ทำความรู้จัก Backlink คืออะไร สำคัญยังไงกับการทำ SEO

ใครที่เป็นสายทำคอนเทนต์ หรือต้องการทำ Digital Marketing ให้ได้ผลลัพธ์สมบูรณ์แบบมากขึ้น ต้องอย่าพลาดบทความนี้ที่จะพาทุกคนไปรู้จักกับ Backlink อีกหนึ่งตัวช่วยในการทำ SEO ประสบความสำเร็จมากขึ้น แต่มันคืออะไร สำคัญอย่างไร และมีเคล็ดลับอะไรบ้างที่ช่วยให้ประสบผลสำเร็จ ไปดูกัน

ทำความรู้จัก Backlink คืออะไร

ในการทำ SEO ให้เข้าถึงผู้ใช้งานอินเตอร์เน็ตอย่างง่ายและตรงจุดที่สุดนั้น จำเป็นต้องมีการใช้ Backlink ร่วมกับหลักการทาง SEO เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ Page Rank หรือคะแนนคุณภาพของเว็บไซต์ที่มีการถูกพูดถึงบนอินเทอร์เน็ต เพราะความหมายจริงๆ ของ Backlink สำหรับการทำ SEO คือ การแปะลิงก์ของเว็บเราบนเว็บไซต์อื่นๆ เพื่อให้มียอดผู้ใช้งานสามารถเข้ามาสู่เว็บของเราได้มากขึ้น และสร้างประสิทธิภาพในการดันผลลัพธ์บน Google ได้ดีขึ้นเพราะระบบจะมองเห็นแล้วว่าเว็บไซต์ของเราได้มีการถูกกล่าวถึง มีการแชร์ออกไป ก็จะนับว่าเป็นเว็บไซต์คุณภาพและมีการดันอันดับให้ดีขึ้น เข้าถึงการมองเห็นของผู้ใช้งานอินเตอร์เน็ตได้มากขึ้นด้วย

Backlink สำคัญกับการทำ SEO ยังไง

การทำ SEO ไม่ได้มีเพียงแค่ Keyword ของสินค้า บริการ หรือเนื้อหาเว็บไซต์แค่อย่างเดียวเท่านั้นที่จะส่งผลให้อันดับของเว็บเราไปติดอันดับที่ดีที่สุดของ Search Engine ต่างๆ โดยเฉพาะบน Google เครื่องมือ Search Engine อันดับ 1 ที่มีการวิเคราะห์ประเภทเว็บไซต์ต่างๆ เพื่อส่งต่อไปยังผลลัพธ์การค้นหาของผู้ใช้งานทั้งหมด ดังนั้น การทำ Backlink คือ การเพิ่มคุณภาพให้กับเว็บไซต์ของเรา และเป็นหนึ่งในปัจจัยหลักของการทำ SEO ให้ประสบความสำเร็จมากที่สุดด้วยเช่นกัน

ประเภทของ Backlink มีอะไรบ้าง

หลักการทำ SEO ผ่านหลักการเพิ่มประสิทธิภาพจาก backlink นั้น สามารถทำได้หลายวิธี เนื่องจากมีประเภทหลักๆ ของ Backlink มากถึง 7 ประเภท ดังนี้

DoFollow Backlink

สำหรับ Backlink ประเภทนี้มักจะมาจากการนำเสนอของสื่อใหญ่ๆ หรือจากเว็บไซต์ที่มีจำนวนผู้ติดตาม ผู้เข้าใช้งานเป็นจำนวนมากโดยปกติอยู่แล้ว และทางสื่อใหญ่นั้นได้กล่าวถึงเว็บไซต์ของเราพร้อมกับแปะลิงก์ไว้ในเนื้อหา จะทำให้ผู้คนรู้จักเว็บไซต์ของเรามากขึ้น มีผู้เข้าถึงเว็บไซต์เราเพิ่มขึ้น และยังได้รับคะแนนการประมวลผลจากทาง Search Engine ว่าเป็นเว็บไซต์ที่มีคุณภาพสูงมาก มีโอกาสถูกดันขึ้นติดอันดับเร็วมากด้วยเช่นกัน โดยการประเมินจะมาจากเว็บไซต์ใหญ่ๆ ที่มีชื่อเสียงได้มีการกล่าวถึง จึงทำให้ยอด Traffic หรือยอดการใช้งานต่อเนื่องจากกลุ่มผู้ใช้งานอินเตอร์เน็ตเพิ่มขึ้นอย่างมาก เหมือนกับได้รับคะแนน 3 ต่อ นอกจากนี้ DoFollow Backlink เป็นประเภทของการทำ backlink ที่ทุกคนต้องการทำให้สำเร็จอย่างมาก

