การวางแผนกลยุทธ์ทางการตลาด โดยเฉพาะช่องทางดิจิทัล คุณคิดว่าสิ่งสำคัญที่นักการตลาดควรรู้คืออะไร? คงจะดีไม่น้อยถ้ามีเครื่องมือที่สามารถล่วงรู้ถึงพฤติกรรมของผู้บริโภค ทั้งการโพสต์ การคอมเมนต์ การกดอิโมติคอน เพื่อแสดงความรู้สึก เพราะพฤติกรรมเหล่านี้สามารถนำมาใช้เป็นข้อมูลเพื่อวางกลยุทธ์ทางการตลาดได้อย่างถูกต้องและแม่นยำ ดังนั้น จึงมีการสร้างเครื่องมือทางการตลาดที่รวบรวมข้อมูลที่มาจากช่องทางดิจิทัลโดยเฉพาะ นั่นก็คือ Social Listening Tools
โดยสำหรับ Social Listening Tools คือ เครื่องมือที่ทำให้นักการตลาดทุกคนเข้าใจถึงพฤติกรรมของผู้บริโภค อีกทั้งยังสามารถนำมาต่อยอดเป็นกลยุทธ์ทางตลาดให้กับธุรกิจได้ และเพื่อให้ธุรกิจประสบความสำเร็จในตลาด
เพราะฉะนั้นเรามาใช้ Social Listening Tools อย่างถูกต้องเพื่อต่อยอดทางธุรกิจกัน
Social Listening คืออะไร
Social Listening คือ อีกหนึ่งวิถีทางทางการตลาดที่รวบรวมทุกข้อมูลและทุกกิจกรรมที่เกิดขึ้นบนโลกออนไลน์ (Online) และโลกโซเชียล มีเดีย (Social Media) ที่นักงานตลาดและผู้ประกอบการควรศึกษา โดยทุกกิจกรรมของผู้บริโภคที่เกิดขึ้นผ่านช่องทางออนไลน์ไม่ว่าจะเป็น Social Media, Blog หรือ Website ฯลฯ จะถูกรวบรวมไว้บน Social Listening Tools ทั้งหมด
โดย Social Listening เน้นไปที่การฟังเสียงสะท้อนของผู้บริโภคที่มีต่อแบรนด์สินค้าผ่านโลกออนไลน์ ไม่ว่าจะเป็นการโพสต์ คอมเมนต์ การติดแฮชแท็ก รวมถึงการแสดงความรู้สึก ซึ่งทุกการกระทำเหล่านั้นล้วนเป็นสิ่งสำคัญในการนำมาปรับปรุงและพัฒนาผลิตภัณฑ์ ตลอดจนการวางแผนทางการตลาด เช่น การปรับปรุงและพัฒนา Content Marketing ให้ดีขึ้น การทำ Market Research เพื่อเสาะหา Insight หรือข้อมูลเชิงลึกต่างๆ ที่สามารถนำมาวิเคราะห์เพื่อเอื้อประโยชน์ให้แก่ธุรกิจเช่น
- ข้อมูลเกี่ยวกับบริษัท
- ข้อมูลเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์หรือบริการที่บริษัทมีอยู่
- Key Opinion Leaders (KOL) ที่สามารถจูงใจคนให้ใช้ผลิตภัณฑ์
- ข้อมูลเกี่ยวกับคู่แข่ง
รวมไปถึงข่าวสารอื่น ๆ โดนข้อมูลเชิงลึกเหล่านี้ รวมถึง Social Listening ยังช่วยในการหาแนวทางในการสร้าง Influencer ที่มีศักยภาพมากพอที่จะทำให้แบรนด์เติบโต และเป็นที่รู้จักในทิศทางที่ดีขึ้น รวมถึงสามารถสร้างโอกาสให้กับธุรกิจในอนาคต
แล้ว Social Listening Tools คืออะไร ช่วยอะไรบ้าง
