SMM คืออะไร เกี่ยวข้องยังไงกับ SEO

ในปัจจุบันนี้การทำธุรกิจจำเป็นต้องทำการตลาดออนไลน์ควบคู่กับการทำการตลาดช่องทางอื่นๆ เพราะความก้าวหน้าของเทคโนโลยีและพฤติกรรมของผู้บริโภคที่เปลี่ยนไป โดยเฉพาะในทุกวันนี้ Social Media มีหลายแพลตฟอร์ม แต่ละแพลตฟอร์มก็มีผู้ใช้งานจำนวนมาก ทำให้หลายๆ แบรนด์หันมาสนใจทำ Social Media Marketing กันมากขึ้น 

ในบทความจะพามาทำความรู้จัก SEO SMM  กันว่าทั้ง 2 ตัวนี้คืออะไรกันบ้าง เป็นลักษณะของ Social Media Marketing ที่แตกต่างกันอย่างไร เพื่อช่วยให้สามารถนำไปปรับใช้กับแผนการทำธุรกิจของคุณ โดยเฉพาะการทำ 

SMM การตลาดผ่านโซเชียล คืออะไร?

SMM คือ การทำ Social Media Marketing บนโซเชียลมีเดียหรือที่เรียกว่า Digital Marketing หรือ Online Marketing SMM ย่อมาจาก Social Media Marketing ซึ่งแปลได้อย่างตรงตัว คือ การทำการตลาดที่ใช้แพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียที่มีผู้ใช้งานจำนวนมาก 

สำหรับแบ่งปันแชร์ข้อมูลต่างๆ ร่วมกันนั้น ลักษณะของ Social Media Marketing คือการทำการตลาดคิดค้นมาเพื่อสร้างปฏิสัมพันธ์กับผู้ใช้งานแพลตฟอร์มต่างๆ  เพื่อวัตถุประสงค์หลายๆ อย่าง ไม่ว่าจะเป็น การสร้างแบรนด์ให้เป็นที่รู้จัก กระตุ้นการเข้าชมเว็บไซต์ เข้าถึงลูกค้าใหม่ๆ และการเพิ่มยอดขาย แต่การทำ SMM นั้นไม่เพียงแค่เผยแพร่โพสต์หรือมีปฏิสัมพันธ์กับผู้คนเท่านั้น แต่ยังต้องมีการวิเคราะห์ข้อมูลหลังบ้าน เก็บสถิติต่างๆ เพื่อให้นักการตลาดสามารถวัดผลความสำเร็จของการทำ Social Media Marketing ได้

Social Media Marketing เครื่องมือการตลาดที่ทรงพลัง

SMM ย่อมาจาก Social Media Marketing มีความสำคัญในการทำการตลาดออนไลน์อย่างมาก เพราะเป็นเครื่องมือการตลาดที่ทรงพลัง นอกจากจะใช้งานได้ฟรีแล้วยังสามารถขับเคลื่อนธุรกิจของคุณให้เข้าถึงกลุ่มลูกค้ามากขึ้นด้วย 3 ปัจจัยหลัก ได้แก่ การเชื่อมต่อกับลูกค้า การโต้ตอบกับลูกค้าโดยตรง รวมถึงการเข้าถึงข้อมูลของลูกค้า

การเชื่อมต่อกับกลุ่มเป้าหมายพิเศษมากขึ้น

คือกลยุทธ์ในการทำการตลาดออนไลน์ที่สามารถเชื่อมต่อกับกลุ่มเป้าหมายพิเศษมากขึ้น รวมถึงกลุ่มเป้าหมายในรูปแบบที่ไม่เคยทำมาก่อน ผ่านแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น Youtube, Facebook, Instagram, Google, Twitter ฯลฯ

ทำให้มีการปฏิสัมพันธ์บนโซเชียลมีเดีย

กลยุทธ์การทำการตลาดออนไลน์ประเภทหนึ่งที่ทำให้เกิดการมีปฏิสัมพันธ์กับลูกค้ารวมถึงคนที่มีโอกาสเป็นลูกค้าบนโซเชียลมีเดียได้ทั้งทางตรงและทางอ้อม ซึ่งการโต้ตอบ การมีปฏิสัมพันธ์เหล่านี้ส่งผลให้เกิดการโฆษณาที่ไม่เสียเงินให้กับแบรนด์ 