NoFollow Backlink

เป็นการทำ Backlink ที่ไม่มียอดผู้ชมเข้ามารับชมจริง แต่ยังคงเป็นหนึ่งในหลักของการทำ backlink สำหรับ SEO ที่ดีอยู่เช่นกัน เพราะส่วนมากการฝัง Backlink ประเภทนี้จะพบเห็นได้บ่อยๆ จากช่องทางโซเชียลมีเดียทั้งหมดที่ลงลิงก์ไว้เท่านั้น ไม่ได้เน้นเนื้อหาแต่อย่างใด ซึ่งหลายครั้งรูปแบบ NoFollow Backlink มักถูก Google หักคะแนนและประเมินว่าเป็นลิงก์ที่เกิดการติดสแปม (SPAM) จึงไม่เน้นดัน Backlink ประเภทนี้เท่าไรนัก แต่หากใครที่ต้องการให้แบรนด์เว็บไซต์ติดตากับผู้ใช้งาน ก็ถือว่าเป็นหนึ่งในวิธีที่ดีมากๆ ที่ทำให้ได้ผลต่อผู้ใช้งานอินเตอร์เน็ตโดยตรงมากกว่า

Sponsored Backlink

Sponsored Backlink การทำเนื้อหาประเภทที่มีสปอนเซอร์สนับสนุนค่าใช้จ่ายในการทำ Backlink ไปยังเว็บไซต์ผ่านทางระบบต่างๆ โดยตรง เช่น การลงโฆษณาร่วมกับทางแพลตฟอร์ม หรือการทำเนื้อหาที่นับยอดความสนใจและการเข้าถึงของผู้ใช้งานได้โดยตรง พร้อมกับจ่ายเงินให้กับทุกคลิกที่เข้าผ่าน Backlink มายังเว็บไซต์นั่นเอง ซึ่งเป็นประเภทของ Backlink ที่เพิ่งเปิดตัวล่าสุดเมื่อปี 2019

UGC Backlink

การทำ Backlink แบบ UGC หรือชื่อเต็มคือ User Generated Content นี้ จะเป็นการแปะลิงก์ไว้กับเนื้อหาโพสต์ที่ผู้ใช้งาน (User) ของเว็บไซต์นั้นเป็นคนลงไว้ ตัวอย่างเช่น มีการอ้างอิงถึงลิงก์ที่เป็นหัวข้อเนื้อหาบทความของทาง Official (ผู้สร้างเว็บไซต์ / ผู้ดูแลเว็บไซต์) หรือ การลงอ้างอิงลิงก์ของผู้ใช้งานคนอื่นๆ ที่ได้โพสต์เนื้อหาไว้ด้วยเช่นกัน คล้ายกับการลงลิงก์เว็บนั้นบนเว็บไซต์นั้นอีกที ค่อนข้างได้ผลดีมากแต่ยังเป็นวิธีที่ทำได้ยากพอสมควรจึงมีให้เห็นยังไม่มากนัก

Non-Editorial Link

เป็นประเภทการทำ Backlink ที่มักจะเป็นการแปะลิงก์ไว้ลอยๆ ตามเว็บระบบเปิดต่างๆ ที่สามารถให้ผู้ใช้งานทั่วไปสามารถแสดงความคิดเห็นได้ เหมือนกับเป็นการโพสต์ลิงก์ไว้เฉยๆ โดยไม่เกี่ยวข้องกับเนื้อหาและไม่เป็นประโยชน์แต่อย่างใด จึงทำให้ Search Engine มักจะเลือกแบนการทำ Backlink ประเภทนี้ก่อนเสมอ