Social Listening Tools คือ เครื่องมือวิเคราะห์ข้อมูลบนโลกออนไลน์ ซึ่งเป็นเครื่องมือทางการตลาดที่แต่ละธุรกิจนำมาใช้ เพื่อคอยรับฟังเสียงสะท้อนของผู้บริโภคผ่านช่องทางออนไลน์ โดยเฉพาะเสียงของผู้บริโภคที่อยู่ในช่องทางโซเชียล มีเดีย ไม่ว่าจะเป็นผ่านเฟซบุ๊ก (Facebook) อินสตาแกรม (Instagram) ทวิตเตอร์ (Twitter) รวมไปถึงติ๊กต๊อก (TikTok) เป็นอีกหนึ่งใน Marketing Technology ที่หลายบริษัทส่วนใหญ่ควรมีไว้ เพราะเครื่องมือดังกล่าวมีหน้าที่รวบรวมทุกข้อมูลและกิจกรรมที่เกิดขึ้นบนโลกออนไลน์ เช่น
- การโพสต์เนื้อหา (Content) ลงบนโลกโซเชียล มีเดีย
- การแสดงความคิดเห็น
- การแสดงความรู้สึก
- การติดแฮชแท็ก
- การแท็กเพื่อน
แน่นอนว่าเสียงสะท้อนของผู้บริโภคเหล่านี้มีความสำคัญอย่างมากในโลกธุรกิจ เพราะเราถือว่าทุกเสียงของผู้บริโภคที่กล่าวถึงแบรนด์เป็นข้อมูลเชิลลึกที่ธุรกิจสามารถนำมาต่อยอด ปรับปรุง และพัฒนาผลิตภัณฑ์ และทำให้ดียิ่งขึ้นไปอีก
ประโยชน์ของ Social Listening
Social Listening มีประโยชน์อย่างไร? ต่อโลกธุรกิจ วันนี้เราจะมาเจาะลึกถึงประโยชน์ให้ทุกคนเป็นข้อๆ ดังนี้
- ช่วยในการต่อยอดพัฒนาธุรกิจ โดยการรวบรวมข้อมูลเชิงลึกที่ได้มาวิเคราะห์ และวางกลยุทธ์ที่เหมาะสมเพื่อนำมาสร้างข้อได้เปรียบทางการตลาด
- ช่วยประหยัดเวลาในการเก็บรวบรวมข้อมูลของผู้บริโภคและลดขั้นตอนการทำงาน
- ช่วยให้ธุรกิจรับรู้พฤติกรรมของกลุ่มเป้าหมาย ทำให้บริษัทเข้าใจพฤติกรรมผู้บริโภคในเชิงลึก ว่ามีความคิด และความรู้สึกต่อแบรนด์สินค้าอย่างไร
- ช่วยเพิ่มแนวทางทางในการทำ Content Marketing โดยการนำเสนอเนื้อหาที่ตรงกับความต้องการของผู้บริโภคมากขึ้น
- ช่วยในการวิเคราะห์คู่แข่งของธุรกิจได้ ทำให้เรามองเห็นจุดแข็ง และจุดอ่อนของแบรนด์คู่แข่งจนสามารถคว้าโอกาสและลบจุดอ่อนของแบรนด์ตนเอง
- ช่วยในการปรับปรุงและพัฒนา Customer Journey และเพิ่มประสบการณ์ที่ดีที่มีต่อแบรนด์มากขึ้น
- ช่วยในการทำ Customer Relationship Management หรือการสร้างความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างแบรนด์และลูกค้า
- ช่วยในการรับมือกับวิกฤตของแบรนด์ (Crisis Management)
Social Listening และ Social Monitoring แตกต่างกันยังไง
หลายคนอาจสับสนระหว่าง Social Listening และ Social Monitoring เราจะมาไขข้อข้องใจและทำความเข้าใจ ในเรื่องนี้กัน ดังนี้
ความแตกต่างระหว่าง Social Listening vs. Social Monitoring
