing คือความสม่ำเสมอในการลงคอนเทนต์ที่มีประโยชน์และตอบคำถามลูกค้า ยิ่งช่วยคลายข้อสงสัยและสร้างความเชื่อถือได้มากเท่าไร ยิ่งเพิ่มความน่าไว้วางใจและยอดผู้ติดตามให้แบรนด์มากขึ้น
ความต่อเนื่องของคอนเทนต์จะช่วยผลักดันให้แบรนด์กลายเป็น Top of Mind ของลูกค้า ซึ่งเป็นเป้าหมายที่นักการตลาดมองว่าเป็นชัยชนะในการสร้างแบรนด์ เช่นเดียวกับ Amazon Prime ที่ใช้กลยุทธ์การร่วมมือกับนักแสดงและครีเอเตอร์ Cheyenne The Geek สร้างเว็บซีรีส์ชื่อ The Anime Club ที่แนะนำอนิเมะตามประเภทและพูดถึงหัวข้อต่างๆ ในอนิเมะ โดยทุกเรื่องที่กล่าวถึงสามารถรับชมได้บน Amazon Prime เพื่อกระตุ้นให้ผู้ชมสมัครสมาชิก
ส่งเสริมยอดขายให้กับแบรนด์
ช่องทางออนไลน์กลายเป็นช่องทางหลักในการสื่อสารของแบรนด์ เพราะสามารถเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้ง่ายและใกล้ชิด โดยแบรนด์สามารถใช้ Pre Sales Content กระตุ้นยอดขายและเตรียมพร้อมลูกค้าสำหรับโปรโมชัน หรือใช้ Influencer Marketing เพื่อเสริมความน่าเชื่อถือและโปรโมตสินค้าผ่านการรีวิวจากผู้มีชื่อเสียง
ยกตัวอย่างธนาคารกสิกรไทยที่จับตลาดคนไทยสายมู ด้วยการเปิดตัวบัตรเดบิตใหม่ลายองค์เทพจาก Karava Thailand พร้อมธีม K PLUS ลายองค์เทพ สำหรับเปิดบัญชี K-eSavings เพื่อเสริมดวงในด้านการงาน การเงิน และความรัก โดยทุกลายได้รับการออกแบบสไตล์โมเดิร์นและผ่านพิธีปลุกเสกจากวัดพระศรีนาคาทุรคาเทวี
เพิ่ม Engagement ด้วย Entertain Content
คอนเทนต์ประเภทนี้เน้นความบันเทิงและการสร้างปฏิสัมพันธ์ระหว่างแบรนด์กับลูกค้า ช่วยเพิ่ม Engagement โดยไม่ต้องใช้ค่าใช้จ่ายมาก แพลตฟอร์มยอดนิยมสำหรับคอนเทนต์แบบนี้คือ Facebook ที่เหมาะกับการลง รูปภาพ และวิดีโอให้เข้าถึงกลุ่มคนหลายวัย
ตัวอย่างเช่น น้องหมีเนยจากร้านขนม Butterbear ซึ่งสร้างความฮือฮาและกลายเป็นขวัญใจโซเชียลมีเดียด้วยความน่ารักและท่าทางขี้เล่น พร้อมกับการเต้นดุ๊กดิ๊กและเพลงฮิตที่กำลังมาแรง การประยุกต์ใช้ในการตลาดเน้นทำคอนเทนต์ที่เหมาะสมกับกลุ่มวัยรุ่น และการสร้าง Storytelling เล่าเรื่องราวชีวิตประจำวันของน้องหมีเนย สร้างความประทับใจและเชื่อมต่อกับผู้ติดตาม
สร้างความอยากรู้ผ่าน Inspire Content
การสร้างความบันเทิงใน Content Marketing เน้นการสนุกและเบาสมอง ผ่านการตอบคำถามหรือทายคำไวรัล เพื่อกระตุ้นการมีส่วนร่วมกับกลุ่มเป้าหมายและขยายการแพร่หลายของแบรนด์ให้เป็นที่จดจำ