Natural Editorial Links

การทำ Backlink ที่ถือว่ามีคุณภาพต่อทั้งผู้ใช้งานและต่อระบบ Search Engine มากที่สุด คือการทำ Natural Editorial Links เพราะวิธีการทำ Backlink แบบนี้ คือ มีการสร้างเนื้อหาบทความที่เป็นประโยชน์ต่อตัวผู้ใช้งานหรือผู้อ่าน พร้อมกับมีการแนบลิงก์เว็บไซต์ที่เกี่ยวข้องกับเนื้อหาบทความนั้นโดยตรง เพื่อสร้าง Traffic มายังเว็บไซต์เรา เป็นการสร้าง SEO ที่ถูกต้องตามหลักทุกประการและมีคุณภาพอย่างมากบนโลกอินเตอร์เน็ต

Manual Link Building

การแนบลิงค์พร้อมกับข้อความสั้นๆ ไปยังช่องทางโพสต์เว็บไซต์ใหญ่ต่างๆ ที่มีเนื้อหาของบทความเกี่ยวข้องกับลิงค์เว็บไซต์เราให้เหมาะสม เป็นการทำ backlink แบบที่สามารถหลีกเลี่ยงโอกาสถูกแบนจาก Search Engine ในฐานะลิงค์สแปม (SPAM) ได้มากขึ้น

อยากทำ Backlink ควรรู้ ประเภทของลิงก์ที่ไม่ควรพลาด

ลักษณะของลิงก์ที่ใช้ในการทำ Backlink เองก็มีหลากหลาย ต้องเลือกใช้ให้เหมาะสมกับบทความและหน้าเว็บไซต์ที่อยากทำ SEO ให้มีคุณภาพและเป็นประโยชน์ต่อทั้งผู้ใช้งานและต่อระบบ Search Engine ด้วย ซึ่งจะมีหลักการอะไรบ้าง ไปดูกัน

ลิงก์แบบคำตรงตัว (Exact-Match Link)

เป็นการทำ Backlink แบบมีชื่อใน URL และชื่อหัวข้อกับเนื้อหาภายในบทความหน้านั้นเป็น Keyword เดียวกัน ตัวอย่างเช่น หัวข้อบทความชื่อว่า “รีวิว Event ใหญ่ส่งท้ายปีที่ Central World” และชื่อ URL หรือลิงค์ในการลงบทความ คือ “www.aaaaaaa.com/articles/Review-Event_CentralWorld/” เป็นต้น รวมถึงการฝังลิงก์แบบ Hyperlink ไว้ในข้อความด้วยเช่นกัน จึงเป็นวิธีที่ได้รับความนิยมสูงสุดและดันติดอันดับของ Google หรือ Search Engine อื่นๆ ง่ายมาก

ลิงก์แบบวลีหรือประโยค (Partial-Match Link)

การเชื่อมโยงลิงค์ไปยังบทความเดียวกันภายในเว็บไซต์ของเราโดยการใช้ข้อความจากหัวข้อบทความนั้นมาฝังลิงค์แบบ Hyperlink ไว้ เพื่อดึงดูดความสนใจให้กับผู้ใช้งานและง่ายต่อการเข้าถึงได้อีกหลายหน้าเว็บไซต์ด้วยเช่นกัน เป็นการเพิ่มระยะเวลาให้คงอยู่ที่เว็บไซต์เราได้มากขึ้น จึงเป็นอีกหนึ่งวิธีที่ค่อนข้างได้รับความนิยมสูง และมักจะพบเห็นได้ในหัวข้อ “เนื้อหาที่เกี่ยวข้อง” หรือ “เนื้อหาอื่นๆ ที่คุณอาจสนใจ” พร้อมกับข้อความชื่อหัวข้อที่เป็นลิงก์ให้คลิกได้

ลิงก์ชื่อแบรนด์ (Branded Link)

รูปแบบการทำ Backlink อย่างนี้มักจะพบเห็นได้บ่อยๆ จากการฝากหน้าเว็บไซต์หลักโดยตรง ไม่ว่าจะเป็นการแนะนำเว็บไซต์ หรือการแนะนำช่องทางติดต่อต่างๆ ทั้งหมด โดยปกติแล้ววิธีการแนบลิงก์หน้าเว็บไซต์โดยตรงแบบเป็น URL เลยจะมีโอกาสถูกแบนเป็น SPAM ได้ ดังนั้นจึงแนะนำให้ฝังลิงก์ไว้ในข้อความที่เป็นชื่อเดียวกับเว็บไซต์อีกทีจะได้ผลลัพธ์ที่ดีมากกว่า เช่น ข้อความพิมพ์ว่า “Facebook” แล้วก็ฝังลิงก์หน้าหลักไว้ที่ข้อความจะดีมากกว่า

