Social Media Marketing เมื่อลูกค้าไม่ได้อยู่ในโลกออฟไลน์เพียงอย่างเดียว

Key Takeaway

• Social Media Marketing คือการทำการตลาดผ่านแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียต่างๆ เช่น Facebook, TikTok เพื่อสร้างการรับรู้แบรนด์ หรือเพิ่มยอดขาย โดยใช้คอนเทนต์ที่น่าสนใจ
• การทำ Social Media Marketing มีความหลากหลายประเภท ได้แก่ Facebook, Instagram, X, TikTok, YouTube, LINE, Pantip, LinkedIn และ Pinterest ซึ่งแต่ละช่องทางมีจุดเด่นเฉพาะตัวในการเข้าถึงและสร้างความสัมพันธ์กับกลุ่มเป้าหมาย
• ธุรกิจยุคใหม่ขาด Social Media Marketing ไม่ได้ เพราะช่วยสร้างการรับรู้แบรนด์ เข้าถึงลูกค้าได้ง่าย เพิ่มยอดขาย และปรับกลยุทธ์ตามเทรนด์ตลาดได้รวดเร็ว 
• การทำ Social Media Marketing ควรระวังในการเลือกแพลตฟอร์ม สร้างคอนเทนต์คุณภาพ หลีกเลี่ยงการใช้เนื้อหาซ้ำกันหรือโพสต์ที่มีข้อความมากเกินไป และควรใช้สื่อให้หลากหลาย

Social Media Marketing คือการใช้โซเชียลมีเดียเพื่อทำการตลาดและขับเคลื่อนธุรกิจให้เติบโต ในบทความนี้คุณจะได้เรียนรู้ว่า Social Media Marketing คืออะไร และทำไมมันถึงสำคัญในยุคปัจจุบัน พร้อมเทคนิคการสร้างคอนเทนต์ที่ดึงดูดกลุ่มเป้าหมาย รวมถึงกลยุทธ์ที่จะช่วยให้การทำการตลาดบนโซเชียลมีเดียประสบความสำเร็จและได้ผลลัพธ์ที่ดีในอนาคต

Social Media Marketing กลยุทธ์การตลาดที่ธุรกิจยุคใหม่ขาดไม่ได้

Social Media Marketing คือการใช้ Social Media เพื่อทำการตลาดตามเป้าหมายของธุรกิจ โดยนักการตลาดนำเครื่องมือต่างๆ มาปรับใช้กับกลยุทธ์เพื่อดึงดูดกลุ่มเป้าหมาย ผ่านคอนเทนต์ เช่น บทความ วิดีโอ หรือสื่อประเภทอื่นๆ ให้ตอบโจทย์ Search Intent หรือความต้องการในการค้นหาของผู้ใช้งานเหล่านั้น เรียกได้ว่า Social Media Marketing ซึ่งมีบทบาทสำคัญต่อการทำ SEO และเพื่อช่วยสร้าง Engagement Rate ได้เป็นอย่างดี ไม่ว่าจะเป็น อัตราการคลิก (Click Through Rate) การกดปุ่ม Link, Share หรือการ Comment ต่างๆ

9 ประเภท Social Media Marketing ที่นักการตลาดต้องรู้!

การทำ Social Media Marketing บนสื่อสังคมออนไลน์มีความหลากหลายและได้รับความนิยมอย่างมากจากกลุ่มผู้ใช้งานที่มีจุดประสงค์หรือเป้าหมายที่แตกต่างกัน โดยช่องทางหลักๆ ที่ใช้ในการทำ Social Media Marketing ได้แก่