Social Listening คือ การมองภาพใหญ่ของแบรนด์ โดยเก็บรวบข้อมูลของสินค้าและบริการ ว่าผู้บริโภคส่วนใหญ่บนโลกโซเชียล มีเดียมีความคิดเห็นอย่างไรเกี่ยวกับสินค้าและบริการนั้นๆ รวมถึงพูดถึงสินค้าและบริการของเราในแง่มุมไหน เพื่อทำความเข้าใจความต้องการของลูกค้า ในส่วนของ Social Monitoring เน้นไปที่ติดตามและดูแลแบรนด์ของเราโดยเฉพาะ เช่น การแสดงความคิดเห็นของลูกค้า การสั่งซื้อ การใช้งาน และการสอบถามเพิ่มเติม โดยในส่วนนี้ทางธุรกิจหรือแบรนด์จะติดตามดูแล เพื่อปรับปรุงและแก้ไขปัญหาให้แก่ลูกค้า และลดข้อผิดพลาดต่างๆ ที่อาจเกิดขึ้น รวมถึงดูแลภาพลักษณ์ของแบรนด์ และชี้วัดความสำเร็จของแคมเปญทางการตลาดจะใช้ Social Monitoring
วิธีการใช้งานที่แตกต่างกัน (Automated vs. Manual)
ความแตกต่างในเรื่องของวิธีการใช้งานระหว่าง Social Listening และ Social Monitoring ในส่วนของ Social Listening จะมีข้อมูลที่เรียกว่า Social Listening Tools ที่ทำการค้นหาข้อมูลเชิงลึกของแบรนด์โดยอัตโนมัติ ผ่านทุกแพลตฟอล์มบนโลกออนไลน์ ในส่วนของ Social Monitoring จะใช้งานในระบบ Manual โดยแบรนด์จะค้นหาข้อมูลเกี่ยวกับแบรนด์ รวมถึงสินค้าและบริการผ่านแพลตฟอร์มต่างๆ ด้วยตัวเองซึ่งจะใช้เวลานานกว่า อีกทั้งยังไม่สามารถค้นหาข้อมูลต่างๆ ได้ทั้งหมด
การรับมือที่แตกต่างกัน (Proactive vs. Reactive)
สำหรับ Social Listening อย่างที่กล่าวไปแล้วว่าเป็นส่วนในการเก็บรวบรวมที่กว้างและลึกมากกว่า Social Monitoring จึงสามารถช่วยให้สามารถป้องกันเสียงสะท้อนเชิงลบที่มีต่อแบรนด์ได้ก่อนที่ปัญหาจะเกิดขึ้น แตกต่างจาก Social Monitoring ที่เน้นการจัดการปัญหาแบบ Real-Time ซึ่งต้องรอให้มีรีวิวเกี่ยวกับสินค้าในเชิงลบก่อนถึงจะจัดการได้ จึงเปรียบได้ว่า Social Listening คือการป้องกันก่อนเกิดปัญหา ในขณะที่ Social Monitoring การแก้ปัญหาเฉพาะหน้า ซึ่งทั้งสองอย่างสามารถทำควบคู่กันได้
การจัดการด้านข้อมูลที่แตกต่างกัน Insights-Driven vs. Data-Driven
ในส่วนของการขับเคลื่อนด้วยข้อมูล ทั้ง Social Listening และ Social Monitoring จะทำงานแทบไม่แตกต่างกัน เพราะมีส่วนที่อาศัย Insights-Driven คือการเจาะลึกข้อมูลด้านพฤติกรรมของลูกค้า และเมื่อได้ข้อมูลมาแล้วก็อาศัยข้อมูลในการขับเคลื่อนกลยุทธ์ของธุรกิจ (Data-Driven) ไม่ว่าจะเป็นการมอนิเตอร์ความเห็นของลูกค้าเฉพาะบุคคล หรือการฟังเสียงสะท้อนของลูกค้าโดยภาพรวมก็จำเป็นต้องอาศัยข้อมูลทั้งสองอย่าง เพื่อมาปรับปรุงและพัฒนาผลิตภัณฑ์และแบรนด์สินค้าให้ดีมากยิ่งขึ้น
ตัวอย่างการนำ Social Listening Tools ไปใช้ในธุรกิจ