ลิงก์ดึงดูดความสนใจ (Generic Link)

เป็นการแทรกลิงก์ไว้ยังคำที่น่าสนใจให้ผู้ใช้งานกดเข้าไปได้ง่ายมากขึ้นและมีความน่าเชื่อถือของเว็บไซต์เพิ่มขึ้น ตัวอย่างข้อความที่มักจะถูกฝังลิงค์ไว้ เช่น อ่านต่อ “ที่นี่” , “คลิกที่นี่” , “ดูเพิ่มเติม” เป็นต้น ได้รับความนิยมสูงมากเช่นกัน แต่คะแนนรวมจากทาง Search Engine อาจยังไม่ได้สูงมากนัก แต่ได้รับยอดการเข้าถึงแบบ Traffic Organic จากทางผู้ใช้งานเยอะมากแน่นอน

ลิงก์เปล่า (Naked Link)

วิธีการทำ Backlink แบบนี้ไม่ค่อยแนะนำนัก เพราะเป็นการวางลิงก์ทั้งหมดของ URL ไว้ในเนื้อหา ทำให้ความน่าเชื่อถือและความสวยงามของบทความลดลงอย่างมาก แถมทาง Google และ Search Engine อื่นๆ มักจะไม่ให้คะแนนในการทำ SEO อีกด้วย แต่ถ้าใครต้องการใส่ลิงก์เต็มทั้งหมดจริงๆ แนะนำให้แนบไว้เป็นเชิงการอ้างอิงหรือที่มาช่วงท้ายบทความจะเป็นระเบียบมากกว่า

ลิงก์รูปภาพ (Images Link)

วิธีนี้เป็นการฝังลิงก์ไว้ในรูปภาพ สามารถกดเข้าเว็บไซต์ผ่านทางรูปภาพได้เลย โดยส่วนมากจะพบเห็นการฝังลิงค์ในรูปภาพจากการทำป้ายแบนเนอร์โฆษณาในส่วนต่างๆ ของหน้าเว็บหลัก

เคล็ดลับทำ Backlink ยังไงให้เห็นผล

หากอยากทำ Backlink ให้มีประสิทธิภาพและดันให้ติดอันดับต้นๆ บน Search Engine มาดูเคล็ดลับการทำ Backlink ยังไงให้เห็นผลกันดีกว่า ซึ่งมีเทคนิคที่ง่ายมาก และใช้ได้กับเว็บไซต์ทุกประเภท ดังนี้

สร้างคอนเทนต์ที่มีคุณภาพ

การสร้างเนื้อหาของบทความเป็นสิ่งที่สำคัญมากที่สุด และสามารถทำได้ง่ายมากด้วยเช่นกัน โดยผู้ดูแลเว็บไซต์ต้องสร้างสรรค์คอนเทนต์ที่มีหัวข้อน่าสนใจ มีเนื้อหาบทความที่ยาว มีคุณภาพ ไม่ใช้คำฟุ่มเฟือย และต้องมีการแทรกคีย์เวิร์ดหลักประจำแต่ละบทความเอาไว้ด้วย เพื่อเสริมคะแนนการทำ SEO และง่ายต่อการแทรก Backlink ทั้งนี้ต้องทำให้เนื้อหาบทความและการแทรกคีย์เวิร์ดสามารถเข้าถึงผู้ใช้งานเว็บไซต์ให้อ่านได้อย่างราบรื่น ไม่ดูเป็นบอทหรือดูเน้นทำคะแนนให้กับการปั้น SEO อย่างเดียวเท่านั้น เพราะยอด Traffic จากการใช้งานของผู้ใช้เว็บไซต์ก็เป็นปัจจัยหลักที่สำคัญอย่างมาก