1. Facebook 

Facebook เป็นแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียที่ได้รับความนิยมสูงในการทำ Social Media Marketing เนื่องจากมีฟีเจอร์ต่างๆ ที่น่าสนใจและช่วยให้ผู้ใช้งานเข้าถึงข้อมูลข่าวสารได้อย่างรวดเร็วและสะดวก ซึ่งทำให้ธุรกิจและผู้ประกอบการให้ความสนใจในการทำ Facebook Ads เพื่อโพรโมตสินค้าและบริการให้เข้าถึงกลุ่มลูกค้าได้มากขึ้น เช่น การสร้างโพสต์โพรโมตคูปองส่วนลดในช่วงเวลาต่างๆ หรือการสร้างช่องทางการสื่อสารเพื่อให้ลูกค้ารู้สึกใกล้ชิดและสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับแบรนด์ โดย Facebook เหมาะสำหรับกลุ่มผู้บริโภค ดังนี้

• ทุกกลุ่มเจเนอเรชัน X, Z, Y และ Baby Boomers มักใช้ Facebook ในการติดตามข่าวสารและข้อมูลเกี่ยวกับสินค้าและบริการ การค้นหาผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ และเชื่อมต่อกับแบรนด์
• กลุ่มผู้ใช้ในระดับท้องถิ่นหรือระดับประเทศ Facebook ช่วยให้ธุรกิจสามารถเข้าถึงลูกค้าในพื้นที่หรือระดับประเทศได้อย่างมีประสิทธิภาพ

2. Instagram 

Instagram เป็นแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียที่ใช้คอนเทนต์แบบข้อความ รูปภาพ หรือวิดีโอเพื่อดึงดูดความสนใจและสร้างความสัมพันธ์กับผู้ติดตาม ด้วยฟีเจอร์เหล่านี้ Instagram จึงเหมาะสมอย่างยิ่งสำหรับการทำ Social Media Marketing โดยช่วยให้ธุรกิจศึกษาพฤติกรรมผู้บริโภค และสร้างช่องทางประชาสัมพันธ์ เช่น การโพสต์รูปสินค้าและการใช้ Hashtag หรือการทำ Instagram Ads เพื่อเพิ่มการเข้าถึงผู้ใช้งาน โดย Instagram เหมาะสำหรับกลุ่มผู้บริโภค ดังนี้

• กลุ่มเจเนอเรชัน Z และ Y กลุ่มนี้นิยมใช้ Instagram ในการค้นหาผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ และแชร์ประสบการณ์เกี่ยวกับสินค้า ติดตามแบรนด์ที่ชอบ และมีแนวโน้มในการซื้อสินค้าผ่านแพลตฟอร์มนี้
• กลุ่มผู้บริโภคที่สนใจแฟชั่นและไลฟ์สไตล์ Instagram เหมาะสำหรับแบรนด์ที่ต้องการเข้าถึงผู้ที่มีความสนใจในแฟชั่น ความงาม หรือการท่องเที่ยว

3. X

อีกหนึ่งแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียที่สำคัญในการทำ Social Media Marketing คือ X (เดิมคือ Twitter) สามารถช่วยธุรกิจเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้อย่างรวดเร็วและตรงจุด ด้วยข้อความสั้นๆ ที่สามารถดึงดูดความสนใจได้ทันที นอกจากนี้ยังช่วยเพิ่มการมีส่วนร่วมจากลูกค้าผ่านการตอบกลับและการรีโพสต์ ส่งผลให้ธุรกิจสามารถสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับลูกค้าและโพรโมตข่าวสารหรือโปรโมชันได้ทันที พร้อมทั้งติดตามเทรนด์และปรับกลยุทธ์การตลาดให้ทันต่อการเปลี่ยนแปลงในตลาด โดย X เหมาะสำหรับกลุ่มผู้บริโภค ดังนี้

• กลุ่มเจเนอเรชัน X, Y และ Z กลุ่มนี้นิยมใช้ X สำหรับติดตามข่าวสาร เทรนด์ และแบรนด์ที่ชื่นชอบ
• กลุ่มผู้ที่สนใจข่าวสารทันทีและการอภิปราย ผู้บริโภคในกลุ่มนี้มักใช้ X เพื่ออัปเดตข้อมูลแบบเรียลไทม์ และมีส่วนร่วมในการสนทนา
• กลุ่มผู้บริโภคที่ชอบการสื่อสารแบบสั้นและกระชับ เป็นแพลตฟอร์มที่ตอบโจทย์คนที่ต้องการข้อมูลรวดเร็วและไม่ยืดยาว