เช่น แคมเปญ “สิทธิ์พิเศษให้กับนักเรียน-นักศึกษา ทั่วประเทศ! ปูอัดทอด 1 แถม 1” จาก Potato Corner โปรโมตผ่านโพสต์ Facebook โดยใช้คำว่า “สิทธิพิเศษ” เพื่อสร้างความรู้สึกพิเศษเฉพาะกลุ่ม พร้อม Call to Action ให้ผู้ชมตามหาชื่อสถานศึกษา ส่งผลให้โพสต์ได้รับคอมเมนต์กว่า 230 ข้อความ ถือเป็นคอนเทนต์ที่ได้รับคอมเมนต์สูงสุดในปี 2567
เพิ่มโอกาสในการขายด้วย Convince Content
Convince Content ใช้องค์ประกอบภายในแบรนด์ อย่างโปรโมชันหรือจุดเด่นสินค้า เพื่อกระตุ้นการซื้อ เช่น KFC ของไทย ที่ใช้ความน่ารักและอารมณ์ขันในการทำวิดีโอบน TikTok ให้ไก่แปลงร่างเป็นไก่ทอด สร้างเสียงหัวเราะและได้รับ Engagement กว่า 1,480,000 ครั้ง กลายเป็นวิดีโอที่ได้รับยอด Engagement สูงสุดบน TikTok ในปี 2024
สร้าง Educate Content เพื่อนำเสนอข้อมูล
Educate Content คือการสร้างคอนเทนต์ที่มอบความรู้เกี่ยวกับสินค้าหรือบริการของแบรนด์ ด้วย Infographic บทความ How to หรือข้อมูลเฉพาะของแบรนด์ เพื่อเพิ่มความเข้าใจในข้อดีและประโยชน์ของสินค้า เช่น Samsung โปรโมต Galaxy S25 Ultra โดยเน้นฟีเจอร์ AI ที่ช่วยให้ผู้ใช้ทำงานได้เร็วขึ้น เพียงกดปุ่มข้างเครื่องเพื่อให้ Google Gemini จัดการงานต่างๆ ในครั้งเดียวโดยไม่ต้องสลับแอป พร้อมค้นหาข้อมูลได้ง่ายดายด้วย AI Overviews แค่วงล้อมรอบวัตถุ

รู้จักประเภท Content Marketing ที่ตอบโจทย์การตลาด
การทำ Content Marketing หรือการตลาดผ่านเนื้อหาคือกลยุทธ์ที่ช่วยแบรนด์สร้างความสัมพันธ์กับลูกค้าและเพิ่มการรับรู้ในตลาด โดยการนำเสนอเนื้อหาที่มีคุณค่าและตรงใจกลุ่มเป้าหมาย ซึ่งมักจะถูกนำไปใช้ร่วมกับ Digital Marketing เพื่อเพิ่มการเข้าถึงกลุ่มลูกค้าในช่องทางออนไลน์ หลักๆ จะมีอะไรบ้าง ไปดูพร้อมกัน
1. Infographic Content
การให้ข้อมูลความรู้ที่มีประโยชน์แก่กลุ่มเป้าหมาย โดยเน้นที่คุณค่าของสินค้าและบริการของแบรนด์ ช่วยให้กลุ่มเป้าหมายเห็นความสำคัญและประโยชน์ของผลิตภัณฑ์ เหมาะสำหรับกลุ่มลูกค้าวัยผู้ใหญ่หรือผู้ที่ชอบศึกษาข้อมูลด้วยตัวหนังสือ
2. Video Content
เนื้อหาแบบวิดีโอ (VDO Content) คือการใช้วิดีโอในการสื่อสารข้อมูลด้วยภาพและเสียง ช่วยให้เข้าใจได้เร็วและง่าย เหมาะกับกลุ่มลูกค้าวัยทำงานที่ต้องการความรวดเร็ว หรือวัยเด็กที่จดจำได้ดีจากภาพ มักเป็นเนื้อหาที่สนุกสนานและไม่เบื่อ
3. Blog Content
คอนเทนต์แบบบล็อก (Blog Content) ช่วยสร้างความต่อเนื่องในการสื่อสารกับลูกค้าและกลุ่มเป้าหมาย การลงบล็อกสม่ำเสมอช่วยเพิ่มโอกาสในการเข้าถึงลูกค้าใหม่ผ่าน SEO และการปรับกลยุทธ์การตลาดได้เร็วขึ้น หากต้องการทำบล็อก SEO อย่างมีประสิทธิภาพ สามารถปรึกษา Minimice Group ที่ช่วยให้บล็อกติดอันดับต้นๆ และการันตีผลลัพธ์ทุก 90 วัน
