สำหรับธุรกิจไม่ว่าจะเป็นขนาดเล็ก ขนาดกลาง หรือขนาดใหญ่ การทำโฆษณาบนโลกออฟไลน์เพียงอย่างเดียวอาจจะไม่ตอบโจทย์อีกต่อไป เป็นเหตุผลให้ผู้ประกอบการส่วนใหญ่หันเห หรือปรับตัวเองเข้ามาสู่ การตลาดออนไลน์ โดยเน้นไปที่การทำโฆษณาบนโลกออนไลน์เป็นหลัก ซึ่งการลงโฆษณาบน Shopee Ads เป็นอีกหนึ่งทางเลือกหรือช่องทางในการเพิ่มยอดขายได้ เนื่องจากสามารถเพิ่มการมองเห็นร้านค้า จึงเพิ่มโอกาสในการสร้างยอดขายและกำไรให้กับธุรกิจมากขึ้น
ถ้าหากแบรนด์หรือธุรกิจใดต้องการเพิ่มยอดขายสามารถมาเรียนรู้ว่า Shopee Ads คืออะไร ใช้งานยังไง และทำให้ยอดขายเพิ่มขึ้นจริงไหม บทความนี้มีคำตอบ
ทำความรู้จัก Shopee Ads
Shopee Ads คือ การทำโฆษณาเพื่อโปรโมตสินค้าผ่านอีคอมเมิร์ซอย่าง Shopee แน่นอนว่าการลงโฆษณา Ads Shopee จะช่วยเพิ่มโอกาสให้ผู้บริโภคสามารถค้นหาสินค้าและมองเห็นสินค้าของตนเองได้มากขึ้น ทั้งผ่านหน้าหลักของ Shopee หน้าค้นหา หรือแม้กระทั่งหน้ารายละเอียดสินค้า ซึ่งนำไปสู่การเพิ่มของยอดขายและกำไรที่มากขึ้น จึงเป็นผลดีต่อผู้ประกอบการที่มีหน้าร้านอยู่ใน Shopee
ประเภทของ Shopee Ads มีอะไรบ้าง?
สำหรับผู้ประกอบการหรือเจ้าของธุรกิจที่ต้องการลงโฆษณาผ่าน Shopee Ads จำเป็นต้องศึกษาประเภทของโฆษณา โดยแต่ละประเภทมีลักษณะแตกต่างกัน การเลือกใช้สามารถเลือกได้ตามจุดประสงค์ของผู้ใช้ เพื่อให้เกิดผลลัพธ์ที่ดีที่สุดกับการขายซึ่งมีทั้งหมด 3 รูปแบบด้วยกัน ดังนี้
โฆษณาแบบ Keyword Ads
การลงโฆษณาในรูปแบบ Keyword Ads นั้นจะช่วยให้ผู้บริโภคสามารถค้นหาสินค้าเจอผ่านการเสิร์ชซึ่งจะแสดงผลลัพธ์การค้นหาบน Shopee ซึ่งผลลัพธ์หรือสินค้าจะปรากฏอยู่บนหน้าแรกๆ เมื่อผู้บริโภคทำการค้นหา โดย Shopee Ads ในรูปแบบนี้จะช่วยให้สินค้าถูกมองเห็นได้ง่ายมากขึ้นเพิ่มโอกาสในการสร้างยอดขายได้มากขึ้น
จุดเด่น
จุดเด่นของการทำ Shopee Ads ในรูปแบบ Keyword Ads ดังนี้
- เพิ่มการมองเห็น: โดยสินค้าที่โฆษณาจะถูกมองเห็นได้ง่ายขึ้น เพราะว่าสินค้าที่โฆษณาจะเป็นสินค้าที่อยู่บนสุดของหน้าผลการค้นหา
- เพิ่มยอดขาย: การเลือกคีย์เวิร์ดที่ถูกต้องจะนำไปสู่การค้นพบสินค้าที่ถูกต้อง และเป็นสินค้าที่ตรงตามความต้องการของผู้บริโภคจึงสร้างโอกาสในการเพิ่มยอดขาย
- ควบคุมงบในการทำโฆษณา:สำหรับ Shopee Ads ในรูปแบบ Keyword Ads สามารถควบคุมงบประมาณในการลงโฆษณาด้วยตนเอง จึงช่วยในการวางแผนในการลงโฆษณาในแต่ละวันให้พอดีกับความต้องการขายของผู้ประกอบการ
