โปรแกรมตรวจสอบเว็บไซต์ตัวไหนดี? เช็กอันดับง่ายๆ ด้วยคลิกเดียว

Key Takeaway

• การตรวจสอบเว็บไซต์มีความสำคัญ คือช่วยวัดผลลัพธ์ของกลยุทธ์ SEO สามารถวิเคราะห์พฤติกรรมของคู่แข่งและช่วยเพิ่มโอกาสในการเข้าถึงลูกค้ามากขึ้น เพื่อนำมาปรับใช้อย่างมีประสิทธิภาพได้ 
• โปรแกรมตรวจสอบเว็บไซต์แบ่งออกเป็น 2 ประเภท คือ เครื่องมือแบบฟรี เหมาะสำหรับผู้เริ่มต้น มือใหม่ หรือเว็บไซต์ขนาดเล็ก และเครื่องมือแบบมีค่าใช้จ่าย ที่เหมาะกับเว็บไซต์ที่มีขนาดกลางถึงขนาดใหญ่
• โปรแกรมตรวจสอบเว็บไซต์ที่แนะนำ ได้แก่ Google Search Console, SE Ranking, Ubersuggest, Ahrefs และ SEMrush เป็นต้น

ในปัจจุบัน การแข่งขันบนโลกออนไลน์เพิ่มสูงขึ้น การรู้อันดับเว็บไซต์ของตัวเองในผลการค้นหาบน Search Engine จึงกลายเป็นสิ่งสำคัญสำหรับเจ้าของเว็บไซต์ นักการตลาด และผู้ดูแลธุรกิจออนไลน์ เพราะอันดับของเว็บไซต์ไม่เพียงบอกถึงการมองเห็นจากผู้ใช้งานเท่านั้น แต่ยังส่งผลต่อยอดขาย การเข้าถึง และความน่าเชื่อถือของแบรนด์อีกด้วย 

ดังนั้น เพื่อให้สามารถปรับปรุงและวิเคราะห์เว็บไซต์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ โปรแกรมตรวจสอบเว็บไซต์จึงมีบทบาทสำคัญ โดยช่วยประเมินในด้านต่างๆ อย่างแม่นยำ บทความนี้จะแนะนำโปรแกรมตรวจสอบเว็บไซต์ที่น่าสนใจจะมีตัวไหนบ้าง? ไปดูกัน

ทำไมการเช็กอันดับเว็บไซต์จึงสำคัญต่อธุรกิจออนไลน์

การเช็กอันดับเว็บไซต์นั้นมีความสำคัญต่อธุรกิจออนไลน์ในยุคปัจจุบัน เพราะมีอิทธิพลโดยตรงต่อการเข้าถึงของผู้ใช้งาน รวมถึงโอกาสในการขายสินค้าและบริการด้วย โดยการใช้โปรแกรมตรวจสอบเว็บไซต์มีความสำคัญคือ การเช็กอันดับเว็บไซต์ช่วยวัดผลลัพธ์ของกลยุทธ์ SEO สามารถวิเคราะห์พฤติกรรมของคู่แข่งและนำมาปรับใช้อย่างมีประสิทธิภาพได้ ช่วยเพิ่มโอกาสในการเข้าถึงลูกค้ามากขึ้น และยังช่วยในการเช็กอันดับคีย์เวิร์ดเพื่อปรับปรุงเนื้อหาให้ตอบโจทย์ผู้ใช้งานและได้รับการมองเห็นมากขึ้น

โปรแกรมตรวจสอบเว็บไซต์มีกี่ประเภท

รูปแบบของโปรแกรมตรวจสอบเว็บไซต์บน Google สามารถแบ่งออกเป็น 2 ประเภทหลักๆ คือ เครื่องมือฟรีและเครื่องมือแบบมีค่าใช้จ่าย โดยเครื่องมือฟรีเหมาะสำหรับผู้เริ่มต้น มือใหม่ หรือเว็บไซต์ขนาดเล็ก ให้ข้อมูลที่ค่อนข้างแม่นยำในระดับพื้นฐาน การทำงานของเครื่องมือแบบฟรีจะเหมาะสำหรับการตรวจสอบอันดับแบบรายคีย์เวิร์ด

