404 Not Found คืออะไร แก้ไขอย่างไร ให้ดีต่อเว็บไซต์และ SEO

404 Not Found คืออะไร แก้ไขอย่างไร ให้ดีต่อเว็บไซต์และ SEO

Table of Contents

Key Takeaway

  • 404 Not Found คือข้อผิดพลาดที่เกิดขึ้นเมื่อหน้าเว็บที่ผู้ใช้กำลังค้นหาหรือเข้าถึงไม่ได้อยู่บนเว็บไซต์นั้นแล้ว
  • สาเหตุที่ทำให้เกิด 404 Not Found ได้แก่ การลบหน้าเว็บ การเปลี่ยน URL โดยไม่ได้อัปเดตลิงก์ หรือการพิมพ์ URL ผิด 
  • วิธีแก้ปัญหา 404 Not Found คือใช้ Redirect 301 ไปยังหน้าใหม่ หรืออัปเดตลิงก์ที่ถูกต้อง
  • ผลกระทบของ 404 Not Found คือทำให้เว็บไซต์ดูไม่น่าเชื่อถือ เสียประสบการณ์ผู้ใช้ และอาจกระทบอันดับ SEO

ปัญหา 404 Not Found เป็นเรื่องที่ Developer เจอกันบ่อยๆ มักเกิดจากการเปลี่ยนแปลงหรือลบหน้าบนเว็บไซต์ แล้วในมุมของ SEO Specialist ควรแก้อย่างไรดี? 

ถ้าคุณเป็นมือใหม่ด้าน SEO หรือยังไม่เคยเจอปัญหานี้มาก่อน ไม่ต้องกังวล! เพราะจริงๆ แล้ว 404 Not Found เป็นปัญหาที่แก้ไขได้ไม่ยาก วันนี้ Minimicegroup มีคำตอบและวิธีรับมือมาฝากกัน!

404 Not Found คืออะไร? เข้าใจข้อผิดพลาดต่อเว็บไซต์

404 Not Found คืออะไร? เข้าใจข้อผิดพลาดต่อเว็บไซต์

404 Not Found คือปัญหาที่หลายคนเจอกันบ่อยๆ หรือที่เรียกกันว่า Error 404 นั่นเอง ถ้าเคยคลิกเข้าเว็บแล้วเจอหน้าว่างๆ พร้อมข้อความแจ้งเตือนว่าหน้านี้ไม่มีอยู่แล้ว นั่นคือ 404! บางเว็บก็ทำหน้าข้อความแจ้งเตือนออกมาน่ารักๆ ให้ดูเป็นมิตรขึ้นด้วย  

สำหรับ Website Developer แล้ว 404 Not Found หมายถึง Server หาเพจที่ผู้ใช้ร้องขอไม่เจอ และไม่สามารถส่งข้อมูลกลับไปที่ Browser ได้ เพราะหน้านั้นไม่มีอยู่แล้วนั่นเอง

เหตุผลที่ทำให้เกิด 404 Not Found

เหตุผลที่ทำให้เกิด 404 Not Found

ส่วนใหญ่แล้ว Error 404 มักเกิดขึ้นเมื่อหน้าบนเว็บไซต์ถูกลบไปหรือมีการเปลี่ยน URL แต่จริงๆ แล้ว 404 Not Found ก็สามารถเกิดขึ้นได้จากสาเหตุอื่นๆ เช่นกัน มาดูกันว่ามีกรณีไหนที่เจอกันบ่อยๆ บ้าง

ลบ URL ออก

ถ้าไม่มีคำแนะนำจากทีม SEO หรือทีมพัฒนาเว็บ การลบหน้าอาจทำให้เกิด 404 Not Found ได้ง่ายมาก ไม่ว่าคุณจะทำเว็บข้อมูลทั่วไปหรือเว็บขายของออนไลน์ก็ตาม โดยเฉพาะเว็บ eCommerce ที่มีการเปลี่ยนแปลงบ่อย เช่น การอัปเดตรุ่นสินค้า หรือเปลี่ยน SKUs ซึ่งอาจทำให้ลิงก์เสียได้ง่ายๆ