การนำเครื่องมือ Social Listening Tools มาใช้มีประโยชน์อย่างมากในธุรกิจ ดังนี้
ใช้ Social Listening Tools เพื่อสำรวจคู่แข่ง
รู้เขา รู้เรา รบร้อยครั้งชนะร้อยครั้ง เป็นภาษิตจีนที่ไม่เกินจริงเลยแม้แต่น้อย เพราะนอกจาก Social Listening Tools จะช่วยให้เรารู้ว่าลูกค้ารู้สึกกับแบรนด์ในแง่มุมไหน เรายังทราบด้วยว่าลูกค้ามีความรู้สึกต่อแบรนด์คู่แข่งแบบใด ในส่วนนี้ก็เป็นโอกาสของแบรนด์ที่จะต่อยอดและพัฒนาสินค้าและบริการให้อยู่เหนือแบรนด์คู่แข่ง
ใช้ Social Listening Tools เพื่อเปลี่ยนผู้ใช้เป็นลูกค้า
หากเราไม่มีข้อมูลที่ทำให้สามารถล่วงรู้ถึงพฤติกรรมของผู้บริโภคอาจเป็นไปได้ว่าสินค้า บริการ ตลอดจนแคมเปญทางการตลาดของเราอาจไม่ตอบโจทย์กับผู้บริโภคหรือกลุ่มเป้าหมายที่เราคาดหวังเอาไว้ ซึ่งการนำ Social Listening Tools มาใช้จะช่วยให้เราปรับปรุง Customer Journey เพื่อเปลี่ยนเส้นทางของผู้บริโภคตั้งแต่ก่อนจะเป็นลูกค้า จนมาเป็นลูกค้า โดยใช้คีย์เวิร์ดที่เกี่ยวข้องกับสินค้า และบริการ แบรนด์ของตนเอง แบรนด์ของคู่แข็ง มาหาข้อมูลแบบเจาะลึกถึงความต้องการของลูกค้า จนสร้างกลยุทธ์ทางการตลาดออกมา และสามารถเปลี่ยนผู้ที่ต้องการใช้ผลิตภัณฑ์กลายเป็นลูกค้าของแบรนด์ในที่สุด
ใช้ Social Listening Tools เพื่อปรับปรุงคุณภาพคอนเทนต์
อีกทั้งการนำ Social Listening Tools ยังสามารถนำมาปรับปรุงคุณภาพของ Content Marketing หรือการนำเสนอเนื้อหาบนโลกออนไลน์ เพราะว่า Social Listening Tools จะช่วยให้เราทราบถึงความต้องการของลูกค้า จึงทำให้เราสามารถนำเสนอเนื้อหาที่ตรงกับความต้องการของลูกค้า และนำเสนอเนื้อหาที่ตรงกับช่องทางที่ลูกค้าและกลุ่มเป้าหมายของเราต้องการได้อย่างตรงจุดตรงใจ และตอบโจทย์กับความต้องการที่แท้จริงของกลุ่มเป้าหมาย
ใช้ Social Listening Tools เพื่อติดตามแคมเปญ
ความสำเร็จของแคมเปญทางการตลาดในยุคนี้มีเครื่องมือที่สามารถชี้วัดได้ โดยการวัดว่าแคมเปญทางการตลาดจะประสบความสำเร็จหรือไม่? ต้องมีคนพูดถึง ซึ่งเราจะรู้ว่ามีคนกำลังพูดถึงแคมเปญทางการตลาดของเราอยู่ โดยสิ่งนั้นต้องอาศัย Social Listening Tools ในการตรวจสอบว่าใครกำลังพูดถึงแคมเปญของเราอยู่บ้าง ซึ่งอาจจะตรวจสอบผ่านการใช้ #Hashtag การแสดงความคิดเห็น โดยเครื่องมือ Social Listening Tools จะระบุข้อมูลโดยละเอียดทั้งวัน เวลาที่มีคนกล่าวถึงแคมเปญของเราผ่านแพลตฟอร์มจำนวนต่างๆ ซึ่งจะช่วยให้เราวิเคราะห์และสามารถนำไปใช้ได้ทันที