- เลือกคีย์เวิร์ดที่เหมาะสมกับสินค้า: เพื่อให้คำค้นหาตรงกับสินค้ามากที่สุด จะช่วยเพิ่มโอกาสในการสร้างยอดขายที่มากขึ้น
- มีระบบเลือก Keyword แบบอัตโนมัติ: ซึ่งเหมาะกับคนที่ไม่เคยทำโฆษณาบน Shopee Ads ระบบหลังบ้านของ Shopee จะช่วยให้เจ้าของบัญชีสามารถคัดเลือกคีย์เวิร์ดที่เหมาะสมกับสินค้านั้นๆ ได้
วิธีการใช้งาน
วิธีการใช้งานของ Keyword Ads ไม่ได้ยากเลย แค่เริ่มต้น ดังนี้
- เลือกสินค้าที่ต้องการโฆษณา: อันดับแรกสุดคือเลือกสินค้าที่ต้องการโฆษณา ในเริ่มแรกอาจเน้นไปที่สินค้าขายดี หรือสินค้ายอดนิยม แต่อย่าลืมตรวจสอบจนแน่ใจว่าชื่อของสินค้าดังกล่าวถูกอัปเดตและเป็นชื่อที่ถูกต้องเรียบร้อยแล้ว รวมถึงรูปภาพ และรายละเอียดสินค้าถูกตครบถ้วนสมบูรณ์ ถูกต้อง
- เลือกคีย์เวิร์ดที่เกี่ยวข้องกับสินค้า: อันดับต่อมาคือการเลือกคีย์เวิร์ดโดย Shopee Ads ให้เจ้าของบัญชีเป็นผู้ที่กำหนดคีย์เวิร์ดด้วยตนเอง หรือสามารถให้ Shopee หาคีย์เวิร์ดที่เหมาะสมกับสินค้าให้ก็ได้แล้วแต่ความเหมาะสม
- ตั้งราคาประมูลสำหรับคีย์เวิร์ดที่เลือกไว้: เมื่อได้คีย์เวิร์ดสำหรับทำโฆษณาบน Shopee Ads เรียบร้อยก็ถึงเวลากำหนดราคาประมูล หรือจำนวนราคาต่อคลิกสูงสุดที่เจ้าของร้านค้าหรือเจ้าของบัญชีต้องจ่ายต่อคลิก เมื่อทำการประมูลสำเร็จ
- ตั้งค่างบประมาณและระยะเวลาการทำโฆษณา: โดยเจ้าของบัญชีต้องกำหนดงบประมาณสำหรับทำ Keyword Ads รวมถึงใส่เครดิตโฆษณา และระยะเวลาที่สิ้นสุดโฆษณาเอาไว้เพื่อตั้งกรอบในการทำโฆษณาในแต่ละครั้ง
ค่าโฆษณาถูกคิดอย่างไร
สำหรับการทำ Shopee Ads ในรูปแบบ Keyword Ads นั้นค่าโฆษณาจะถูกคิดก็ต่อเมื่อมีผู้ซื้อคลิกโฆษณา ซึ่งค่าโฆษณาจะถูกหักจากเครดิตโฆษณาของร้านค้า อย่างไรก็ตามทาง Shopee Ads มีระบบป้องกันการสแปมคลิก โดยการคลิกหลายครั้งจากผู้ใช้รายเดิมจะถูกนับเป็นหนึ่งคลิกเท่านั้นทำให้ค่าโฆษณาจะถูกคิดต่อเมื่อมีลูกค้าคลิกโฆษณาจริงๆ เท่านั้น
รวมถึงราคาประมูลโฆษณาจะส่งผลต่อลำดับของโฆษณาด้วยเช่นกัน ซึ่งหากราคาประมูลค่าโฆษณาสูง ลำดับของโฆษณาก็จะยิ่งสูงขึ้น ในทางกลับกันหากราคาประมูลค่าโฆษณาไม่สูง ลำดับของโฆษณาก็จะไม่สูงขึ้นด้วยเช่นกัน
โฆษณาแบบ Discovery Ads
Discovery Ads บนรูปแบบโฆษณาของ Shopee Ads ที่จะแสดงโฆษณาของสินค้าในตำแหน่งที่ผู้ซื้อมีโอกาสมองเห็นโฆษณามากขึ้น อาทิ ตำแหน่งสินค้าแนะนำประจำวันบนหน้า Homepage หรือหน้าที่ผู้ชื่นชอบ รวมถึงบนหน้ารายละเอียดสินค้า โดยส่วนใหญ่ร้านค้ามักลงบนโฆษณาทั้ง Discovery Ads และ Keyword Ads ไปพร้อมๆ กันเพื่อกระจายการมองเห็นออกไปในหลายๆ ทิศทาง ทำให้ผู้ซื้อสามารถเห็นสินค้าได้ทั้งหมด 3 พื้นที่ ได้แก่ หน้า Homepage, หน้าผลการค้นหา และหน้ารายละเอียดสินค้า