ส่วนเครื่องมือเช็กอันดับแบบมีค่าใช้จ่ายจะเหมาะกับเว็บไซต์ที่มีขนาดกลางถึงขนาดใหญ่ จุดเด่นอยู่ที่ฟีเจอร์ครบครัน เช่น การแสดงผลกราฟ วิเคราะห์คีย์เวิร์ดจำนวนมากในคราวเดียว และมีระบบรายงานผลที่ใช้งานง่าย จึงช่วยให้ประหยัดเวลาและทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น

แนะนำ 7 โปรแกรมเช็กอันดับเว็บไซต์ เช็กง่ายบน Google

เมื่อรู้จักกับความสำคัญของการเช็กอันดับเว็บไซต์แล้ว ขั้นตอนต่อมาคือการเลือกใช้โปรแกรมตรวจสอบเว็บไซต์ให้เหมาะสมกับความต้องการ และการใช้งาน โดยมีให้เลือกใช้หลากหลายรูปแบบและมีฟีเจอร์เด่นๆ ต่างกันออกไป มีดังนี้

Incognito Mode 

Incognito Mode (โหมดไม่ระบุตัวตน) เป็นฟีเจอร์มาตรฐานที่มีอยู่ในเว็บเบราว์เซอร์หลักที่ User นิยมใช้อย่าง Google Chrome, Firefox, Microsoft Edge และ Safari (แม้จะเรียกชื่อต่างกันในบางเบราว์เซอร์) โดยฟีเจอร์นี้ถือเป็นเครื่องมือมาตรฐานที่มีประสิทธิภาพสูง เหมาะสำหรับการเช็กอันดับเว็บไซต์ เพราะช่วยให้เห็นผลลัพธ์การค้นหาที่แท้จริงในสายตาของผู้ใช้งานทั่วไป โดยไม่ถูกผลกระทบจากประวัติการค้นหา คุกกี้ หรือข้อมูลส่วนตัวที่เก็บไว้ในเบราว์เซอร์

วิธีเช็กอันดับเว็บไซต์ด้วย Incognito Mode

การเช็กอันดับเว็บไซต์ด้วย Incognito Mode สามารถทำตามขั้นตอนง่ายๆ ดังนี้

1. เปิดเบราว์เซอร์ Google Chrome
2. คลิกที่ไอคอนเมนูรูปจุดสามจุดที่มุมขวาบนของหน้าจอ และเลือก “New Incognito window” จากเมนูที่ปรากฏ จะสังเกตว่าหน้าต่างใหม่จะเปิดขึ้นพร้อมสัญลักษณ์ Incognito (รูปหมวกและแว่นตา) ที่มุมขวาบน
3. เข้าไปที่เว็บไซต์ Google.com และพิมพ์คีย์เวิร์ดที่ต้องการตรวจสอบอันดับในช่องค้นหา
4. ตรวจดูผลการค้นหาและระบุตำแหน่งของเว็บไซต์ของผู้ใช้ในหน้าผลการค้นหา

จุดเด่นและข้อจำกัด Incognito Mode

จุดเด่นของ Incognito Mode

• ใช้งานฟรี ไม่ต้องติดตั้งโปรแกรมตรวจสอบเว็บไซต์เพิ่มเติม
• แสดงผลการค้นหาแบบไม่อิงประวัติการใช้งานหรือคุกกี้
• ให้ผลลัพธ์ใกล้เคียงกับผู้ใช้งานทั่วไป เหมาะสำหรับเช็กอันดับเบื้องต้น
• ใช้งานง่ายและรวดเร็ว เพียงไม่กี่คลิกก็สามารถเช็กอันดับได้

ข้อจำกัดของ Incognito Mode

• ตรวจสอบได้ครั้งละ 1 คำค้นเท่านั้น ไม่เหมาะกับการเช็กหลายคีย์เวิร์ดพร้อมกัน
• ไม่สามารถบันทึกข้อมูลหรือสร้างรายงานย้อนหลังได้
• ไม่มีฟีเจอร์วิเคราะห์เชิงลึก เช่น กราฟแนวโน้ม หรือเปรียบเทียบกับคู่แข่ง
• หากมีการค้นหนาซ้ำบ่อยๆ ในช่วงเวลาวันๆ อันดับที่เห็นอาจถูกปรับจากระบบของ Google 