ใช้ Social Listening Tools เพื่อทำ Customer Service
การทำให้ลูกค้ามีความรู้สึกในเชิงบวก รวมถึงอยากสนับสนุนสินค้าและบริการของแบรนด์จำเป็นต้องมี Customer Service ที่ดี โดยเราสามารถใช้ Social Listening Tools มาพัฒนาในส่วนของ Customer Service ได้ ผ่านการตั้งค่า Default ถึงคีย์เวิร์ดสำคัญที่ลูกค้าต้องการสอบถาม ซึ่งระบบจะทำการตอบกลับเองอัตโนมัติโดยที่แบรนด์ไม่จำเป็นต้องตอบคำถามด้วยตนเอง ซึ่งในส่วนนี้จะช่วยประหยัดเวลา และสร้างทัศนคติที่ดีของลูกค้าที่มีต่อแบรนด์มากยิ่งขึ้น
ใช้ Social Listening Tools ตัวไหนดี? Minimice มีแนะนำ
หากใครที่กำลังหา Social Listening Tools ตัวไหนดี มี Social Listening Tools ฟรี หรือไม่? Minimice มีคำตอบ
Hootsuite
จริงๆ แล้ว HootSuite คือ Social Media Marketing Tool โดยเป็นเครื่องมือที่ช่วยจัดการโซเชียล มีเดียหลายๆ แพลตฟอร์มไว้ใน HootSuite เพียงแค่ตัวเดียว โดยมีหน้าที่จัดการเนื้อหาที่ต้องการ โพสต์ได้อย่างสะดวกและครอบคลุม สามารถเข้าถึง เชื่อมต่อและมีส่วนร่วมกับผู้ติดตามได้อย่างมีประสิทธิภาพ รวมถึงสามารถตรวจสอบข้อมูลต่างๆ ได้แบบเรียลไทม์ และสามารถจัดการและใช้งานการโฆษณาได้ในทุกแพลตฟอร์ม นอกจากนี้ยังสามารถสรุปผลเพื่อนำมาวิเคราะห์ไอเดียทางการตลาดในอนาคต
ไม่เพียงแค่นี้ Hootsuite ยังมีอีกหนึ่งเครื่องมือที่เรียกว่า Hootsuite Insights ซึ่งเป็นเครื่องมือ Social Listening Tool ที่ทำให้เรารับรู้ถึงข้อมูลของผู้บริโภคมากขึ้น จึงช่วยให้การตัดสินใจด้านข้อมูลได้อย่างแม่นยำและถูกต้อง นอกจากนี้ยังมีฟีเจอร์ที่เรียกว่า Emotional Data Driving Smart Customer Engagement ที่สามารถนำเอาอารมณ์และความรู้สึกของผู้บริโภคมาวิเคราะห์ได้จึงสามารถสร้างไอเดียทางการตลาดได้อย่างมีประสิทธิภาพ
Sprout Social
เครื่องมือ Social Media Management อย่าง Sprout Social ที่มี Social Listening พ่วงมาด้วย ซึ่งฟีเจอร์ตัวนี้จะช่วยแบรนด์ในการรวบรวมข้อมูลเกี่ยวผู้ที่กล่าวถึงแบรนด์ (Mention) ผ่านแพลตฟอร์มโซเชียล มีเดียต่าง ๆ เช่น เฟซบุ๊ก (Facebook), ทวิตเตอร์ (Twitter) และอินสตาแกรม (Instagram) เป็นต้น นอกจากนี้ Sprout Social ยังสามารถจัดการแฟลตฟอร์มในเรื่องอื่นๆ ได้ อาทิ การติดตั้ง Chatbox ฟีเจอร์ Customer Feedback, Competitor Comparison และ Campaign Analysis ซึ่งจะช่วยส่งเสริมให้ธุรกิจเป็นที่รู้จัก และปรับปรุงพัฒนาสินค้าและบริการได้อย่างมีประสิทธิภาพ
BuzzSumo