การลง Shopee Ads ดังกล่าวจะช่วยเพิ่มโอกาสในการเข้าถึงผู้ซื้อที่กำลังมองหาสินค้าที่คล้ายกัน อีกทั้งยังสามารถควบคุมงบการทำโฆษณาได้อีกด้วย
จุดเด่น
สำหรับจุดเด่นของ Discovery Ads ที่ทำให้ยอดขายของสินค้าเพิ่มมากขึ้นมี ดังนี้
- เพิ่มการเข้าถึง: โดย Shopee Ads จะแสดงสินค้าในตำแหน่งที่ Shopee แนะนำเพื่อให้การเข้าถึงสินค้ามากขึ้น และเห็นสินค้าได้มากขึ้น
- เพิ่มยอดขาย: โดย Discovery Ads จะโฟกัสไปที่ซื้อผู้ซื้อที่สนใจสินค้าที่คล้ายกันกับสินค้าที่เจ้าของร้านค้าขาย เพื่อเพิ่มโอกาสให้ผู้น่าจะเป็นผู้ที่สนใจซื้อมองเห็นสินค้าดังกล่าวซึ่งจะมีโอกาสในการซื้อเพิ่มขึ้น และสร้างยอดขายได้มากขึ้น
- ควบคุมค่าใช้จ่ายได้ทั้งหมด: Shopee Ads ในรูปแบบ Discovery Ads ก็เปิดโอกาสให้เจ้าของร้านค้าสามารถกำหนดงบประมาณในการลงโฆษณาในแต่ละครั้งได้เช่นกัน โดยกำหนดราคาเป็นราคาที่ต้องจ่ายต่อคลิก
วิธีการใช้งาน
สำหรับขั้นตอนการใช้งาน Discovery Ads จะมีความแตกต่างกับ Keyword Ads ดังนี้
- เลือกสินค้าที่ต้องการทำโฆษณา: อันดับแรกเหมือนกันกับ Keyword Ads โดยเลือกสินค้าที่ต้องการลงโฆษณา รวมถึงอย่าลืมอัปเดตชื่อ รูปภาพ และรายละเอียดสินค้าให้ครบถ้วนสมบูรณ์และถูกต้อง ซึ่ง Shopee Ads แนะนำให้เลือกสินค้าที่มีสัญลักษณ์ Thumbs Up เพราะเป็นสินค้าแนะนำสำหรับการทำโฆษณาเพราะมียอดขายและยอดการเข้าชมที่ดึงดูดผู้ซื้อเข้ามาเยี่ยมชมสินค้าได้
- ตั้งค่างบประมาณและระยะเวลาการทำโฆษณา: ข้อนี้จะเหมือนกับการทำ Keyword Ads โดยโฆษณาจะถูกเซตงบประมาณ จำนวนเครดิต และระยะเวลาในการทำโฆษณาก่อนที่โฆษณาจะปรากฏ และโฆษณาจะสิ้นสุดลงก็ต่อเมื่อครบกำหนดที่เซตเอาไว้เรียบร้อยแล้ว
ค่าโฆษณาถูกคิดอย่างไร
สำหรับการคิดค่าโฆษณาของ Shopee Ads ในรูปแบบ Discovery Ads ก็จะถูกคิดก็ต่อเมื่อมีผู้ที่คลิกโฆษณา โดยค่าโฆษณาดังกล่าวจะถูกหักจากเครดิตร้านค้า แน่นอนว่าป้องกันการสแปมคลิกก็ถูกนำมาใช้ใน Discovery Ads ด้วยเช่นกัน ถ้าหากมีการคลิกหลายครั้ง จากผู้ใช้รายเดิมจะนับเป็นการคลิกเพียงครั้งเดียวเหมือนกับ Keyword Ads และร้านค้าหรือเจ้าของบัญชีจะเสียค่าโฆษณาต่อเมื่อมีลูกค้าคลิกที่โฆษณาเท่านั้น
โฆษณาแบบ Shop Ads