Google Search Console 

Google Search Console เป็นเครื่องมือฟรีจาก Google ที่ช่วยติดตามและวิเคราะห์ประสิทธิภาพของเว็บไซต์บนหน้าผลการค้นหา (SERPs) ได้อย่างแม่นยำ ถือเป็นอีกหนึ่งตัวช่วยสำคัญสำหรับผู้ใช้ที่ต้องการวัดผลและปรับปรุงอันดับ SEO ของเว็บไซต์ในระยะยาว ช่วยให้เห็นภาพรวมการทำงานของเว็บไซต์บนเครื่องมือค้นหา และติดตามเช็กอันดับ Keyword สำคัญได้อย่างแม่นยำ

วิธีเช็กอันดับเว็บไซต์ด้วย Google Search Console

การเช็กอันดับเว็บไซต์ด้วย Google Search Console สามารถทำตามขั้นตอนง่ายๆ ดังนี้

1. เข้าสู่ระบบ Google Search Console ด้วยบัญชี Google
2. คลิกที่เมนู “ผลการค้นหา” (Search Results)
3. ไปที่แท็บ “หน้า” (Pages) เพื่อระบุ URL ของหน้าที่ต้องการตรวจสอบ
4. กรอก URL หน้าเว็บที่ต้องการดูอันดับลงไป
5. คลิกเปิดใช้งานตัวเลือก “ตำแหน่งเฉลี่ย” (Average Position)
6. เลื่อนลงเพื่อดูกราฟและตารางสรุปผลลัพธ์ ซึ่งจะแสดงอันดับเฉลี่ยของหน้าเพจนั้นๆ บน Google

จุดเด่นและข้อจำกัด Google Search Console

จุดเด่นของ Google Search Console

• ใช้งานได้โดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่าย
• ได้ข้อมูลโดยตรงจาก Google ทำให้แม่นยำและน่าเชื่อถือ
• เช็กอันดับเฉลี่ยของหน้าเพจในแต่ละคำค้น (Keyword) ได้ละเอียด
• วิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึก เช่น จำนวนคลิก อัตราการแสดงผล (Impression) CTR และตำแหน่งเฉลี่ย
• แจ้งเตือนปัญหาเว็บไซต์เชิงเทคนิค เช่น ความเร็ว การแสดงผลบนมือถือ และ Indexing
• เหมาะกับการวิเคราะห์ผล SEO ระยะยาวและวางกลยุทธ์ปรับปรุงเว็บไซต์อย่างมีประสิทธิภาพ

ข้อจำกัดของ Google Search Console

• โปรแกรมตรวจสอบเว็บไซต์นี้จะไม่แสดงอันดับแบบเรียลไทม์ มีความหน่วงของข้อมูลประมาณ 1-2 วัน
• ต้องมีการยืนยันความเป็นเจ้าของเว็บไซต์ก่อนใช้งาน
• ไม่สามารถใช้เปรียบเทียบอันดับกับคู่แข่งได้โดยตรง
• อินเทอร์เฟซอาจดูซับซ้อนสำหรับผู้เริ่มต้นใช้งานใหม่

SE Ranking

SERanking คือโปรแกรมตรวจสอบเว็บไซต์ เครื่องมือวิเคราะห์ SEO แบบครบวงจรที่ได้รับความนิยมอย่างแพร่หลายในหมู่นักการตลาดดิจิทัลและเจ้าของธุรกิจออนไลน์ ด้วยอินเทอร์เฟซที่ใช้งานง่ายและฟีเจอร์ที่หลากหลาย SERanking ช่วยให้ผู้ใช้เช็กอันดับเว็บไซต์บน Google ได้อย่างแม่นยำ และสามารถติดตามอันดับได้หลายคีย์เวิร์ดพร้อมกันในครั้งเดียว