4. Longform Content
Longform Content คือการทำ Content Marketing ที่มีความยาวและเนื้อหาครบถ้วน อาจเป็นบทความยาว 5,000-15,000 คำหรือหลายบทความต่อเนื่องกัน ช่วยสร้างความไว้วางใจและติดตามจากผู้อ่าน ด้วยเนื้อหาที่ละเอียดและมีประโยชน์ให้ผู้อ่านสามารถอ่านจบในที่เดียว
5. E-Book
หนังสืออิเล็คทรอนิกส์ (E-book) คือการสร้างเนื้อหาที่พกพาง่าย อ่านได้ทุกที่ทุกเวลาผ่านอุปกรณ์หลากหลาย เหมาะกับวัยเรียนที่ใช้เทคโนโลยีในการเข้าถึงเนื้อหาและจดโน้ตได้สะดวก
6. Case Study
กรณีศึกษา (Case Study) คือการยกตัวอย่างที่เน้นความเข้าใจและความเป็นไปได้ ช่วยสร้างความน่าไว้วางใจ ด้วยการนำเสนอที่ตรงไปตรงมา เหมาะกับกลุ่มเป้าหมายวัยผู้ใหญ่ที่ต้องการข้อมูลที่ชัดเจนและน่าเชื่อถือ

ขั้นตอนสร้าง Content Marketing ให้โดนใจ
การทำ Content Marketing ให้ประสบความสำเร็จไม่ใช่เรื่องยาก หากเราทำตามขั้นตอนอย่างชัดเจน การวางแผนและกลยุทธ์ที่ดีจะช่วยให้คอนเทนต์นั้นมีประสิทธิภาพและช่วยเสริมสร้างแบรนด์ได้อย่างยั่งยืน ตามนี้
ตั้งเป้าหมายให้ชัดเจน
สิ่งแรกที่ต้องทำให้ชัดเจนคือเป้าหมายในการทำคอนเทนต์ คุณต้องมีวัตถุประสงค์หลักในการทำ Content Marketing เพราะนี่จะเป็นแก่นในการสื่อสารไปยังกลุ่มเป้าหมาย ยิ่งเป้าหมายชัดเจนก็ยิ่งสื่อสารได้ง่ายขึ้น หลังจากนั้น การกำหนดกลุ่มเป้าหมายและเข้าใจนิสัยการเสพสื่อของลูกค้าก็เป็นข้อมูลสำคัญที่ต้องทำให้กระจ่างเพื่อการสื่อสารที่มีประสิทธิภาพ
วิเคราะห์ตลาดและเลือกคีย์เวิร์ดที่ดึงดูดลูกค้า
การวิเคราะห์คู่แข่งทางการตลาดไม่เพียงแค่จุดแข็งและจุดอ่อนของแบรนด์ แต่ยังต้องพิจารณาวิธีการสื่อสาร ภาษาที่ใช้งาน และรูปแบบคอนเทนต์ที่ใช้ รวมถึงผลตอบรับจากกลุ่มเป้าหมาย นอกจากนี้ยังต้องศึกษาคีย์เวิร์ดที่ลูกค้าใช้ค้นหา และค้นหาคีย์เวิร์ดที่เกี่ยวข้องกับแบรนด์เพื่อปรับใช้ให้เข้าถึงง่ายขึ้น
เลือกน้ำเสียงของแบรนด์ให้เหมาะสม
น้ำเสียงของแบรนด์ (Brand Voice) คือการกำหนดโทนเสียงในคอนเทนต์ที่แสดงถึงบุคคลิกภาพของแบรนด์ผ่านคอนเทนต์ เช่น ความจริงจังหรือไม่จริงจัง เพื่อสร้างภาพลักษณ์ที่ต้องการสื่อสารกับลูกค้า และช่วยให้แบรนด์เป็นที่จดจำได้มากยิ่งขึ้น
สร้าง Buyer Persona ที่แม่นยำและเข้าใจ Buyer Journey
การทำ Content Marketing ไม่ใช่แค่การผลิตคอนเทนต์ แต่ต้องเป็นคอนเทนต์ที่ตอบโจทย์คนอ่านหรือลูกค้า ซึ่งการสร้าง Buyer Persona และ Buyer Journey มีบทบาทสำคัญในการวางแผนการทำ Content เพราะจะช่วยให้เข้าใจว่าลูกค้าต้องการอะไร? กำลังคิดอะไร? และอยู่ในขั้นตอนไหนของการตัดสินใจซื้อ?