การทำShopee Ads ในรูปแบบ Shop Ads เป็นการทำโฆษณาร้านค้าที่ช่วยเพิ่มการมองเห็นและยอดขาย โดยการปรับแต่งคำโฆษณา (Tagline) และรูปภาพโปรไฟล์ร้านค้า เพื่อดึงดูดให้ผู้ซื้อเข้ามายังร้านค้ามากขึ้น ซึ่งรูปแบบการทำ Shopee Ads แบบ Shop Ads นั้นกำลังอยู่ในช่วงทดลองการใช้งาน ปัจจุบันโฆษณาจะปรากฏเฉพาะตำแหน่งสูงสุดบนหน้าผลการค้นหาเท่านั้น แต่อย่างไรก็ตาม Shopee Ads กำลังขยายพื้นที่การแสดงผลเพื่อให้ผู้ซื้อเห็นสินค้าของเจ้าของบัญชีมากขึ้นในอนาคต
จุดเด่น
สำหรับจุดเด่นในการทำ Shop Ads มี ดังนี้
- เพิ่มการมองเห็นของแบรนด์: โดย Shop Ads จะทำให้ร้านค้าปรากฏบนตำแหน่งสูงสุดของหน้าค้นหา จึงสามารถดึงดูดผู้ซื้อให้มองเห็นและเข้ามาเยี่ยมชมร้านค้ามากขึ้น
- เพิ่มยอดขาย: แน่นอนว่าการทำโฆษณาในรูปแบบนี้จะช่วยในการดึงดูดซื้อผู้ที่ตรงกับกลุ่มเป้าหมายและมีความสนใจในสินค้าที่คล้ายคลึงกันกับร้านค้าหรืออยู่ในหมวดหมู่เดียวกับสินค้าภายในร้านค้าของเรา ส่งผลให้ผู้ซื้อสนใจที่จะซื้อสินค้าภายในร้านมากขึ้นและสามารถเพิ่มยอดขายและกำไรให้มากขึ้นได้
- การเข้าถึงของผู้ซื้อที่มากขึ้น: ในการทำโฆษณาในแต่ละครั้งสิ่งสำคัญคือการดึงจุดขายของร้านให้แสดงออกมา เพื่อให้ผู้ซื้อค้นหาร้านค้าของเราเจอ และได้ผู้ซื้อที่สนใจสินค้าของเรา และตรงกับหมวดหมู่ของสินค้าจริงๆ
- เหมาะกับร้านค้าที่เป็น Mall และร้านค้าแนะนำ: ซึ่งได้รับพิจารณาแล้วมีเรตติ้งที่ดีและมีประวัติการขายที่ดี
วิธีการใช้งาน
มาถึงวิธีการใช้งานในส่วนของ Shopee Ads ในรูปแบบ Shop Ads มีดังนี้
- ตั้งค่างบประมาณและระยะเวลาทำโฆษณา: ไม่ว่า Shopee Ads ในรูปแบบใดก็ตามสิ่งที่ต้องทำคือกำหนดงบประมาณที่ใช้ และระยะสำหรับทำโฆษณาให้เรียบร้อยเพื่อให้การทำโฆษณาสามารถนำมาวัดผลได้อย่างมีประสิทธิภาพและคุ้มค่ากับการลงเม็ดเงินเสียไป
- เลือกรูปภาพโฆษณาและคำโปรยโฆษณาร้านของคุณ (Tagline): ต่อมาคือการเลือกรูปภาพ และคำโฆษณาที่เหมาะสมสอดคล้องกับสินค้าและรองรับกับการค้นหาของผู้ซื้อ โดยการสร้าง Tagline สั้นๆ ที่ระบุลักษณะของสินค้า และสร้างความเข้าใจให้กับผู้อ่าน เพื่อให้ผู้ที่พบเห็นและสนใจเข้ามาซื้อสินค้าภายในร้าน
- เลือกจุดปลายทางของโฆษณา (Landing Page): ในส่วนนี้คือการตั้งค่าเพื่อกำหนดหน้า Landing Page ที่เป็นปลายทางสำหรับผู้ที่คลิกโฆษณาเรียบร้อยแล้ว อาจเป็นหน้าสินค้า หรือหน้าคอลเลกชันใหม่ที่เจ้าของร้านค้าต้องการให้ผู้ซื้อซื้อสินค้าในคอลเลกชันนั้นๆ