4. TikTok

วิดีโอสั้นที่ดึงดูดความสนใจและเพิ่มการมีส่วนร่วมของผู้ใช้ อีกทั้งยังสามารถใช้ฟีเจอร์ต่างๆ เช่น Hashtags และ Challenges เพื่อสร้างความสัมพันธ์กับลูกค้าได้ดีขึ้น นอกจากนี้การทำ TikTok Ads ยังช่วยให้การโพรโมตสินค้าตรงกลุ่มเป้าหมายมากขึ้น เพิ่มการมองเห็นและขยายฐานลูกค้า ทำให้แบรนด์เป็นที่รู้จักและได้รับการตอบรับที่ดีในวงกว้าง รวมไปถึงการเลือกเวลาลง TikTok ก็เป็นสิ่งสำคัญที่ช่วยเพิ่มการเข้าถึง

นอกจากการลงโฆษณาแล้วยังสามารถใช้กลยุทธ์ Affiliate Marketing ได้ และเป็นอีกทางเลือกที่มีประสิทธิภาพ โดยการให้ Influencer ที่มีฐานผู้ติดตามสูง เพื่อช่วยโพรโมตสินค้าและสร้างความน่าเชื่อถือให้กับแบรนด์ได้ หรือผู้ใช้ทั่วไปช่วยโพรโมตสินค้า และได้รับค่า Commission จากการขาย ซึ่งช่วยกระตุ้นให้เกิดการบอกต่อและเพิ่มยอดขายได้อย่างเป็นธรรมชาติ โดย TikTok เหมาะสำหรับกลุ่มผู้บริโภค ดังนี้

• กลุ่มเจเนอเรชัน Z และ Y ซึ่งเป็นกลุ่มที่นิยมใช้ TikTok มากที่สุด และเปิดรับเทรนด์ใหม่ๆ ได้ง่าย
• กลุ่มที่ชื่นชอบความบันเทิงและคอนเทนต์ไวรัล เนื่องจาก TikTok เป็นแพลตฟอร์มที่เน้นความสนุกและไอเดียสร้างสรรค์
• กลุ่มนักช้อปออนไลน์ ที่สนใจสินค้าจากการรีวิวของ Influencer หรือโปรโมชันจาก Affiliate Marketing
• ธุรกิจที่ต้องการสร้างการรับรู้ให้กับแบรนด์ (Brand awareness) ผ่านคอนเทนต์วิดีโอสั้นที่เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้อย่างรวดเร็ว

5. YouTube

YouTube คือแพลตฟอร์มออนไลน์ที่เน้นการรับชมวิดีโอ โดยมีหมวดหมู่หลากหลายและเปิดโอกาสให้ผู้ใช้สร้างสรรค์เนื้อหาเอง นอกจากนี้ YouTube ยังมีบริการโฆษณา ซึ่งเป็นเครื่องมือสำคัญในการทำ Social Media Marketing ช่วยให้ธุรกิจสามารถโพรโมตแบรนด์และเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดย YouTube เหมาะสำหรับกลุ่มผู้บริโภค ดังนี้