Social Listening Tool ที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากก็คือ BuzzSumo แพลตฟอร์มเจ้าใหญ่ ที่นักการตลาด นักธุรกิจ และเหล่าบล็อกเกอร์ อินฟลูเอนเซอร์ต้องมีและใช้งานกันมานานมากๆ แล้ว โดยทำหน้าที่ค้นหาการ Mention ถึงแบรนด์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ อีกทั้งยังช่วยค้นหา Influencers ที่เหมาะสมกับแบรนด์ได้เป็นอย่างดี นอกจากนี้ยังมีเครื่องมือที่ช่วยติดตามเทรนด์ใหม่ๆ ซึ่งเป็นตัวช่วยในการคิดแคมเปญทางการตลาดได้ตรงกับความต้องการของผู้บริโภคได้มากขึ้น
HubSpot Social Media Management Software
HubSpot คือหนึ่งในซอฟต์แวร์ที่ช่วยในการทำการตลาด ที่ช่วยดึงดูดให้ผู้คนมากมายหันมาสนใจธุรกิจของเรา โดยมี 4 เครื่องมือหลัก คือ HubSpot CRM, HubSpot Marketing Hub, HubSpot Sales Hub และ HubSpot Service Hub โดยมีฟีเจอร์เด่นๆ ที่ช่วยในเรื่อง Social Listening ที่ช่วยในการตรวจสอบการตอบโต้ การพูดคุย รวมถึงตรวจสอบข้อมูล Insights ของลูกค้าบนโซเชียล มีเดียได้อย่างมีประสิทธิภาพ
เทคนิคการใช้ Social Listening Tools ที่เราแนะนำว่าดีจริง
เทคนิคการใช้ Social Listening Tools อย่างถูกต้อง โดย Minimice มีสิ่งดีๆ มาแนะนำ
- ฟังให้ถูกเรื่อง หนึ่งในการใช้ Social Listening Tools ให้ประสบความสำเร็จคือการฟังให้ถูกเรื่อง โดยการเสาะหาหัวข้อหรือคีย์เวิร์ดที่มีความเกี่ยวข้องกับแบรนด์ รวมถึงเรียนรู้ว่าคำหรือหัวข้อไหนที่มักพูดถึงแบรนด์และอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องกับสินค้าและบริการของคุณ ซึ่งจะทำให้คุณเข้าใจข้อมูลเชิงลึกของผู้บริโภคที่ได้มากยิ่งขึ้น โดยสามารถตรวจสอบจาก แฮชแท็ก ชื่อแบรนด์ของตัวเอง สินค้าของตัวเอง แบรนด์ของคู่แข่ง ชื่อแคมเปญ เพื่อสานสัมพันธ์กับผู้บริโภคและทำให้แบรนด์เป็นที่รู้จักมากยิ่งขึ้น
- ฟังให้ถูกที่ การค้นหากลุ่มเป้าหมายให้กับสินค้าของคุณเอง สิ่งสำคัญก็คือการตามหาเสียงสะท้อนของลูกค้าของคุณในแพลตฟอร์มที่ถูกต้อง โดยหากคุณรู้ว่าแบรนด์ของคุณกำลังถูกพูดถึงในแพลตฟอร์มใด? ก็จะช่วยให้คุณนำเสนอเนื้อหา และเสนอขายสินค้าและบริการได้อย่างถูกที่และถูกจุด
- ค้นให้ลึกกว่าเดิม “ยิ่งค้นยิ่งเจอสิ่งใหม่” คำนี้ไม่เกินจริง เพราะว่าเมื่อคุณตามหาเสียงของผู้บริโภคให้ตรงกับสินค้าและบริการของคุณอย่างแท้จริง คุณจำเป็นต้องค้นหาให้ลึกยิ่งกว่าเดิม โดยใช้เงื่อนไขในการค้นหา เช่น การระบุสถานที่ เพศ กลุ่มอายุ เพื่อให้แคมเปญและกลยุทธ์ทางการตลาดของคุณสามารถตอบสนองความต้องการของลูดค้าได้มากที่สุด