- เลือก Keywords ที่เกี่ยวข้องกับสินค้าในคอลเลกชันที่เลือกไว้: ในขั้นตอนนี้ก็สำคัญไม่แพ้ขั้นตอนอื่นๆ คือการเลือก Keyword ที่เกี่ยวข้องกับสินค้าหรือร้านค้า ซึ่งช่วยในการที่ทำให้ผู้ซื้อค้นพบสินค้าและร้านค้าของเรา โดยสามารถให้ Shopee Ads สร้างคีย์เวิร์ดขึ้นมาให้ หรือเจ้าของร้านค้าจะเป็นผู้กำหนดคีย์เวิร์ดขึ้นมาเองก็ได้
- ตั้งค่าราคาประมูลในแต่ละ Keyword: และแล้วก็มาถึงขั้นตอนสุดท้ายคือการตั้งราคาประมูลคีย์เวิร์ด ซึ่งเป็นราคาต่อการคลิกหนึ่งครั้งที่ร้านค้าต้องจ่ายเมื่อมีการคลิกเกิดขึ้น
ค่าโฆษณาถูกคิดอย่างไร
แน่นอนว่าค่าโฆษณาของ Shopee Ads ในรูปแบบ Shop Ads นั้นก็จะถูกคิดเมื่อมีผู้ที่คลิกโฆษณาเช่นเดียวกัน โดยค่าโฆษณาดังกล่าวจะถูกหักออกจากเครดิตโฆษณาของร้านค้าที่เจ้าของร้านค้าเติมเข้าไป รวมถึงมีระบบป้องกันสแปมคลิกทำให้ผู้ใช้รายเดิมไม่ว่าจะคลิกโฆษณาเดิมกี่ครั้ง เจ้าของร้านค้าจะเสียค่าโฆษณาเพียงคลิกเดียวเท่านั้น
ข้อดีของการทำ Shopee Ads
มาถึงข้อดีของการทำ Shopee Ads อย่างที่ทุกคนทราบกันดีว่าร้านค้าที่ทำโฆษณาย่อมมีข้อได้เปรียบมากกว่าร้านที่ไม่ได้ทำโฆษณา เนื่องจากร้านค้าใน Shopee มีมากมายหลายร้าน และยังมีคู่แข่งที่ขายสินค้าประเภทเดียวกันมากมาย การทำ Shopee Ads มีข้อดีในหลายๆ เรื่องที่สร้างข้อได้เปรียบมากกว่าคู่แข่งขันมีอะไรบ้าง มาดูกัน
ช่วยให้สินค้าอยู่ในหน้าแรกของแพลตฟอร์ม
สำหรับการทำ Shopee Ads จะช่วยให้ร้านค้าและสินค้าในตำแหน่งที่เหมาะสม โดยเฉพาะหน้าแรกของแพลตฟอร์ม รวมถึงอยู่ในอันดับต้นๆ ในหน้าค้นหา ซึ่งจะช่วยเพิ่มโอกาสให้ผู้ซื้อมองเห็นสินค้าหรือร้านค้าของเรามากขึ้น เพิ่มโอกาสในการขายสินค้าได้มากขึ้น เนื่องจากพฤติกรรมของผู้บริโภคหรือผู้ซื้อส่วนใหญ่มากจะคลิกสินค้าที่อยู่ในอันดับต้นๆ เสมอ
เพิ่มยอดการขาย
อย่างที่ทุกคนทราบกันดีว่าการทำโฆษณาในรูปแบบใดก็ตาม รวมถึงการทำ Shopee Ads ถือเป็นการกระตุ้นยอดขายอีกวิถีทางหนึ่ง ไม่ว่าจะทำโฆษณาผ่าน Keyword ผ่าน Shop Ads หรือผ่าน Discovery ก็สร้างโอกาสในการเพิ่มยอดขายเพียงแค่ผู้ประกอบการจำเป็นต้องสร้างความโดดเด่นให้ร้านค้า เพื่อดึงดูดให้ผู้ซื้อสนใจ
เพิ่มโอกาสการขาย
แน่นอนว่าการทำ Shopee Ads ทำให้มีผู้ที่เห็นสินค้าหรือร้านค้าของเรามากขึ้น ก็สามารถนำไปสู่ยอดขายที่เพิ่มมากขึ้นได้ด้วยเช่นกัน อย่างที่ทุกคนทราบกันดีว่าร้านค้าที่อยู่ใน Shopee มีจำนวนหลายพันหรือหลายหมื่นร้าน อีกทั้งอาจเป็นสินค้าประเภทเดียวกันซึ่งเป็นคู่แข่งทางตรง ดังนั้น การทำโฆษณาจะช่วยให้ร้านค้าของเราถูกพบเห็นได้ง่ายกว่า และเพิ่มยอดขายให้กับร้านค้าของเราได้มากขึ้นและรวดเร็วที่สุด