สามารถสร้าง Buyer Persona ได้โดยการศึกษาข้อมูลลูกค้าจริง เช่น อายุ เพศ ความสนใจ และพฤติกรรมการซื้อ เพื่อเข้าใจความต้องการและความท้าทายของลูกค้า และสร้างเนื้อหาที่ตรงกับ 3 ขั้นตอนใน Buyer Journey คือ Awareness คือการรับรู้ถึงปัญหาของลูกค้า Consideration คือการพิจารณาหาวิธีแก้ไขปัญหานั้น และสุดท้ายคือ Decision เมื่อลูกค้าตัดสินใจเลือกซื้อสินค้าและบริการ
วางกลยุทธ์ทางเนื้อหาเพื่อสร้างประสบการณ์ที่แตกต่างให้กับลูกค้า
กลยุทธ์ทางเนื้อหา (Content Strategy) คือการวางแผนที่ชัดเจนเกี่ยวกับการสร้างและเผยแพร่เนื้อหาที่มีประสิทธิภาพ โดยพิจารณาจากข้อมูลในขั้นตอนก่อนหน้า เช่น วางหัวข้อของคอนเทนต์ที่ต้องการสื่อสาร กำหนดประเภทของเนื้อหาที่จะสร้าง (บทความ วิดีโอ หรืออินโฟกราฟิก) ความถี่ในการเผยแพร่ และช่องทางที่เหมาะสมในการกระจายเนื้อหานั้นๆ เพื่อตอบสนองความต้องการของกลุ่มเป้าหมายอย่างตรงจุดและมีประสิทธิภาพ
จากไอเดียสู่การสร้างเนื้อหาคุณภาพ
การสร้างสรรค์เนื้อหา (Content Creation) คือขั้นตอนการผลิตเนื้อหาตามแผนที่วางไว้ โดยการกระจายงานและดำเนินการต่างๆ เพื่อให้ได้เนื้อหาที่ตรงตามเป้าหมายและสามารถนำไปใช้ในแพลตฟอร์มต่างๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
พัฒนาคอนเทนต์อย่างต่อเนื่อง
กลับมาทบทวนหน้าบ้านของแบรนด์ในแต่ละแพลตฟอร์ม เพื่อตรวจสอบคุณภาพและผลตอบรับจากลูกค้า โดยดูคอนเทนต์ที่มี Engagement สูงและที่ไม่ได้ผล เพื่อหลีกเลี่ยงการทำซ้ำในอนาคต เมื่อรู้จุดแข็งและจุดอ่อนของคอนเทนต์ในแต่ละแพลตฟอร์มแล้ว ให้รีบปรับปรุงให้ตรงกับวัตถุประสงค์ของแบรนด์
จากนั้นเข้าสู่ขั้นตอนการส่งเสริมเนื้อหา (Content Promotion) โดยการเผยแพร่คอนเทนต์ในแพลตฟอร์มที่เหมาะสม อาจเลือกปล่อยเนื้อหาครั้งเดียวหรือค่อยๆ ปล่อยในช่วงเวลาที่กำหนด เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุดตามแผนที่วางไว้
ใช้ตารางคอนเทนต์และฟีดแบคเพื่อสร้างเนื้อหาที่ตอบโจทย์
เมื่อคุณจับทางคอนเทนต์ที่แบรนด์ต้องการสื่อสารได้แล้ว ให้พิจารณาทรัพยากรบุคคลและความสามารถในการผลิตคอนเทนต์ พร้อมกำหนดตารางการทำคอนเทนต์เพื่อสร้างแคมเปญที่ต้องการทดลอง
การรักษาความต่อเนื่องในการทำคอนเทนต์เป็นสิ่งสำคัญเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด เมื่อแคมเปญจบ ควรทำการฟีดแบกทั้งผลงานและผลลัพธ์จากหน้าบ้าน เพื่อนำมาปรับปรุงและพัฒนาคอนเทนต์ให้ดียิ่งขึ้นอย่างต่อเนื่อง

Content Marketing Trends 2025 ที่น่าจับตามอง