• ทุกกลุ่มเจเนอเรชัน X, Z, Y และ Baby Boomers โดยมักใช้ YouTube เพื่อรับชมเนื้อหาหลากหลาย ทั้งวิดีโอการศึกษา ความบันเทิง ความรู้ และการรีวิวสินค้า
• กลุ่มผู้บริโภคที่ชื่นชอบเนื้อหาวิดีโอแบบยาว YouTube เหมาะสำหรับผู้ที่สนใจวิดีโอความยาวมากกว่า 10 นาที ที่สามารถให้ข้อมูลอย่างละเอียดและเต็มรูปแบบ
• กลุ่มผู้สนใจการเรียนรู้และการค้นหาความรู้ YouTube เป็นแหล่งข้อมูลที่ดีสำหรับการเรียนออนไลน์ หรือการค้นหาวิธีแก้ปัญหาต่างๆ จากคลิปวิดีโอ
• กลุ่มผู้ที่มีความชื่นชอบในความบันเทิง YouTube เป็นแพลตฟอร์มที่เหมาะสำหรับผู้ที่ชอบรับชมการรีวิวสินค้า การทดลอง หรือเนื้อหาบันเทิงต่างๆ

6. LINE

แอปพลิเคชัน Line เป็นแพลตฟอร์มหลักสำหรับการสื่อสาร ซึ่งในปัจจุบันหลายแบรนด์เริ่มใช้ในการทำการตลาดออนไลน์มากขึ้น โดยใช้ฟีเจอร์ Line Ads เพื่อรวบรวมข้อมูลพฤติกรรมผู้ใช้และนำมาปรับใช้ในการสร้างแบรนด์ พร้อมเพิ่มผู้ติดตามและยอดขายได้อย่างรวดเร็ว โดย Line เหมาะสำหรับกลุ่มผู้บริโภค ดังนี้

• กลุ่มเจเนอเรชัน X และ Y กลุ่มนี้มักใช้ Line เพื่อสื่อสารในชีวิตประจำวัน ไม่ว่าจะเป็นการติดต่อกับเพื่อน หรือการรับข่าวสารจากแบรนด์
• กลุ่มครอบครัว Line เป็นแพลตฟอร์มที่เหมาะกับการติดต่อสื่อสารระหว่างสมาชิกในครอบครัว เนื่องจากมีฟีเจอร์ต่างๆ เช่น การส่งข้อความ รูปภาพ หรือสติกเกอร์
• กลุ่มผู้บริโภคที่ใช้มือถือเป็นหลัก เนื่องจาก Line ใช้งานง่ายและสะดวกสบายบนสมาร์ตโฟน จึงเป็นแพลตฟอร์มที่เหมาะสำหรับกลุ่มผู้บริโภคที่ใช้โทรศัพท์มือถือในการสื่อสารมากที่สุด
• กลุ่มที่ชื่นชอบการซื้อสินค้าผ่านแชท Line เหมาะสำหรับกลุ่มผู้บริโภคที่ต้องการเข้าถึงบริการหรือซื้อสินค้าผ่านแชทและมีการสั่งซื้อผ่าน Line Official Account

7. Pantip

Pantip เป็นแพลตฟอร์มออนไลน์สัญชาติไทยที่ได้รับความนิยมมายาวนาน ด้วยรูปแบบการตั้งกระทู้และการแสดงความคิดเห็น ซึ่งกลายเป็นช่องทางสำคัญในการสร้างกลยุทธ์ Social Media Marketing เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้ใช้งานและนำเสนอข้อมูลที่มีประโยชน์ โดย Pantip เหมาะสำหรับกลุ่มผู้บริโภค ดังนี้

• กลุ่มเจเนอเรชัน X, Y และ Z กลุ่มนี้มักเป็นผู้ที่สนใจในการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นหรือแชร์ประสบการณ์กับคนอื่น โดยเฉพาะในเรื่องที่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยี ท่องเที่ยว หรือการรีวิวสินค้าบริการ
• กลุ่มที่ชอบการค้นหาข้อมูล Pantip เหมาะสำหรับผู้บริโภคที่ต้องการข้อมูลหรือคำแนะนำจากชุมชน เช่น การตัดสินใจซื้อสินค้าหรือการวางแผนท่องเที่ยว
• กลุ่มผู้บริโภคที่สนใจในเนื้อหาที่มีการแลกเปลี่ยนความคิดเห็น ผู้ที่สนใจในความคิดเห็นจากหลายๆ คน โดยเฉพาะในเรื่องของการรีวิวสินค้า บริการ หรือข่าวสารต่างๆ
• กลุ่มวัยรุ่นและผู้ใช้ในโลกออนไลน์ แม้ว่า Pantip จะเน้นกลุ่มผู้ใช้ที่อายุ 25-45 ปี แต่ยังมีวัยรุ่นที่ชอบติดตามกระทู้ข่าวสาร ความคิดเห็น และการตั้งคำถามในหลากหลายหมวดหมู่บน Pantip