เมื่อมีลูกค้าที่ใช้สินค้าหรือบริการของคุณจนเกิดความชื่นชอบ จะเกิดการรีวิว บอกต่อ เรียกว่าเป็นการตลาดในรูปแบบของ eWOM (electronic word-of-mouth) นั่นเอง เมื่อการบอกต่อเหล่านี้เป็นในทางบวก เชิญชวนมาใช้สินค้า จะก่อให้เกิดผลดีในการโฆษณาแบรนด์มาก ยิ่งเร่งให้กลุ่มคนที่มีโอกาสเป็นลูกค้าได้ตัดสินใจเลือกสินค้าหรือบริการได้เร็วกว่าเดิม ซึ่ง eWOM นั่นสามารถวัดผลในการทำแคมเปญ Social Media Marketing ได้อีกด้วย

ได้ข้อมูลของลูกค้า

เมื่อแบรนด์เริ่มทำ SMM หรือ Social Media Marketing โดยมีการวางแผนมาอย่างละเอียด ผ่านการวิเคราะห์มาอย่างดีแล้ว คุณจะได้รับผลลัพธ์การตลาดที่สำคัญนั่นก็คือข้อมูลของลูกค้านั่นเอง ข้อมูลของลูกค้าสำคัญต่อการวางแผนธุรกิจในปัจจุบันและอนาคตมาก เพราะจะช่วยให้นักการตลาดสามารถดึงข้อมูลลูกค้าและนำมาวิเคราะห์ผ่านการทำ SMM  หรือ Social Media Marketing นำไปสู่การคิดค้นกลยุทธ์การตลาดใหม่ๆ ที่ช่วยขับเคลื่อนแบรนด์ให้เติบโต เพิ่มยอดขายมากขึ้นได้อีกด้วย

สร้าง Lead Generations และ Conversion ให้ธุรกิจ

SMM คือ กลยุทธ์การทำการตลาดออนไลน์ที่ย่อมาจาก Social Media Marketing คือการทำการตลาดที่สามารถช่วยสร้าง Lead Generations และ Conversion ให้ธุรกิจได้ เพราะสามารถเข้าถึงกลุ่มลูกค้าจำนวนมากๆ ได้ผ่านการยิงแอดโฆษณา ทำให้สามารถ  Lead Generations ให้เกิดความสนใจในสินค้าหรือบริการของคุณได้รวมถึงการใช้ฟีเจอร์จากแพลตฟอร์มต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น การกดปุ่มส่งข้อความ การกดปุ่มยืนยันการจองคิว การนัดหมายต่างๆ บน Facebook เป็นอีกตัวสำคัญที่ช่วยให้เกิดการสร้าง Conversion นั่นเอง

สร้าง Brand Awareness

ลักษณะการทำงานของ Social Media Marketing เพื่อใช้ในการสร้าง Brand Awareness คือคุณสามารถสร้างตัวตนภาพลักษณ์ของแบรนด์ได้ ไม่ว่าจะเป็น Brand Identity หรือ Corporate Identity ได้อย่างเต็มที่บนโซเชียลมีเดีย ซึ่งเป็นช่องทางที่กลุ่มเป้าหมายจะเข้าถึงได้มากที่สุดเมื่อเทียบกับช่องทางอื่นๆ ทำให้สร้างการรับรู้แบรนด์ Brand Awareness ได้ดีนั่นเอง

เพิ่มการมีส่วนร่วมของเว็บไซต์

หากต้องการเพิ่มการมีส่วนร่วมของเว็บไซต์หลายคนคงนึกถึงการทำ SEO เป็นหลัก แต่รู้หรือไม่ว่าการทำ SMM คือกลยุทธ์สำคัญที่สามารถช่วยเพิ่มการมีส่วนร่วม ช่วยเพิ่ม Traffic และ Engagement เข้าสู่เว็บไซต์ได้เช่นกัน วิธีการคือการเพิ่มลิงก์เว็บไซต์ของคุณที่หน้าโปรไฟล์แพลตฟอร์ม ในแคปชัน ในบล็อกบทความ รวมไปถึงในโฆษณานั่นเอง