ขอนำเสนอตัวอย่างเทรนด์การทำ Content Marketing ที่โดดเด่นและน่าสนใจในปีที่ผ่านมา ซึ่งถือเป็นการสะท้อนพฤติกรรมของผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว เทรนด์เหล่านั้นยังคงมีบทบาทสำคัญในปี 2024 และมีแนวโน้มที่จะต่อเนื่องมาถึงปี 2025 เช่น
Shopee Video
Shopee Video เป็นฟีเจอร์ใหม่จาก Shopee ที่ได้รับความนิยมในปี 2024 ซึ่งให้ผู้ใช้งานสามารถสร้างและแชร์วิดีโอสั้นพร้อมเพลงและฟิลเตอร์ต่างๆ บนแพลตฟอร์ม Shopee โดยผู้ซื้อสามารถทำรีวิวสินค้าในรูปแบบคลิปสั้น และผู้ขายสามารถโปรโมตสินค้าผ่านวิดีโอโดยตรง เพิ่มโอกาสทางการขายอีกหนึ่งช่องทาง ซึ่งเทรนด์นี้ยังคงฮิตต่อเนื่องและมีบทบาทสำคัญในปี 2025
เทรนด์ TikTok
เทรนด์ TikTok ที่ยังได้รับความนิยมตั้งแต่ปี 2024 จนถึง 2025 ได้แก่ POV (Point Of View) ที่สะท้อนมุมมองของตัวละครหรือสถานการณ์เฉพาะ Self Growth การดูแลสุขภาพจิต การดูดวง การอวดสไตล์การแต่งตัว การแบ่งปันชีวิตประจำวัน และการสร้างสุนทรียภาพย้อนยุค 90
ทำให้เกิดฟีเจอร์ TikTok Discovery ช่วยให้ผู้ใช้งานค้นพบเนื้อหาใหม่ๆ ได้ง่ายขึ้น โดยสามารถสำรวจวิดีโอในหัวข้อต่างๆ ที่กำลังเป็นกระแสหรือเกี่ยวข้องกับความสนใจของคุณ รวมถึงการค้นหาผู้สร้างคอนเทนต์ที่ตรงกับความสนใจได้อย่างสะดวก
ระบบ Affiliate
Affiliate คือโปรแกรมที่ให้ตัวแทนโปรโมตสินค้าผ่านช่องทางของตัวเอง โดยเมื่อมีการสั่งซื้อผ่าน Affiliate Link ระบบจะคำนวณค่าคอมมิชชันตามเงื่อนไขที่กำหนดและสามารถเบิกถอนเงินได้ผ่านบัญชีธนาคาร ตัวอย่างแพลตฟอร์มที่รองรับ Affiliate ได้แก่ TikTok และ YouTube Shopping ซึ่งครีเอเตอร์ที่มีคุณสมบัติสามารถรับค่าคอมมิชชันจากการติดแท็กสินค้าหรือตะกร้าสินค้าในวิดีโอ
Live Streaming
Live Streaming คือการถ่ายทอดสดภาพและเสียงผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์บนอินเทอร์เน็ต ซึ่งผู้ชมสามารถรับชมผ่านสมาร์ตโฟนหรือคอมพิวเตอร์ได้ เป็นเครื่องมือที่เหมาะสมสำหรับการส่งเสริมการขายและหาลูกค้าใหม่ โดยเฉพาะในกลุ่ม Gen Z ซึ่งสอดคล้องกับไลฟ์สไตล์และพฤติกรรมใหม่ๆ ของผู้บริโภค
Podcast
Podcast คือรายการเสียงที่เผยแพร่ผ่านช่องทางออนไลน์ เช่น แอปพลิเคชันหรือเว็บไซต์ มีความยาวตั้งแต่ 10 นาทีจนถึงมากกว่าหนึ่งชั่วโมง เนื้อหาหลากหลายและสามารถฟังซ้ำได้ตามความสนใจ
ในเชิงการตลาด Podcast ช่วยเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายที่มีความสนใจเฉพาะ สร้างความสัมพันธ์ระยะยาว และเพิ่มความน่าเชื่อถือให้กับแบรนด์ การโฆษณาผ่าน Podcast สามารถกระตุ้นการตัดสินใจซื้อได้ดี เนื่องจากผู้ฟังเลือกฟังเนื้อหาที่ตรงกับความสนใจ