เอาชนะร้านอื่นที่เป็นคู่แข่งได้
การทำโฆษณาบน Shopee Ads จะช่วยให้ผู้บริโภคสามารถตัดสินใจได้ง่ายขึ้น เพราะผู้บริโภคจะมองเห็นสินค้าและบริการของเราก่อนคู่แข่ง ดังนั้นการทำโฆษณาบน Shopee Ads จึงเป็นเครื่องมือที่สำคัญที่สามารถเอาชนะคู่แข่งได้
มีโอกาสขายสินค้าราคาสูงกว่าร้านอื่น
อย่างที่กล่าวไปในข้างต้นว่าการทำ Shopee Ads จะทำให้ลูกค้าตัดสินใจที่จะซื้อได้ง่ายขึ้น ส่งผลให้ผู้ประกอบการสามารถตั้งราคาได้สูงกว่าร้านอื่น เพราะแม้ว่าคู่แข่งที่ขายสินค้าประเภทเดียวกันจะตั้งราคาขายต่ำกว่าแต่ถ้าหากอยู่ในอันดับท้ายๆ โอกาสที่ลูกค้าหรือผู้ซื้อจะพบเจอก็น้อยลงเช่นกัน
สรุป
สำหรับการทำ Shopee Ads เป็นอีกหนึ่งเครื่องมือในการทำโฆษณาที่ค่อนข้างทรงพลังเป็นอย่างมาก เพราะเป็นการทำโฆษณาบน Shopee ซึ่งเป็นแพลตฟอร์ม E-Commerce โดยเฉพาะ จึงจะสามารถเห็นโฆษณาและปิดจบการขายได้ในที่เดียวซึ่งตอบโจทย์กับการขายในยุคปัจจุบัน โดยการทำ Shopee Ads ก็ล้วนมีจุดเด่นที่แตกต่างกันผู้ประกอบการสามารถเลือกใช้อย่างใดอย่างหนึ่งหรือเลือกใช้แบบผสมผสาน ซึ่งจะช่วยเพิ่มโอกาสให้ลูกค้ามองเห็นสินค้าหรือร้านค้าของเราจากหลายๆ ตำแหน่ง และนำมาซึ่งโอกาสในการเข้าถึงสินค้าและเพิ่มยอดขายให้มากยิ่งขึ้น
FAQ – คำถามที่พบบ่อย
Minimice Group ได้รวมคำถามที่คนสงสัยหรือถามเข้ามาบ่อยเกี่ยวกับ Shopee Ads พร้อมคำตอบดังนี้
ต้องมีงบประมาณเท่าไรจึงจะทำ Shopee Ads ได้
สำหรับการตั้งงบประมาณของ Shopee Ads สามารถตั้งได้ตั้งแต่ 300-400 บาทต่อสินค้า ซึ่งเป็นงบประมาณสำหรับการทำครั้งแรก แล้วค่อยๆ เพิ่มงบประมาณขึ้นหลังจากเพิ่มยอดขายได้
ไม่เคยทำโฆษณามาก่อนต้องเลือกทำโฆษณาประเภทไหนก่อนดี?
สามารถทำ Discovery Ads และ Keyword Ads ไปพร้อมๆ กันเพื่อกระจายการมองเห็นออกไปในหลายๆ ทิศทาง อีกทั้งยังช่วยเพิ่มโอกาสให้ผู้ซื้อมองเห็นสินค้าของเรามากขึ้น
การทำ Shopee Ads เพิ่มยอดขายได้จริงไหม?
แน่นอนว่าการทำ Shopee Ads สามารถเพิ่มยอดขายได้จริง เพราะทำให้สินค้าและร้านค้าของเราถูกค้นพบและมองเห็นได้ง่ายขึ้น เพิ่มโอกาสผู้ซื้อเห็นสินค้าของเราได้ก่อนคู่แข่ง ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับการตั้งชื่อ รูปภาพ และรายละเอียดสินค้าให้สอดคล้องกับความต้องการของผู้ซื้อและดึงดูดให้ผู้ซื้อซื้อสินค้าให้ได้