ศึกษาธุรกิจของคู่แข่ง

นอกจากการทำ SMM หรือ Social Media Marketing จะช่วยเพิ่มข้อดีของธุรกิจหลายๆ ด้านแล้วยังเป็นอีกช่องทางสำคัญที่สามารถศึกษากลยุทธ์การทำธุรกิจของคู่แข่งได้โดยตรงอีกด้วย ทำให้คุณสามารถรู้ได้ว่าธุรกิจที่ทำ SMM  ประสบความสำเร็จนั้นมีการใช้คอนเทนต์แนวไหน มีแคมเปญการตลาดอย่างไร มีการวางช่องทางการสื่อสารของแพลตฟอร์มอย่างไรบ้าง ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญที่ทำให้นำมาใช้พัฒนาการทำ SMM ธุรกิจของคุณต่อไปได้นั่นเอง

อยากทำ SMM เริ่มต้นยังไงดี

การทำ SMM  หรือ Social Media Marketing หมายถึงกลยุทธ์การทำการตลาดออนไลน์ที่ถือว่าจะเป็นอย่างยิ่งสำหรับธุรกิจในปัจจุบันนี้ เพราะเป็นเครื่องมือสำคัญที่ช่วยให้สินค้าหรือบริการเข้าถึงลูกค้าจำนวนมหาศาลได้รวดเร็ว เป็นพื้นที่ที่ทำให้ธุรกิจมีอิทธิพลต่อผู้บริโภคผ่านโซเชียลมีเดีย หลายธุรกิจที่ยังไม่ได้ทำเริ่มต้นทำ SMM หรืออาจจะยังไม่เข้าใจขั้นตอนการทำ Social Media Marketing ที่ถูกต้อง มีคำถามและข้อสงสัยที่ว่าจะเริ่มต้นทำ SMM หรือ Social Media Marketing อย่างไรดี ไม่รู้จะเริ่มต้นตรงไหน ในหัวข้อนี้จะอธิบายแต่ละขั้นตอนอย่างละเอียดให้ได้เข้าใจไปพร้อมกัน

รู้จักธุรกิจของตัวเอง

ก่อนที่จะเริ่มต้นทำ SMM หรือ Social Media Marketing จะต้องเข้าใจธุรกิจของคุณให้ดีเสียก่อน โดยเข้าใจถึงสินค้าหรือบริการของคุณตอบโจทย์แก้ปัญหาให้กับใคร มีจุดแข็งและจุดอ่อนอย่างไรเมื่อเทียบกับคู่แข่ง เพื่อที่จะวางแผนการวิเคราะห์ SMM ได้อย่างถูกต้องตรงกับกลุ่มเป้าหมายของคุณนั่นเอง

แผนการทำ SMM

วางแผนการทำ SMM หรือ Social Media Marketing คือการจะทำให้แผนการนี้มีประสิทธิภาพ ต้องมีการวิเคราะห์ที่ตรงกับกลุ่มเป้าหมาย ให้มีความสอดคล้องกับสินค้าหรือบริการของคุณ จะต้องประกอบไปด้วยปัจจัยเหล่านี้ 

• มีการกำหนดกลุ่มเป้าหมายเพื่อวัตถุประสงค์การทำ SMM ที่ชัดเจน
• เรียนรู้กลุ่มเป้าหมายอย่างลึกซึ้ง โดยรู้ข้อมูลเหล่านี้ อายุ เพศ ที่อยู่อาศัย รายได้ อาชีพ ความสนใจ
• วิเคราะห์คู่แข่ง ว่ามีการแข่งขันอย่างไร ทั้งความสำเร็จและความล้มเหลว
• ตรวจสอบการทำ SMM ในปัจจุบันทั้งที่ประสบความสำเร็จและล้มเหลว เพื่อที่จะวางแผน Calendar of Content ใหม่ที่ดีกว่า
• จัดทำ Content ที่ดีที่สุดจากแผน Calendar ที่วางไว้
• ติดตามผลและปรับกลยุทธ์ของคุณต่อไป
  