AI-Generated Content
AI ในการสร้าง Content Marketing เป็นหนึ่งในความสามารถที่ชาญฉลาดของเทคโนโลยีในด้าน AI ช่วยคิดคอนเทนต์ ช่วยให้ครีเอเตอร์ทำงานได้รวดเร็วขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการสร้างโพสต์ บทความ โฆษณา และอื่นๆ
โดย AI ถูกฝึกฝนด้วยข้อมูลจำนวนมหาศาล เพื่อนำมาวิเคราะห์รูปแบบการใช้ภาษา โครงสร้างประโยค และเทคนิคการเขียน เทคโนโลยีนี้เริ่มนิยมในปี 2024 และยังคงแพร่หลายต่อเนื่องมาถึงปี 2025 พร้อมกับการพัฒนาโปรแกรมอย่างต่อเนื่อง
AR/VR Experience Marketing
AR/VR Experience Marketing คือการใช้เทคโนโลยี Augmented Reality (AR) และ Virtual Reality (VR) เพื่อสร้างประสบการณ์เสมือนจริงให้ผู้ใช้งาน
เทรนด์ AR/VR น่าสนใจเพราะถูกนำมาใช้มากขึ้นในโซเชียลมีเดียและธุรกิจออนไลน์ เช่น ให้ผู้ใช้สร้างคอนเทนต์สนุกๆ หรือทดลองสินค้าผ่านสมาร์ทโฟน เช่น การลองสวมเสื้อผ้าหรือทดลองสีเครื่องสำอาง ช่วยดึงดูดความสนใจและสร้างประสบการณ์ใหม่ให้กับผู้ใช้งาน คาดว่าในปี 2025 เทคโนโลยีนี้จะได้รับการใช้งานอย่างกว้างขวางยิ่งขึ้น
Omni-Activation
Omni-Activation คือการใช้กลยุทธ์การตลาดที่เชื่อมโยงประสบการณ์ผู้บริโภคในหลายช่องทาง เช่น ออนไลน์และออฟไลน์ เพื่อให้ผู้บริโภคเข้าถึงแบรนด์ได้ทุกที่ทุกเวลา เทรนด์นี้น่าสนใจเพราะช่วยสร้างประสบการณ์ที่ต่อเนื่องและไม่สะดุด ทำให้ลูกค้าสามารถตัดสินใจซื้อได้ทันที เพิ่มโอกาสสร้างความสัมพันธ์และกระตุ้นการตัดสินใจซื้อ
สรุป
Content Marketing คือการสร้างและเผยแพร่เนื้อหาที่มีคุณค่าและน่าสนใจเพื่อดึงดูดและสร้างความสัมพันธ์กับกลุ่มเป้าหมาย โดยเนื้อหาสามารถเป็นบทความ วิดีโอ พอดแคสต์ หรือโซเชียลมีเดีย
เทคนิคนี้ช่วยเสริมสร้างความน่าเชื่อถือและสร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้กับแบรนด์ ซึ่งเนื้อหาที่ดีสามารถช่วยให้ลูกค้าเข้าใจแบรนด์ได้ดีขึ้นและสร้างการมีส่วนร่วมที่สูง การตลาดประเภทนี้มีประสิทธิภาพในการกระตุ้นการตัดสินใจซื้อและสร้างความภักดีในระยะยาว
คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับ Content Marketing (FAQ)
เราจะมาตอบคำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับ Content Marketing เพื่อช่วยให้คุณวางแผนและดำเนินกลยุทธ์ได้อย่างมั่นใจ ตั้งแต่การเลือกประเภทของเนื้อหาที่เหมาะสม ไปจนถึงการวัดผลกระทบของกลยุทธ์นี้ เพื่อให้คุณสามารถใช้ Content Marketing อย่างมีประสิทธิภาพในการดึงดูดและสร้างความสัมพันธ์กับกลุ่มเป้าหมาย
กลยุทธ์ Content Marketing คืออะไร?