นอกจากการเช็กอันดับแล้ว SERanking ยังมาพร้อมฟีเจอร์ที่ครบถ้วนสำหรับการพัฒนา SEO เช่น การวิเคราะห์คู่แข่ง ตรวจสอบ Backlink วิเคราะห์คุณภาพเว็บไซต์ และการทำ Keyword Research ซึ่งช่วยให้ผู้ใช้วางแผนกลยุทธ์ SEO ได้อย่างมีประสิทธิภาพและตรงเป้าหมายมากยิ่งขึ้น

วิธีเช็กอันดับเว็บไซต์ด้วย SE Ranking

การเช็กอันดับเว็บไซต์ด้วย SE Ranking สามารถทำตามขั้นตอนง่ายๆ ดังนี้

1. เริ่มต้นด้วยการกรอกคีย์เวิร์ดที่ต้องการติดตามลงในเครื่องมือ Rank Tracker
2. ตั้งค่าตำแหน่งและอุปกรณ์ ด้วยการเลือกประเทศ จังหวัด หรือเมืองที่ต้องการตรวจสอบ พร้อมระบุอุปกรณ์ (Desktop หรือ Mobile) เพื่อให้ได้ข้อมูลที่ตรงกลุ่มเป้าหมายมากที่สุด
3. เข้าสู่หน้า แดชบอร์ดของ Rank Tracker เพื่อดูอันดับล่าสุดของแต่ละคีย์เวิร์ด พร้อมประวัติการเปลี่ยนแปลงย้อนหลัง
4. ตรวจสอบกราฟแนวโน้มอันดับ เพื่อดูว่าคีย์เวิร์ดกำลังไต่ขึ้น หรือลดลงอย่างไรในช่วงเวลาที่ผ่านมา
5. สร้างรายงานสรุปอันดับในรูปแบบ PDF หรือ Excel ที่สามารถแชร์ให้กับทีมงาน หรือลูกค้าได้สะดวก
6. กำหนดระบบแจ้งเตือนอัตโนมัติ เมื่อมีการเปลี่ยนแปลงอันดับที่สำคัญ เพื่อให้ผู้ใช้ไม่พลาดทุกความเคลื่อนไหวที่กระทบต่อ SEO

จุดเด่นและฟีเจอร์ที่น่าสนใจของ SE Ranking

• เป็นโปรแกรมตรวจสอบอันดับเว็บไซต์ได้หลายคีย์เวิร์ดพร้อมกัน พร้อมรูปแบบการแสดงผลที่เข้าใจง่าย เหมาะอย่างยิ่งสำหรับเว็บไซต์ขนาดกลางถึงใหญ่ที่ต้องการวิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึกในครั้งเดียว
• รองรับการใช้งานผ่านมือถือ ด้วย Mobile Application ที่สามารถเช็กอันดับและวิเคราะห์ SEO ได้ทุกที่ ทุกเวลา
• เครื่องมือ SEO ครบครัน เช่น Backlink Checker, SEO Competitive Research, Website Audit และอีกมากมายที่ช่วยเสริมกลยุทธ์ SEO ให้มีประสิทธิภาพ
• ราคาคุ้มค่า เมื่อเทียบกับฟีเจอร์ที่ได้รับ SERanking ถือว่ามีค่าใช้จ่ายไม่สูง และถูกกว่าหลายเครื่องมือในระดับคุณภาพเดียวกัน

Ubersuggest

Ubersuggest คือหนึ่งในเครื่องมือวิเคราะห์ SEO ที่ได้รับความนิยม พัฒนาโดย Neil Patel ผู้เชี่ยวชาญด้านการตลาดดิจิทัลระดับโลก ด้วยจุดเด่นด้านราคาที่เข้าถึงง่ายและฟีเจอร์ที่ครอบคลุม โปรแกรมตรวจสอบเว็บไซต์นี้จึงเหมาะสำหรับมือใหม่ที่เริ่มทำ SEO และนักวิเคราะห์มืออาชีพ 