  

การบริหารลูกค้าสัมพันธ์ (CRM)

การบริหารลูกค้าสัมพันธ์ (CRM) ในการทำ SMM (Social Media Marketing) คือการทำการตลาดอย่างหนึ่งซึ่งเมื่อเทียบกับการบริหารลูกค้าสัมพันธ์แบบเดิมแล้ว ถือว่าประสบความสำเร็จและดีกว่ามาก เพราะการทำ CRM ผ่าน SMM นั้นสามารถสร้างปฏิสัมพันธ์กับลูกค้าได้ 2 แบบคือ จากลูกค้าสู่ลูกค้าและจากบริษัทสู่ลูกค้า ซึ่งเมื่อเทียบกับการตลาดแบบเดิมที่สามารถติดตามลูกค้าได้จากการซื้อเพียงทางเดียว แต่ SMM สามารถทำให้ติดตามคุณค่าลูกค้าได้ทั้ง 2 เส้นทางคือ ทางตรง (ผ่านการซื้อสินค้าหรือบริการ) และทางอ้อม (ผ่านการอ้างอิง รีวิวผลิตภัณฑ์)

เนื้อหาที่น่าแชร์ต่อ

การจัดทำเนื้อหาหรือคอนเทนต์ที่เน้นสร้างการมีส่วนร่วม โดยการแชร์ต่อในโซเชียลมีเดียหรือคอนเทนต์รีวิวนั้นสำคัญอย่างยิ่งสำหรับการทำ SMM หรือ Social Media Marketing เพราะเป็นวิธีที่ดีที่สุดในการทำการตลาดออนไลน์บนโซเชียลมีเดีย คอนเทนต์เหล่านี้ไม่เพียงแต่ดึงดูดให้กลุ่มเป้าหมายซื้อสินค้าหรือบริการของคุณเพียงเท่านั้น แต่ยังช่วยให้กลุ่มลูกค้าที่ได้ซื้อไปนั้นเกิดการทำคอนเทนต์รีวิว แชร์เรื่องราว เป็นการโฆษณาแบบปากต่อปาก กระตุ้นให้เกิดความน่าเชื่อถือ มั่นใจ สร้างความไว้วางไว้ให้กับแบรนด์เพิ่มมากขึ้น

การตลาดที่เป็นไวรัล

การทำการตลาดให้เป็นไวรัลหรือการทำการตลาดแบบปากต่อปาก ถือเป็นอีกกลยุทธ์สำคัญในการทำ SMM (Social Media Marketing) คือ เป็นการโฆษณาสินค้า แพร่กระจายข้อมูลของสินค้าได้อย่างรวดเร็วมากๆ เป็นอีกวิธีที่ง่ายและใช้งบประมาณไม่สูง

การแบ่งกลุ่มลูกค้า

การทำการตลาดแบบ SMM หรือ Social Media Marketing ถือว่าสามารถแบ่งกลุ่มลูกค้าได้อย่างละเอียดและแยกย่อยได้มากกว่าการทำการตลาดแบบเดิมๆ เมื่อแบ่งกลุ่มลูกค้าได้ละเอียดก็สามารถหากลุ่มลูกค้าที่เป็นกลุ่มเป้าหมายที่แน่นอนได้ ทำให้สามารถวางแผนการทำการตลาดต่อไปได้อย่างถูกต้อง เน้นไปที่กลุ่มเป้าหมายที่แน่นอนได้อย่างแม่นยำนั่นเอง

หาเครื่องมือ (Use Tools) ในการช่วยเหลือ

ส่วนที่สำคัญไม่แพ้กับข้ออื่นๆ คือการหาเครื่องมือ (Use Tool) ในการช่วยเหลือเพื่อทำ SMM เพราะในบางครั้งแน่นอนว่าคุณอาจจำไอเดียตัน ไม่รู้จะทำเนื้อหาหรือคอนเทนต์อะไรดี ไม่รู้ว่าตอนนี้เทรนด์ไหนกำลังมา หากมีเครื่องมือในการช่วยเหลือ จะช่วยให้การทำ SMM นั้นราบรื่นได้ ไม่มีสะดุด