Content Marketing คือการสร้างคอนเทนต์เพื่อส่งเสริมการตลาด โดยมีเป้าหมายเพื่อเพิ่มการรับรู้แบรนด์ กระตุ้นยอดขาย หรือมอบความรู้ให้กับกลุ่มเป้าหมาย
Content Marketing มีอะไรบ้าง?
- Infographic Content คือการใช้กราฟิกในการสื่อสารข้อมูลหรือเนื้อหาที่ซับซ้อนในรูปแบบที่เข้าใจง่ายและน่าสนใจ
- Video Content คือการใช้วิดีโอในการสื่อสารข้อมูลหรือเนื้อหาต่างๆ เพื่อดึงดูดความสนใจและเพิ่มการมีส่วนร่วมกับผู้ชม
- Blog Content คือเนื้อหาที่เขียนในรูปแบบบทความบนเว็บไซต์หรือบล็อกเพื่อให้ข้อมูล คำแนะนำ หรือบทวิเคราะห์ในหัวข้อที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจหรือแบรนด์
- Longform Content คือเนื้อหาที่มีความยาวมากกว่าบทความทั่วไป เช่น บทความที่มีความยาว 1,000 คำขึ้นไป หรือรายงานเชิงลึก เน้นการให้ข้อมูลที่ละเอียด ชัดเจน และครอบคลุม
- E-Book หนังสือดิจิทัลที่สามารถดาวน์โหลดและอ่านได้บนอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ เนื้อหามักจะมีความยาวและลึกซึ้ง เป็นเครื่องมือที่ดีในการสร้างความน่าเชื่อถือ
- Case Study คือการศึกษาผลลัพธ์จากการนำกลยุทธ์หรือวิธีการต่างๆ มาประยุกต์ใช้ในสถานการณ์จริง โดยเน้นการวิเคราะห์ปัญหาและผลลัพธ์ที่เกิดขึ้น
ลง Content ในช่องทางไหนดี?
การทำ Content Marketing ให้ประสบความสำเร็จ ควรเลือกช่องทางที่มีผู้ใช้จำนวนมาก เช่น Facebook, Instagram, X, และ TikTok เพื่อเพิ่มการมองเห็นและเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้มากขึ้น
Content Marketing ช่วยเพิ่มยอดขายได้จริงไหม?
Content Marketing ช่วยเพิ่มการเข้าถึงสินค้าของกลุ่มเป้าหมาย แต่การเพิ่มยอดขายขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย เช่น คุณภาพและความน่าสนใจของผลิตภัณฑ์
ทำไมต้องทำ Content Marketing
สาเหตุที่ต้องทำ Content Marketing เพราะเป็นตัวเชื่อมกลยุทธ์การตลาด ช่วยสื่อสารกับกลุ่มเป้าหมายผ่านคอนเทนต์ที่น่าสนใจ และกระตุ้นการตัดสินใจซื้อสินค้า
ตัวอย่างคอนเทนต์ ที่ทำแล้วประสบความสำเร็จ
ตัวอย่างคอนเทนต์ที่ประสบความสำเร็จ เช่น คอนเทนต์ประเภทการเขียน คอนเทนต์ประเภทกราฟิก คอนเทนต์ในรูปแบบของวิดีโอ และคอนเทนต์ในรูปแบบเสียง