8. LinkedIn

LinkedIn เป็นแพลตฟอร์ม Social Media ที่หลายคนคุ้นเคย โดยเฉพาะในการหางานหรือรับสมัครงาน แต่จริงๆ แล้ว LinkedIn ยังเป็นช่องทางที่ดีในการแชร์คอนเทนต์สร้างสรรค์ที่น่าสนใจ ซึ่งไม่เพียงแต่ทำให้ผู้อ่านได้รับประโยชน์ แต่ยังช่วยเสริมสร้างความน่าเชื่อถือให้กับธุรกิจอีกด้วย โดย LinkedIn เหมาะสำหรับกลุ่มผู้บริโภคดังนี้

• กลุ่มเจเนอเรชัน X และ Y ผู้ประกอบการและมืออาชีพ  เป็นกลุ่มที่ใช้ LinkedIn เพื่อสร้างและเสริมสร้างเครือข่ายธุรกิจ พัฒนาอาชีพ และแลกเปลี่ยนประสบการณ์
• กลุ่มผู้หางานและนักศึกษา LinkedIn เป็นแหล่งที่ดีสำหรับผู้ที่กำลังมองหางานหรืออยากสร้างโพรไฟล์ที่แสดงถึงทักษะและประสบการณ์ต่างๆ
• กลุ่มผู้ประกอบธุรกิจ (SMEs และองค์กรใหญ่) เหมาะสำหรับธุรกิจที่ต้องการโพรโมตหรือแชร์บทความที่เกี่ยวกับทิศทางของธุรกิจและแนวโน้มอุตสาหกรรม
• กลุ่มมืออาชีพในสาขาเทคโนโลยีและการเงิน LinkedIn เหมาะสำหรับการแชร์ข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับเทคโนโลยีใหม่ๆ หรือการวิเคราะห์ข้อมูลทางการเงิน
• กลุ่มผู้ที่สนใจการพัฒนาทักษะ LinkedIn เป็นแหล่งเรียนรู้ที่ดีสำหรับการเข้าถึงคอนเทนต์ที่ช่วยเสริมสร้างทักษะและความรู้ที่เกี่ยวข้องกับอาชีพ

9. Pinterest

Pinterest เป็นแพลตฟอร์มออนไลน์ที่ช่วยให้ผู้ใช้งานค้นหารูปภาพหรือไอเดียต่างๆ ได้อย่างง่ายดาย ในแง่ของการทำ Social Media Marketing แล้ว Pinterest ยังช่วยรวบรวมข้อมูลของผู้ใช้งานเพื่อพัฒนาเว็บไซต์หรือสื่อออนไลน์ที่มีประสิทธิภาพ ตอบโจทย์ความต้องการของผู้ค้นหาหรือ Search Intent ได้ดี โดย Pinterest เหมาะสำหรับกลุ่มผู้บริโภค ดังนี้