แก้ไข URL ใหม่

การเปลี่ยน URL มักไม่ค่อยเกิดขึ้นในเว็บไซต์ข้อมูลทั่วไป (Informative) ที่มีการวางโครงสร้างเว็บมาดีแล้ว แต่ถ้ามีการเปลี่ยน URL หลังจากที่ Google ได้ทำการจัดเก็บหน้าเว็บ (Index) ไปแล้ว ก็อาจทำให้เกิด 404 Not Found ได้เช่นกัน

สาเหตุอื่นๆ 

  • URL หรือไฟล์ต่างๆ เช่น .pdf หรือรูปภาพ ถูกเปลี่ยนหรือลบออก แต่ไม่ได้แก้ไข Internal Link ให้ถูกต้อง
  • มีการสร้าง URL ที่สะกดผิด โดยเฉพาะ URL ภาษาไทย ซึ่งมักเกิดข้อผิดพลาดได้ง่าย แนะนำให้ใช้ภาษาอังกฤษแทน
  • Server หรือ Hosting มีปัญหา ทำให้ไม่สามารถเชื่อมต่อได้
  • ตั้งค่า DNS ผิดพลาด ส่งผลให้ Server ไม่สามารถตอบสนองได้
  • Domain หมดอายุ หรือไม่มีอยู่แล้ว

ลิงก์ที่ตายมักถูกปล่อยทิ้งไว้หลังจากลบหน้าออกไปนานแล้ว โดยเฉพาะถ้าไม่มีการดูแลด้าน SEO อาจทำให้เกิดปัญหากับลิงก์ใหม่ เพราะลิงก์เก่ายังถูก Index อยู่ในผลการค้นหา (SERP) ส่งผลให้ลิงก์ใหม่ไม่แสดงประสิทธิภาพได้เต็มที่

เครื่องมือที่ SEO Specialist ใช้ตรวจสอบ 404 Not Found

เครื่องมือที่ SEO Specialist ใช้ตรวจสอบ 404 Not Found

การหา 404 Not Found เป็นเรื่องสำคัญ เพราะหากปล่อยไว้อาจส่งผลเสียต่อภาพลักษณ์และอันดับของเว็บไซต์ในระยะยาว มาดูกันว่าเราจะใช้เครื่องมืออะไรบ้างในการตรวจหาและแก้ไขปัญหานี้

ตัวอย่าง 404 Not Found จาก GSC

ตัวอย่าง 404 Not Found จาก GSC

1. Google Search Console

Google Search Console นั้นเป็นอีกเครื่องมือนึงที่สามารถช่วยเราได้ในสถานการณ์ 404 Not Found ได้ดีมากๆ เนื่องจากปัญหานี้จะมีผลกระทบหลักกับ SERP เรามาดูกันว่าเราจะเข้าไปหน้านี้ได้ยังไง

  1. กดที่ Index – Coverage Report
  2. เลือก Excluded
  3. กด Not found (404)
ตัวอย่าง 404 not found

ตัวอย่าง 404 not found

เมื่อเข้ามาหน้านี้แล้ว คุณจะเห็นชุด URL ที่เจอปัญหา 404 Not Found อยู่ ซึ่งส่วนใหญ่จะไม่ใช่ปัญหาหนัก แต่ก็ไม่ควรละเลย เพราะอาจส่งผลเสียต่อหน้าที่คุณต้องการให้ขึ้นอันดับในผลการค้นหาภายหลังได้

ตัวอย่าง Dead Link Checker

ตัวอย่าง Dead Link Checker

2. Dead Link Checker

Dead Link Checker เป็นเครื่องมือที่ใช้งานง่ายและเร็วในการหาลิงก์ที่มีปัญหา ไม่ว่าจะเป็น Internal หรือ External (Backlink) แค่ใส่ URL ของเว็บไซต์แล้วคลิก ระบบจะหาลิงก์ที่มีปัญหามาให้ทั้งหมด ทั้งแบบทั้งโดเมนหรือเว็บไซต์เดียวก็ได้