ติดต่อกับเว็บข่าว

สำหรับวิธีนี้เหมาะกับเว็บไซต์ที่มีความเฉพาะทางอย่างชัดเจนว่าต้องการนำเสนอเนื้อหาเกี่ยวกับอะไรเป็นหลัก เพราะเว็บที่มีเนื้อหาเจาะกลุ่มผู้อ่านที่ชัดเจนจะสามารถเข้าถึงสื่อใหญ่หรือเว็บข่าวต่างๆ ได้ง่ายมาก เพื่อยื่นข้อเสนอในการแลกเปลี่ยนการลงลิงก์บทความจากหน้าเว็บไซต์ให้กันและกัน หรือเว็บของเราอาจสามารถใช้บทความนั้นยกให้เป็นคอนเทนต์ของเว็บข่าวเพื่อให้ทางเว็บข่าวแทรกลิงก์บทความเก่าๆ ของทางเว็บเราด้วยก็ได้เช่นกัน เพราะการเข้าถึงบทความเก่าๆ ในหน้าเว็บไซต์ก็จะเป็นการนับว่าเว็บนี้มีคุณภาพสูงมากด้วย

เพิ่มประสิทธิภาพจากบล็อกนอก

ในเทคนิคนี้ สามารถทำได้ 2 แบบด้วยกัน คือ การสร้างเว็บบล็อกจากเว็บไซต์ผู้ให้บริการที่เปิดฟรี เพื่อทำบทความคุณภาพจากเว็บนั้นและทำ Backlink กลับมายังเว็บไซต์หลักของเราได้อย่างเต็มที่ตามต้องการได้ทุกบทความทั้งหมด หรือ ฝากลิงค์เว็บไซต์ของเราไปยังหัวข้อบนเว็บบล็อกของคนอื่นผ่านช่องทางการแสดงความคิดเห็นพร้อมกับข้อความสั้นๆ ที่มีความเกี่ยวข้องกับเนื้อหาของบทความหลักนั้น

ใช้ Google Search ให้เป็นประโยชน์

เป็นการเสิร์ชหาบทความ หรือเสิร์ชชื่อเว็บไซต์ของเราผ่านทาง Google เพื่อเข้าถึงหน้าหลัก หน้าบทความต่างๆ จากผลลัพธ์บนหน้าแรกที่ปรากฏ รวมถึงการเข้าตรวจสอบคีย์เวิร์ดร่วมอื่นๆ ที่ทาง Google แนะนำเกี่ยวกับเว็บไซต์ของเราในหัวข้อ “การค้นหาเพิ่มเติม” เพื่อเข้าดูลิงก์อื่นๆ ต่อได้ หรือเพิ่มประสิทธิภาพมากขึ้นจากการนำคีย์เวิร์ดอื่นๆ จากหัวข้อนี้มาใช้เป็นเนื้อหาบทความต่อยอดก็จะยิ่งดีมากขึ้น

หมั่นตรวจสอบเว็บไซต์เก่าๆ

การเข้าดูลิงก์บทความเก่าๆ ในหน้าเว็บไซต์ จะเป็นการกระตุ้นให้กับระบบ Search Engine ช่วยคงอันดับหรือรักษาคะแนน SEO ของเว็บเราได้มาก เพราะแสดงว่ายังมีการปรับปรุงอัปเดตเว็บไซต์อยู่เสมอ รวมถึงมีการใช้งานอยู่ตลอดเวลา

สรุป

Backlink คืออีกหนึ่งเครื่องมือที่เข้ามาช่วยให้การทำ SEO ประสบความสำเร็จและมีคุณภาพมากขึ้น หากทำด้วยการคิดอย่างรอบคอบ และทำให้น่าเชื่อถือ หน้าเว็บไซต์ของคุณก็จะขึ้นเป็นอันดับต้นๆ ของ google ได้อย่างแน่นอน

หากใครที่กำลังมองหาเอเจนซีรับทำ Backlink ขอให้ Minimice เป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับคุณ เพราะเราคือเบื้องหลังความสำเร็จบนโลกออนไลน์ของธุรกิจชั้นนำมากมาย การันตีด้วยรางวัลระดับโลก ที่มาพร้อมบริการ Digital Marketing อย่างครบวงจร

FAQ คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับ Backlink