• กลุ่มเจเนอเรชัน Y และ Z ในผู้หญิง Pinterest เป็นแพลตฟอร์มที่ได้รับความนิยมสูงในกลุ่มผู้หญิง โดยเฉพาะสำหรับการค้นหาสูตรอาหาร การตกแต่งบ้าน แฟชั่น และการวางแผนการแต่งงาน
• กลุ่มนักออกแบบและศิลปิน Pinterest เป็นแหล่งแรงบันดาลใจสำหรับนักออกแบบกราฟิก อินทีเรียร์ดีไซเนอร์ และศิลปินที่กำลังมองหาความคิดใหม่ๆ หรือการสร้างคอนเทนต์ที่สร้างสรรค์
• กลุ่มแม่บ้านและผู้ดูแลครอบครัว Pinterest เป็นแหล่งที่ดีในการค้นหาวิธีทำงานบ้าน งานฝีมือ การดูแลเด็ก และการวางแผนการเงิน
• กลุ่มผู้ที่สนใจในงาน DIY และกิจกรรมกลางแจ้ง ผู้ใช้งานที่สนใจในงาน DIY การทำสวน การแต่งบ้าน หรือกิจกรรมกลางแจ้งมักจะใช้ Pinterest เพื่อค้นหาวิธีทำและไอเดียใหม่ๆ
• กลุ่มผู้ที่สนใจสุขภาพและการออกกำลังกาย Pinterest เป็นแหล่งที่ดีในการค้นหาคำแนะนำเกี่ยวกับการออกกำลังกาย การดูแลสุขภาพ การทำโยคะ และสูตรอาหารเพื่อสุขภาพ

ทำไมธุรกิจยุคใหม่ถึงขาด Social Media Marketing ไม่ได้?

ธุรกิจยุคใหม่ไม่สามารถขาด Social Media Marketing ได้ เพราะเป็นเครื่องมือสำคัญในการเชื่อมโยงและสร้างความสัมพันธ์กับลูกค้าได้อย่างต่อเนื่องและมีประสิทธิภาพได้ ดังนี้

• เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้กว้างขึ้น ปัจจุบันผู้คนใช้เวลาบนโซเชียลมีเดียเฉลี่ยวันละ 2-3 ชั่วโมง ทำให้เป็นช่องทางที่เข้าถึงลูกค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพและกว้างขวาง
• การสร้างการรับรู้ให้กับแบรนด์ ช่วยสร้างการจดจำและความเชื่อมั่นในแบรนด์ผ่านการปฏิสัมพันธ์อย่างสม่ำเสมอกับกลุ่มเป้าหมาย
• การกำหนดกลุ่มเป้าหมายที่แม่นยำ โซเชียลมีเดียมีเครื่องมือช่วยให้ธุรกิจสามารถกำหนดกลุ่มเป้าหมายได้อย่างละเอียด ตั้งแต่อายุ เพศ ความสนใจ พฤติกรรมการซื้อ ไปจนถึงตำแหน่งที่อยู่
• สร้างความสัมพันธ์กับลูกค้า เปิดโอกาสให้ธุรกิจได้สื่อสารโดยตรงกับลูกค้า รับฟังความคิดเห็น และตอบสนองได้อย่างรวดเร็ว
• การแข่งขันในตลาด คู่แข่งส่วนใหญ่ใช้ Social Media Marketing เช่นเดียวกัน การไม่มีตัวตนบนโซเชียลมีเดียอาจทำให้ธุรกิจเสียเปรียบได้ และการทำ Social Media Marketing ยังเป็นช่องทางศึกษาการทำเนื้อหา หรือการเลือกใช้ Key World ของคู่แข่งได้อีกด้วย
• ติดตามผลและวิเคราะห์ได้ทันที เป็นส่วนสำคัญในการสร้าง Social media marketing ที่ประสบความสำเร็จ การติดตามผลการทำการตลาดได้อย่างรวดเร็วและใช้ข้อมูลเหล่านั้นมาปรับกลยุทธ์การตลาดให้ดีขึ้น
• โอกาสในการไวรัล คอนเทนต์ที่ดีมีโอกาสถูกแชร์ต่อและกระจายในวงกว้างโดยผู้ใช้เอง ซึ่งเป็นการตลาดที่มีประสิทธิภาพและต้นทุนต่ำ

ข้อควรระวังการใช้ Social Media Marketing รู้ก่อน แก้ทัน ป้องกันได้!