ตัวอย่าง W3C Link Checker

ตัวอย่าง W3C Link Checker

3. W3C Link Checker

W3C Link Checker เป็นเครื่องมืออีกตัวที่ช่วยหาปัญหา 404 Not Found ได้เช่นกัน วิธีใช้ก็เหมือนกับ Dead Link Checker เพียงแค่ใส่ URL แล้วคลิก Check ระบบจะหาลิงก์ที่เสียทั้งหมดให้คุณทันที

ไอเดียออกแบบหน้า 404 Not Found ให้ User ยังอยู่ในเว็บไซต์

404 Not Found นั้นเป็นหน้าที่จะทำให้เกิดการ เซ็ง ในผู้คนที่เข้ามาในเว็บไซต์เราได้ ด้วยเหตุนั้นเอง ถ้าจะเกิดแล้ว ก็ขอให้มันเท่ หน่อยแล้วกัน

ในเว็บไซต์สมัยนี้นั้นจะออกแบบ Default สำหรับหน้า 404 Not Found ให้มีความน่ารัก และทำให้เจอปัญหา 404 Not Found แล้วอารมณ์ไม่เสีย เรามีอยู่ไอเดียบ้างส่วนกันดีกว่า

ตัวอย่างจาก https://uxplanet.org/404-page-design-not-found-how-to-create-great-error-pages-cfc43c4fa95f

ตัวอย่างจาก https://uxplanet.org/404-page-design-not-found-how-to-create-great-error-pages-cfc43c4fa95f

ตัวอย่างจาก https://uxplanet.org/404-page-design-not-found-how-to-create-great-error-pages-cfc43c4fa95f

แก้ปัญหา 404 Not Found ยังไงไม่ให้กระทบ SEO?

แก้ปัญหา 404 Not Found ยังไงไม่ให้กระทบ SEO?

404 Not Found ไม่ใช่ปัญหาแก้ยากสำหรับนักการตลาด SEO เพราะสามารถแก้ไขได้ง่ายๆ ด้วยการใช้ Redirect 301 จาก URL ที่มีปัญหาไปยัง URL ใหม่ที่ต้องการ

ทำไมต้องเป็น Redirect 301? เพราะมันจะย้ายค่าคะแนน SEO จากหน้าเก่าไปหน้าใหม่ ทำให้ไม่กระทบอันดับที่เรามีอยู่ (หรือกระทบแค่ช่วงสั้นๆ) ซึ่งต่างจาก Redirect รูปแบบอื่นๆ ที่อาจจะไม่ได้ย้ายค่าคะแนน SEO อย่างเต็มที่

ผลกระทบของ 404 Not Found ต่อประสบการณ์ผู้ใช้และ SEO

ผลกระทบของ 404 Not Found ต่อประสบการณ์ผู้ใช้และ SEO

การที่ลิงก์เว็บขึ้นว่า 404 Not Found นั้นไม่ดีต่อเว็บไซต์ ทั้งในแง่ของคุณภาพและประสบการณ์ผู้ใช้ โดยผลเสียหลักๆ ที่ควรรู้มีดังนี้

ประสิทธิภาพ SEO ลดลง

สำหรับธุรกิจที่ทำ SEO การมีหน้า 404 Not Found อาจส่งผลเสียต่อ SEO ของเว็บไซต์ เพราะเครื่องมือค้นหาอาจตีความว่าหน้านั้นไม่มีเนื้อหา ซึ่งอาจทำให้เว็บไซต์สูญเสียอันดับในผลการค้นหาได้