โดยตัวอย่างเครื่องมือที่อยากแนะนำเพื่อช่วยคิดคอนเทนต์ ดูไอเดียจากคู่แข่ง ได้แก่ Google Trend ตัวช่วยที่ทำให้คุณรู้ว่าตอนนี้คนกำลังสนใจเรื่องราวอะไรอยู่ และ Keyword ไหนที่สนใจมากกว่ากัน ส่วนเครื่องมือตัวช่วยสำหรับแพลตฟอร์มอื่นๆ อย่าง Facebook ได้แก่ Meta Ad Library ตัวช่วยที่จะทำให้คุณสืบหาคอนเทนต์ โฆษณาของคู่แข่งจาก Keyword ที่เกี่ยวข้อง เพื่อนำไปพัฒนาไอเดียคอนเทนต์ของคุณต่อไป และอีกเครื่องมือที่น่าสนใจสำหรับสายคอนเทนต์ VDO ก็มี Kalodata ตัวช่วยที่จะทำให้คุณเห็นว่าคลิป VDO แบบไหนที่มีการเข้าถึงสูงและทำรายได้มากบนแพลตฟอร์ม TikTok เพื่อให้คุณนำไปเป็นไอเดียต่อยอดต่อไปนั่นเอง

SEO คืออะไร

SEO แปลว่า  Search Engine Optimization (การปรับแต่งข้อมูลการค้นหา) คือ การใช้ศาสตร์ความรู้และความคิดสร้างสรรค์ในการทำให้หน้าเว็บไซต์มีอันดับสูงขึ้นในเครื่องมือการค้นหา Google เพื่อนำไปสู่ยอดการเข้าชมเว็บไซต์ที่เพิ่มขึ้น 

SEO (Search Engine Optimization) มีหลักการทำงานโดยการใช้อัลกอริทึมว่าจะแสดงหน้าเว็บใดสำหรับการค้นหาด้วย Keyword ใดๆ โดยมีความซับซ้อนสูง โดยมีปัจจัยที่จะทำให้ติดหน้าแรกที่แตกต่างกันหลายปัจจัยเป็นร้อยเป็นพันเลยก็ว่าได้ในการกำหนกอันดับของ SREP อย่างไรก็ตามมี 3 Metrics หลักที่สำคัญที่เป็นตัวประเมินคุณภาพของเว็บไซต์ ได้แก่

• ลิงก์ การเพิ่มลิงก์เว็บไซต์อื่นที่มีความน่าเชื่อถือ รวมถึงลิงก์เว็บไซต์ของคุณถูกอ้างอิงจากเว็บไซต์อื่น จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการค้นหาและเพิ่มอันดับการค้นหาได้ดี เพราะถูกอัลกอริทึมมองว่าเว็บไซต์ของคุณถูกพูดถึงจากเว็บอื่น ถือว่าเป็นเว็บไซต์ที่มีคุณภาพ
• คอนเทนต์ เนื้อหา สิ่งสำคัญไม่แพ้เรื่องของลิงก์เว็บไซต์ โดยอัลกอริทึมจะพิจารณาว่าเนื้อหานั้นๆ เกี่ยวข้องกับ Keyword ที่ระบุหรือไม่ ซึ่งเนื้อหานั้นจะต้องมีเป้าหมายสื่อสารไปที่ Keyword หลักเป็นสำคัญ เพื่อเพิ่มอันดับการค้นหาได้นั่นเอง
  
  

โครงสร้างหน้าเว็บ ที่ขึ้นต้นด้วย HTML ส่งผลต่อความสามารถในการค้นหาโดยตรง เพราะฉะนั้นในลิงก์ชื่อเว็บไซต์จะต้องมี Keyword หลักที่เกี่ยวข้องกับเนื้อหาอยู่ในลิงก์ URL ด้วย จะช่วยเพิ่มอันดับการค้นหาได้ดีมากขึ้น

ข้อดีของ SEO

ข้อดีของการทำ SEO คือการทำการตลาดออนไลน์ที่มีเป้าหมายเพื่อผลักดันให้เว็บไซต์หรือสื่อออนไลน์ถูกนำเสนอเป็นอันดับต้นๆ ของการค้นหา บนเครื่องมือยอดนิยมระดับโลกที่คนไทยรู้จักและใช้งานอย่างแพร่หลาย คือ Google