การทำ Social media marketing ช่วยเพิ่มโอกาสในการเข้าถึงกลุ่มเป้าหมาย แต่ไม่ใช่ทุกรายจะประสบความสำเร็จ ดังนั้นควรพิจารณาข้อควรระวังและเลือกกลยุทธ์ให้เหมาะสมก่อนเริ่มทำการตลาด

ผูกติดกับ Social Media แค่ช่องทางเดียว

การทำ Social media marketing ที่มีประสิทธิภาพควรขยายไปยังหลายแพลตฟอร์ม เพราะไม่ใช่ทุกคนจะใช้แค่แพลตฟอร์มเดียว การกระจายการตลาดไปยังสื่อออนไลน์อื่นๆ จะช่วยให้เข้าถึงกลุ่มลูกค้าได้กว้างขึ้น

ใช้ Social หลายช่องทางการมากเกินไป

แม้การทำ Social media marketing ควรกระจายไปหลายช่องทาง แต่การเลือกช่องทางมากเกินไปก็อาจไม่ดีเช่นกัน เพราะนอกจากจะเพิ่มต้นทุนแล้ว บางแพลตฟอร์มอาจไม่เหมาะกับลักษณะหรือรูปแบบของแบรนด์ธุรกิจ

คอนเทนต์ไม่มีคุณภาพ

การทำ Social media marketing ที่ดีควรใส่ใจในการสร้างคอนเทนต์คุณภาพ เพราะหากเนื้อหาขาดคุณภาพ ไม่เพียงแต่จะไม่เกิดประโยชน์กับผู้ใช้งาน แต่ยังอาจส่งผลเสียต่อความน่าเชื่อถือของธุรกิจคุณได้อีกด้วย

ระวังเรื่อง Duplicated Content ด้วย

เนื่องจากแต่ละ Social media มีจุดเด่นและรูปแบบการใช้งานที่แตกต่างกัน การใช้เนื้อหาเดียวกันกระจายไปยังหลายช่องทางอาจไม่ตอบโจทย์ความต้องการของผู้ใช้งานแต่ละแพลตฟอร์มได้อย่างเต็มที่

โพสต์อัดแน่นไปด้วยตัวหนังสือ

การโพสต์ที่เต็มไปด้วยข้อความอาจไม่ตอบโจทย์ผู้ใช้งานที่ต้องการดูเนื้อหาคอนเทนต์อย่างรวดเร็ว จะดีกว่าถ้าเนื้อหานั้นๆ มีการแทรกวิดีโอ รูปภาพ หรือสื่อต่างๆ เพื่อเพิ่มความน่าสนใจและดึงดูดความสนใจได้มากขึ้น

อย่ามี Reaction ที่ไม่ดีกับผู้เข้าชม

ผู้เข้าใช้งานเว็บไซต์ถือเป็นลูกค้าคนสำคัญ ดังนั้นการใส่ใจในรายละเอียดและการตอบสนองอย่างเหมาะสมจะช่วยเสริมสร้างความสัมพันธ์ที่ดี สำหรับผู้ที่ต้องการทำการตลาดผ่าน Social media marketing ควรระวังในการตอบกลับ เพื่อหลีกเลี่ยงผลตอบรับที่ไม่ดีจากผู้เข้าชม

ไม่อัปเดตคอนเทนต์อย่างสม่ำเสมอ 

การทำ Social media marketing ที่ดีคือการอัปเดตธุรกิจอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ทันกับเทรนด์และสร้างการรับรู้ของแบรนด์ได้ชัดเจนยิ่งขึ้น ซึ่งจะช่วยเสริมภาพลักษณ์และความน่าเชื่อถือให้กับธุรกิจ

กลยุทธ์พิชิตใจลูกค้าบน Social Media เทคนิคการตลาดที่ต้องรู้!