โดย Ubersuggest ช่วยในการทำ Keyword Research ติดตามกลยุทธ์ของคู่แข่ง และตรวจสอบประสิทธิภาพของเนื้อหาเว็บไซต์ รวมถึงวิเคราะห์ Search Volume และยังตรวจสอบอันดับเว็บไซต์ได้เช่นกัน โดยใช้ฟีเจอร์ SEO Keyword Ranking จะแสดงผลอันดับของคีย์เวิร์ดในรูปแบบแผนภูมิแท่งในหน้า Dashboard ช่วยให้ผู้ใช้สามารถติดตามอันดับ Google Ranking รวมถึงวิเคราะห์ PageRank ของหน้าเพจได้แบบเรียลไทม์ในที่เดียว

วิธีเช็กอันดับเว็บไซต์ด้วย Ubersuggest

การใช้โปรแกรมตรวจสอบอันดับเว็บไซต์ด้วย Ubersuggest สามารถทำตามขั้นตอนง่ายๆ ดังนี้

1. เข้าสู่ระบบและไปที่ “SEO Analyzer” จากนั้นเลือก “Rank Tracking”
2. สำหรับเว็บไซต์ใหม่ ให้ป้อน URL ที่ต้องการติดตาม
3. ใส่คีย์เวิร์ดเป้าหมาย เพิ่มคำหลักที่ต้องการตรวจสอบทีละคำ หรือหลายคำพร้อมกัน
4. ระบุตำแหน่ง โดยเลือกประเทศหรือภูมิภาคที่ผู้ใช้ต้องการดูอันดับ เพื่อผลลัพธ์ที่แม่นยำ โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับการทำ Local SEO
5. กำหนดว่าจะดูอันดับบน Desktop หรือ Mobile เพราะผลลัพธ์อาจแตกต่างกัน
6. ดูภาพรวมในแดชบอร์ด ผู้ใช้จะเห็นข้อมูลสำคัญ เช่น อันดับเฉลี่ย ระดับการมองเห็นเว็บไซต์ และจำนวนคีย์เวิร์ดที่ติดอันดับ Top 10
7. ติดตามความเปลี่ยนแปลง สังเกตแนวโน้มอันดับที่เพิ่มขึ้นหรือลดลงในช่วงเวลาที่เลือก
8. คลิกที่คีย์เวิร์ดเพื่อดูรายละเอียด เช่น อันดับปัจจุบัน อันดับก่อนหน้า และ URL ที่ติดอันดับสำหรับคีย์เวิร์ดนั้นๆ

จุดเด่นและฟีเจอร์ที่น่าสนใจของ Ubersuggest

• เช็กอันดับเว็บไซต์บน Google ได้หลายคีย์เวิร์ดพร้อมกัน พร้อมดูประวัติย้อนหลังได้ถึง 30 วัน เพื่อวิเคราะห์แนวโน้มอันดับอย่างแม่นยำ
• มีเครื่องมือ SEO หลากหลาย ครอบคลุมการวิเคราะห์คล้ายกับ SE Ranking เช่น การตรวจสอบ Backlink วิเคราะห์คู่แข่ง และวางแผนคีย์เวิร์ด
• มีแพ็กเกจแบบ Lifetime ให้เลือก จ่ายครั้งเดียวใช้งานได้ตลอดชีพ 

SERP Mojo

SERP Mojo เป็นแอปพลิเคชันบนมือถือที่ออกแบบมาเพื่อช่วยให้ผู้ใช้สามารถใช้โปรแกรมตรวจสอบอันดับเว็บไซต์ของตนเองและคู่แข่งบน Google ได้อย่างง่ายดายและรวดเร็ว รองรับการติดตามคีย์เวิร์ดและเว็บไซต์ได้แบบไม่จำกัดจำนวน พร้อมแสดงผลอันดับแบบเรียลไทม์ผ่านกราฟและรายงานที่เข้าใจง่าย เหมาะสำหรับทั้งผู้เริ่มต้นและมืออาชีพที่ต้องการเครื่องมือเช็กอันดับที่สะดวกและรวดเร็ว โดยไม่ต้องเปิดคอมพิวเตอร์ เหมาะกับเจ้าของเว็บไซต์ ธุรกิจขนาดเล็ก หรือผู้ที่ต้องการเช็กอันดับอย่างรวดเร็วระหว่างวัน