ได้ผลการค้นหาแบบออร์แกนิก

ข้อดีของ SEO คือ ได้ผลการค้นหาแบบออร์แกนิก ซึ่งเป็นผลการค้นหาที่มาจากความต้องการและสิ่งที่เกี่ยวข้องของผู้ค้นหาเอง เป็นการทำการตลาดออนไลน์ที่ไม่ต้องจ่ายเงินทำให้อันดับเว็บสูง แต่การค้นหาที่เพิ่มขึ้นจะช่วยให้เว็บไซต์ติดอันดับได้แบบออร์แกนิกนั่นเอง

มีคุณภาพของ Traffic แบบออร์แกนิก

ข้อดีของการทำ SEO คือทำให้ Traffic มีคุณภาพแบบออร์แกนิก มีการจับคู่ข้อมูลในเว็บไซต์กับสิ่งที่ผู้ค้นหาต้องการหาได้

มีปริมาณการเข้าชมแบบออร์แกนิก

การทำ SEO ติดอันดับแรกๆ ได้ จะช่วยเพิ่มปริมาณการเข้าชมหน้าเว็บไซต์ได้แบบออร์แกนิก เพราะผู้ค้นหาส่วนใหญ่มักเลือกคลิกจากเว็บไซต์ที่ปรากฏขึ้นอันดับบนๆ ในหน้าแรกมากกว่าอันดับล่างๆ หน้าท้ายๆ 

ทำการตลาดออนไลน์ให้สำเร็จต้องทำ SEO ควบคู่ SMM

ในการทำการตลาดออนไลน์ให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีคุณควรจะทำ SEO SMM ควบคู่กัน เพราะทั้ง 2 ตัวนี้มีความสัมพันธ์กันโดยตรง โดย SEO คือการทำเนื้อหาคอนเทนต์เพื่อเพิ่มการเข้าชมเว็บไซต์ที่ไม่เสียเงิน แต่อาจจะต้องใช้เวลานานกว่า 2-3 เดือนกว่าจะเห็นผลลัพธ์ตามเป้าหมายที่วางไว้ ส่วน SEM จะเป็นตัวเร่งและเสริมให้ SEO บนเว็บไซต์ดีขึ้น เกิดผลลัพธ์ไวขึ้น แต่อาจมีค่าใช้จ่ายตามมา จึงสรุปได้ว่าหากต้องการทำการตลาดให้ได้ผลลัพธ์ดี ควรจะทำทั้ง SEO SMM คู่กัน

สรุป

SMM คือ การทำการตลาดบนโซเชียลมีเดีย ส่วน SEO คือการทำการตลาดผ่าน Search Engine เข้าสู่เว็บไซต์ ถึงแม้จะเป็นการทำการตลาดบนออนไลน์เหมือนกันแต่ลักษณะการทำงานนั้นแตกต่างที่การเข้าถึง SEO คือเว็บไซต์ส่วน SMM คือการเข้าถึงผ่านทางโซเชียลมีเดีย ทั้ง 2 มีข้อดีที่แตกต่างกัน ซึ่งขึ้นอยู่กับว่าต้องการให้ข้อมูลสินค้าและบริการไปถึงกลุ่มเป้าหมายแบบไหน จึงจำเป็นอย่างยิ่งว่าก่อนทำ SMM หรือ Social Media Marketing และ SEO จะต้องทำการวิเคราะห์เพื่อวางแผนอย่างละเอียด เข้าใจธุรกิจและเข้าใจลูกค้าให้ดีเสียก่อน เพื่อจะได้ทำ Social Media Marketing ให้สำเร็จตามเป้าหมาย เพิ่มยอดขาย เพิ่มยอดการเข้าถึงเว็บไซต์ได้อย่างที่ต้องการ

FAQ – คำถามที่พบบ่อย

ตอบคำถามที่น่าสนใจเกี่ยวกับ SMM และ SEO เพื่อให้ผู้ที่สนใจได้รู้จักทั้งสองอย่างนี้มากขึ้น