กลยุทธ์การทำ Social media marketing ให้มีประสิทธิภาพนั้นควรวางแผนก่อนลงมือทำเสมอ เพื่อบรรลุเป้าหมายทางธุรกิจให้สำเร็จ โดยมีขั้นตอนในการสร้างกลยุทธ์ดังนี้

• กำหนดเป้าหมายที่ชัดเจน วางแผนว่าต้องการให้ Social media marketing ส่งผลอย่างไร เช่น การเพิ่มยอดขาย การสร้างการรับรู้แบรนด์ หรือการเพิ่มจำนวนผู้ติดตาม
• เลือกแพลตฟอร์มที่เหมาะสม เลือกใช้ช่องทางสื่อออนไลน์ที่ตรงกับกลุ่มเป้าหมาย เช่น Facebook, Instagram, TikTok หรือ LinkedIn
• สร้างคอนเทนต์ที่มีคุณภาพ เน้นการสร้างเนื้อหาที่น่าสนใจ มีคุณค่าและตอบโจทย์ความต้องการของกลุ่มเป้าหมาย
• กำหนดกลุ่มเป้าหมาย วิเคราะห์และเลือกกลุ่มลูกค้าเป้าหมายที่เหมาะสมกับสินค้าหรือบริการ
• การโฆษณาและการใช้ Ads ใช้เครื่องมือโฆษณาที่มีในแต่ละแพลตฟอร์มเพื่อเพิ่มการเข้าถึงและการมีส่วนร่วม
• วิเคราะห์และปรับปรุง ติดตามผลการทำงาน และปรับกลยุทธ์ตามข้อมูลที่ได้เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด
• สร้างความสัมพันธ์กับลูกค้า ใช้ช่องทาง Social media ในการตอบคำถามและการสื่อสารกับลูกค้าเพื่อเสริมสร้างความสัมพันธ์ที่ดี

Digital Marketing VS. Social Media Marketing

Digital Marketing คืออะไร ต่างจาก Social Media Marketing อย่างไร แตกต่างกันที่ขอบเขตและความเฉพาะเจาะจง โดย Digital Marketing เป็นแนวคิดที่กว้างกว่า ครอบคลุมทุกช่องทางการตลาดออนไลน์ ทั้ง SEO, SEM, Email Marketing, Content Marketing และรวมถึง Social Media Marketing ด้วย

ในขณะที่ Social Media Marketing เป็นเพียงส่วนหนึ่งที่มุ่งเน้นเฉพาะการทำการตลาดบนแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียเท่านั้น เช่น Facebook, Instagram, Twitter และ TikTok Digital Marketing มีเป้าหมายที่หลากหลายกว่า ตั้งแต่สร้างการรับรู้แบรนด์ไปจนถึงเพิ่มยอดขาย ขณะที่ Social Media Marketing เน้นการสร้างปฏิสัมพันธ์ การมีส่วนร่วม และความสัมพันธ์กับผู้ใช้งานเป็นหลัก

สรุป

Social media marketing คือกลยุทธ์การตลาดที่ใช้แพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียต่างๆ เพื่อสร้างการรับรู้และดึงดูดความสนใจจากกลุ่มเป้าหมายไปยังแบรนด์หรือธุรกิจ ซึ่งไม่เพียงแค่ช่วยเสริมสร้างความน่าเชื่อถือให้กับธุรกิจ แต่ยังมีบทบาทสำคัญในการทำ SEO ด้วยการสร้างคอนเทนต์ที่มีคุณภาพและเชื่อมโยงไปยังเว็บไซต์ ทำให้ธุรกิจของคุณสามารถเติบโตอย่างรวดเร็วและเพิ่มโอกาสในการสร้างยอดขายได้มากมายในอนาคต

FAQ – คำถามที่พบบ่อย

ในส่วนนี้เราจะมาตอบคำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับ Social Media Marketing และแนวทางที่สามารถนำไปปรับใช้ได้จริงในธุรกิจของคุณ