วิธีเช็กอันดับเว็บไซต์ด้วย SERP Mojo

การใช้โปรแกรมตรวจสอบอันดับเว็บไซต์ด้วย SERP Mojo สามารถทำตามขั้นตอนง่ายๆ ดังนี้

1. ติดตั้ง SERP Mojo จาก Google Play Store
2. เปิดแอปและสร้างโปรเจกต์ใหม่สำหรับเว็บไซต์ที่ต้องการติดตาม
3. เพิ่มคีย์เวิร์ดที่ต้องการตรวจสอบอันดับลงในโปรเจกต์ (สามารถเพิ่มได้ไม่จำกัดจำนวน)
4. ตั้งค่าประเทศหรือภูมิภาคที่ต้องการตรวจสอบอันดับ
5. เริ่มต้นเช็กอันดับเว็บไซต์โดยกดอัปเดตข้อมูลในแอป
6. ดูผลลัพธ์อันดับเว็บไซต์ในรูปแบบกราฟและรายงานสรุปที่แสดงในหน้าแดชบอร์ด
7. สามารถตั้งค่าให้แอปอัปเดตอันดับแบบอัตโนมัติได้ตามช่วงเวลาที่กำหนด

จุดเด่นและข้อสังเกตของ SERP Mojo

จุดเด่นของ SERP Mojo

• ใช้งานง่ายบนมือถือ ที่ออกแบบมาเพื่อการใช้งานบนสมาร์ตโฟนโดยเฉพาะ ทำให้สะดวกในการตรวจสอบอันดับได้ทุกที่
• ราคาถูกมาก และจ่ายครั้งเดียวใช้ได้ตลอดชีพ ไม่ต้องเสียค่าสมาชิกรายเดือน
• รองรับการติดตามคีย์เวิร์ดและเว็บไซต์ได้แบบไม่จำกัดจำนวน
• แสดงผลอันดับแบบเรียลไทม์ พร้อมกราฟแสดงความเคลื่อนไหวของอันดับ
• สามารถตั้งค่าให้เช็กอันดับแบบอัตโนมัติได้

ข้อจำกัดของ SERP Mojo

• รองรับเฉพาะระบบ Android เท่านั้น ไม่มีเวอร์ชันสำหรับ iOS หรือเว็บไซต์
• การนำเข้าคีย์เวิร์ดจำกัด ต้องพิมพ์บนมือถือทีละคำ ทำให้ไม่สะดวกสำหรับการจัดการคีย์เวิร์ดจำนวนมาก เหมาะกับการติดตามอันดับของคีย์เวิร์ดที่ไม่มากนักและมีการเปลี่ยนแปลงไม่บ่อย
• ไม่เหมาะกับการวิเคราะห์เชิงลึกหรือการใช้งานแบบมืออาชีพที่ต้องการฟีเจอร์ครบครัน

Ahrefs

โปรแกรมตรวจสอบเว็บไซต์อย่าง Ahrefs เป็นหนึ่งในเครื่องมือ SEO ที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในระดับมืออาชีพ โดยเฉพาะในกลุ่มนักการตลาดดิจิทัลและบริษัทรับทำ SEO เครื่องมือนี้โดดเด่นในเรื่องการวิเคราะห์ Backlink อย่างละเอียด และสามารถตรวจสอบเว็บไซต์คู่แข่งได้อย่างลึกซึ้ง ช่วยให้ผู้ใช้เข้าใจกลยุทธ์ของคู่แข่งและนำมาปรับใช้กับเว็บไซต์ของตนเองได้อย่างมีประสิทธิภาพ 

นอกจาก Ahrefs โดดเด่นในการวิเคราะห์ Backlink แล้วยังมีฟีเจอร์ที่ครอบคลุมไปถึงการสำรวจคีย์เวิร์ด วิเคราะห์คอนเทนต์ และสามารถตรวจสอบอันดับเว็บไซต์ (Rank Tracking) ได้อย่างแม่นยำและครบถ้วน