- เรียนรู้จากคู่แข่ง การที่คุณฟังเสียงสะท้อนของลูกค้าทำให้คุณเข้าใจลูกค้า แต่ถ้าคุณเรียนรู้ข้อผิดพลาดของคู่แข่งจะสร้างโอกาสให้คุณนำเสนอสินค้าและบริการที่ดีกว่าให้กับลูกค้าได้ และฉวยโอกาสในช่วงเวลาที่คู่แข่งถูกค้นพบจุดอ่อนทำให้สินค้าของคุณเป็นที่สนใจของกลุ่มลูกค้าแทน
- แบ่งปันในสิ่งที่รู้ ข้อดีของการใช้ Social Listening Tools คือการแบ่งปันข้อมูลที่เป็นประโยชน์ต่อองค์กรและบริษัทของคุณ ซึ่งเป็นประโยชน์ต่อการผลิตและพัฒนา Product หรือ Service ใหม่ๆ ออกมา รวมถึงได้พัฒนา Product ที่มีอยู่ให้ตอบโจทย์ผู้คนมากขึ้น
- พร้อมรับการเปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ นอกจากนี้ Social Listening Tools ยังช่วยให้คุณเห็นการเปลี่ยนแปลงบนโลกออนไลน์ก่อนใคร ซึ่งอาจหมายถึงความคิดเห็น กระแสสังคม ไปจนถึงเทรนด์ต่างๆ ซึ่งจะช่วยให้คุณเปลี่ยนแปลงกลยุทธ์ทางธุรกิจของคุณได้อย่างทันท่วงที และปรับกลยุทธ์ให้เหมาะสมกับกระแสในปัจจุบัน
สรุป
แน่นอนว่าธุรกิจหรือแบรนด์ยุคใหม่ การนำ Social Listening Tools มาใช้ก็เหมือนการติดปีกให้กับเสือ เนื่องจาก Social Listening Tools คือ เครื่องมือทางการตลาดที่สำคัญที่ช่วยให้คุณฟังและมองเห็นเสียงสะท้อนจากผู้ใช้สินค้าของคุณได้อย่างชัดเจนและลึกยิ่งขึ้น ซึ่ง ณ จุดนี้ จะเอื้อประโยชน์ให้กับแบรนด์ในหลายๆ เรื่อง เช่น การปรับปรุงและพัฒนาสินค้าและบริการให้ตอบโจทย์กับกลุ่มเป้าหมายมากขึ้น การวางแผนการนำเสนอ Content ที่ตรงกับความต้องการของกลุ่มเป้าหมาย การปรับปรุงกลยุทธ์ทางธุรกิจ ซึ่งในส่วนนี้จะสร้างโอกาสให้กับธุรกิจในอนาคต และขยายกรอบการพัฒนาสินค้าและบริการให้ไปได้ไกลมากขึ้นยิ่งกว่าที่เคย
FAQ – คำถามที่พบบ่อย
Social Listening คืออะไร
Social Listening หรือการเก็บข้อมูลของผู้บริโภคบนโลก Social Media ผ่าน Social Listening Tool ต่างๆ เพื่อจะนำข้อมูลนั้นมาปรับปรุงแบรนด์และกลยุทธ์ให้ดีขึ้น
Social Listening vs. Social Monitoring ต่างกันไหม
Social Listening เน้นมองไปที่ภาพรวมแบรนด์ว่าถูกพูดถึงอย่างไรใน Social Media แต่ Social Monitoring จะเน้นการดูแลและติดตามสิ่งมีคนฟีดแบ็กที่เกี่ยวกับแบรนด์
Social Listening มีประโยชน์ยังไง
เราสามารถติดตามดูว่าคนกำลังพูดถึงแบรนด์เราอย่างไรได้บ้าง และได้รู้ถึงความคิด ความสนใจของผู้บริโภคในเชิงลึก สามารถนำมาใช้ในการปรับปรุงและวางแผนให้ธุรกิจตอบโจทย์กับลูกค้ามากที่สุด