User ไม่ไว้วางใจเว็บไซต์

เมื่อคนคลิกเข้ามาแล้วเจอหน้า 404 Not Found จะทำให้ประสบการณ์ของผู้ใช้งานแย่ลง เว็บไซต์อาจดูไม่น่าเชื่อถือหรือไม่มีประสิทธิภาพ เพราะ User ไม่สามารถเข้าถึงเนื้อหาที่ต้องการได้ ซึ่งอาจทำให้เสียความไว้วางใจในเว็บไซต์ของคุณได้

การเข้าชมเว็บน้อยลง 

ถ้า User เจอหน้า 404 Not Found บ่อยๆ อาจจะออกจากเว็บและไปหาเว็บอื่นที่มีข้อมูลที่ต้องการแทน นอกจากนี้ เครื่องมือค้นหาก็อาจจะไม่จัดอันดับเว็บของคุณในอันดับสูงๆ เพราะกระทบกับ SEO ด้วย

สรุปของปัญหา 404 Not Found

ปัญหา 404 Not Found มักเกิดขึ้นจากการลบหรือย้ายหน้าเว็บโดยไม่อัปเดตลิงก์ หรือพิมพ์ URL ผิด การปล่อยให้ปัญหานี้ค้างไว้จะทำให้เว็บไซต์ดูไม่น่าเชื่อถือและกระทบประสบการณ์ของผู้ใช้งาน รวมถึงอันดับ SEO ด้วย การแก้ไขง่ายๆ คือการใช้ Redirect 301 เพื่อรักษาคะแนน SEO จากหน้าเก่าไปหน้าใหม่ การตรวจสอบและจัดการ 404 Not Found จึงสำคัญมากในการรักษาคุณภาพเว็บไซต์และอันดับการค้นหาบน Google


ที่ Minimicegroup เรามี Minimicegroup Journal ที่ช่วยให้ทุกคนได้เรียนรู้พื้นฐาน Digital Marketing รวมถึงข้อมูลความรู้ด้าน SEO, Google Ads, Facebook และการตลาดออนไลน์อื่นๆ ที่จะช่วยให้คุณเข้าใจและนำไปใช้ได้จริง มาอัปเดตความรู้กันได้แล้ววันนี้!

FAQ — คำถามที่พบบ่อย

เราจะมาตอบคำถามที่หลายคนสงสัยเกี่ยวกับปัญหา 404 Not Found และช่วยเคลียร์ข้อข้องใจให้ทุกคนเข้าใจมากขึ้น เพื่อที่คุณจะได้จัดการกับปัญหานี้อย่างมีประสิทธิภาพและไม่ส่งผลกระทบต่อเว็บไซต์และอันดับ SEO

404 Not Found คืออะไร?

404 Not Found หรือที่เรียกกันว่า Error 404 เป็นปัญหาที่เรามักเจอกันบ่อยๆ เมื่อเข้าเว็บไซต์แล้วพบว่าหน้านั้นไม่สามารถเข้าถึงได้ ซึ่งส่วนใหญ่จะมีข้อความหรือรูปภาพแจ้งเตือนว่าไม่พบหน้านั้นแล้ว

เหตุผลที่ทำให้เกิด 404 Not Found เมื่อเปิดเว็บไซต์

ปัญหา 404 Not Found มักเกิดจากลิงก์ที่สะกดผิด การเพิ่มหรือลบตัวอักษร หรือการเปลี่ยนภาษาของ URL โดยไม่ได้อัปเดตใหม่ หรือเกิดจากการลบเนื้อหาออกไปทำให้ผู้ใช้ไม่สามารถเข้าถึงหน้าเว็บนั้นได้

แก้ข้อผิดพลาด 404 Not Found ยังไง?

Redirect 301 จะช่วยย้ายคะแนน SEO จากหน้าเก่าไปยังหน้าใหม่ ทำให้การใช้ Redirect 301 ไม่กระทบอันดับที่คุณมีอยู่

ให้ธุรกิจของคุณเติบโตแบบก้าวกระโดดไปกับทีมการตลาดมืออาชีพ
รับการตอบกลับภายใน 2 ชั่วโมง
รับการตอบกลับภายใน 2 ชั่วโมง