วิธีเช็กอันดับเว็บไซต์ด้วย Ahrefs

การใช้โปรแกรมตรวจสอบอันดับเว็บไซต์ด้วย Ahrefs สามารถทำตามขั้นตอนง่ายๆ ดังนี้

1. เข้าสู่ระบบ Ahrefs แล้วไปที่เมนูด้านบน เลือกแท็บ “Rank Tracker”
2. ใส่ URL เว็บไซต์ ที่ต้องการติดตามอันดับ
3. เพิ่มคีย์เวิร์ดที่ต้องการติดตาม สามารถพิมพ์เองหรืออัปโหลดจากไฟล์ก็ได้
4. เลือกประเทศ ภาษา และอุปกรณ์ที่ต้องการตรวจสอบ (เช่น มือถือหรือเดสก์ท็อป)
5. ตั้งค่าความถี่ในการตรวจสอบอันดับ (ระบบจะอัปเดตตามแพ็กเกจที่เลือก)
6. เข้าสู่หน้า “Overview” เพื่อดูภาพรวมของอันดับเว็บไซต์และแนวโน้มการเปลี่ยนแปลง
7. หากต้องการดูข้อมูลเชิงลึก สามารถคลิกที่คีย์เวิร์ดแต่ละคำ เพื่อดูรายละเอียดอันดับย้อนหลังและหน้า URL ที่แสดงผลบน Google

จุดเด่นและข้อสังเกตของ Ahrefs

จุดเด่นของ Ahrefs

• วิเคราะห์ Backlink ได้แม่นยำ ช่วยให้วางแผนกลยุทธ์ลิงก์ได้อย่างแม่นยำ
• ติดตามอันดับคีย์เวิร์ดแบบเรียลไทม์ พร้อมกราฟแสดงแนวโน้มอันดับที่เข้าใจง่าย
• รองรับการวิเคราะห์เว็บไซต์ของตนเองและคู่แข่งอย่างลึกซึ้ง ช่วยค้นหาโอกาสและช่องว่างทาง SEO ได้ดี
• รองรับการวิเคราะห์ทั้ง Organic Traffic และ Paid Traffic ช่วยให้เข้าใจภาพรวมการตลาดออนไลน์ได้ครบถ้วน
• มีฟีเจอร์ Rank Tracker ที่ตรวจสอบอันดับเว็บไซต์ได้อย่างแม่นยำ พร้อมแสดงภาพรวมและรายละเอียดของแต่ละคีย์เวิร์ด

ข้อจำกัดของ Ahrefs

• ราคาค่าใช้จ่ายสูง เมื่อเทียบกับเครื่องมือเช็กอันดับเว็บอื่น เหมาะกับธุรกิจขนาดกลางถึงใหญ่ ไม่เหมาะกับผู้เริ่มต้นหรือผู้ที่มีงบประมาณจำกัด

SEMrush

โปรแกรมตรวจสอบเว็บไซต์ความนิยมอย่าง SEMrush เป็นเครื่องมือวิเคราะห์ SEO แบบครบวงจร โดยช่วยให้ผู้ใช้สามารถตรวจสอบอันดับเว็บไซต์ วิเคราะห์คู่แข่ง ค้นหาคีย์เวิร์ด และวางแผนกลยุทธ์ SEO ได้อย่างมีประสิทธิภาพ นอกจากฟีเจอร์ด้าน SEO แล้ว ยังครอบคลุมงานด้านการตลาดดิจิทัลอื่นๆ เช่น การวิเคราะห์โฆษณา PPC การจัดการโซเชียลมีเดีย และการทำ Content Marketing ทำให้เป็นเครื่องมือที่เหมาะสำหรับผู้ใช้ที่ต้องการข้อมูลเชิงลึกเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพเว็บไซต์และแข่งขันในตลาดออนไลน์

วิธีเช็กอันดับเว็บไซต์ด้วย SEMrush

การใช้โปรแกรมตรวจสอบอันดับเว็บไซต์ด้วย SEMrush สามารถทำตามขั้นตอนง่ายๆ ดังนี้

1. ล็อกอินเข้าสู่บัญชี SEMrush หากยังไม่มีบัญชี สามารถทดลองใช้งานฟรีได้ในช่วงระยะเวลาจำกัด
2. ไปที่เมนู “Position Tracking” ซึ่งอยู่ในหมวด “SEO” บนแดชบอร์ดหลัก
3. คลิก “Set up” เพื่อสร้างโปรเจกต์ใหม่ โดยกรอก URL ของเว็บไซต์ที่ต้องการตรวจสอบอันดับ
4. เพิ่มคีย์เวิร์ดที่ต้องการติดตามอันดับใน Google (สามารถพิมพ์เอง หรือนำเข้าไฟล์ได้)
5. ตั้งค่าพื้นที่เป้าหมาย เช่น ประเทศ เมือง หรือภูมิภาค และระบุว่าจะติดตามอันดับบน Desktop หรือ Mobile
6. เริ่มการติดตาม SEMrush จะทำการรวบรวมข้อมูลและแสดงผลอันดับเว็บไซต์แบบเรียลไทม์
7. ดูผลลัพธ์ ผ่านกราฟ สถิติ และรายงานเปรียบเทียบกับคู่แข่งได้ในหน้าแดชบอร์ดของโปรเจกต์

จุดเด่นและข้อสังเกตของ SEMrush

จุดเด่นของ SEMrush

• เป็นเครื่องมือ SEO แบบครบวงจรที่รวมฟีเจอร์หลากหลาย เช่น การติดตามอันดับ วิเคราะห์คู่แข่ง Keyword Research Site Audit และการทำ Content Marketing
• มีฟีเจอร์ Competitive Research ที่ช่วยเจาะลึกกลยุทธ์ของคู่แข่งและหาโอกาสในการแข่งขัน
• สามารถเชื่อมต่อกับ Google Data Studio เพื่อสร้างรายงาน SEO ที่เข้าใจง่ายและแชร์ได้สะดวก
• รองรับการวิเคราะห์โฆษณา PPC และการจัดการโซเชียลมีเดีย ช่วยให้วางแผนการตลาดดิจิทัลได้ครบวงจร
• อินเทอร์เฟซใช้งานง่าย เหมาะสำหรับมืออาชีพและเอเจนซีที่ต้องการข้อมูลเชิงลึก

ข้อจำกัดของ SEMrush

• ราคาเริ่มต้นค่อนข้างสูง เมื่อเทียบกับเครื่องมือ SEO อื่นๆ
• ฟีเจอร์บางรายการจำกัดตามแพ็กเกจที่ใช้งาน เช่น จำนวนคีย์เวิร์ดที่ติดตาม

สรุป 

การรู้อันดับเว็บไซต์ในผลการค้นหาบน Search Engine กลายเป็นสิ่งสำคัญต่อความสำเร็จของธุรกิจออนไลน์ การเช็กอันดับเว็บไซต์จึงเป็นกลยุทธ์ที่ช่วยให้เจ้าของเว็บไซต์และนักการตลาดประเมินผล SEO ปรับปรุงเนื้อหา และวางแผนเพิ่มการเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้อย่างแม่นยำ โดยโปรแกรมตรวจสอบอันดับเว็บไซต์มีทั้งแบบฟรีและแบบเสียเงิน ซึ่งเหมาะกับความต้องการที่แตกต่างกัน เพื่อให้คุณเลือกใช้งานได้เหมาะกับความต้องการและขนาดธุรกิจของคุณ

เพื่อให้เว็บไซต์ธุรกิจติดอันดับต้นๆ ในหน้า Search Engine เพิ่มโอกาสในการเข้าถึงลูกค้าใหม่ๆ ด้วยการวางแผนกลยุทธ์ธุรกิจและ SEO อย่างมีประสิทธิภาพ กับ Minimice Group เอเจนซีที่มีบริการให้คำปรึกษาและวางกลยุทธ์ SEO จากทีมงานมืออาชีพมากประสบการณ์ ช่วยให้ธุรกิจของคุณเป็นที่รู้จัก

คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับโปรแกรมตรวจสอบเว็บไซต์ (FAQ)

หลายคนอาจมีข้อสงสัยหรือคำถามเกี่ยวกับโปรแกรมตรวจสอบอันดับเว็บไซต์ วันนี้เราได้เตรียมคำถามที่มักพบบ่อยและคำตอบเพื่อช่วยให้เข้าใจการเช็กอันดับเว็บไซต์มากขึ้น ดังนี้